“ถ้าเกิดอีกฝ่ายพาจีอู๋ปู้ซิวไปส่งถึงเมืองซิ่นหยางได้จริงๆ ผู้ควบคุมหุ่นรบฝึกหัดพวกนั้นอาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขานะครับ” คนรายงานเอ่ยเตือนด้วยความลังเลใจเล็กน้อย
“ขนาดนักรบหุ่นรบชั้นกลางหลายคนของเราก็ตายอยู่บนถนนซิ่นหยางกันหมดเลย นายคิดว่าพวกเขาจะรอดชีวิตไปได้เหรอ?” อีกฝ่ายถามกลับแล้วก็ต่อว่าด้วยเสียงเฉียบขาดโดยที่ไม่รอให้ลูกน้องตอบ “โง่เง่า ไม่เห็นต้องคิดเลย พวกเขาต้องล้มเหลวอยู่แล้ว ดังนั้นกระต่ายตัวนั้นถึงคิดจะไปเก็บประสบการณ์ต่อสู้ในการประลองบนสังเวียนไงล่ะ…”
“ครับๆๆ ผมคิดผิดพลาดไปแล้ว” คนติดต่อปาดเหงื่อเย็นๆ บนหน้าผากฉับพลัน นึกเสียใจว่าทำไมตัวเองถึงพูดมากขนาดนี้ก่อนจะวางสายหัวหน้า เขารีบประกาศคำสั่งนี้ลงไปทันที หลังจากนั้นก็เห็นหุ่นรบวาร์ปกลับมาจำนวนไม่น้อยแล้วก็เข้าไปในการแข่งขันสังเวียนประลองหุ่นรบ…
………
เมื่อหลิงหลานเข้าไปในหอต่อสู้บนสังเวียน ระบบก็ส่งการแจ้งเตือนให้เลือกอำพรางชื่อหรือว่าเปิดเผยชื่อ หลิงหลานครุ่นคิดสักพักแล้วก็เลือกอำพรางชื่อไว้ หลิงหลานตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่าควรระวังตัวไว้ดีกว่า ต่อให้สุดท้ายเธอต้องต่อสู้กับราชันสายฟ้า เธอก็อยากให้ตัวเองมีเวลาเตรียมตัวที่มากพอเหมือนกัน
เนื่องจากหลิงหลานยังคงเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบฝึกหัด ดังนั้นเธอยังไม่สามารถเข้าสู่การต่อสู้บนสังเวียนที่แท้จริงได้ หรือพูดอีกอย่างก็คือ การแข่งขันท้าประลองข้ามระดับของการต่อสู้บนสังเวียนอย่างเป็นทางการไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเธอเลย เธอได้แต่ไปทีละก้าวเท่านั้น และคนที่ต่อสู้กับเธอก็คือพวกมือใหม่ของผู้ควบคุมหุ่นรบฝึกหัดที่อยู่ระดับเดียวกับเธอเหมือนกัน
การต่อสู้บนสังเวียนในระดับของหลิงหลานเรียกว่าการดวลกันของมือใหม่ ทุกการแข่งขันจะได้รับคะแนนไม่มาก มีแค่ 1000 แต้มเท่านั้น นอกจากนี้ยังไม่มีรางวัลเดิมพันเพิ่มเติมด้วย แน่นอนว่าถ้าเกิดพ่ายแพ้ขึ้นมา หลิงหลานก็จะถูกหักคะแนน 1000 แต้ม กลายเป็นคนหมดเนื้อหมดตัวเหมือนในตอนแรกอีกครั้ง
หลิงหลานไม่คิดว่าตัวเองจะแพ้ นี่ไม่ใช่เธอหน้ามืดตามัว แต่ว่าเป็นความมั่นใจ แน่นอนว่าเธอก็ไม่ได้รังเกียจที่ได้แค่ 1000 คะแนนต่อการแข่งขันรอบหนึ่ง เมื่อเทียบกับภารกิจที่เสียเวลาก่อนหน้านี้แล้ว เธอสามารถได้รับคะแนนมากกว่าอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ นี่ทำให้หลิงหลานพอใจมาก ด้วยเหตุนี้เธอจึงส่งคำขอท้าประลองให้ระบบทันทีโดยไม่ครุ่นคิดเลยสักนิดเดียว
ไม่นาน เสียงของระบบก็ดังขึ้นที่ข้างหูหลิงหลานว่า “หลิงเทียนอีเซี่ยน ยินดีต้อนรับคุณเข้าสู่การแข่งขันบนสังเวียนของโลกหุ่นรบ เนื่องจากตอนนี้คุณยังเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบฝึกหัด ดังนั้นคุณทำได้เพียงดวลกับมือใหม่เท่านั้น (การแข่งขันของหุ่นรบฝึกหัดโดยเฉพาะ) ตอนนี้เข้าสู่ระบบจับคู่การดวลของมือใหม่ โปรดรอสักครู่!”
หลิงหลานนึกว่าเธอจะต้องรอนานมาก ไม่นึกเลยว่าแค่ไม่กี่วินาทีก็ได้ยินเสียงดังติ๊ง ระบบส่งเสียงออกมาอีกครั้งว่า “โปรดทราบ ระบบสุ่มเลือกคู่ต่อสู้ของคุณได้แล้ว หุ่นรบฝึกหัดเมิ่งเตี๋ยขวงอู่ (ผีเสื้อความฝันเริงระบำ) อีกสามวินาทีให้หลังจะส่งคุณเข้าสู่สนามแข่งขันสังเวียน มีช่วงเวลาป้องกันเป็นอมตะสิบวินาที เมื่อการป้องกันเป็นอมตะหายไป การดวลจะเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ!”
เมิ่งเตี๋ยขวงอู่? ความคิดแรกของหลิงหลานคืออีกฝ่ายเป็นผู้หญิง แน่นอนว่าก็ไม่ได้ตัดพวกเด็กหนุ่มที่มีจิตใจของหญิงสาวออกไปเหมือนกัน…ในขณะที่หลิงหลานกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น เธอก็เห็นภาพหน้าจอของหุ่นรบดำมืดฉับพลันก่อนจะส่องสว่างขึ้นมาอีกครั้ง เธอก็มาอยู่ในพื้นที่ราบแห่งหนึ่ง กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ทว่าไม่มีพื้นที่ไหนสามารถอำพรางตัวได้เลย นี่บ่งบอกชัดเจนว่า การประลองครั้งนี้คือการวัดที่ความสามารถล้วนๆ
หุ่นรบที่ฝ่ายตรงข้ามเลือกใช้คือหุ่นรบเปลี่ยนร่างบินทางอากาศ นี่บ่งบอกว่าฝ่ายตรงข้ามมีความมั่นใจในการควบคุมของตัวเองมาก ไม่อย่างนั้นคงไม่เลือกหุ่นรบเปลี่ยนร่างบินทางอากาศที่มีค่าความยากในการควบคุมสูงสุดในหมู่หุ่นรบพื้นฐาน นี่ทำให้หลิงหลานอดจริงจังไม่ได้ เธอระมัดระวังตัวขึ้นมา ถ้าหากอีกฝ่ายเป็นอัจฉริยะด้านการควบคุมจริงๆ ละก็ เธอจะประมาทเลินเล่อจนทำให้แผนล่มกลางคันไม่ได้เด็ดขาด
ช่วงเวลาอมตะสิบวินาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว หลิงหลานรู้สึกสนใจอีกฝ่ายอยู่บ้าง ดังนั้นเลยไม่ได้ทำการโจมตีก่อน เธออยากเห็นการโจมตีของอีกฝ่าย ขอเพียงฝ่ายตรงข้ามลงมือ เธอก็มองออกได้ว่าความสามารถของฝ่ายตรงข้ามเป็นยังไง
ฝ่ายตรงข้ามเลือกเปลี่ยนร่างเป็นอันดับแรก จากนั้นก็บังคับหุ่นรบให้บินขึ้นไปบนอากาศแล้วตัดสินใจทำการโจมตีระยะไกล นี่คือกลยุทธ์พื้นฐานที่สุดของหุ่นรบเปลี่ยนร่างบินทางอากาศ ข้อดีแต่เดิมของหุ่นรบเปลี่ยนร่างบินทางอากาศก็คือ เก่งด้านการโจมตีระยะไกลมากสุดในหมู่หุ่นรบพื้นฐานสามอัน การตัดสินใจเช่นนี้ของฝ่ายตรงข้ามถูกต้องมากอย่างไม่ต้องสงสัย
‘ปัง’ หลิงหลานบังคับหุ่นรบให้กระโดดออกจากจุดเดิม ลำแสงระเบิดพื้นที่ที่หลิงหลานเคยอยู่ เศษฝุ่นนับไม่ถ้วนปลิวว่อนขึ้นมา หลิงหลานเตรียมการป้องกันการโจมตีต่อเนื่องกันของอีกฝ่ายขณะที่กระโดด แต่เธอไม่นึกเลยว่าฝ่ายจะข้ามโจมตีครั้งเดียวแล้วก็หยุดจากนั้นก็เลือกถอยหลังไปอีกครั้ง เว้นระยะห่างจากเธอ นี่ทำให้หลิงหลานรู้สึกผิดหวังในใจเล็กน้อย
การโจมตีของฝ่ายตรงข้ามเมื่อสักครู่นี้ปรากฏข้อผิดพลาดสามข้อ หนึ่ง จุดที่ยิงโจมตีระยะไกลครั้งแรกของหุ่นรบเปลี่ยนร่างบินทางอากาศไม่ควรเป็นตำแหน่งที่เธอยืนอยู่ หากแต่ต้องพิจารณาตำแหน่งที่อีกฝ่ายจะหลบหนี นี่ถึงเรียกว่าการคาดการณ์ล่วงหน้า แน่นอนว่าถ้าหากไม่มั่นใจในความสามารถคาดการณ์ล่วงหน้าของตัวเองมากพอ ก็สามารถยิงติดต่อกัน แยกโจมตีไปยังทิศทางต่างๆ ที่เธอจะหลบ นี่คือหนึ่งในความสามารถที่จำเป็นของมือปืนยิงระยะไกล แต่ฝ่ายตรงข้ามกลับไม่มีเลย อีกฝ่ายแค่ใช้ทักษะการยิงพื้นฐานที่สุดของผู้ควบคุมหุ่นรบทั่วไป ยิงกระสุนลำแสงไปยังจุดที่กำหนดแล้วก็พอแค่นี้
สอง ต่อให้หุ่นรบบินทางอากาศไม่มีความสามารถคาดการณ์ล่วงหน้า ก็สามารถมองทิศทางการหลบของเธอแล้วไล่โจมตีตามติดต่อกันก็ได้เหมือนกัน บีบฝ่ายตรงข้ามทำให้อีกฝ่ายไม่มีโอกาสโจมตีกลับ ทำได้แค่เลือกหลบหนีเป็นฝ่ายถูกกระทำเท่านั้น
สาม หุ่นรบเปลี่ยนร่างบินทางอากาศที่มีประสบการณ์เยอะจะเว้นระยะห่างในระหว่างการโจมตี นอกจากนี้ ตอนที่เธอกำลังหลบก็อยู่ห่างจากอีกฝ่ายมากแล้ว อาวุธระยะไกลของหุ่นรบกระต่ายไม่สามารถโจมตีโดนอีกฝ่ายได้เลย ฝ่ายตรงข้ามไม่จำเป็นต้องยกเลิกการโจมตีแล้วเว้นระยะห่างของทั้งสองฝ่าย ระมัดระวังตัวขนาดนี้เลย
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าฝ่ายตรงข้ามอ่อนหัดจนไม่อาจอ่อนหัดได้อีกไม่ว่าจะเป็นในด้านการควบคุมพื้นฐานหรือว่าการตัดสินใจ พูดได้ว่าจากความสามารถในการควบคุมของอีกฝ่ายยังไม่เพียงพอให้ควบคุมหุ่นรบเปลี่ยนร่างบินทางอากาศที่มีระดับความยากค่อนข้างสูง ถ้าให้หลิงหลานแนะนำ อีกฝ่ายควรจะบังคับหุ่นรบสัตว์ป่าอย่างเชื่อฟัง ฝึกฝนจนเชี่ยวชาญการควบคุมพื้นฐานแล้วค่อยเลือกหุ่นรบประเภทอื่น
หลิงหลานมองขีดจำกัดล่างของอีกฝ่ายออกจากการโจมตีของอีกฝ่ายแค่ครั้งเดียวเท่านั้น หลิงหลานที่เดิมทียังรู้สึกสนใจอยู่บ้างก็พลันหมดอารมณ์พัวพันกับฝ่ายตรงข้ามต่อแล้ว หลิงหลานเปิดใช้งานเครื่องยนต์ทั้งหมดของกระต่าย จากนั้นกระต่ายก็กระโดดพุ่งราวกับลูกธนูที่บินออกไปก็ไม่ปาน ทำให้การโจมตีของฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถไล่ตามความเร็วนี้ทันได้เลย ฝ่ายตรงข้ามเห็นว่าศัตรูเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ก็ลนลานอยู่บ้าง เริ่มวิ่งหนีออกไปอย่างสุดชีวิต…เพียงแต่วินาทีถัดมา เธอพลันพบว่ามองไม่เห็นร่างของกระต่ายในหน้าจอของหุ่นรบแล้ว นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
ฝ่ายตรงข้ามไม่กล้าเคลื่อนไหวบุ่มบ่าม รีบหยุดหุ่นรบทันทีก่อนจะค้นหาร่องรอยของหุ่นรบกระต่ายอย่างระมัดระวัง ยังไม่ทันทีจะค้นหาอย่างจริงจัง ออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักก็เริ่มเตือนเสียงดังขึ้นมาว่า “อันตราย!”
เธอได้ยินคำพูดประโยคนี้ก่อนจะรู้สึกว่าหุ่นรบถูกพลังมหาศาลสายหนึ่งโจมตีใส่ แทบจะทำให้เธอสลบจากการสั่นสะเทือน จากนั้นทั่วทั้งหน้าจอของหุ่นรบก็กลายเป็นดำ เสียงของระบบแจ้งเตือนตามมาติดๆ ว่า “คุณถูกคู่ต่อสู้โจมตีใส่จุดตายทำให้หุ่นรบระเบิดออกจนคุณเสียชีวิตทันที โปรดทำการเลือกว่าจะแข่งขันรอบต่อไปหรือว่าจะออกไป…”
เธอตายแล้ว? เธอตายได้ยังไงกันแน่? หุ่นรบบินทางอากาศเลือกแข่งขันรอบต่อไป แต่เธอเลือกหยุดพักผ่อนชั่วคราว หลังจากนั้นก็รีบดูคลิปการดวลของเธอกับหุ่นรบกระต่าย ในที่สุดเธอก็รู้จากในคลิปแล้วว่าตัวเองตายได้ยังไง
ที่แท้ตอนนั้นหุ่นรบกระต่ายมาถึงด้านล่างเธอ ซึ่งเป็นจุดบอดทางสายตาของหุ่นรบ หลังจากนั้นมันก็กระโดดขึ้นอย่างรุนแรง ทะยานขึ้นไปในอากาศแล้วใช้แครอทที่มีเอกลักษณ์สุดขีดระเบิดดอกเบญจมาศของหุ่นรบจากล่างขึ้นบน…
“ชั่วช้าจริงๆ!” เมิ่งเตี๋ยขวงอู่อดใช้มือฟาดแผงควบคุมไม่ได้ ภาพการระเบิดดอกเบญจมาศนั้นน่าเกลียดมากเกินไปแล้ว ในฐานะที่เธอเป็นผู้หญิง เธอรับไม่ได้จริงๆ เวลานี้ในใจเธออดเกลียดชังกระต่ายตัวนั้นขึ้นมาไม่ได้ คิดว่าการโจมตีของอีกฝ่ายต้องแฝงไปด้วยการหยามหน้าแน่นอน…
ผู้หญิงที่กำลังโมโหมักจะไม่มีเหตุผลเสมอแหละ!
หลิงหลานไม่รู้เลยว่าเพราะการโจมตีที่เน้นหนักเรื่องประสิทธิภาพได้สร้างความแค้นของผู้หญิงคนหนึ่งขึ้นมา ตอนนี้เธอกำลังรอคอยการต่อสู้รอบถัดไปอยู่ ถึงแม้ว่าจะได้ 1000 คะแนนมาไว้ในมือแล้ว แต่ถ้าหากต้องการแลกเปลี่ยนหุ่นรบระดับต่ำที่แย่ที่สุด อย่างน้อยที่สุดก็ต้องการคะแนนหนึ่งแสนแต้ม เธอเพิ่งจะย่างเท้าก้าวแรกบนเส้นทางที่ยาวไกล อย่างน้อยที่สุดก็ต้องชนะติดต่อกัน 100 ครั้งถึงจะเก็บคะแนนหนึ่งแสนแต้มนี้ได้ครบ
ไม่นานระบบก็ทำการแจ้งเธอ ชื่อคู่ต่อสู้คนใหม่ปรากฏขึ้นมาแล้ว หุ่นรบฝึกหัดฉวนจื๋อเกาโส่ว (ยอดฝีมือทุกด้าน) สามวินาทีให้หลังเธอถูกวาร์ปมาที่สนามประลองเช่นเดิม
ฉวนจื๋อเกาโส่ว? ดูเหมือนว่าหมอนี่มั่นใจในตัวเองมากเลย กล้าตั้งชื่อแบบนี้ด้วย หลิงหลานเห็นชื่อนั้นก็เริ่มขบคิดนิสัยของฝ่ายตรงข้าม
นี่เป็นความเคยชินที่เธอได้รับมาจากอาจารย์หมายเลขห้า หมายเลขห้าชอบควบคุมคู่ต่อสู้ ดังนั้นจึงไปขุดความลับบางอย่างจากจุดที่ทำให้บางคนคาดไม่ถึง ยกตัวเช่น ศัพท์หรือประโยคที่คู่ต่อสู้ชอบพูดติดปาก หรือว่าพวกชื่อเล่น ฉายาที่ตั้งให้ตัวเอง บ่อยครั้งจุดเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้ก็คือการสะท้อนความเป็นจริงของโลกภายในใจคน แน่นอนว่าไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ว่ามียอดฝีมือด้านการปลอมตัวบางคนที่เชี่ยวชาญการเสแสร้ง จงใจคุยเล่นหรือว่าพูดชื่อเล่นฉายาที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับตัวเองเลยสักนิดเดียว นี่จำเป็นต้องครุ่นคิดกลับกัน
สนามประลองที่เธอวาร์ปมายังคงเป็นที่ราบไกลสุดลูกหูลูกตาเหมือนกับรอบที่แล้วราวกับพิมพ์เดียวกัน นี่ทำให้หลิงหลานสงสัยว่า สนามประลองของการดวลระหว่างมือใหม่มีแค่อันนี้ใช่ไหม? ถ้าเกิดเดาไม่ผิดละก็ เกรงว่าระบบอาจจะไม่ได้คาดหวังการต่อสู้ระหว่างมือใหม่ไว้สูงเลย คาดว่าระบบอาจจะไม่คิดว่ามือใหม่สามารถใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมอะไรได้ ดังนั้นสนามประลองถึงเลือกเป็นพื้นที่ราบที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลยสัดนิดแห่งนี้
“ฮ่าๆ ไม่นึกเลยว่าฉันจะโชคดีขนาดนี้ เจอหุ่นรบกระต่ายที่ทีมแจ้งว่าต้องจัดการมัน” เสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความเยาะหยันดังขึ้นข้างหูหลิงหลาน แสดงความป่าเถื่อนสุดขีดอย่างชัดเจน
หลิงหลานขมวดคิ้วมองไปแล้วก็เห็นหุ่นรบฮิวแมนนอยด์ตัวหนึ่งยืนผ่าเผยอยู่ไม่ไกลจากเธอ บนไหล่ของมันแบกมีดพร้าโลหะขนาดมหึมาไว้หนึ่งเล่ม หุ่นรบยืนอยู่ตรงนั้นอย่างผ่อนคลาย ไม่มีการเตรียมตัวป้องกันอะไรเลย มองไม่เห็นความรู้สึกตึงเครียดของอีกฝ่ายที่มาเข้าร่วมการดวลเลยแม้แต่น้อย
หลิงหลานอดร้องเยาะหยันไม่ได้ หมอนี่รนหาที่ตายจริงๆ หย่อนยานไม่ตั้งท่าป้องกันขณะอยู่ต่อหน้าศัตรูแบบนี้เนี่ยนะ ไม่มีฝืมือในการต่อสู้เลยสักนิดเดียวจริงๆ
ในสายตาของหลิงหลาน ทั่วทั้งร่างของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยช่องโหว่ พูดได้ว่า ขอเพียงหลิงหลานลงมือ ย่อมสังหารอีกฝ่ายด้วยกระบวนท่าเดียวได้ในพริบตาแน่นอน ไม่มีความยากอะไรเลย เดิมทีเธอนึกว่าจะเจอผู้ควบคุมหุ่นรบที่มีฝีมือ ไม่นึกเลยว่ากลับเป็นของก็อปอีกแล้ว นี่ทำให้หลิงหลานผิดหวังนิดหน่อยอีกครั้ง ถึงแม้ว่าหลิงหลานอยากเก็บสะสมคะแนนให้เร็วที่สุด แต่เธอก็อยากหาคู่ต่อสู่ที่คู่ควรให้ลงมือด้วยเหมือนกัน ไม่ใช่พวกขยะที่ไม่เคยผ่านแม้กระทั่งการควบคุมพื้นฐานของหุ่นรบ
หลายปีมานี้เธอฝึกฝนอย่างยากลำบากมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ทางด้านร่างกายหรือว่าการต่อสู้ด้านหุ่นรบ ในใจหลิงหลานมีความเคารพต่อทักษะการต่อสู้เสมอมา เมื่อเธอเห็นคู่ต่อสู้มีท่าทีเลินเล่อไม่จริงจังเช่นนี้ ในใจก็ไม่ชอบอย่างยิ่งยวด