หลิงหลานทิ้งท้ายคำพูดไว้หนึ่งประโยคแล้วก็ไม่สนใจการตอบรับของชายข้างกาย เธอจดจ่อไปยังการประลองหุ่นรบที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น นี่ทำให้ชายข้างกายเหลือบมองเธออย่างพูดไม่ออกแวบหนึ่ง ถ้าอยากขอบคุณทำให้จริงใจหน่อยสิ ไม่ต้องทำแบบขอไปทีขนาดนั้นได้ไหม
หลิงหลานไม่รู้ว่าชายข้างกายตำหนิเธออยู่ หลังจากที่เธอเลือกมุมมองพระเจ้าแล้ว ภาพตรงหน้าก็เปลี่ยนไปในชั่วพริบตา มันเผยให้เห็นภาพที่แตกต่างกันสองภาพ ภาพหนึ่งคือหุ่นรบสีแดงกำลังบินอยู่กลางอากาศ ส่วนหุ่นรบสีเงินก็ซ่อนตัวอยู่ในเนินทรายแห่งหนึ่งอย่างเงียบเชียบ สีของหุ่นรบค่อยๆ เปลี่ยนเป็นแบบเดียวกับเนินทรายแห่งนี้
หลิงหลานรู้สึกสนุกเล็กน้อย เธอเพ่งความสนใจไปที่ภาพของหุ่นรบสีเงิน พูดคำว่าซูมออกในใจ…ไม่นึกเลยว่าเธอจะโชคดีพบวิธีการควบคุมโดยบังเอิญ ภาพซูมออกไปตามที่คาดคิดไว้จริงๆ เมื่อดูสถานที่ที่หุ่นรบสีเงินซ่อนตัวอยู่จากมุมมองด้านบนแล้ว เธอมองไม่เห็นร่องรอยของมันสักนิดเดียว
หลิงหลานใช้วิธีการเดียวกันอีกครั้ง เธอซูมภาพหุ่นรบสีแดงที่กำลังบินอยู่ออกไปเช่นกันถึงค่อยพบว่าความจริงแล้วหุ่นรบสีแดงอยู่ไม่ห่างจากหุ่นรบสีเงินมากนัก ทว่าหุ่นรบสีแดงเอาแต่บินวนเวียนตลอด ไม่ได้เข้าไปใกล้ตรงนั้น จนกระทั่งเวลานี้สามารถมองเห็นร่องรอยตำแหน่งทั้งหมดของหุ่นรบทั้งสองตัวได้แล้ว
หลิงหลานยังสังเกตเห็นว่าตรงมุมซ้ายล่างของภาพมีตัวเลขกำลังนับถอยหลังอยู่ หลิงหลานคาดเดาว่านี่น่าจะเป็นเวลาเริ่มต้นการแข่งขันอย่างเป็นทางการ ตอนนี้ตัวเลขนับถอยหลังถึง 73 แล้ว คาดว่าอีกหนึ่งนาทีให้หลังก็จะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการแล้ว นอกจากนี้หลิงหลานยังสังเกตเห็นว่า เมื่อเลือกมุมมองแล้ว มันก็เหมือนกับเข้าสู่มิติที่แยกเดี่ยวออกมา เธอสัมผัสไม่ได้เลยว่ามีคนอยู่ข้างกาย คล้ายกับว่ามีแค่เธอคนเดียวเท่านั้นที่ชมการต่อสู้นี้ สิ่งรบกวนทุกอย่างถูกกำจัดทิ้งไปแล้ว นี่ทำให้หลิงหลานรู้สึกสบายขึ้นมาหน่อย อย่างน้อยที่สุดเวลานี้ผู้ชายข้างกายที่ให้ความรู้สึกอันตรายอย่างยิ่งยวดคนนั้นก็รบกวนเธอชมการประลองหุ่นรบไม่ได้แล้ว
ส่วนทางด้านเสี่ยวซื่อ เขาไม่เพียงหาวิธีการควบคุมต่างๆ ของเกมประลองหุ่นรบเจอ เขายังถือโอกาสค้นหาวิธีการควบคุมทุกอย่างในโลกเสมือนจริงด้วย เสี่ยวซื่อกลับมาแล้วก็บอกหลิงหลานว่าต่อไปจะไม่มีทางเกิดข้อผิดพลาดระดับต่ำแบบนี้อีกแน่นอน
ความจริงแล้วเสี่ยวซื่ออารมณ์เสียมาก เขาไม่คาดคิดเลยว่าจะมีการสร้างเกมในโลกเสมือนจริง นอกจากนี้การควบคุมของแต่ละเกมก็ไม่เหมือนกัน ทำให้เขาที่เป็นเทพแห่งโลกเสมือนจริงคนนี้จับต้นชนปลายไม่ถูกอยู่บ้าง ทำให้เขาขายหน้าต่อหน้าลูกพี่ เขายังจำได้ว่าเขาเคยบอกลูกพี่อย่างภาคภูมิใจว่าเขาคือเทพของโลกเสมือนจริง…
ไม่นึกเลยว่ายังมีเรื่องที่เทพไม่รู้อยู่ด้วย…นี่มันตบหน้ากันมากเกินไปแล้วนะ!
หลิงหลานไม่รู้ว่าเสี่ยวซื่อหงุดหงิดสับสนอยู่ ตอนนี้เธอกำลังอดทนรอคอยให้เวลาถึงศูนย์ ในที่สุดเมื่อเวลาขึ้นเป็น 0 หุ่นรบสีแดงที่เดิมทีบินวนเวียนนั้นก็เปลี่ยนทิศทางฉับพลัน มันบินไปยังจุดที่หุ่นรบสีเงินซุ่มตัวอยู่ หลิงหลานคาดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ระบบจะหลีกเลี่ยงการเสียเวลาเล่นซ่อนแอบ ดังนั้นถึงได้บอกตำแหน่งกว้างๆ ของอีกฝ่ายให้กับหุ่นรบสีแดงโดยตรง
หลิงหลานเชื่อว่าระบบไม่มีทางบอกพิกัดที่แม่นยำให้กับทั้งสองฝ่ายเพื่อรักษาความยุติธรรมไว้ การกระทำต่อมาของหุ่นรบสีแดงก็พิสูจน์เรื่องนี้จริงๆ ในตอนที่หุ่นรบสีแดงที่อยู่กลางอากาศยังอยู่ห่างจากหุ่นรบสีเงินได้ห้าเมตร ทันใดนั้นมันก็ยิงจรวดออกไปลูกหนึ่ง
เมื่อจรวดถูกยิงออกไป หลิงหลานก็รู้สึกได้ว่าภาพปรากฏระลอกคลื่นออกมา เสี่ยวซื่อรีบอธิบายว่า “นี่เป็นจรวดรบกวนนำวิถี ทำลายการสแกนเรดาร์ของหุ่นรบได้”
ดูเหมือนว่าระบบจะจำลองผลที่เดิมทีมองไม่เห็นด้วยตาบางอย่างออกมาโดยตรงเพื่อให้คนที่ชมดูสัมผัสได้ถึงเหตุการณ์ในเวลานั้น
“ขอบเขตการสำรวจของเรดาร์หุ่นรบมีระยะทางสูงสุดเท่าไหร่?” หลิงหลานเอ่ยถามอย่างครุ่นคิด
“ขึ้นอยู่กับรุ่นของเรดาร์ที่ติดตั้งบนหุ่นรบ ปกติแล้วหุ่นรบทั่วไปมีระยะทางแค่สองพันเมตร หุ่นรบระดับกลางได้สองพันห้าร้อยเมตร หุ่นรบระดับสูงได้สามพันเมตร แน่นอนว่ายังมีหุ่นรบระดับพิเศษที่สามารถทำได้ถึงสี่พันเมตรด้วย”
“หุ่นรบสีเงินเป็นหุ่นรบระดับพิเศษหรือเปล่า?”
“ระดับ J8 น่าจะมีความเป็นไปได้สูงที่จะครอบครองหุ่นรบระดับพิเศษ แต่ว่าหุ่นรบระดับพิเศษไม่เพียงต้องให้ผู้ควบคุมหุ่นรบสามารถควบคุมได้ถึงระดับที่กำหนดแล้ว ในขณะเดียวกันเขายังต้องมีผลการรบที่น่ายกย่องในระดับหนึ่งด้วย” เสี่ยวซื่ออ่านข้อมูลที่ตัวเองค้นหามาไปพลาง อธิบายให้หลิงหลานฟังไปพลาง
หลิงหลานพยักหน้า คราวนี้ก็เข้าใจได้แล้วว่าทำไมหุ่นรบสีแดงถึงต้องยิงเครื่องรบกวนในพื้นที่ห้ากิโลเมตร น่าจะกลัวว่าอีกฝ่ายอาจจะมีหุ่นรบระดับพิเศษ มีเรดาร์ตรวจจับระยะทางสูงกว่าหุ่นรบของเขาหนึ่งพันเมตร
สถานการณ์ในปัจจุบัน หุ่นรบสีแดงจะแพ้ไม่ได้เด็ดขาด ดังนั้นเขาเลยไม่อาจเดินพันความเป็นไปได้นี้
หุ่นรบสีแดงเพิ่งจะยิงจรวดรบกวนออกมา มันก็เปลี่ยนร่างเป็นหุ่นรบฮิวแมนนอยด์กลางอากาศทันที ก่อนจะร่อนลงสู่พื้นช้าๆ หลังจากนั้นก็เห็นว่าสีของหุ่นรบสีแดงค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเดียวกับทะเลทราย
“นี่เป็นระบบกิ้งก่าที่มีเพียงหุ่นรบระดับสูงเท่านั้นถึงจะติดตั้งได้ สามารถทำให้สีด้านนอกหุ่นรบเปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อมได้” เสี่ยวซื่ออธิบายสถานกาณ์ให้กับหลิงหลานต่อ เดิมทีหลิงหลานจะได้เรียนความรู้พวกนี้ในสถาบันลูกเสือก่อนที่จะอายุสิบสาม ทว่าเสี่ยวซื่อให้หลิงหลานได้สัมผัสโลกเสมือนจริง สัมผัสการประลองหุ่นรบก่อนล่วงหน้า ทำให้เสี่ยวซื่อต้องเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ให้หลิงหลาน
วัตถุรูปวงแหวนค่อยๆ โผล่ขึ้นมาบนไหล่ของหุ่นรบสีแดงที่เปลี่ยนมาเป็นสีทะเลทราย หลังจากนั้นมันก็ค่อยแอบเข้าไปยังตำแหน่งของหุ่นรบสีเงินด้วยความระมัดระวัง
“วัตถุรูปวงแหวนคือเครื่องตรวจจับความร้อนรุ่น IE เป็นของใหม่ล่าสุดในตลาด นี่เป็นของที่ติดตั้งเพิ่มเติม เดิมทีหุ่นรบไม่ได้ติดตั้งมันไว้ เครื่องตรวจจับความร้อนนี้มีขอบเขตการสำรวจสูงสุดถึง 1500 เมตร” เสี่ยวซื่อมีปฏิกิรยาตอบสนองรวดเร็วมาก เขารีบแนะนำของที่โผล่ขึ้นมาใหม่ให้หลิงหลานฟังทันที
หลิงหลานพยักหน้าเงียบๆ ต่อให้หุ่นรบ J8 ติดตั้งเครื่องตรวจจับความร้อนรุ่น IE แบบเดียวกัน หุ่นรบสีแดงก็ไม่ได้เสียเปรียบเลย เดิมทีการตรวจจับระยะไกลของหุ่นรบทั้งสองแตกต่างกันมาก แต่ว่าการที่หุ่นรบสีแดงทำแบบนี้ทำให้หุ่นรบทั้งสองตัวอยู่ในระดับเดียวกันโดยสมบูรณ์ แน่นอนว่าถ้าหากฝ่ายตรงข้ามไม่ได้ติดตั้งเครื่องตรวจจับความร้อนรุ่นล่าสุดละก็ หมากตานี้ทำให้หุ่นรบสีแดงเป็นฝ่ายได้เปรียบ
ทันทีที่ใช้จรวดรบกวนเรดาร์ มันก็มีประสิทธิภาพจริงๆ หุ่นรบสีแดงเตรียมตัวสำหรับศึกท้าประลองข้ามระดับครั้งนี้มาเต็มที่มาก มันไม่ได้กระทำการบุ่มบ่าม กลยุทธ์ที่ใช้รับมือ J8 เป็นกลยุทธ์ที่ตั้งใจวางแผนมาอย่างดีแล้ว ดูท่าการแข่งขันครั้งนี้จะไม่ได้จบลงที่ต่อสู้เพียงฝ่ายเดียว บางทีถ้าหาก J8 โชคไม่ดีอาจจะถูกโค่นล้มสำเร็จจริงๆ ก็ได้…หลิงหลานรู้สึกคึกคักขึ้นมา
หลิงหลานอยากรู้ว่าหุ่นรบสีเงินจะตอบโต้ยังไงหลังจากที่พบว่าเรดาร์ไม่ทำงาน เธอให้ความสนใจไปที่หุ่นรบสีเงิน แล้วก็ตกตะลึงกับการตัดสินใจของอีกฝ่าย ที่แท้หุ่นรบสีเงินเห็นว่าเรดาร์ถูกรบกวน มันก็ครุ่นคิดเกือบหนึ่งนาทีก่อนจะตัดสินใจให้หุ่นรบจมหายเข้าไปในเนินทรายทั้งตัว หลังจากนั้นก็ดับเครื่องยนต์ของหุ่นรบ ตกอยู่ในความเงียบงันที่แท้จริงทันที
หลิงหลานย่อมตกใจกับการกระทำแบบนี้อยู่แล้ว ต่อให้หลิงหลานไม่รู้เรื่องหุ่นรบดีนัก แต่เธอก็รู้ว่าดับเครื่องยนต์หุ่นรบแล้ว เกราะป้องกันที่เดิมทีครอบคลุมด้านนอกหุ่นรบจะหายไปโดยสิ้นเชิง พูดอีกอย่างก็คือ ความสามารถด้านการต้านทานของหุ่นรบในตอนนี้มีเพียงความแข็งแรงทนทานของตัวโลหะเท่านั้น ถ้าหากไม่ระวังถูกปืนเลเซอร์ของหุ่นรบฝ่ายตรงข้ามยิงใส่ จะต้องได้รับความเสียหายอย่างหนักแน่นอน
หลิงหลานรู้ดีว่าถ้าหากอยู่ในสนามรบ การกระทำแบบนี้คือการรนหาที่ตายชัดๆ อย่างไรก็ตาม เมื่ออยู่ในการประลองแบบหนึ่งต่อหนึ่งนี้ มันกลับมีประสิทธิภาพอย่างน่าประหลาด การกระทำของหุ่นรบ J8 ทำให้เครื่องตรวจจับความร้อนของหุ่นรบ J6 ไร้ประโยชน์ไปโดยสิ้นเชิง พูดอีกอย่างก็คือ การตัดสินใจของ J8 ทำให้หุ่นรบของพวกเขาทั้งสองคนอยู่ในระดับเดียวกันอีกครั้ง หากต้องการจะหาตัวฝ่ายตรงข้าม นอกจากมองด้วยตาเปล่าแล้ว ใครก็ยืมความช่วยเหลือภายนอกอะไรไม่ได้เลย
เวลานี้หลิงหลานนึกถึงปัญหาขึ้นมาอีกข้อ “พอดับเครื่องยนต์หุ่นรบก็ไม่มีการป้องกันแล้ว แต่ว่าร่างกายของมนุษย์เราก็มีพลังงานความร้อนนะ ไม่กลัวว่าจะถูกเครื่องตรวจจับความร้อนตรวจเจอเลยหรือไง?”
เสี่ยวซื่อตอบว่า “เพราะว่าชุดป้องกันที่ผู้ควบคุมหุ่นรบสวมมีประสิทธิภาพปิดกั้นพลังงานความร้อนได้ ดังนั้นเครื่องตรวจจับพลังงานความร้อนจึงตรวจสอบไม่พบ”
หลิงหลานเข้าใจแล้ว มิน่าล่ะหุ่นรบ J8 ถึงได้ดับเครื่องยนต์หุ่นรบโดยไม่ลังเลเลยสักนิด ที่แท้ก็ยังเหตุผลนี้อยู่ด้วย
หุ่นรบ J6 ที่เปลี่ยนเป็นสีทะเลทรายเริ่มเดินอยู่บนทะเลทราย หลิงหลานคิดว่าน้ำหนักของตัวหุ่นรบจะทำให้หุ่นรบก้าวเดินลำบาก ไม่นึกเลยว่าหุ่นรบจะเดินได้สบายมากราวกับอยู่บนพื้นราบ เธอสังเกตส่วนเท้าของหุ่นรบอย่างละเอียด แล้วพบว่ามีเพียงฝ่าเท้าของหุ่นรบเท่านั้นที่จมเข้าไปในทราย ราวกับว่าร่างของหุ่นรบที่มีน้ำหนักมหาศาลไม่มีตัวตนอยู่เลย
หรือว่าโลกเสมือนจริงจะไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองตามความเป็นจริง? หลิงหลานสงสัยอยู่บ้าง
เสี่ยวซื่อรู้สึกได้ถึงความสงสัยของหลิงหลาน เขารีบให้คำตอบว่า “ไม่ใช่แบบนั้น หุ่นรบพวกนี้ติดตั้งอุปกรณ์ลอยตัวของมันไว้ สามารถลดน้ำหนักตัวหุ่นรบให้เบาขึ้นได้ นี่ถือว่าหุ่นรบ J6 ยังทำงานไม่ถึงระดับสูงสุดนะ ถ้าเกิดผู้ควบคุมหุ่นรบระดับสุดยอดควบคุมละก็ เขาไม่มีทางให้ฝ่าเท้าของหุ่นรบจมเข้าไปในทรายหรอก ระดับนั้นถึงจะเรียกว่าเดินเหมือนอยู่บนพื้นราบที่แท้จริง”
ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง! หลิงหลานรู้สึกว่าตัวเองได้ความรู้มากขึ้น เธอพบว่าไม่สามารถยึดเหตุผลทั่วไปมาคาดการณ์เรื่องของหุ่นรบได้ ตอนนี้ความสนใจเรื่องหุ่นรบของเธอจึงพุ่งสูงขึ้น ความฝันเรื่องหุ่นรบที่เดิมทีเงียบกริบมานานก็ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง
ให้ตายเถอะ ตอนนี้เธอก็อยากมีหุ่นรบสักตัวเหมือนกันนะ! ในใจหลิงหลานรู้สึกกระสับกระส่ายขึ้นมา
“ลูกพี่ ถ้าอยากได้หุ่นรบก็ต้องแก้โรคกลัวความสูงของเธอก่อนนะ!” เสี่ยวซื่อเบ้ปากพูดด้วยความขุ่นเคืองใจ เหตุผลหลักๆ ที่ตอนนี้เขายังไม่ให้หลิงหลานทำการฝึกฝนเรื่องหุ่นรบก็คือปัญหาเรื่องโรคกลัวความสูงของหลิงหลาน
คำพูดของเสี่ยวซื่อทำให้หน้าหนาๆ ของหลิงหลานแดงขึ้นเล็กน้อย ถึงแม้ว่าการฝึกฝนที่บีบบังคับในช่วงเวลานี้จะทำให้โรคกลัวความสูงของเธอดีขึ้นมาบ้างจริงๆ แต่เธอก็ไม่รู้ว่าท้ายที่สุดแล้วตัวเธอข่มความกลัวได้จริงๆ หรือเปล่า… ดังนั้นหลิงหลานจึงแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินอะไร เมินสายตาติเตียนของเสี่ยวซื่อไป ก่อนจะเพ่งความสนใจไปที่ภาพเบื้องหน้าอีกครั้ง
หุ่นรบสีแดงเข้าไปใกล้ตำแหน่งของหุ่นรบสีเงินอย่างระมัดระวัง อย่างไรก็ตามเขารู้แค่ตำแหน่งกว้างๆ เท่านั้น ไม่ใช่ตำแหน่งที่แท้จริง เมื่อพบว่าเครื่องตรวจจับความร้อนไม่มีปฏิกิริยา เขาก็หยุดการเคลื่อนไหวแล้วเริ่มใคร่ครวญว่าจะทำยังไงต่อไปดี คาดว่าตอนนี้หุ่นรบ J6 น่าจะรู้แล้วว่าเครื่องตรวจจับความร้อนไม่มีประโยชน์แล้ว
หุ่นรบ J6 ดูเคร่งเครียดขึ้นมาเล็กน้อย หลิงหลานเห็นว่าทุกก้าวที่เขาเดินต่างมองไปรอบๆ ด้วยความระมัดระวัง หลังจากที่กวาดมองซ้ายขวาอยู่หลายครั้ง ในที่สุดเขาก็เข้าไปใกล้เนินทรายที่ J8 ดักซุ่มอยู่มากขึ้นเรื่อยๆ
สุดท้ายใครจะเจอใครก่อน? J8 ซ่อนอยู่ในเนินทราย J6 สังเกตเห็นมันได้ยากมาก แต่ว่า J8 ดับเครื่องยนต์หุ่นรบแล้ว มันตกอยู่ในสภาพตาบอดเช่นเดียวกัน ทั้งสองคนไม่ว่าใครก็มองไม่เห็นอีกฝ่าย นี่จะเป็นเกมเล่นซ่อนแอบตั้งแต่ต้นจนจบเลยหรือไง?
…………………………………