มู่หนานจือ – บทที่ 295 พลาด

มู่หนานจือ

คุย​มาถึงขั้น​นี้​ ห​ลี่​ฉางชิงก็​ฟังเสียง​ออก​เล็กน้อย​เช่นกัน​ เขา​คล้าย​จะรู้​ว่า​มีบางอย่าง​ผิดปกติ​ แต่กลับ​เดา​ไม่ถูกว่า​ทำไม​ถึงผิดปกติ​

ก่อนที่จะ​แต่งงาน​เขา​เป็น​ชายโสด​ หลังจาก​แต่งงาน​แล้ว​ เรื่อง​ใน​บ้าน​ก็​มอบให้​แม่แท้ๆ​ ของ​ห​ลี่​เชีย​น​หมด​ แม้ตอนหลัง​แม่แท้ๆ​ ของ​ห​ลี่​เชีย​น​จะป่วย​ตาย​ ทุก​เรื่อง​ใน​บ้าน​ก็​มีการ​จัดการ​หมด​ หาก​ไม่ใช่ว่า​แม่แท้ๆ​ ของ​ห​ลี่​จี้ก็​ป่วย​ตาย​ไป​เช่นกัน​ และ​ลูกชาย​สอง​คน​ยัง​เล็ก​ ใน​บ้าน​ต้อง​การคน​ควบคุม​อาหารการกิน​ภายในบ้าน​สัก​คน​จริงๆ​ เขา​ก็​ไม่เคย​คิด​ที่จะ​แต่งงาน​อีก​ด้วยซ้ำ​

เขา​คิดไม่ถึง​ว่า​ระหว่าง​ผู้หญิง​กับ​ผู้หญิง​จะแตก​ต่างกัน​เช่นนี้​

แม่แท้ๆ​ ของ​ห​ลี่​เชีย​น​นั้น​ไม่จำเป็นต้อง​พูด​แล้ว​ เขา​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​ทุก​เรื่อง​ สนใจ​แค่​เอา​เงิน​กลับมา​ก็​พอแล้ว​ ส่วน​แม่แท้ๆ​ ของ​ห​ลี่​จี้แม้จะไม่ดี​เท่า​แม่แท้ๆ​ ของ​ห​ลี่​เชีย​น​ ทว่า​ก็​ไม่เคย​ทำให้​เขา​เป็นห่วง​เรื่อง​ใน​บ้าน​เช่นกัน​ จนกระทั่ง​คน​สกุล​เห​อ​แต่ง​เข้ามา​ ไม่ถึงสอง​ปี​เขา​ก็​เสียใจ​แล้ว​

คน​สกุล​เห​อ​ไม่เพียงแต่​ดูแล​ห​ลี่​เชีย​น​กับ​ห​ลี่​จี้ไม่ได้​ ทว่า​ยัง​คุม​แม้กระทั่ง​พวก​หญิง​รับใช้​ใน​บ้าน​ไม่ได้​ด้วยซ้ำ​ และ​มักจะ​ลาก​เขา​ไป​ตัดสิน​อยู่​เสมอ​

เขา​รำคาญ​เป็นอย่างมาก​

จน​อยาก​หย่า​อยู่​หลายครั้ง​

แม้แต่​ห้อง​ห้อง​หนึ่ง​ยัง​ไม่ปัดกวาด​ แล้​วจะ​ปกครอง​ใต้​หล้า​ได้​อย่างไร​

เขา​กลัว​ว่า​คนอื่น​จะหัวเราะเยาะ​เขา​ว่า​ไม่รู้เรื่อง​แม้กระทั่ง​เรื่อง​ของ​เรือน​ด้านใน​กับ​เรือน​ด้านหลัง​ คิด​ว่า​เขา​ไม่มีความสามารถ​ จึงจำเป็นต้อง​อดทน​ช่วย​ฮูหยิน​เห​อ​ควบคุม​เรือน​ด้านหลัง​อยู่​เสมอ​

ห​ลี่​ฉางชิงถึงจะรู้​ว่า​ที่แท้​เรือน​ด้านใน​มีเรื่องมาก​ขนาด​นี้​

ทว่า​ถึงอย่างไร​เขา​ก็​เป็น​ผู้ชาย​ ถึงจะรู้​ ก็​รู้​แค่​สิ่งที่​เขา​พบ​เจอ​เช่นกัน​ แม้แต่​พวก​มารยาท​ เขา​ก็​ค่อยๆ​ เรียนรู้​หลังจาก​เชิญเกา​ฝูอวี้​มาเป็น​ผู้ช่วย​แล้ว​ เรื่อง​มารยาท​ของ​เรือน​ด้านใน​นี้​ เกา​ฝูอวี้​ก็​สอน​ไม่ได้​เช่นกัน​

เขา​เห็น​พ่อ​สามีนั่ง​ดื่มเหล้า​อยู่​ตรงนั้น​เล็กน้อย​ และ​ลูกสะใภ้​ยุ่ง​อยู่​กับ​ทอด​ขนม​แป้ง​ที่​เตา​ด้านหลัง​ที่​บ้านเกิด​มาตั้งแต่​เด็ก​…ตอนนี้​ฐานะ​ของ​เขา​แตกต่าง​ไป​แล้ว​ แน่นอน​ว่า​ลูกสะใภ้​ของ​เขา​ไม่ได้​ยุ่ง​อยู่​กับ​การ​ทอด​ขนม​ให้​เขา​ที่​เตา​ ยิ่งกว่านั้น​ลูกสะใภ้​ของ​เขา​เป็น​ท่านหญิง​ที่​ฐานะ​สูงศักดิ์​ที่สุด​ใน​ราชวงศ์​ปัจจุบัน​ ให้​นาง​กินข้าว​โต๊ะ​เดียว​กับ​พ่อ​สามีอย่าง​เขา​ เขา​ก็ดี​กับ​ลูกสะใภ้​คน​นี้​พอแล้ว​กระมัง​?

แต่​ใคร​จะรู้​ว่า​ฮูหยิน​เห​อ​กับ​เจียง​เซี่ยน​กลับ​อ้าง​นู่น​อ้าง​นี่​ บน​หน้า​ไม่มีความยินดี​แม้แต่​นิดเดียว​ ส่วน​ลูกชาย​ก็​พูดจา​วกไปวนมา​กับ​เขา​เช่นกัน​ เขา​ใจเต้น​ตึก​ตัก​ รู้​ว่า​ตนเอง​อาจจะ​ทำผิด​แล้ว​

ทว่า​อย่างไร​เขา​ก็​ไม่อาจ​ถามลูกชาย​ว่า​ตนเอง​ผิด​ตรงไหน​กัน​แน่​ต่อหน้า​ลูกสะใภ้​ได้​กระมัง​?

ส่วน​คน​สกุล​เห​อ.​..ต่อให้​นาง​รู้​ เวลานี้​เขา​ถามนาง​ ก็​เกรง​ว่า​นาง​จะตะโกน​ออกมา​เช่นกัน​ เขา​ไม่ถามดีกว่า​!

ห​ลี่​ฉางชิงครุ่นคิด​ และ​ตัดสินใจ​ว่า​จะวางตัว​เยือกเย็น​ จึงเอ่ย​กับ​ห​ลี่​เชีย​น​ว่า​ “เช่นนั้น​เจ้าก็​รีบ​ไป​เร่ง​ทุกคน​มา! ทำไม​กินข้าว​ก็​ไม่ใส่ใจ”

ห​ลี่​เชีย​น​ยิ้ม​และ​ไป​สั่งหญิง​รับใช้​

ส่วน​เจียง​เซี่ยน​ลุกขึ้น​เอ่ย​ว่า​ “ข้า​จะไปดู​หน่อย​ว่า​อาหาร​ทำ​ไป​ถึงไหน​แล้ว​?” นาง​เอ่ย​จบ​ก็​เดิน​ออก​ไป​ทันที​ โดย​ไม่รอ​ให้​คน​สกุล​เห​อ​พูด​

ฮูหยิน​เห​อ​เห็น​ใน​ห้อง​ไม่มีคน​แล้ว​ ก็​อด​ที่จะ​บ่น​ไม่ได้​ว่า​ “พ่อ​สามีบ้าน​ไหน​กินข้าว​โต๊ะ​เดียว​กับ​ลูกสะใภ้​ ยัง​ดี​ที่​ท่านหญิง​ไม่รู้​ธรรมเนียม​ของ​ตระกูล​เรา​ ให้​ข้า​ไป​เรียก​ตง​จื้อ​มา เดี๋ยว​ตง​จื้อ​มาแล้ว​ ข้า​กับ​ท่านหญิง​และ​ตง​จื้อ​จะไป​รับประทาน​อาหาร​ที่​ห้อง​ด้านใน​ ท่าน​กับ​พวก​คุณชาย​ใหญ่​และ​คุณชาย​รอง​ก็​รับประทาน​อาหาร​ที่​ห้อง​ด้านนอก​”

หน้า​ของ​ห​ลี่​ฉางชิงขึ้น​สีแดงก่ำ​ทันที​ และ​พูดไม่ออก​

เพราะ​เขา​ไม่คุม​เรื่อง​ของ​เรือน​ด้านใน​ จึงเคย​ผิดพลาด​ไม่น้อย​ เมื่อก่อน​ฮูหยิน​เห​อ​ก็​เคย​ว่า​เขา​ไม่น้อย​เช่นกัน​ แต่​เรื่องราว​ผ่าน​ไป​แล้วก็แล้วกันไป​ ทว่า​ครั้งนี้​เขา​เสียหน้า​ต่อหน้า​ลูกสะใภ้​ที่​แต่ง​เข้ามา​ใหม่​ แถมสะใภ้ใหม่​ยัง​มาจาก​ตระกูล​ขุนนาง​ ฐานะ​ไม่ธรรมดา​…

เขา​อยาก​จะสั่งสอน​ฮูหยิน​เห​ออ​ย่าง​รุนแรง​สัก​สอง​สามคำ​…ใน​เมื่อ​เขา​ทำผิด​แล้ว​ ทำไม​นาง​ไม่บอก​เขา​ตั้งแต่แรก​ เขา​จะได้​ไม่ผิด​ซ้ำแล้วซ้ำเล่า​

คน​ผิด​ครั้งหนึ่ง​ไม่เป็นไร​ หาก​ผิด​ต่อไป​ตลอด​ นั่น​ก็​คือ​สมอง​มีปัญหา​แล้ว​

ห​ลี่​ฉางชิงมอง​ฮูหยิน​เห​อ​สั่งให้​หญิง​รับใช้​ตั้งโต๊ะ​ตัว​หนึ่ง​ที่​ห้อง​ด้านใน​ใหม่​ แล้ว​คิดถึง​สิ่งที่​เกิดขึ้น​ใน​หลาย​ปี​นี้​ ทันใดนั้น​ก็​ท้อแท้​เป็นอย่างมาก​

ผู้คน​กล่าวว่า​สั่งสอน​ลูก​ต่อหน้า​ทุกคน​ สั่งสอน​ภรรยา​ลับหลัง​ผู้คน​

เขา​สอน​ภรรยา​ของ​ตนเอง​ได้​ไม่ดี​ เวลานี้​มีลูกสะใภ้​แล้ว​ ยัง​เปลี่ยน​ได้​อย่างนั้น​หรือ​!

ก็​แบบนี้​แล้วกัน​!

ห​ลี่​ฉางชิงเอนหลัง​อยู่​บน​เก้าอี้​ไท่ซือ​ รอ​พวก​ลูก​มารับประทาน​อาหาร​

ส่วน​ฮูหยิน​เห​อ​คอย​สั่งสาวใช้​ว่า​วาง​ตะเกียบ​กับ​ถ้วย​อย่างไร​

เจียง​เซี่ยน​ยิ้ม​และ​เดิน​เข้ามา​เอ่ย​ว่า​ “ฮูหยิน​ เรียก​อาหาร​ได้​ตลอดเวลา​เลย​เจ้าค่ะ​!”

ฮูหยิน​เห​อ​พยักหน้า​ นาง​ซาบซึ้ง​ที่​เจียง​เซี่ยน​แก้หน้า​ให้​มาก​ จึงเอ่ย​เสียง​อ่อนโยน​ว่า​ “ข้า​รู้​ว่า​ใน​วัง​ให้ความสำคัญ​กับ​กฎระเบียบ​ แต่​นี่​ไม่ใช่ใน​วัง​ ท่าน​ก็​ไม่จำเป็นต้อง​เคร่งครัด​ใน​กฎระเบียบ​ขนาด​นั้น​เช่นกัน​ ต่อไป​นอกจาก​ปรนนิบัติ​ทั้ง​เช้าและ​เย็น​แล้ว​ เวลา​อื่น​ท่าน​อยาก​ทำ​อะไร​ก็​ทำ​ไป​ ไม่ต้อง​สนใจ​ข้า​”

น้ำเสียง​จริงใจ​มาก​

เจียง​เซี่ยน​ยิ้ม​พลาง​ขาน​ว่า​ “เจ้าค่ะ​”

ห​ลี่​ตง​จื้อ​กับ​เกา​เมี่ยวหรง​เดิน​เข้ามา​โดย​มีสาว​ใช้กับ​แม่บ้าน​ล้อม​อย่าง​แน่นหนา​

ทุกคน​อด​ที่จะ​อึ้ง​ไป​ไม่ได้​

เกา​เมี่ยวหรง​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​แล้ว​ว่า​ “ตงจื้อ​บอ​กว่า​ทำการบ้าน​ที่​สั่งให้​นาง​เมื่อ​หลาย​วันก่อน​เสร็จ​แล้ว​ ข้า​จึงคิด​ว่า​จะให้​นาง​เขียน​ตาม​แบบ​คัดลายมือ​อีก​สัก​สอง​สามแผ่น​ ใคร​จะรู้​ว่า​นาน​ไป​หน่อย​ ถึงเวลา​รับประทาน​อาหาร​เที่ยง​แล้ว​ ตง​จื้อ​ให้​ข้า​อยู่​รับประทาน​อาหาร​เที่ยง​ที่​เรือน​ของ​นาง​ พวกเรา​เพิ่งจะ​นั่งลง​ ฮูหยิน​ก็​เรียก​ตง​จื้อ​มา ตง​จื้อ​กลัว​ว่า​ข้า​จะคิดมาก​ จะให้​ข้า​ตามมา​ด้วย​ให้ได้​ ข้า​จึงตามมา​…”

ฮูหยิน​เห​อ​รีบ​เอ่ย​ว่า​ “ไม่เป็นไร​ ไม่เป็นไร​ เดิมที​ก็​เป็น​งานเลี้ยง​ของ​สมาชิก​ใน​ครอบครัว​อยู่แล้ว​ เจ้าอยู่​ที่​บ้าน​ของ​พวกเรา​มานาน​ขนาด​นี้​ ก็​เหมือน​คนใน​ครอบครัว​ตั้ง​นาน​แล้ว​ หาก​ไม่ใช่ว่า​หลาย​วันนี้​ท่านหญิง​เพิ่ง​มาถึง ข้า​กลัว​ว่า​เจ้าจะไม่ชิน​ ก็​ให้​คน​ไป​เรียก​เจ้าตั้ง​นาน​แล้ว​” และ​เอ่ย​อี​กว่า​ “พอดี​เลย​วันนี้​คนครัว​ทำ​ไก่​ต้ม​ ของ​ที่​เจ้าชอบ​ที่สุด​ เจ้าก็​อยู่​รับประทาน​อาหาร​เที่ยง​ด้วยกัน​เถอะ​!”

เกา​เมี่ยวหรง​ได้ยิน​แล้วก็​ยิ้ม​และ​ย่อ​ตัว​คารวะ​ท่านหญิง​ แล้ว​เอ่ย​ว่า​ “ท่านหญิง​ ทำให้​ท่าน​หัวเราะ​แล้ว​ วันนี้​ข้า​มากินข้าว​ฟรี​!”

นาง​ยิ้ม​อย่าง​อ่อนโยน​ พูดจา​สุภาพ​เรียบร้อย​ ทำให้​คน​รู้สึก​ชอบ​

เจียง​เซี่ยน​ยิ้ม​พลาง​เอ่ย​ว่า​ “อาหาร​แค่​มื้อ​เดียว​ คุณหนู​เกา​เกรงใจ​เกินไป​แล้ว​” นาง​เอ่ย​จบ​ก็​สั่งฉิงเค่อ​ว่า​ “เพิ่ม​ถ้วย​กับ​ตะเกียบ​ให้​คุณหนู​เกา​”

เกา​เมี่ยวหรง​ยิ้ม​และ​เอ่ย​ว่า​ “ขอบคุณ​มาก​”

ห​ลี่​ฉางชิงเห็น​เกา​เมี่ยวหรง​ก็​ไม่ได้​ทำ​หน้า​ประหลาดใจ​ กลับ​เอ่ย​เรื่อง​ชีวิตประจำวัน​ใน​ครอบครัว​กับ​นาง​ “อา​ของ​เจ้าล่ะ​? เป็นหวัด​ดีขึ้น​หรือยัง​?”

จะเห็น​ได้​ว่า​เกา​เมี่ยวหรง​มาที่​เรือน​หลัก​บ่อย​

“ขอบคุณ​ท่าน​ลุง​มาก​” เกา​เมี่ยวหรง​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ “ท่าน​อา​สั่งยากิน​เอง​สอง​สามชุด​แล้ว​ ดีขึ้น​มาก​แล้ว​ เช้าวันนี้​ยัง​รำ​ดาบ​ใน​ลานบ้าน​ด้วย​เจ้าค่ะ​”

ห​ลี่​ฉางชิงพยักหน้า​ และ​เอ่ย​ว่า​ “ตอนที่​ยัง​หนุ่ม​อา​ของ​เจ้าถูก​ทรมาน​มามากเกินไป​ จึงใช้ร่างกาย​ไป​หมดสิ้น​ตั้ง​นาน​แล้ว​ พวก​เจ้าที่​เป็น​ลูกหลาน​ ต้อง​ดูแล​เขา​ให้​มาก​หน่อย​ถึงจะถูก​”

“ท่าน​ลุง​พูด​ถูก​” เกา​เมี่ยวหรง​เอ่ย​อย่าง​นอบน้อม​ว่า​ “เพราะ​อาการป่วย​ของ​ท่าน​อา​ ท่าน​พี่​ขอลา​กับ​สำนักการศึกษา​สอง​วัน​แล้ว​ และ​คอย​ดูแล​ท่าน​อา​อยู่​ข้าง​กาย​ตลอด​เจ้าค่ะ​”

ห​ลี่​ฉางชิงพยักหน้า​อย่าง​พอใจ​

ห​ลี่​เชีย​น​เข้ามา​แล้ว​

พอ​เห็น​เกา​เมี่ยวหรง​ เขา​ก็​แปลกใจ​เล็กน้อย​ จึงเอ่ย​ว่า​ “คุณหนู​เกา​มาหรือ​!”

เกา​เมี่ยวหรง​ยิ้ม​พลาง​ขานรับ​ กำลัง​อยาก​พูด​อะไร​บางอย่าง​กับ​ห​ลี่​เชีย​น​ ห​ลี่​หลิน​ ห​ลี่​จี้ และ​ห​ลี่​จวี​ก็​ทยอย​เดิน​เข้ามา​

สายตา​ของ​ห​ลี่​ฉางชิงจับจ้อง​ไป​ที่​ลูกชาย​คน​เล็ก​ที่​เดิน​คอตก​อยู่​หลัง​สุด​อยู่​ทันที​

เขา​ตวาด​ด่าว่า​ “ใน​บ้าน​ขาดแคลน​อาหาร​ของ​เจ้าหรือ​เสื้อผ้า​ของ​เจ้า เจ้าถึงยืด​แม้แต่​ตัว​ให้​ตรง​ไม่ได้​อย่างนั้น​หรือ​?”

ห​ลี่​ตง​จื้อ​ตกใจ​มาก​

เกา​เมี่ยวหรง​รีบ​กอด​ห​ลี่​ตง​จื้อ​ไว้​ใน​อ้อมแขน​

ห​ลี่​จวี​ก้มหน้า​ไม่พูดไม่จา​ ทว่า​กลับ​เม้มปาก​แน่น​มาก​

ฮูหยิน​เห​อม​อง​เจียง​เซี่ยน​อย่าง​กระอักกระอ่วน​ครั้งหนึ่ง​ และ​เอ่ย​กับ​ห​ลี่​ฉางชิงเสียง​เบา​ว่า​ “ใต้เท้า​ ถึงเวลาอาหาร​เที่ยง​แล้ว​…”

หมายความว่า​มีเรื่อง​อะไร​เดี๋ยว​ค่อย​ว่า​กัน​

ห​ลี่​ฉางชิงก็​มอง​เจียง​เซี่ยน​ครั้งหนึ่ง​เช่นกัน​ เขา​ทำ​เสียง​ไม่พอใจ​ และ​ไม่พู​ดะ​ไร​อีก​

ฮูหยิน​เห​อ​เหมือน​ยกภูเขาออกจากอก​ และ​รีบ​เรียก​ให้​หญิง​รับใช้​นำมา​อาหาร​มา

ทุกคน​รับประทาน​อาหาร​เที่ยง​โดย​แยก​ผู้ชาย​กับ​ผู้หญิง​คนละ​โต๊ะ​

ห​ลี่​ฉางชิงถึงมั่นใจ​ว่า​ตนเอง​พลาด​ตรงไหน​

เขา​จากไป​อย่าง​กลัดกลุ้ม​ทันที​ โดย​ไม่ดื่ม​แม้แต่​ชา

————————————

มู่หนานจือ

มู่หนานจือ

Status: Ongoing
นิยายรักย้อนยุค จากนักเขียนดัง ‘จือจือ’ กับการฟาดฟันอันดุเดือดของนางเอกสุดแกร่งในวังหลวง!แม้ เจียงเซี่ยน เป็นถึงสตรีผู้สูงศักดิ์ ทั้งยังได้แต่งงานกับ ‘จ้าวอี้’ ผู้เป็นฮ่องเต้ ทว่าเขามิเคยร่วมหออุ่นเตียงกันจนกระทั่งจากนางไปเมื่อนางต้องกลายเป็นไทเฮา จึงได้โอบอุ้ม ‘จ้าวสี่’ ลูกชายคนเดียวของจ้าวอี้ว่าราชการหลังม่าน ประคองราชวงศ์อย่างยากเข็ญแต่แล้วนางกลับถูกฆ่าตายด้วยถ้วยยาพิษ ที่อยู่ในอุ้งมือของฮ่องเต้น้อยอย่างจ้าวสี่!เมื่อลืมตาตื่นมาอีกครั้ง ก็พบว่าได้ย้อนกลับมาช่วงชีวิตวัยสิบสามปี… ก่อนมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในราชสำนัก‘เหตุใดจ้าวสี่จึงมอบความตายให้นาง?’…แม้โอกาสในการมีชีวิตอาจทำให้ไขปริศนานี้ได้แต่นางขอเลือกเดินในเส้นทางใหม่ ไม่เข้าไปข้องเกี่ยวกับตระกูลจ้าว ไม่สนใจการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินนางขอเพียงมีชีวิตครอบครัวเล็กๆ กับสามีที่วางใจได้ และลูกที่แสนน่ารักทว่า เมื่อนางได้นำพบกับ หลี่เชียน แม่ทัพหนุ่มที่นางเคยรู้สึกเกลียดทุกคราที่พบหน้าชีวิตและความรักของนางจึงกำลังจะพบกับจุดเปลี่ยนอีกครั้ง…หรือ ‘โชคชะตา’ จะนำพาให้เกิดเรื่องราวและวังวนที่ไม่เหมือนเดิม!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท