มู่หนานจือ – บทที่ 139 เจ็บปวด

มู่หนานจือ

เจียงเซี่ยนถามอย่างละเอียด คุมทุกสิ่งทุกอย่าง

หลิวตงเยว่ตอบอย่างตั้งใจ และตอบทุกสิ่งทุกอย่างที่รู้

หลี่เชียนยืนฟังอยู่ข้างๆ อย่างกระวนกระวาย และรู้สึกผิดหวังมาก

กว่าจะรอให้เจียงเซี่ยนมอบหมายเรื่องที่ควรมอบหมายเสร็จทั้งหมดก็ไม่ง่ายเลย นางเชิญให้หลี่เชียนนั่งเก้าอี้ไท่ซือที่อยู่ข้างๆ และเอ่ยว่า “เจ้ามาหาข้ามีธุระอะไรหรือ?”

หลี่เชียนมองเจียงเซี่ยน เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาไม่รู้ว่าตนควรจะพูดอะไรดี

เขาสามารถบอกนางได้หรือไม่ว่า…เขาได้ยินว่าจ้าวเซี่ยวถูกฮ่องเต้แทงดาบหนึ่งแล้วก็ยังคงไม่เปลี่ยนความปรารถนาเดิมที่จะแต่งงานกับนาง นางจะแต่งงานกับเขาจริงๆ หรือไม่?

เขาสามารถบอกนางได้หรือไม่ว่า…เขามักจะคิดว่าจ้าวเซี่ยวตำแหน่งสูงและมีอำนาจมาก จึงมีสิ่งที่ต้องสนใจมากเกินไป หากนางแต่งงานกับเขา เขาต้องไม่มีทางปฏิบัติกับนางอย่างสุดหัวใจอย่างแน่นอน นางควรจะคิดดูให้ดี?

เขาสามารถบอกนางได้หรือไม่ว่า…เขาหวังว่านางจะไม่อารมณ์เสียกับฮ่องเต้ อย่าแต่งงานเร็วขนาดนี้ และอย่าใส่ใจกับความคิดของพวกคนข้างนอกมากเกินไป เลือกสามีให้ตนเองดีๆ สักคน ไม่จำเป็นต้องมีอำนาจมาก แต่ต้องเอาใส่ใจนาง มีความสุขในสิ่งที่นางมีความสุข และเสียใจในสิ่งที่นางเสียใจ…

ไม่

เขาพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว!

ตอนที่เขาเห็นนางคิดเพื่อจ้าวเซี่ยวอย่างละเอียด ตอนที่เขาเห็นว่านางเลือกยาให้จ้าวเซี่ยวอย่างไร ตอนที่นางทิ้งเขาไว้ข้างๆ และเลือกดูแลจ้าวเซี่ยวก่อน…หลี่เชียนคิดว่าเขาคงจะสูญเสียความโปรดปรานจากเจียงเซี่ยนแล้ว

ใช่แล้ว

เขารู้สึกว่าคำว่า ‘สูญเสียความโปรดปราน’ นี้เหมาะสมทีเดียว

นางเป็นท่านหญิงราชนิกุล ไม่ว่าจะทำอะไรเอาแต่ใจเพียงใด เวลาเจอเหตุการณ์วุ่นวายกลับต้องรู้ว่าจะคิดถึงผลประโยชน์ส่วนรวมและไม่ทำให้ได้รับความเสียหายอย่างไร นางยังคงสนใจเขา ตอนที่เขาขอร้องนาง นางก็ยังคงช่วยเขา และตอนที่เขาเผชิญความลำบาก นางยังถึงกับช่วยเขาออกความเห็นและวางแผนอย่างจริงใจ ทว่าก็เพียงแค่นี้เท่านั้น

นางจะไม่มาสนใจเขาอีก จะไม่สนใจสิ่งที่เขาต้องการเหมือนคราวเก่าก่อน แล้วก็จะไม่ช่วยเขาทำความปรารถนาของเขาให้เป็นจริงเหมือนในวันวานแล้วเช่นกัน

ก็เหมือนครั้งที่แล้วที่เขาชวนนางออกมา

นางบอกว่านางออกจากวังบ่อยๆ ไม่ได้

เจียงเซี่ยนไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา หากนางอยาก นางก็สามารถทำได้ ก็เหมือนที่นางอยากแต่งงาน นางก็สามารถแต่งงานกับคนที่ต่อสู้กับความโกรธของฮ่องเต้เพื่อแต่งงานกับนางได้ แถมไม่ได้มีแค่คนเดียว แต่มีถึงสามคน

ทว่านางไม่ออกมาพบเขา

เพราะคิดว่าไม่จำเป็นหรือว่าตัดสินใจแล้ว?

นางยังคงแนะนำเขาในจดหมายเหมือนเมื่อก่อน ให้เขาไปเยี่ยมเยียนคนที่ชื่อหยางเหวินอิง

แต่นางไม่เจอเขา

เวลานี้หลี่เชียนก็สามารถจินตนาการถึงอนาคตได้แล้ว

นางอยู่กับจ้าวเซี่ยว ดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของจ้าวเซี่ยว มีลูกให้จ้าวเซี่ยว สนิทสนมและรักกันกับจ้าวเซี่ยวมาก ส่วนเขา…ก็เป็นเพียงเพื่อนคนหนึ่งของนางที่นางจะนึกถึงเวลาเขารบกวนนางเท่านั้น บางทีอาจจะอยากรู้ว่าเขาทำอะไรอยู่ และบางทีนานวันเข้า นางต้องจดจ่ออยู่กับจ้าวเซี่ยวมากขึ้น ก็ค่อยๆ ห่างเหินแม้แต่การทักทายทางจดหมาย ทว่าเขากลับทำอะไรไม่ได้เลยและทำได้เพียงมองนางอยู่ตรงนั้นอย่างไกลๆ มองนางรักใคร่ปรองดองกับจ้าวเซี่ยว และมองนางยิ้มออกมางดงามราวกับดอกไม้อยู่ข้างกายจ้าวเซี่ยว

ใจเขาเหมือนถูกฉีกขาดเป็นรูจนเลือดไหลออกมาข้างนอก เขาเจ็บปวดจนพูดไม่ออก และเจ็บปวดจนอยากจะตายไปเสียเลย

ทำไมดาบเล่มนั้นของจ้าวอี้ถึงไม่แทงลงบนร่างเขา?

อย่างน้อยเขาก็จะได้กุมหน้าอกและร้องต่อหน้านางว่า ‘เจ็บ’

เจียนเซี่ยนเห็นสีหน้าของเขาผิดปกติ ก็อดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปเอ่ยเสียงเบาว่า “เจ้าเป็นอะไรไปหรือ? ไม่ค่อยได้พักผ่อนหรือ? หรือว่าเจอเรื่องอะไรยุ่งยาก? ในเมื่อเจ้ามาหาข้า ก็ต้องเชื่อว่าข้าสามารถช่วยเจ้าได้อย่างแน่นอน เช่นนั้นเจ้าก็อย่ายึดติดกับศักดิ์ศรีเลย เรื่องที่กลับซานซีหรือ? ข้าส่งคนไปจับตาดูตลอด ไม่น่าจะมีอะไร เจ้าวางใจเถอะ!”

“ข้าก็รู้เช่นกันว่าพวกเจ้าไปแล้วคงจะไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายมากนัก”

“เมืองเก้าเมืองที่ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ต่อเนื่องกันตามแนวป้องกันของกำแพงเมืองทางภาคเหนือ ต้าถง เมืองเซวียน ไท่หยวนต่างอยู่ข้างๆ พวกเจ้า พวกเขาระดับสูงกว่าพวกเจ้า และแม่ทัพต่างพกตราแม่ทัพ แต่ตระกูลหลี่อ่อนแอเกินไป ถึงลุงของข้าจะยกแม่ทัพเมืองเซวียนให้ แต่ก่อนหน้านี้พวกเจ้าก็ยอมจำนนและสวามิภักดิ์ที่ซานซี ตอนที่ไปฝูเจี้ยนข้าว่าทรัพย์สินในครอบครัวที่พวกเจ้าเก็บสะสมมานานที่ซานซีนั้นทั้งเลี้ยงคนอื่น ให้ของขวัญ และติดสินบน ก็คงค่อยๆ ลดลงไปพอสมควรแล้ว และตอนที่อยู่ฝูเจี้ยนข้างบนก็มีจิ้งไห่โหวกดหัวอยู่ เวลาเพียงแค่ไม่กี่ปี คิดรวมทรัพย์สินในครอบครัวก็มีเงินเพียงแค่ห้าหกหมื่นตำลึงเท่านั้นเอง”

“เรื่องนี้ข้าจะช่วยเจ้าจับตาดูต่อไป หากมีโอกาสจะคิดหาทางให้กรมกลาโหมหรือกรมคลังเจียดเงินออกมาให้พวกเจ้าเล็กน้อย”

ตอนนี้นางไม่ใช่ไทเฮาแล้วนี่นา!

เจียงเซี่ยนถอนหายใจ “อาจจะไม่ได้มากมาย แต่มีก็ดีกว่าไม่มีนะ! พวกเจ้าเองก็ต้องคิดหาทางหาหน่อยเช่นกัน” แล้วจู่ๆ นางก็ยิ้มออกมาอย่างตลก และถามเขาพลางขยิบตาว่า “ใช่แล้ว เจ้าหลอกเอาจากเฉาไทเฮาสักนิดไม่ได้งั้นหรือ?”

หลี่เชียนรู้สึกว่าสายตาพร่ามัวในทันใด

เขารีบก้มหน้าลง และเอ่ยว่า “เฉาไทเฮาพระราชทานเงินให้ข้าห้าแสนตำลึง”

หลี่เชียนถึงพบว่าตนเองเสียงแหบ เหมือนกำลังร้องไห้

เจียงเซี่ยนได้ยินก็ขมวดคิ้ว แล้วเดินไปหาและเงยหน้าจะดูหน้าเขา

เขารีบสูดหายใจลึก แล้วเงยหน้าขึ้น พลางยิ้มให้เจียงเซี่ยนและเอ่ยว่า “เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ จึงเป็นหวัด ว่าจะไปให้หมอหลวงเถียนตรวจสักหน่อย!”

“งั้นหรือ?” อย่างไรเจียงเซี่ยนก็รู้สึกว่าดวงตาของเขาเหมือนอัญมณีที่เคยถูกล้างด้วยน้ำในทะเลสาบ แม้จะส่องแสงแวววาว แต่ก็สะท้อนความมันเงาที่ใสสะอาด ท่าทางเหมือนร้องไห้

ทว่าความคิดนี้ก็เพียงแค่ฉายวาบผ่านไปในความทรงจำของนางเช่นกัน

หลี่เชียนเป็นใคร?

เขาจะร้องไห้ได้อย่างไร?

ชาติก่อนเขาก่อตั้งกิจการที่ทำให้แคว้นเจริญรุ่งเรืองใหญ่ขนาดนั้น นางก็ไม่เคยเห็นเขาร้องไห้เช่นกัน!

นางเอ่ยว่า “เช่นนั้นเจ้ามาหาข้าทำไมกันแน่?”

ในเมื่อไม่ใช่เพราะเรื่องที่กลับซานซี นางก็คิดไม่ออกจริงๆ ว่าทั้งสองคนยังมีอะไรต้องคุยกันอีก

หลี่เชียนมองเจียงเซี่ยน ใบหน้าของนางงดงามจับใจ สายตาของนางสงบและเยือกเย็น ริมฝีปากของนางแดงเปล่งปลั่งและละมุน…ทุกสิ่งทุกอย่างของนางช่างสวยงาม

ต่อไปเขาคงจะไม่ได้เห็นอีกแล้ว

เขาอยากสลักนางไว้ในใจ

ไม่ใช่ให้นางสังเกตเห็นบาดแผลของเขา

เขาหวังว่านางจะงดงามเหมือนที่เขาเห็นในเวลานี้ตลอดไป

เหมือนนกที่โบยบินอย่างอิสระ เหมือนรากไผ่และต้นไม้ อยากเติบโตอย่างไรก็เติบโตอย่างนั้น

เขาไม่อยากละสายตาจากนางแม้แต่นิดเดียว

“ไม่มีอะไรจริงๆ!” หลี่เชียนเอ่ยอย่างเหม่อลอย “ข้าต้องกลับซานซีล่วงหน้า เพื่อไปเยี่ยมเยียนเหล่าผู้อาวุโสที่สมัยก่อนเคยสนิทสนมกับตระกูลของเรา ไม่อย่างนั้นตอนที่พวกเรากลับไปไม่มีคนของตนเองก็จะถูกจำกัดการเคลื่อนไหวจนกระดิกตัวทำอะไรไม่ได้ พวกเราไม่มีเวลามาค่อยเป็นค่อยไปอีกแล้ว”

จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นกำลังคนหรือกำลังทรัพย์ ตระกูลหลี่ก็ไม่อยากเสียไปอย่างเปล่าประโยชน์ทั้งนั้น

วิธีที่ดีที่สุดก็คือเอาชนะคนที่มีวิทยายุทธสิบคนด้วยคนที่มีกำลังมากคนเดียว ทำลายอย่างบุ่มบ่ามแล้วเริ่มใหม่อีกครั้ง

เจียงเซี่ยนพยักหน้า และนึกถึงคนๆ หนึ่งทันที

นางอดที่จะยิ้มไม่ได้และเอ่ยว่า “เจ้ารู้จักจินเซียวแม่ทัพโหยวจีกองบัญชาการอวี๋หลินหรือไม่? พ่อของเขาเป็นแม่ทัพไท่หยวน เดี๋ยวเขาน่าจะตามจ้าวเซี่ยวกลับเมืองหลวง เจ้าน่าจะลองติดต่อกับเขาดู ตระกูลของพวกเขาน่าจะมีช่องทางซื้อม้าจากชนกลุ่มน้อยทางเหนือได้”

หลายปีมานี้ท้องพระคลังว่างเปล่า เงินเดือนทหารไม่สามารถจ่ายได้ทันเวลา แม่ทัพและทหารของเมืองเก้าเมืองที่ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ต่อเนื่องกันตามแนวป้องกันของกำแพงเมืองทางภาคเหนือ ต่างก็เป็นคนที่ถือดาบลงสู่สนามรบโดยตรง เมื่อเบี้ยหวัดไพร่พลไม่เป็นที่น่าพอใจ ใครยังมีกะจิตกะใจทำสงคราม ดังนั้นเมืองเก้าเมืองที่ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์จึงมีการค้าของเถื่อนกันมากมาย แต่ราชสำนักรู้ก็ทำอะไรไม่ได้ จึงทำได้เพียงเอาหูไปนาเอาตาไปไร่

เจียงเซี่ยนเหมือนจะยุให้หลี่เชียนค้าของเถื่อนและเลื่อยขาเก้าอี้ราชสำนักอย่างเปิดเผย

แต่นางเป็นท่านหญิงที่ได้รับความโปรดปรานที่สุดในราชวงศ์ปัจจุบัน!

ในใจของหลี่เชียนปะปนไปด้วยหลากหลายความรู้สึก สีหน้าอึ้งไปเล็กน้อย

เจียงเซี่ยนเห็นแล้วก็ไม่พอใจ จึงยิ้มเยาะและเอ่ยว่า “ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าไม่เคยคิดช่องทางนี้ เจ้าทำหน้านี้หมายความว่าอย่างไร?”

———————-

มู่หนานจือ

มู่หนานจือ

Status: Ongoing
นิยายรักย้อนยุค จากนักเขียนดัง ‘จือจือ’ กับการฟาดฟันอันดุเดือดของนางเอกสุดแกร่งในวังหลวง!แม้ เจียงเซี่ยน เป็นถึงสตรีผู้สูงศักดิ์ ทั้งยังได้แต่งงานกับ ‘จ้าวอี้’ ผู้เป็นฮ่องเต้ ทว่าเขามิเคยร่วมหออุ่นเตียงกันจนกระทั่งจากนางไปเมื่อนางต้องกลายเป็นไทเฮา จึงได้โอบอุ้ม ‘จ้าวสี่’ ลูกชายคนเดียวของจ้าวอี้ว่าราชการหลังม่าน ประคองราชวงศ์อย่างยากเข็ญแต่แล้วนางกลับถูกฆ่าตายด้วยถ้วยยาพิษ ที่อยู่ในอุ้งมือของฮ่องเต้น้อยอย่างจ้าวสี่!เมื่อลืมตาตื่นมาอีกครั้ง ก็พบว่าได้ย้อนกลับมาช่วงชีวิตวัยสิบสามปี… ก่อนมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในราชสำนัก‘เหตุใดจ้าวสี่จึงมอบความตายให้นาง?’…แม้โอกาสในการมีชีวิตอาจทำให้ไขปริศนานี้ได้แต่นางขอเลือกเดินในเส้นทางใหม่ ไม่เข้าไปข้องเกี่ยวกับตระกูลจ้าว ไม่สนใจการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินนางขอเพียงมีชีวิตครอบครัวเล็กๆ กับสามีที่วางใจได้ และลูกที่แสนน่ารักทว่า เมื่อนางได้นำพบกับ หลี่เชียน แม่ทัพหนุ่มที่นางเคยรู้สึกเกลียดทุกคราที่พบหน้าชีวิตและความรักของนางจึงกำลังจะพบกับจุดเปลี่ยนอีกครั้ง…หรือ ‘โชคชะตา’ จะนำพาให้เกิดเรื่องราวและวังวนที่ไม่เหมือนเดิม!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท