มู่หนานจือ – บทที่ 296 สบายใจ

มู่หนานจือ

เจียง​เซี่ยน​เห็น​แล้วก็​ส่งสายตา​ให้​ห​ลี่​เชีย​น​

ถึงแม้ห​ลี่​เชีย​น​จะความคิด​รอบคอบ​ แต่​นั่น​ก็​ขึ้นอยู่กับ​ว่า​วาง​ไว้​ที่ไหน​เช่นกัน​

สำหรับ​เจียง​เซี่ยน​นั้น​ เขา​สังเกต​อย่าง​จริงจัง​และ​ละเอียด​ จึงครุ่น​คิดได้​พอสมควร​ ทว่า​สำหรับ​บิดา​ที่​นิสัย​เปิดเผย​และ​ทำ​อะไร​บุ่มบ่าม​ของ​เขา​นั้น​ เขา​ก็​ค่อนข้าง​รู้​เพียง​ฝ่าย​เดียว​อย่าง​เลี่ยง​ไม่ได้​

เมื่อ​ครู่​ยัง​ดี​ๆ อยู่​ จู่ๆ ก็​จิตใจ​หดหู่​จน​จากไป​คนเดียว​แล้ว​

ถึงอย่างไร​สอง​พ่อ​ลูก​ก็​ไม่ได้​ใช้ชีวิต​อยู่​ด้วยกัน​ เรื่อง​ข้างนอก​ไม่มีเรื่อง​ใด​พอที่จะ​ส่งผลกระทบ​ต่อ​ห​ลี่​ฉางชิงได้​ ห​ลี่​เชีย​น​ก็​ไม่ค่อย​เข้าใจ​จิตใจ​ของ​บิดา​ จึงยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​เรื่อง​ร่วมมือ​ทำ​อะไร​บางอย่าง​กับ​เจียง​เซี่ยน​

เจียง​เซี่ยน​คิด​ว่า​เลี้ยง​ลูกชาย​ไม่ดี​เท่า​เลี้ยง​ลูกสาว​

ลูกสาว​เป็น​เสื้อ​นวม​ตัวเล็ก​ที่​ติดตัว​มารดา​ มารดา​ไม่สบายใจ​เล็กน้อย​ไม่เพียงแต่​รู้​ ทว่า​ยัง​สามารถ​ปลอบใจ​อยู่​ข้างๆ​ ได้​ด้วย​ ลูกชาย​ที่​เอาใจใส่​อย่าง​ห​ลี่​เชีย​น​นั้น​ เวลา​ที่​เผชิญหน้า​กับ​บิดา​ก็​เดา​แม้แต่​ความคิด​ไม่ถูก​ด้วยซ้ำ​

นาง​จำเป็นต้อง​ก้าว​ไป​ข้างหน้า​เล็กน้อย​ ดึง​แขน​เสื้อ​ของ​ห​ลี่​เชีย​น​เบา​ๆ แล้ว​กระซิบ​ว่า​ “ท่าน​พ่อ​ต้อง​ยัง​ไม่พอใจ​เรื่อง​ที่​ชาย​หญิง​ร่วมโต๊ะ​กัน​เมื่อ​ครู่​อยู่​อย่าง​แน่นอน​ เจ้าเข้าไป​ปลอบใจ​เขา​หน่อย​ บอ​กว่า​เป็น​ความต้องการ​ของ​ข้า​ สะใภ้ใหม่​แต่ง​เข้ามา​ เดิมที​อยาก​แสดง​ความกตัญญู​ต่อหน้า​เขา​ จึงจะช่วย​หยิบ​ถ้วย​กับ​ตะเกียบ​ และ​คีบ​อาหาร​ให้​เขา​”

พอ​เจียง​เซี่ยน​เอ่ยปาก​ ห​ลี่​เชีย​น​ก็​เข้าใจ​แล้ว​

เขา​มอง​เจียง​เซี่ยน​และ​หัวเราะ​

เจียง​เซี่ยนอด​ที่จะ​เอ่ย​อย่าง​ไม่พอใจ​ไม่ได้​ว่า​ “ให้​เจ้าไป​ถ่ายทอด​คำพูด​! หัวเราะ​อะไร​?”

ห​ลี่​เชีย​น​ก็​ไม่พูด​อะไร​เช่นกัน​ แล้ว​จู่ๆ ก็​ก้มหน้า​เอ่ย​ข้าง​หู​นาง​ว่า​ “เป่า​หนิง​ หาก​ไม่ใช่ว่า​ทุกคน​ต่าง​มอง​อยู่​ ข้า​อยาก​จูบ​เจ้าสักครั้ง​จริงๆ​ เจ้ารอ​อยู่​ตรงนี้​ ข้า​จะให้​คน​ไป​ซื้อ​ขนม​ข้าว​ที่​เจ้าชอบ​ที่สุด​เป็น​ของว่าง​ตอนบ่าย​ให้​เจ้า”

เขา​เอ่ย​จบ​ก็ตาม​ออก​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​ โดย​ไม่สนใจ​เช่นกัน​ว่า​เจียง​เซี่ยน​จะสีหน้าเป็น​อย่างไร​

เจียง​เซี่ยน​ไม่ต้อง​ส่องกระจก​ก็​รู้​ว่า​หน้า​ของ​ตนเอง​ต้อง​แดงก่ำ​อย่าง​แน่นอน​

นาง​คิด​ว่า​ตอนนี้​เรื่องสำคัญ​ที่​นาง​ต้อง​จัดการ​อย่าง​เร่งด่วน​ในเวลานี้​คือ​เลียนแบบ​ห​ลี่​เชีย​น​ คิด​หาทาง​ทำให้​ความรู้สึก​และ​ความปรารถนา​ต่างๆ​ ของ​ตนเอง​ต่าง​ไม่แสดง​ออกมา​ทาง​สีหน้า​ ไม่อย่างนั้น​สักวันหนึ่ง​จะต้อง​ปล่อยไก่​

แม้จะเป็น​เช่นนั้น​ นาง​ก็​ยัง​หันไป​คุย​กับ​ฮูหยิน​เห​อ​เล็กน้อย​อย่าง​เยือกเย็น​ และ​ลุกขึ้น​บอกลา​

ฮูหยิน​เห​อ​ไม่ได้​รั้ง​นาง​ไว้​ และ​ถามนาง​ว่า​ตอนบ่าย​จะมารับประทาน​อาหารเย็น​หรือ​จะรับประทาน​ใน​เรือน​ของ​ตนเอง​ แล้ว​เอ่ย​ว่า​ “ท่าน​ไม่จำเป็นต้อง​เกรงกลัว​ข้า​ ข้า​ไม่ค่อย​ให้ความสำคัญ​กับ​พวก​กฎระเบียบ​นัก​ มีพวก​กฎระเบียบ​มาก​ ก็​ทำให้​พวกเรา​ไม่เหมือน​คนใน​ครอบครัว​”

ทว่า​ใน​ใจนาง​กลับ​กลุ้ม​เป็นอย่างมาก​

เจียง​เซี่ยน​แต่ง​เข้ามา​ ก็​แหก​กฎ​บาง​ข้อ​ของ​เมื่อก่อน​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ นาง​ก็​ไม่รู้​เช่นกัน​ว่า​เดี๋ยว​ห​ลี่​ฉางชิงจะแหก​กฎ​อะไร​ใน​บ้าน​เพื่อ​เจียง​เซี่ยน​อีก​หรือไม่​ ดังนั้น​เวลานี้​เผชิญหน้า​กับ​เจียง​เซี่ยน​ นาง​จึงตัดสินใจ​ที่จะ​ไม่เอ่ยถึง​กฎระเบียบ​อะไร​ทั้งนั้น​ ปล่อย​ให้​เจียง​เซี่ยน​มีความสุข​ ถึงอย่างไร​ก็​ไม่มีใคร​รู้​ว่า​สุดท้าย​ห​ลี่​ฉางชิงจะทำ​อย่างไร​ แทนที่​นาง​จะตั้ง​กฎ​ให้​เจียง​เซี่ยน​ในเวลานี้​ และ​สุดท้าย​กลับ​ถูกห​ลี่​ฉางชิงปฏิเสธ​ ทำให้​นาง​เสียหน้า​ สู้ไม่ยุ่ง​เรื่อง​อะไร​เลย​ดีกว่า​ จะเจียง​เซี่ยน​ก็ดี​หรือ​ห​ลี่​ฉางชิงก็ตาม​ ชอบ​ทำ​อย่างไร​ก็​ทำ​อย่างนั้น​แล้วกัน​

เจียง​เซี่ยน​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​รู้สึก​กลุ้ม​มาก​เช่นกัน​

ถึงอย่างไร​ตระกูล​ห​ลี่​ก็​มีเพียง​ไม่กี่​คน​ จะทำ​อะไร​จึงไม่มีขั้นตอน​และ​กฎเกณฑ์​ใน​การทำงาน​อย่าง​สิ้นเชิง​ ทุกอย่าง​อาศัย​การ​เอ่ยปาก​ ทว่า​ไม่มีกฎเกณฑ์​ก็​ไม่มีทาง​ทำ​อะไร​สำเร็จ​ แบบนี้​ต่อไป​จะไม่วุ่นวาย​ทั้ง​บ้าน​อย่างนั้น​หรือ​?

หรือว่า​นาง​จะช่วย​ฮูหยิน​เห​อ​ดูแล​บ้าน​ด้วย​?

แต่​นาง​ไม่ชอบ​งาน​พวก​นี้​จริงๆ​

เจียง​เซี่ยน​ตัดสินใจ​กลับ​ไป​ปรึกษา​พวก​ชีกู​แล้ว​ค่อย​ตัดสินใจ​อีกที​

นาง​ยิ้ม​และ​ขอบคุณ​ฮูหยิน​เห​อ​ บอ​กว่า​ตนเอง​เหนื่อย​นิดหน่อย​จริงๆ​ หาก​รู้สึก​สบาย​ขึ้น​หน่อย​แล้ว​ นาง​จะมารับประทาน​อาหารเย็น​เป็นเพื่อน​ฮูหยิน​เห​ออ​ย่าง​แน่นอน​

แน่นอน​ว่า​ หาก​ไม่สบาย​ ก็​คงจะ​มาไม่ได้​แล้ว​

เจียง​เซี่ยน​กับ​ฮูหยิน​เห​อ​ต่าง​รู้ดี​อยู่​แก่​ใจ ทั้งสอง​คน​ยิ้ม​และ​พูดคุย​กัน​อีก​เล็กน้อย​ เจียง​เซี่ยน​ถึงจะบอกลา​

พวก​ห​ลี่​หลิน​ก็​บอกลา​ฮูหยิน​เห​อ​เช่นกัน​

ฮูหยิน​เห​อ​ยิ้ม​และ​ให้​คน​ออก​ไป​ส่งพวกเขา​ข้างนอก​

ตอนที่​พวกเขา​ก้าว​ออกจาก​เรือน​หลัก​ บังเอิญ​เห็น​สาวใช้​ล้อม​เจียง​เซี่ยน​อย่าง​แน่นหนา​เข้าไป​ทาง​ประตู​พระจันทร์​ที่​ไป​เรือน​ตะวันตก​พอดี​

ห​ลี่​จี้ก็​เอ่ย​ว่า​ “ไม่รู้​ทำไม​ ท่านหญิง​เจีย​หนาน​ดูเหมือน​คน​ที่​อ่อนโยน​มาก​ แต่​ข้า​อยู่​ต่อหน้า​นาง​กลับ​รู้สึก​ประหม่า​จน​หายใจ​ไม่ค่อย​ออก​”

ดังนั้น​ตั้งแต่​เจียง​เซี่ยน​แต่ง​มา เขา​จึงยัง​ไม่เคย​คุย​กับ​เจียง​เซี่ยน​แม้แต่​คำ​เดียว​

ห​ลี่​จวี​ได้ยิน​แล้วก็​ทำ​เสียง​ดูถูก​เบา​ๆ และ​เอ่ย​ว่า​ “ข้า​ว่า​พี่​รอง​กลัว​ขบวน​เสด็จ​ของ​ท่านหญิง​กระมัง​?”

ความนัย​ที่​แฝงใน​นั้น​คือ​จะบอ​กว่า​ห​ลี่​จี้ประจบประแจง​และ​พึ่งพาอาศัย​ผู้มีอำนาจ​

ห​ลี่​จี้เดี๋ยว​อ้า​ปาก​เดี๋ยว​หุบปาก​ สุดท้าย​ก็​ไม่พูด​อะไร​ทั้งนั้น​

ห​ลี่​ตง​จื้อ​ทน​มอง​ไม่ได้​ จึงเรียก​ “พี่​สาม” และ​เอ่ย​ว่า​ “ตอนบ่าย​ท่าน​ไม่ต้อง​เรียนหนังสือ​หรือ​? พี่​เกา​เพิ่งจะ​เขียน​ให้​ข้า​สามหน้า​ เดี๋ยว​ข้า​ยัง​ต้อง​กลับ​ไป​เขียน​ตามที่​ห้อง​อีก​!”

ห​ลี่​จวี​ถลึงตา​ใส่น้องสาว​ของ​เขา​ที​หนึ่ง​ แล้ว​สะบัดมือ​จากไป​ทันที​

ห​ลี่​หลิน​เห็น​แล้วก็​ฝืนยิ้ม​ และ​เอ่ย​กับ​ห​ลี่​จี้ว่า​ “เขา​เป็น​เด็ก​ เจ้าอย่า​ลดตัว​ลง​ไป​ทะเลาะ​กับ​เขา​เลย​”

ห​ลี่​จี้ยิ้ม​ และ​เอ่ย​ว่า​ “จะเป็นไปได้​อย่างไร​? ข้า​เป็น​พี่ชาย​ แน่นอน​ว่า​ต้อง​ยอมให้​เขา​อยู่แล้ว​”

“เจ้าคิด​แบบนี้​ก็​ถูก​แล้ว​!” ห​ลี่​หลิน​ปลอบใจ​ห​ลี่​จี้อย่าง​ไม่สบายใจ​นัก​

ห​ลี่​จี้หลุบ​ตา​ลง​และ​ฟัง

ทุกคน​อยู่​ใน​เรือน​หลัก​ประมาณ​หนึ่ง​ถ้วย​ชา ถึงจะต่าง​คน​ต่าง​แยกย้าย​กัน​ไป​

———————————–

ทาง​ห​ลี่​ฉางชิงนั้น​พอ​ได้ยิน​คำพูด​ของ​ห​ลี่​เชีย​น​ก็​เข้าใจ​ทันที​ ทว่า​หลังจากนั้น​ก็​ทำ​หน้า​ขรึม​ และ​เอ่ย​ว่า​ “เจ้าก็​ไม่ต้อง​เอา​คำพูด​นี้​มาหลอก​ข้า​เช่นกัน​ ข้า​รู้​ว่า​นาง​เติบโต​ใน​วัง​ มีกฎระเบียบ​มากมาย​ ข้า​ก็​ไม่ได้​หวัง​ว่า​นาง​จะให้ความสำคัญ​กับ​พ่อ​สามีอย่าง​ข้า​ด้วยซ้ำ​ แค่​หวัง​ว่า​ทุกคน​จะอยู่​ร่วมกัน​อย่าง​สงบ​และ​รักใคร่​ปรองดอง​กัน​ก็​พอ​…”

“ท่าน​พ่อ​!” ห​ลี่​เชีย​น​ขัดจังหวะ​ห​ลี่​ฉางชิง และ​เอ่ย​ว่า​ “ทำไม​ท่าน​ยัง​เหมือน​เด็ก​ที่​แค้นใจ​ ไม่ว่า​อย่างไร​ ท่านหญิง​ให้​ตาม​ออกมา​อธิบาย​กับ​ท่าน​ก็​ล้วน​เป็น​ความหวังดี​กระมัง​? ท่าน​คง​ปฏิเสธ​ไม่ได้​ใช่หรือไม่​? ใน​เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ท่าน​พูดจา​แบบนี้​จะมีประโยชน์​อะไร​? ปกติ​ท่าน​ไม่ใช่คน​แบบนี้​นี่​นา​!”

ห​ลี่​ฉางชิงอาย​ จึงทำ​เสียง​ไม่พอใจ​เล็กน้อย​ แล้ว​เอา​มือ​ไพล่หลัง​จะจากไป​

ห​ลี่​เชีย​น​รั้ง​ห​ลี่​ฉางชิงเอาไว้​ และ​เอ่ย​ว่า​ “ท่าน​พ่อ​ ฮูหยิน​เห​อ​เป็น​คน​ไม่คุม​อำนาจ​ แต่​เรื่อง​ใน​บ้าน​นี้​กลับ​ไม่อาจ​ทำ​อย่าง​มั่วซั่ว​แบบนี้​ได้​ อย่า​ให้​ถึงเวลา​นั้น​พวกเรา​พ่อ​ลูก​พยายาม​หาเงิน​เข้า​บ้าน​อย่าง​สุด​ชีวิต​อยู่​ข้างนอก​ สุดท้าย​ใน​บ้าน​เหมือน​รู​หนู​ อย่างไร​ก็​เติม​ไม่เต็ม​ พวกเรา​ก็​เสียแรง​เปล่า​อย่าง​สิ้นเชิง​ ดังนั้น​จึงจำเป็นต้อง​ตั้ง​กฎระเบียบ​ใน​บ้าน​นี้​ขึ้น​มา”

“เช่นนั้น​ก็​ให้​ท่านหญิง​รับผิดชอบ​แล้วกัน​” ห​ลี่​ฉางชิงเอ่ย​อย่าง​ไม่ใส่ใจว่า​ “หาก​จะพูดถึง​กฎระเบียบ​ ก็​ไม่มีกฎระเบียบ​ของ​ตระกูล​ไหน​ที่จะ​มาก​และ​เข้มงวด​ไป​กว่า​กฎระเบียบ​ของ​ราชสำนัก​แล้ว​ ให้​นาง​หยิบ​มาใช้สัก​สอง​สามอัน​ก็ได้​แล้ว​ไม่ใช่หรือ​”

นั่น​จะไม่ทำให้​เป่า​หนิง​ของ​เขา​ยุ่ง​มาก​อย่างนั้น​หรือ​?

ห​ลี่​เชีย​น​ไม่ทำ​

เขา​ออก​ความคิด​ให้​บิดา​ว่า​ “ท่าน​ว่า​ ต้อง​ปรึกษา​แม่นม​เหมียว​หรือไม่​ นาง​ช่วย​ท่าน​แม่ดูแล​บ้าน​นี้​ตั้งแต่​ตอนที่​ท่าน​แม่ยัง​มีชีวิต​อยู่​ เวลานี้​ก็​เกือบ​ยี่สิบ​ปี​แล้ว​ เรื่อง​ใน​บ้าน​ก็​ไม่มีเรื่อง​ที่​นาง​ไม่รู้​”

ที่​สำคัญ​ที่สุด​คือ​ แม่นม​เหมียว​ไม่เพียงแต่​มีจิตใจ​ซื่อสัตย์​ ทว่า​ยังมี​ความสามารถ​ด้วย​

ห​ลี่​ฉางชิงก็​คิด​ว่า​ความคิด​นี้​ดี​เช่นกัน​ จึงเอ่ย​ว่า​ “เรื่อง​พวก​นี้​เจ้าก็​อย่า​มาปรึกษา​ข้า​เลย​ พวก​เจ้าดู​และ​ตัดสินใจ​เอง​แล้วกัน​” แล้ว​เอ่ยถึง​ร่องรอย​ของ​เซ่ารุ่ย​กับ​ห​ลี่​เชีย​น​ “…ตาม​ท่าน​กั๋วกง​น้อย​ไป​แล้ว​ เขา​มีเรื่องสำคัญ​อะไร​จะคุย​กับ​ท่าน​กั๋วกง​น้อย​หรือเปล่า​? ข้า​เห็น​เขา​แลดู​ร้อนใจ​มาก​”

ห​ลี่​เชีย​น​ไม่คิด​ที่จะ​บอ​กห​ลี่​ฉางชิงเรื่อง​ที่​เขา​ร่วมมือ​กัน​ค้าของเถื่อน​กับ​จิน​เซียว​

เขา​แอบ​คิด​ว่า​บิดา​ของ​เขา​จะต้อง​เชื่อฟัง​ฝูอวี้​อย่าง​แน่นอน​ และ​ไม่ว่า​ฝูอวี้​จะเห็นด้วย​หรือ​คัดค้าน​ เขา​ก็​ไม่อยาก​ฟังเกา​ฝูอวี้​บ่น​และ​ตำหนิ​อีกแล้ว​ทั้งนั้น​

ห​ลี่​เชีย​น​แสร้ง​ทำเป็น​ไม่รู้​ และ​เอ่ย​ว่า​ “บางที​อาจจะ​มีเรื่องด่วน​จริงๆ​ ก็ได้​? หลาย​วันก่อน​เขา​ยัง​ให้​ข้า​ช่วย​แนะนำ​เขา​ให้​ท่าน​กั๋วกง​น้อย​ด้วย​ แต่​ข้า​ไม่รับปาก​”

ห​ลี่​ฉางชิงแปลกใจ​เล็กน้อย​ ทว่า​ก็​คิด​ว่า​ความเกรงกลัว​ของ​ลูกชาย​ก็​ไม่ใช่ว่า​ไม่มีเหตุผล​อย่าง​สิ้นเชิง​เช่นกัน​

ตระกูล​ห​ลี่​มีรากฐาน​เพียงเท่านี้​ ก็​ไม่ได้​มีความสามารถ​ที่จะ​เข้าไป​แทรกแซง​ทุก​เรื่อง​

———————————–

มู่หนานจือ

มู่หนานจือ

Status: Ongoing
นิยายรักย้อนยุค จากนักเขียนดัง ‘จือจือ’ กับการฟาดฟันอันดุเดือดของนางเอกสุดแกร่งในวังหลวง!แม้ เจียงเซี่ยน เป็นถึงสตรีผู้สูงศักดิ์ ทั้งยังได้แต่งงานกับ ‘จ้าวอี้’ ผู้เป็นฮ่องเต้ ทว่าเขามิเคยร่วมหออุ่นเตียงกันจนกระทั่งจากนางไปเมื่อนางต้องกลายเป็นไทเฮา จึงได้โอบอุ้ม ‘จ้าวสี่’ ลูกชายคนเดียวของจ้าวอี้ว่าราชการหลังม่าน ประคองราชวงศ์อย่างยากเข็ญแต่แล้วนางกลับถูกฆ่าตายด้วยถ้วยยาพิษ ที่อยู่ในอุ้งมือของฮ่องเต้น้อยอย่างจ้าวสี่!เมื่อลืมตาตื่นมาอีกครั้ง ก็พบว่าได้ย้อนกลับมาช่วงชีวิตวัยสิบสามปี… ก่อนมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในราชสำนัก‘เหตุใดจ้าวสี่จึงมอบความตายให้นาง?’…แม้โอกาสในการมีชีวิตอาจทำให้ไขปริศนานี้ได้แต่นางขอเลือกเดินในเส้นทางใหม่ ไม่เข้าไปข้องเกี่ยวกับตระกูลจ้าว ไม่สนใจการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินนางขอเพียงมีชีวิตครอบครัวเล็กๆ กับสามีที่วางใจได้ และลูกที่แสนน่ารักทว่า เมื่อนางได้นำพบกับ หลี่เชียน แม่ทัพหนุ่มที่นางเคยรู้สึกเกลียดทุกคราที่พบหน้าชีวิตและความรักของนางจึงกำลังจะพบกับจุดเปลี่ยนอีกครั้ง…หรือ ‘โชคชะตา’ จะนำพาให้เกิดเรื่องราวและวังวนที่ไม่เหมือนเดิม!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท