“เจ้าทำถูกแล้ว!” หลี่ฉางชิงยืนยันสิ่งที่หลี่เชียนทำ “แม้พวกเราจะเป็นญาติที่เกี่ยวดองกันกับตระกูลเจียง แต่ต่อไปอาจจะช่วงที่ขอร้องตระกูลเจียง เวลานี้ห้ามเจอเรื่องอะไรก็ขอร้องคน นานๆ ไป จะถูกตระกูลเจียงดูถูกได้ พวกเราต้องยืนขึ้นมาเองก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน”
หลี่เชียนได้ยินแล้วก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “เช่นนั้นท่านยังไม่ให้ข้าไปเสฉวนหรือ?”
หลี่ฉางชิงถลึงตาและเอ่ยว่า “นี่ข้าก็เห็นว่าท่านหญิงเพิ่งจะแต่งมาไม่ใช่หรือ?” แล้วเขาก็เอ่ยอย่างหงุดหงิดว่า “เจ้าก็เห็นแล้วเช่นกัน หากข้าไม่แต่งงานกับคนสกุลเหอ ในบ้านจะวุ่นวายแบบนี้ได้อย่างไร พวกเรื่องเล็กน้อยที่ไม่สำคัญยังต้องให้ข้าออกหน้าจัดการ พวกขุนนางของตระกูลไหนเป็นเหมือนข้าบ้าง เจ้าจะเลียนแบบข้าไม่ได้ เจ้าต้องดีกับภรรยาของเจ้าหน่อย แล้วนางก็จะวางใจที่จะติดตามเจ้า และจะคิดหาทางให้เจ้าทุกเรื่อง” แล้วเอ่ยอีกว่า “ให้ภรรยาของเจ้าดูแลบ้านไม่ได้จริงๆ หรือ? ข้าเห็นว่าสาวใช้กับแม่บ้านที่อยู่ข้างกายนางต่างเก่งมาก หากตระกูลของพวกเรามีคนแบบนี้สักคนก็พอแล้ว”
หลี่เชียนได้ยินแล้วก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปกอดบิดาเบาๆ ทีหนึ่ง และเอ่ยว่า “ท่านพ่อ อย่าโทษตนเองเลย ท่านน้าหลานบอกข้าหมดแล้ว ท่านทำเพื่อข้า ถึงได้เลือกบุตรสาวของตระกูลเหอเป็นภรรยาใหม่ ทุกเรื่องล้วนมีข้อดีข้อเสีย ตอนนี้ข้าเติบโตได้ดีขนาดนี้ ท่านควรจะดีใจถึงจะถูก ส่วนเรื่องอื่นนั้น นอกจากที่ฮูหยินเหอไม่ค่อยถนัดเรื่องงานบ้านแล้ว ก็กลับดูแลท่านเป็นอย่างดี ไม่เคยกล้าดูถูกและเมินเฉย นี่ก็ใช้ได้แล้ว”
หลี่ฉางชิงถูกลูกชายพูดจาแทงใจ และถูกปลอบใจอีกพักหนึ่ง ในใจหวานเหมือนกินน้ำผึ้ง
เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มและต่อยบ่าของลูกชายหมัดหนึ่งอย่างไม่เบาไม่หนัก แล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ถือว่าข้าไม่เสียแรงที่รักเจ้า”
หลี่เชียนหัวเราะ และหลอกให้หลี่ฉางชิงกลับไปแล้ว โดยไม่เอ่ยถึงเรื่องดูแลบ้านอย่างเด็ดขาด
เจียงเซี่ยนก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้เช่นกัน
นางอยู่ที่เรือนตะวันตก ทางนี้ทุกอย่างล้วนเป็นระเบียบเรียบร้อย เพียงแค่ปรนนิบัติและคุยกับฮูหยินเหอเล็กน้อยทุกเช้าและเย็น ฮูหยินเหอก็หน้าตายิ้มแย้มตลอด ไม่ต้องพูดถึงเรื่องวางมาดแม่สามี แม้แต่คำพูดรุนแรงก็ไม่เคยเอ่ยสักคำ ส่วนหลี่ฉางชิงก็มองนางและยิ้มตาหยี แม้แต่เจียงเซี่ยนเองยังรู้สึกว่าตนเองน่ารักขึ้นมา พวกหลี่หลินก็เคารพนางมากเช่นกัน แม้จะไม่ค่อยใกล้ชิดกัน ทว่าก็เจียงเซี่ยนคิดว่า นี่เป็นระยะห่างที่ดีที่สุด…นางเป็นภรรยาของหลี่เชียน ไม่ใช่พี่น้องของหลี่หลินเสียหน่อย จะใกล้ชิดขนาดนั้นไปทำไม?
แต่หลี่เชียนกลับดีกว่าที่นางคิดไว้
บางครั้งหลี่เชียนจะถูกหลี่ฉางชิงเรียกออกไปทำงานหรือพบแขก บางครั้งจะเก็บตัวและคุยกับพวกเซี่ยหยวนซีอยู่ในห้องหนังสือ นอกจากนี้ก็จะอยู่เป็นเพื่อนนาง บางครั้งทั้งสองคนสามารถผลัดกันพูดเรื่องขนมข้าวครึ่งชิ้นจะให้ใครกินกันแน่ได้นานมาก จนขนมข้าวเย็นแล้วก็ไม่สนใจแม้แต่นิดเดียว
นางถึงกับรู้สึกว่า เพียงแค่อยู่กับหลี่เชียน ทุกเรื่องก็ล้วนกลายเป็นสนุกมาก
คืนนี้ถึงยามห้ายแล้วหลี่เชียนก็ยังไม่กลับมา นางพลิกตัวไปมานอนไม่หลับ
เซียงเอ๋อร์เป็นคนที่เข้าเวรกลางคืน นางถามเจียงเซี่ยนว่าอยากดื่มน้ำหรือว่าอยากเข้าห้องน้ำหรือเปล่า
เจียงเซี่ยนไม่ตอบ
ทว่าในใจกลับหวาดกลัวขึ้นมาลึกๆ
นางแต่งมาเพียงแค่สิบกว่าวัน ก็ชินกับการอยู่เป็นเพื่อนของหลี่เชียนแล้ว ไม่…ไม่ใช่ชิน แต่แยกจากการอยู่เป็นเพื่อนของหลี่เชียนไม่ได้ หากหลี่เชียนเลือกวงศ์ตระกูลระหว่างวงศ์ตระกูลกับนาง นางจะยอมได้หรือ? นางจะยอมหรือ?
เจียงเซี่ยนนั่งพิงหัวเตียง และนอนไม่หลับนานมาก
จนหลี่เชียนกลับมาเห็นนางยังไม่นอน สีหน้าก็เต็มไปด้วยความรู้สึกเสียใจทันที และเอ่ยว่า “วันนี้อวิ๋นหลินกลับมาแล้ว สินค้าชุดนี้เยอะเกินไป บุ่มบ่ามเอาออกมาขาย นานๆ ไป จะต้องดึงดูดความสนใจของตระกูลเซ่าอย่างแน่นอน ข้าอยากขายสินค้าชุดนี้ไปที่ฝูเจี้ยน จึงมอบหมายเรื่องต่างๆ ให้พวกเขามากมาย พอเริ่มคุยก็ลืมเวลา จึงกลับมาดึก!” เขาเอ่ยพลางนั่งลงที่ขอบเตียงและจับมือของเจียงเซี่ยน แล้วเอ่ยเสียงอ่อนโยนว่า “รอจนร้อนใจแล้วหรือเปล่า? ต่อไปหากเจอเรื่องแบบนี้อีก เจ้าก็ส่งสาวใช้ไปเรียกข้า…”
ไม่กลัวว่าจะทำให้คนคิดว่าเขาต้องเชื่อฟังภรรยาทุกเรื่อง และเสียหน้าหรือ?
เจียงเซี่ยนรีบทิ้งความไม่สบายใจในใจ และเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ก็ไม่ได้รอแต่เจ้าเช่นกัน แค่นอนไม่หลับ จึงนั่งเหม่ออยู่ตรงนี้”
หลี่เชียนมองเจียงเซี่ยนที่สีหน้ายังเจือความหดหู่อยู่เล็กน้อยใต้แสงไฟ แล้วก็ปวดใจเป็นอย่างมาก
เขารู้ว่าชีวิตเมื่อก่อนของนางล้วนเงียบเหงาและเหงาหงอยมาโดยตลอด สุดท้ายแต่งงานกับเขา เขากลับไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนนาง
หลี่เชียนตัดสินใจทันที
เขายิ้มและถามนางว่า “อยากไปเดินเล่นในงานวัดไหม? หรือว่าพวกเราจะไปซื้อของเล็กๆ น้อยๆ บนถนนสักหน่อย? จะได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารข้างนอกสักมื้อด้วย?” พอเอ่ยถึงตรงนี้ จู่ๆ เขาก็จำได้ จึงรีบเอ่ยว่า “ท่านหมอฉางมาตรวจชีพจรให้เจ้าหรือยัง? ก่อนหน้านี้ข้าเคยถามแม่นมเมิ่งแล้ว นางบอกว่าตอนที่เจ้าอยู่ในวัง ต้องตรวจชีพจรปกติทุกห้าวัน ข้าลืมไปว่าวันนี้เป็นวันที่ห้าแล้ว”
“ตรวจแล้ว” เจียงเซี่ยนเห็นเขาร้อนใจเรื่องนาง ก็รู้สึกว่าความกังวลของตนเองก่อนหน้านี้เป็นความกังวลเกินกว่าเหตุอย่างสิ้นเชิง นางยิ้มเล็กน้อย ใต้แสงไฟนั้น ความอ่อนโยนสว่างไสวแวววาว สายตาอ่อนโยนดุจสายน้ำ เหมือนหมู่บ้านริมน้ำเจียงหนาน “เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง ต่อให้ข้าจำไม่ได้ ท่านหมอฉางก็ไม่มีทางลืมอยู่ดี”
เจียงเซี่ยนเป็นแบบนี้ก็เป็นอีกสิ่งที่หลี่เชียนไม่เคยเห็น
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าเจียงเซี่ยนไม่เหมือนแมวน้อยที่เย่อหยิ่ง ทว่าเป็นกล่องเก็บสมบัติ ทุกครั้งที่เขาเปิดก็จะพบสิ่งที่เขามองไม่เห็น
เป่าหนิงของเขายังซ่อนสิ่งที่เขาไม่รู้ไว้อีกแค่ไหนกัน?
หลี่เชียนพยักหน้าเล็กน้อย รอยยิ้มก็ไหลออกมาจากในดวงตาของเขาอย่างหยุดไม่อยู่
เจียงเซี่ยนลำบากใจ
หลี่เชียนเหมือนชอบนางมาก
พอเห็นนางก็ยิ้มออกมาได้
นี่ทำให้นางอารมณ์ดีขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จนถึงกับกระวนกระวายใจขึ้นมาเล็กน้อย และนั่งไม่ค่อยติด ต้องทำอะไรบ้างถึงจะดี
นางจึงเลิกผ้าห่มสองชั้น แล้วผลักหลี่เชียนพลางเอ่ยว่า “เจ้ารีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ข้าจะไปตักน้ำให้เจ้า”
“ไม่ต้อง ไม่ต้อง ไม่ต้อง!” หลี่เชียนรั้งนางไว้ แถมยังตั้งใจพับแขนเสื้อของนางขึ้นโดยเฉพาะ และเอ่ยว่า “แขนขาเล็กอย่างเจ้า อย่าทำน้ำหกเลย”
เขาดูเหมือนกำลังหยอกล้อกับเจียงเซี่ยนอย่างสบายๆ ทว่าในใจกลับเหมือนเขื่อนที่ถูกคลื่นซัดสาดจนพังทลาย มือและขาต่างก็อ่อนแรงเล็กน้อย
เป่าหนิงโตมาขนาดนี้คงจะยังไม่เคยรินน้ำให้ใครเลย
แต่กลับเอ่ยออกมาว่าจะช่วยเขาเปลี่ยนเสื้อผ้า
บิดาของเขาพูดถูก เพียงแค่เขาดีกับเป่าหนิง เป่าหนิงก็จะตอบแทนเขาอย่างดีกว่า
ตอนนั้นที่ยึดอำนาจในราชสำนัก เป่าหนิงก็ชี้ทางให้เขาไม่ใช่หรือ?
เขาฉวยโอกาสกอดเจียงเซี่ยน และกระซิบข้างหูนางว่า “เป่าหนิง เจ้าไม่ต้องทำอะไรให้ข้าทั้งนั้น ข้าขอเพียงเจ้าคอยมองข้าอยู่ข้างๆ ก็พอแล้ว ขอเพียงเจ้าคอยมองข้าอยู่ข้างๆ ข้าก็รู้สึกว่าข้าทำได้ทุกอย่าง และทำทุกอย่างได้ดี”
จริงหรือ?
เจียงเซี่ยนรู้สึกว่าหลี่เชียนพูดจาเกินจริงไปหน่อย
ทว่าบรรยากาศในเวลานี้ดีมากจริงๆ นางจึงรู้สึกว่าไม่ใช่เวลาที่จะถามหลี่เชียน
ก็ปล่อยให้เขาโม้ไปก่อนแล้วกัน
เจียงเซี่ยนคิดว่า อ้อมกอดของหลี่เชียนอบอุ่นมาก นางสบายมากจนไม่อยากแยกจาก จึงกอดเอวของเขา และฝังศีรษะลงไปในอ้อมกอดของหลี่เชียน
หลี่เชียนหัวเราะอย่างเงียบๆ
เจียงเซี่ยนได้ยินความเคลื่อนไหวของหน้าอกเขาอย่างชัดเจน
นางรู้สึกว่าแปลกมาก จึงแนบหูชิดขึ้น
หลี่เชียนเริ่มจูบบนศีรษะ ขมับ แก้ม และมุมปากของนาง…
เจียงเซี่ยนตกใจ หน้าร้อนผะผ่าว แต่ไม่ดิ้น
————————————