มู่หนานจือ – บทที่ 249 แต่งงาน

มู่หนานจือ

คนที่อยู่ในห้องได้ยินเสียงนั้น บนหน้าล้วนฉายแววรังเกียจอย่างเบาบาง

จินเฉิงเอ่ยว่า “อาย่วน คุณหนูโหยวผู้นี้มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”

จินย่วนมองจินเซียวครั้งหนึ่ง แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ว่า “นางอยากแต่งงานกับท่านพี่ เวลานี้ท่านพี่อยู่ที่นี่ นางก็ต้องมาโผล่แวบหนึ่งสักหน่อยอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นท่านพี่อาจจะลืมไปแล้วว่านางหน้าตาเป็นอย่างไร!”

จินเฉิงมองจินเซียวอย่างเห็นใจเล็กน้อย

จินเซียวขยะแขยงเหลือทน

เขาหน้าตาหล่อเหลามาตั้งแต่เด็ก ผู้หญิงทุกคนที่รายล้อมอยู่รอบกายเขาต่างก็ชอบเขาเพราะสิ่งนี้ กระทั่งมักจะอิจฉา ทะเลาะวิวาท ลงไม้ลงมืออย่างรุนแรง ใส่ร้ายกันและกัน จนหลังจากเขาโตขึ้น ก็เกลียดพวกผู้หญิงที่เข้าหาเขาก่อนมาก

เดิมทียังคิดว่าจะให้จินย่วนอยู่ที่ตระกูลหวง ทว่าการปรากฏตัวของโหยวฮุ่ยเหนียงทำให้เขาเปลี่ยนความคิดทันที

“ไป!” จินเซียวทำหน้าเย็นชาเอ่ยกับจินย่วนว่า “พวกเราไปพักที่ตระกูลหลี่ชั่วคราว!”

อีกสองวันก็เป็นวันเกิดของยายพวกเขาแล้ว ถึงเวลานั้นบิดาของเขาจะส่งคนมาส่งของขวัญวันเกิด จินย่วนก็กลับไท่หยวนพร้อมกับคนที่มาส่งของขวัญวันเกิดแล้วกัน ถึงอย่างไรอยู่ที่นี่ไปก็ไม่มีประโยชน์ ในใจฮูหยินเฒ่าหวงมีแต่ลูกชาย ขอเพียงเป็นเรื่องที่เป็นผลดีต่อลูกชาย อย่างไรนางก็ยอม หากเป็นเรื่องที่ไม่เป็นผลดีต่อลูกชาย อย่างไรนางก็จะไม่ทำ และถ้าเจอเซ่าหยางที่นี่ แล้วจินย่วนถูกเขากวนใจ ก็ยิ่งยุ่งยากแล้ว

ผ่านเรื่องนี้ไป จินย่วนคงต้องตัดใจจากยาย ลุง และป้าสะใภ้ของตนเองอย่างสิ้นเชิง

นางก็ไม่อยากอยู่ที่นี่ต่ออีกแม้แต่เค่อเดียวเช่นกัน

จินเซียวเพิ่งจะพูดจบ นางก็เรียกสาวใช้กับหญิงรับใช้ที่ปรนนิบัตินางเข้ามาเก็บหีบสัมภาระให้นางทันที

คุณหนูโหยวเห็นแล้วก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องทำหน้าซีดถามจินย่วนอย่างน่าสงสารว่า “นี่เจ้าเป็นอะไรไป? ข้าไม่ได้ระวัง จนล่วงเกินเจ้าหรือ?”

จินย่วนทนเห็นนางเป็นแบบนี้ไม่ได้

ตอนเด็กโหยวฮุ่ยเหนียงยังไม่รู้ความ นางเห็นจินย่วนที่งดงามกว่านางไม่ได้รับความโปรดปรานจากคนของตระกูลหวง ก็พยายามเหยียบย่ำอย่างสุดชีวิต จนตอนที่นางเจอจินเซียว และอยากแต่งงานกับจินเซียว พอรู้ความสำคัญของจินย่วน ก็เริ่มพยายามประจบจินย่วนและเอาใจจินเซียวอย่างสุดชีวิตอีก

“ท่านพี่มารับข้า!” จินย่วนเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “เกี่ยวอะไรกับเจ้าด้วย?”

“พวก…พวกเจ้าไม่ไปไม่ได้หรือ!” คุณหนูโหยวจับมือของจินย่วน “อยู่ที่นี่ไม่ดีหรือ? ไม่อย่างนั้น…ข้าจะไปคุยกับท่านป้า นางฟังข้าที่สุดแล้ว…”

“ไม่ต้องแล้ว!” จินย่วนเอ่ย “ข้าอยู่กับท่านพี่ ท่านลุงกับท่านป้ายังไม่วางใจอย่างนั้นหรือ?”

พี่น้องตระกูลจินไม่สนใจการรั้งที่จอมปลอมของตระกูลหวง พวกเขาจากไปอย่างรวดเร็ว และเข้าไปอยู่ในบ้านของหลี่เชียน

หลี่เชียนกลับมาจากกองบัญชาการต้าถงถึงรู้ว่าพี่น้องสกุลจินเข้ามาอยู่แล้ว

จินเซียวมีความหยิ่งในศักดิ์ศรีของลูกหลานตระกูลขุนนาง การที่เข้ามาอยู่โดยไม่บอกกล่าวแบบนี้ อธิบายได้เพียงเรื่องเดียว…เขาไม่มีที่ให้น้องชายกับน้องสาวของเขาอยู่แล้วจริงๆ

หลี่เชียนอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ และสั่งหลี่ไท่ว่า “รับรองพี่น้องสกุลจินให้ดี”

หลี่ไท่ยิ้มและเอ่ยว่า “ท่านไม่สั่งข้าก็รู้เช่นกัน คุณหนูจินจัดให้อยู่ห้องพักแขกด้านหลังแม่ทัพจิน ส่วนคุณชายจินเฉิงจัดให้อยู่กับแม่ทัพจิน สาวใช้ที่ย้ายไปรับใช้คุณหนูจินล้วนผ่านการแนะนำจากแม่นมอวี๋ จะไม่ทำให้ท่านเสียหน้าอย่างแน่นอนขอรับ”

หลี่เชียนยิ้มพลางพยักหน้า และชมหลี่ไท่สองสามคำ

หลี่ไท่ฉีกยิ้มตาหยี ร่างกายราวกับเบาขึ้นเล็กน้อย

หลี่เชียนเงียบไปชั่วครู่

เขาเรียนรู้สิ่งนี้มาจากฮูหยินฝาง

คนที่สูงศักดิ์อย่างฮูหยินฝาง เวลาคนรับใช้ข้างกายทำได้ดี ก็จะชมสองสามคำ และให้รางวัลเป็นดอกไม้ประดับผมหรือของกระจุกกระจิก ดังนั้นพวกหญิงรับใช้ถึงได้อารมณ์ดีทั้งวัน และแลดูมีชีวิตชีวามากกระมัง?

หลี่เชียนคิดแล้วก็จัดงานเลี้ยงต้อนรับให้จินเฉิง

จินเฉิงตกใจมาก

แม้ตระกูลทหารจะไม่ถือสาเรื่องลูกที่เกิดจากภรรยาเอกกับลูกที่เกิดจากอนุภรรยา แต่ระหว่างลูกที่เกิดจากภรรยาเอกกับลูกที่เกิดจากอนุภรรยาก็ยังมีความแตกต่างกันอยู่ดี เขาเป็นลูกชายที่เกิดจากอนุภรรยา เวลาออกไปข้างนอก คนอื่นอาจจะเรียกเขาอย่างเคารพนบนอบว่า ‘คุณชายจินเฉิง’ ทว่าถึงโอกาสที่เป็นทางการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่อยู่กับจินเซียว ก็จะไม่มีใครเห็นเขาอยู่ในสายตา

ในบรรดาเพื่อนของจินเซียว หลี่เชียนเป็นคนแรกที่จัดงานเลี้ยงให้เขา

จินเฉิงซาบซึ้งใจมาก

เขาเอ่ยกับจินย่วนว่า “บางทีพวกเราอาจจะลองเชื่อใจหลี่เชียนได้”

จินย่วนพยักหน้าอย่างช้าๆ

หลังจากนั้นจินเซียวก็แนะนำจินเฉิงให้หลี่เชียน

หลี่เชียนรู้ว่าแม่แท้ๆ ของจินเฉิงเป็นสาวใช้ประจำตัวของแม่แท้ๆ ของจินเซียว ฐานะแบบนี้เป็นพันธมิตรโดยธรรมชาติ

ทั้งสามคนเก็บตัวอยู่ในห้องหนังสือและคุยกันนานมาก ตอนที่ออกมา จินเฉิงตื่นเต้นมาก

และหลังจากที่หลี่เชียนได้รู้มุมมองของจินย่วนต่อการแต่งงานของตนเอง ก็ข้ามเจียงเซี่ยนไปพบฮูหยินฝาง

“ให้จินย่วนหมั้นกับเติ้งเฉิงลู่?!” หลังจากฮูหยินฝางตกใจมากก็ยิ้มพลางมองหลี่เชียนเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างและเอ่ยว่า “เกรงว่าจะไม่ค่อยเหมาะสมกระมัง?”

