ผู้บัญชาการเข้าใจความหมายของผู้ช่วยดี เขาเอ่ยคัดค้านทันทีว่า “ไม่ได้ นี่มันอันตรายมากเกินไป” ถึงแม้ความสามารถของผู้ช่วยผู้บัญชาการจะเกือบถึงระดับราชันอย่างไม่มีที่สิ้นสุดแล้ว แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ใช่ระดับราชัน อาศัยแค่ โล่ป้องกันของหุ่นรบไพ่ราชาเผชิญหน้ากับอาวุธสุดยอดของฐานที่มั่น มากสุดเขาก็ช่วยประคับประคองยานอวกาศได้แค่สิบยี่สิบวินาทีเท่านั้น…
“พวกเราจะนั่งงอมืองอเท้ารอความตายแบบนี้ไม่ได้นะครับ ถ้าเกิดสามารถยื้อเวลาได้สักนิด เราก็ต้องยื้อมันอย่างสุดความสามารถ” ผู้ช่วยผู้บัญชาการเอ่ยค้านด้วยอารมณ์หวั่นไหว
“แต่ถ้านายเกิดเรื่องขึ้นมา ก็ต้องอยู่ในฐานที่มั่นซวิ่นหลงเท่านั้นนะ” ผู้บัญชาการบอกผลลัพธ์ที่ผู้ช่วยอาจจะได้รับให้อีกฝ่ายฟัง
“มันก็ดีกว่าทุกคนอยู่ที่นี่กันหมดนะครับ ถ้าผมเกิดเรื่องขึ้นมา ขอเพียงพวกคุณรอดชีวิตกลับไปได้ก็สามารถรายงานได้ทันที การส่งคนเข้ามาช่วยเหลือก็จะเร็วมากขึ้น….ผมเชื่อว่าในช่วงเวลาสามสี่วันสั้นๆ ผมยังประคองไหว” ผู้ช่วยผู้บัญชาการเอ่ยด้วยท่าทีเด็ดเดี่ยว ไม่อาจปฏิเสธไว้ว่า ในจิตใจของเขามีความมั่นใจและความทระนงตนของผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาอยู่
ผู้บัญชาการมองผู้ช่วยเงียบๆ ก่อนจะพยักหน้าหนักๆ กล่าวว่า “ได้ นายไปเตรียมตัวเถอะ ฉันจะให้สมาชิกทีม C เป็น JMC ส่วนตัวของนาย กำกับการเคลื่อนไหวของนายไว้” ผู้บัญชาการเอ่ยถึงตรงนี้ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นค่อยเอ่ยคำพูดประโยคสุดท้ายออกมาว่า “รักษาตัวด้วย!”
ผู้ช่วยผู้บัญชาการวันทยาหัตถ์อย่างนอบน้อม “ครับ! ท่าน!” เขากล่าวจบก็หันกายออกไปจากห้องควบคุมหลักของยานอวกาศด้วยความเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ และในขณะที่เขาหันกายไปนั้น สมาชิกทุกคนในห้องควบคุมหลักรวมถึงผู้บัญชาการคนนั้นต่างวันทยาหัตถ์ให้เขาอย่างเงียบงัน นี่เป็นการทำความเคารพต่อเพื่อนร่วมรบ และก็เป็นการอวยพรให้เพื่อนร่วมรบด้วย
……
ส่วนทางด้านหลิงหลาน พอฐานที่มั่นซวิ่นหลงเปิดใช้งานอาวุธสุดยอดแล้ว หลิงหลานก็ได้รับข่าวนี้ทันที นี่ทำให้เธอรู้สึกหนักอึ้งมากเพราะว่าอาวุธสุดยอดของฐานที่มั่นแต่ละแห่งต่างมีอานุภาพที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง เป็นไพ่ตายสุดท้ายที่คุ้มครองฐานที่มั่น เป็นอาวุธสังหารจัดการกับยานอวกาศและหุ่นรบที่ทรงพลัง ต่อให้โล่พลังงานของยานอวกาศแข็งแกร่งอีกสักแค่ไหน มากสุดก็ต้านทานการโจมตีได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น เพราะว่าหลังจากการโจมตีหนึ่งครั้ง พลังงานสะสมแต่เดิมของยานอวกาศก็จะถูกผลาญจนหมด แค่คิดก็รู้ได้ว่ายานอวกาศที่ไม่มีโล่พลังงานจะกลายเป็นเป้าโจมตีที่ชัดเจน อาวุธที่มีอานุภาพเล็กน้อยต่างยิงยานอวกาศเป็นรูพรุนได้
นี่ทำให้ทีมหลิงหลานตกอยู่ในสภาพสิ้นหวัง เมื่อเสียชีวิต ภารกิจก็จะล้มเหลว เรื่องที่สำคัญคือพวกเขาไม่สามารถออกไปจากฐานที่มั่นซวิ่นหลง ไม่อาจกลับไปยังโลกความเป็นจริงได้ด้วย อย่างที่คิดไว้เลย ภารกิจระดับ SSS โรคจิตสุดๆ กระทั่งอาวุธสุดยอดของฐานที่มั่นก็ถูกนำมาใช้
หลิงหลานเห็นผู้ช่วยผู้บัญชาการอาสาไปรบเองก็ผุดความคิดขึ้นในใจโดยพลัน เธอเอ่ยปากกล่าวกับฉีหลงว่า “ฉีหลง จากนี้ไป ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น นายต้องพาลูกทีมรอดกลับไปที่เขตศูนย์กลาง ทำภารกิจของพวกเราให้สำเร็จ”
ฉีหลงยังไม่ทันตระหนักได้ แต่ลูกพี่สั่งอะไร เขาก็ต้องไปทำอย่างสุดความสามารถ ดังนั้นจึงบอกว่าเข้าใจแล้วด้วยความจริงจัง
หลี่หลานเฟิงได้ยินคำกล่าวก็อึ้งไป เขาตระหนักได้ทันที จากนั้นเขาก็เอ่ยด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไปว่า “กระต่าย นายจะออกไปเหรอ?” เมื่อนึกถึงตอนขามา หลิงหลานเคยบังคับหุ่นรบระดับราชันสกัดกั้นคลื่นพายุสนามแม่เหล็ก ท่าทีเหน็ดเหนื่อยหมดเรี่ยวแรงพลันปรากฏขึ้นเบื้องหน้าหลี่หลานเฟิง ทำให้หัวใจของหลี่หลานเฟิงสั่นระริกโดยพลัน
คำพูดของหลี่หลานเฟิงทำให้บรรดาสมาชิกทีมเข้าใจแจ่มแจ้งทันทีว่า หลิงหลานเตรียมตัวทำอะไร ก่อนจะทยอยกันเอ่ยปากคัดค้าน พวกเขาไม่อยากขาดการติดต่อกับลูกพี่อีกครั้ง
หลิงหลานเห็นดังนั้นก็ชายตามองทุกคนอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง จากนั้นก็เอ่ยเสียงเรียบว่า “เชื่อฟังคำสั่ง!”
ถึงแม้น้ำเสียงพูดของหลิงหลานจะราบเรียบยิ่ง แต่พวกลูกทีมยังคงรู้สึกได้ถึงไอเย็นเยียบสายหนึ่งโจมตีใส่ร่างกายในพริบตา ทำให้อารมณ์ที่ตื่นตัวแต่เดิมใจเย็นลงทันที ความกล้าหาญคล้ายกับถูกแช่แข็งก็ไม่ปาน ไม่กล้าส่งเสียงประท้วงอีกต่อไป
มีเพียงหลี่หลานเฟิงเท่านั้นที่บางทีพลังจิตอาจจะแข็งแกร่งเหนือชั้นเลยไม่ได้ถูกหลิงหลานสยบ หรืออาจจะเป็นห่วงก็เลยสับสน เขาจึงเอ่ยปากพูดอีกครั้งว่า “กระต่าย ถ้านายไป ฉันก็จะไปกับนายด้วย” เขาไม่มีทางทอดทิ้งกระต่ายหลบหนีไปคนเดียวเป็นอันขาด
หลิงหลานแค่บังคับหุ่นรบให้ยื่นมือขวาออกไปแตะส่วนหัวของหุ่นรบหลี่หลานเฟิงเบาๆ เท่านั้นและกล่าวว่า “ชีตาห์ นายยังอ่อนแอมากเกินไป ถ้าอยากช่วยฉัน นายก็ต้องเพิ่มความสามารถของนายก่อน ไม่อย่างนั้นนายไปกับฉัน ก็เป็นแค่การถ่วงแข้งถ่วงขาฉัน อีกอย่าง อย่าทำให้ฉันผิดหวังที่เชื่อมั่นในตัวนายนะ”
หลิงหลานกล่าวจบก็เดินออกจากบูสเตอร์ซีทของหุ่นรบแล้วให้เสี่ยวซื่อส่งคำสั่งให้ระบบลำเลียงของยานอวกาศเคลื่อนย้ายหุ่นรบไปยังเครื่องส่งตัวของท่าส่งตัว
คำพูดของหลิงหลานทำให้หลี่หลานเฟิงโศกเศร้าหดหู่ ที่แท้ในใจกระต่าย ความสามารถของเขาอ่อนแอถ่วงแข้งถ่วงขาขนาดนี้เลย? คำพูดนี้ทำร้ายคนอยู่บ้างจริงๆ…เขานั่งอยู่ในห้องคนขับ กำหมัดแน่น นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเกลียดชังร่างกายที่ทรุดโทรมของตัวเอง
ไม่ เขาจะท้อแท้ใจแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด ครั้งหน้าเขาจะต้องทำให้กระต่ายรู้ว่า เขา…หลี่หลานเฟิงมีความสามารถเพียงพอที่จะต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเขา หลี่หลานเฟิงลูบข้อมูลในกระเป๋า ในเมื่อตอนนี้ความสามารถของเขาช่วยเหลือกระต่ายไม่ได้ เช่นนั้นเขาไม่อาจทรยศความเชื่อใจของกระต่ายได้อีก เขาจะต้องรอดและมอบข้อมูลชุดนี้ให้เจ้าเมืองหงหยาง ทำภารกิจก่อตั้งหน่วยรบของกระต่ายให้จงได้
พอรู้ว่าผู้ช่วยผู้บัญชาการถูกส่งตัวออกไปปฏิบัติการแล้ว หลิงหลานก็ให้เสี่ยวซื่อจัดเตรียมให้ระบบส่งตัวหุ่นรบส่งเธอออกไป แน่นอนว่าเนื่องจากมีเสี่ยวซื่อ ในหน้าจอขนาดใหญ่ของห้องควบคุมหลักของยานอวกาศจึงไม่ปรากฏเงาของหุ่นรบหลิงหลานเลย นี่ก็คือเหตุผลที่หลิงหลานกล้าส่งตัวไปที่อวกาศ ทหารสหพันธรัฐเหล่านี้ไม่มีทางสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของเธอ
ในที่สุดอาวุธสุดยอดของฐานที่มั่นก็เผยตัวออกมาทั้งหมดแล้ว ภาพที่เสี่ยวซื่อส่งมาทำให้หลิงหลานเห็นแล้วก็อดอกสั่นขวัญแขวนไม่ได้ แค่เห็นรูปลักษณ์ภายนอกก็รับรู้ถึงความร้ายกาจของอาวุธระดับสุดยอดชิ้นนี้แล้ว รูปลักษณ์ภายนอกที่ดูโหดเหี้ยม รวมถึงปากกระบอกปืนเส้นผ่าศูนย์กลางกว้างหลายสิบเมตร พลังงานที่ยิงออกมาย่อมน่าสะพรึงแน่นอน ทะเลพายุสนามแม่เหล็กทำให้ผู้คนได้ยินแล้วก็หน้าเปลี่ยนสี เป็นเพราะว่าความปั่นป่วนของพลังงานมันกว้างใหญ่ไพศาลและคงอยู่ยาวนานมากเกินไป แต่อาวุธระดับสุดยอดน่ากลัวตรงที่มันรวมอานุภาพของพวกมันไว้ที่จุดเดียว ทำให้มันกำจัดเป้าหมายที่ถูกล็อกเป้าโจมตีได้อย่างง่ายดาย
“จากรูปลักษณ์ภายนอกของอาวุธชิ้นนี้ ฉันหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องเจอแล้ว มันคือหนึ่งในซีรีส์อาวุธระดับสุดยอดของสหพันธรัฐ ปืนใหญ่ลำแสงพลังงานแม่เหล็ก! มันมีพลังโจมตีมหาศาล สามารถทำลายระบบป้องกันภายนอกของเป้าหมายที่โจมตีได้ ในขณะเดียวกันพลังแม่เหล็กอันน่ากลัวที่แฝงมาสามารถทำลายระบบภายในของเป้าหมายที่โจมตีได้อีกด้วย” เสี่ยวซื่อบอกข้อมูลของอาวุธระดับสุดยอดของฐานที่มั่นซวิ่นหลงให้หลิงหลานฟังทันที ทำให้ในใจหลิงหลานเกิดความมั่นใจ
“เป็นของที่ยุ่งยากจริงๆ” หลิงหลานขมวดคิ้วขึ้นมา พลังงานรุนแรง ความจริงแล้วอาศัยโล่ราชาชงม่ายของหุ่นรบระดับราชันยังสามารถต้านทานไว้ได้ แต่ปัญหาอยู่ที่ในเวลาเดียวกันมันก็มีพลังแม่เหล็กที่ทำลายระบบภายในของหุ่นรบด้วย นี่จะส่งผลต่อระบบลำเลียงพลังงานของหุ่นรบ หุ่นรบระดับราชันที่ไม่มีพลังงานประคับประคองไว้ก็ไม่ต่างอะไรจากหุ่นรบทั่วไปเลยจริงๆ
เธอมองแหล่งพลังงานนิวเคลียร์เคลือบสูง X192 บนหุ่นรบระดับราชัน หวังว่าเจ้านี่จะยอดเยี่ยมมากพอ สามารถต้านทานการโจมตีของปืนใหญ่ลำแสงพลังงานแม่เหล็กได้
ตอนนี้เอง ยานอวกาศลอยสูงขึ้นไปประมาณหนึ่งพันห้าร้อยเมตรแล้ว และอาวุธระดับสุดยอด ปืนใหญ่ลำแสงพลังงานแม่เหล็กที่สั่งสมพลังงานสำเร็จแล้วก็แสดงด้านที่โหดร้ายของมันออกมาในที่สุด ลำแสงพลังงานแม่เหล็กสายหนึ่งถูกยิงออกมาจากฐานที่มั่น เล็งใส่ยานอวกาศที่ลอยอยู่กลางอากาศอย่างอำมหิต
“รวมพลังงานทั้งหมดตรงจุดที่โดนโจมตี” ผู้บัญชาการตะโกนลั่น เวลานี้เขาเองก็สูญเสียความเยือกเย็นที่เคยมีมาตลอดแล้ว ถ้าหากอาวุธระดับสุดยอดนี้ทรงพลังมากเกินไป เกรงว่าพวกเขาก็ต้านทานไม่ได้แม้กระทั่งการโจมตีเดียว
ลำแสงพลังงานแม่เหล็กยิงใส่โล่ป้องกันของยานอวกาศอย่างโหดเหี้ยม พลังงานคงอยู่ติดต่อกันยี่สิบวินาที ในช่วงเวลายี่สิบวินาทีนี้ ยานอวกาศถูกพลังงานมหาศาลโจมตีจนสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ทุกคนในห้องควบคุมหลักแทบจะล้มคว่ำลงพื้น แต่ทหารเหล่านี้ต่างเป็นนักรบที่ผ่านนับร้อยศึก พวกเขากอดแผงควบคุมตรงหน้าไว้แน่นเลยไม่ได้ถูกแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงนี้เหวี่ยงออกไป
ผ่านไปยี่สิบวินาที เมื่อลำแสงที่เหลืออยู่เพียงนิดหน่อยในกระบอกปืนใหญ่ลำแสงพลังงานแม่เหล็กที่เป็นอาวุธระดับสุดยอดนี้หายไป ถึงค่อยพบว่ายานอวกาศที่มีลักษณะชำรุดยังคงลอยสูงอยู่กลางอากาศ ผิวชั้นนอกของยานอวกาศเป็นสีเทาเข้มดูหม่นหมอง นี่ยืนยันว่าพลังงานของยานอวกาศตอนนี้หมดเกลี้ยงแล้ว และก็รักษาโล่พลังงานต่อไปไม่ได้อีกแล้ว
นายทหารระดับสูงในห้องบังคับการของฐานที่มั่นเห็นดังนั้นก็อดโห่ร้องขึ้นมาไม่ได้ ดวงหน้าของผู้บัญชาการสูงสุดเผยรอยยิ้มออกมา หลังจากนั้นสั่งการอย่างเฉียบขาดว่า “ให้กองทัพจรวดติดเกราะบุกโจมตีต่อ”
กองทัพจรวดติดเกราะบนภาคพื้นดินได้ยินคำสั่งนี้ก็ยิงจรวดอีกครั้ง แต่ไม่นานพวกเขาก็พบว่าพวกเขาโจมตีเสียแรงเปล่า เนื่องจากมีหุ่นรบไพ่ราชาตัวหนึ่งปรากฏตัวขึ้นด้านล่างยานอวกาศ จรวดทั้งหมดที่โจมตีเข้ามา ยังไม่ทันบินไปถึงยานอวกาศก็ถูกอีกฝ่ายสอยร่วงแล้ว
หลังจากที่กองบัญชาการได้รับข่าวนี้ ทุกคนต่างรอคอยคำสั่งของผู้บัญชาการสูงสุด
ผู้บัญชาการสูงสุดขมวดคิ้วมองหุ่นรบไพ่ราชาที่แสดงพลังน่าเกรงขามกลางอากาศ จากนั้นก็มองไปยังยานอวกาศที่กำลังดิ้นรนรีบร้อนฟื้นฟูพลังงานอีกครั้ง จากนั้นเขาก็สั่งการอย่างเด็ดขาดว่า “ยิงปืนใหญ่ลำแสงพลังงานแม่เหล็กรอบที่สอง!”
ห้องควบคุมหลักของยานอวกาศเห็นอาวุธระดับสุดยอดของฐานที่มั่นเริ่มกระพริบรัศมีแสงสั่งสมพลังงานอีกครั้ง สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นซีดเผือด “ท่านครับ พวกเขาเตรียมตัวยิงรอบที่สองแล้ว พวกเราต้องตายแน่ๆ แล้วใช่ไหมครับ?”
เมื่อเห็นยานอวกาศฟื้นฟูพลังงานแค่สิบเจ็ดเปอร์เซ็นต์ ในใจทุกคนต่างมีความสิ้นหวัง พลังงานหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ถึงจะสามารถต้านทานปืนใหญ่ลำแสงพลังงานแม่เหล็กนั้น แต่ผลลัพธ์ของความพยายามสุดความสามารถ ยานอวกาศยังคงเสียหายสิบสามเปอร์เซ็นต์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โชคดีที่ระบบการบินหลักของยานอวกาศไม่ได้เสียหาย นี่เป็นความโชคดีของพวกเขา
“เร่งความเร็วการสะสมพลังงาน ได้แต่สะสมพลังงานให้ถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น ไม่ว่าจะไปถึงระดับความสูงที่จำเป็นหรือไม่ พวกเราต้องสับเปลี่ยนเป็นการแล่นด้วยความเร็วสูง” ผู้บัญชาการกัดฟัน เตรียมตัวเดิมพันโอกาสครั้งสุดท้ายนี้ เขามองออกไปยังหุ่นรบไพ่ราชาที่กำลังคุ้มกันยานอวกาศอย่างยากลำบาก เขาฝากความหวังไว้ที่ตัวอีกฝ่าย หวังว่าเขาสามารถช่วยยานอวกาศยื้อเวลาสั่งสมพลังงานสุดท้าย
ทุกคนจ้องมองสมาชิกทีมที่รายงานความคืบหน้าการสั่งสมพลังงานด้วยความตึงเครียด พวกเขาแค่หวังว่าจะสั่งสมพลังงานได้เต็มห้าสิบเปอร์เซ็นต์ก่อนที่ปืนใหญ่ลำแสงพลังงานแม่เหล็กอาวุธระดับสุดยอดจะยิงรอบที่สอง
“สั่งสมพลังงานยี่สิบเปอร์เซ็นต์…ยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์…สามสิบเปอร์เซ็นต์….สามสิบห้าเปอร์เซ็นต์…” เมื่อลูกทีมรายงานถึงสามสิบห้า ในที่สุดปากกระบอกปืนอาวุธระดับสุดยอดบนฐานที่มั่นก็ปล่อยประกายไฟผลิบานพราวพร่าง แต่ในสายตาของทุกคนบนยานอวกาศ ประกายไฟนี้เป็นดอกไม้แห่งความตายที่เร่งเอาชีวิตอย่างไม่ต้องสงสัย
“อย่านะ…” ไม่รู้ว่าใครตะโกนคำนี้ดังลั่น ทุกคนอดกอดแผงควบคุมตรงหน้าแน่นๆ ไม่ได้ ก่อนจะหลับตาลงรอคอยการมาเยือนของความตาย
——————————