แม้อันลู่โหวจะอยู่ห่างจากราชสำนักนานแล้ว ทว่ามีทรัพย์สินในตระกูลมากมาย จำนวนคนในตระกูลไม่มากนัก สามีภรรยารักใคร่ปรองดองกัน เติ้งเฉิงลู่ก็หน้าตาโดดเด่น จนมีสิทธิได้รับเลือกให้เป็นสามีของเจียงเซี่ยน ในสายตาของหญิงชนชั้นสูงที่มีลูกสาวมากมายในเมืองหลวง เขาเป็นลูกเขยดีที่หาได้ยากแล้ว ไว้เจียงเซี่ยนแต่งงานแล้ว คนที่เป็นแม่สื่อหรือพ่อสื่อให้เติ้งเฉิงลู่จะต้องเหยียบธรณีประตูของจวนอันลู่โหวจนเรียบอย่างแน่นอน

หลี่เชียนยิ้มและเอ่ยว่า “ท่านคิดว่าตระกูลจินเป็นขุนนางฝ่ายบู๊ที่ถูกแต่งตั้งให้เป็นขุนนางท้องถิ่น จึงมีความห่างชั้นกับฐานะครอบครัวของตระกูลอันลู่โหวหรือ? แต่แต่งลูกสาวก็ต้องแต่งงานกับตระกูลที่ฐานะดีกว่าไม่ใช่หรือ? ยิ่งกว่านั้นคุณหนูจินเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งแห่งซานซี ตระกูลจินก็เป็นขุนนางใหญ่ที่ปกครองมณฑลต่างๆ และกุมอำนาจที่แท้จริงอยู่ในมือ แต่งกับเติ้งเฉิงลู่ก็ไม่น่าจะถึงกับทำให้เขาน้อยใจกระมัง?”

“ข้าไม่ได้บอกว่าฐานะครอบครัวเข้ากันไม่ได้” ฮูหยินฝางเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าคิดว่าสามีภรรยาอันลู่โหวเป็นคนหยิ่งยโส และรักลูกชายกับลูกสาวมาก อาจจะไม่ยอมให้ลูกชายแต่งงานกับคนที่เขาไม่ชอบ”

“เรื่องนี้ก็ต้องพึ่งท่านป้าออกหน้าแล้ว” หลี่เชียนประจบฮูหยินฝาง “ท่านก็เป็นคนที่เป็นพ่อแม่ และเป็นคนที่รักลูกชายกับลูกสาวที่สุดเช่นกัน ไม่อย่างนั้นท่านพี่ก็คงจะยังไม่แต่งงานจนถึงตอนนี้ ข้าเชื่อว่าหากท่านออกหน้า เรื่องนี้จะต้องสำเร็จอย่างแน่นอนขอรับ”

ฮูหยินฝางหัวเราะ นางไม่ได้บอกว่ายินดีออกหน้า ทว่าก็ไม่ได้ปฏิเสธเช่นกัน และเปลี่ยนไปถามถึงการเตรียมการทางฝั่งไท่หยวนของหลี่เชียน

“เตรียมการไปพอสมควรแล้วขอรับ” หลี่เชียนก็ไม่เอ่ยเรื่องนี้ต่อเช่นกัน วันนี้เขามาอย่างกะทันหัน อย่างไรก็ต้องเหลือช่องทางให้ฮูหยินฝางไกล่เกลี่ยสักทางเช่นกัน “ท่านพ่อไปที่วัดเจดีย์คู่ด้วยตนเอง นิมนต์พระในวัดมาช่วยเสี่ยงเซียมซีให้ แล้วก็ไปดูดวงที่วัดซั่งชิง ตั้งแต่วันที่แต่งงาน ตระกูลหลี่จะจัดงานเลี้ยงสายน้ำ[1]ติดต่อกันเก้าวัน ฝ่ายบัญชีเริ่มจดบันทึกของขวัญแล้ว คนที่สร้างเพิงสำหรับงานเลี้ยงกับคนที่รับผิดชอบงานเลี้ยง น้ำชา และผลไม้แห้งต่างก็จัดไว้เรียบร้อยหมดแล้วขอรับ”

ฮูหยินฝางพอใจมาก

ทั้งสองคนคุยกันนานมาก หลี่เชียนถึงจะบอกลา

ทว่าก่อนเขาจะจากไปก็ขอให้แม่นมอวี๋ที่อยู่ข้างกายฮูหยินฝางนำผลซิ่งเชื่อมไปให้เจียงเซี่ยนกล่องหนึ่ง และขอให้แม่นมอวี๋บอกเจียงเซี่ยนด้วยว่า สิ่งนี้ใช้ผลซิ่งของต้าถง ทำตามวิธีทำของเมืองหลวง หากเจียงเซี่ยนรู้สึกว่าอร่อย เขาจะให้คนส่งมาให้อีก

แม่นมอวี๋เห็นหลี่เชียนใส่ใจเจียงเซี่ยนแบบนี้ ก็ดีใจจนแทบจะยิ้มไม่หุบ นางเอ่ยติดกันหลายครั้งว่า “ลูกเขยวางใจ ข้าจะบอกให้อย่างแน่นอนเจ้าค่ะ” จนกระทั่งส่งหลี่เชียนถึงหน้าประตูใหญ่แล้วถึงจะย้อนกลับไปนินทาเรื่องนี้กับฮูหยินฝาง

ใครจะรู้ว่าฮูหยินฝางกลับอมยิ้มพลางปรายตามองแม่นมอวี๋ครั้งหนึ่ง แล้วเอ่ยว่า “ลูกเขยของพวกเราเป็นจอมวางแผน เจ้าระวังจะติดกับเขา”

แม่นมอวี๋เงียบกริบ ทำอะไรไม่ถูก

ฮูหยินฝางหัวเราะออกมา และให้แม่นมอวี๋ไปเรียกเจียงลวี่มา บอกว่ามีเรื่องจะสั่งเขา

———————————–

[1] งานเลี้ยงสายน้ำ งานเลี้ยงที่แขกทยอยมา ทยอยรับประทาน และทยอยกลับ

มู่หนานจือ

มู่หนานจือ

Status: Ongoing
นิยายรักย้อนยุค จากนักเขียนดัง ‘จือจือ’ กับการฟาดฟันอันดุเดือดของนางเอกสุดแกร่งในวังหลวง!แม้ เจียงเซี่ยน เป็นถึงสตรีผู้สูงศักดิ์ ทั้งยังได้แต่งงานกับ ‘จ้าวอี้’ ผู้เป็นฮ่องเต้ ทว่าเขามิเคยร่วมหออุ่นเตียงกันจนกระทั่งจากนางไปเมื่อนางต้องกลายเป็นไทเฮา จึงได้โอบอุ้ม ‘จ้าวสี่’ ลูกชายคนเดียวของจ้าวอี้ว่าราชการหลังม่าน ประคองราชวงศ์อย่างยากเข็ญแต่แล้วนางกลับถูกฆ่าตายด้วยถ้วยยาพิษ ที่อยู่ในอุ้งมือของฮ่องเต้น้อยอย่างจ้าวสี่!เมื่อลืมตาตื่นมาอีกครั้ง ก็พบว่าได้ย้อนกลับมาช่วงชีวิตวัยสิบสามปี… ก่อนมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในราชสำนัก‘เหตุใดจ้าวสี่จึงมอบความตายให้นาง?’…แม้โอกาสในการมีชีวิตอาจทำให้ไขปริศนานี้ได้แต่นางขอเลือกเดินในเส้นทางใหม่ ไม่เข้าไปข้องเกี่ยวกับตระกูลจ้าว ไม่สนใจการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินนางขอเพียงมีชีวิตครอบครัวเล็กๆ กับสามีที่วางใจได้ และลูกที่แสนน่ารักทว่า เมื่อนางได้นำพบกับ หลี่เชียน แม่ทัพหนุ่มที่นางเคยรู้สึกเกลียดทุกคราที่พบหน้าชีวิตและความรักของนางจึงกำลังจะพบกับจุดเปลี่ยนอีกครั้ง…หรือ ‘โชคชะตา’ จะนำพาให้เกิดเรื่องราวและวังวนที่ไม่เหมือนเดิม!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท