มู่หนานจือ – บทที่ 299 ว่างเปล่า

มู่หนานจือ

ห​ลี่​เชีย​น​หลับตา​อยู่​ เหมือน​เป็น​สิ่งที่​ทำ​ไป​โดย​ไม่ได้​ตั้งใจ​และ​ไม่รู้ตัว​หลังจากที่​ถูก​รบกวน​และ​สะลึมสะลือ​ในขณะที่​หลับสนิท​

ราวกับ​ใน​ความฝัน​ก็​คิด​ว่า​จะต้อง​กล่อม​เจียง​เซี่ยน​

เจียง​เซี่ยน​จึงให้อภัย​ห​ลี่​เชีย​น​ทันที​

นาง​เม้มปาก​ยิ้ม​ และ​ขดตัว​เข้าไป​ใน​อ้อมกอด​ของ​ห​ลี่​เชีย​น​ หา​ตำแหน่ง​ที่​สบาย​ ไม่นาน​ก็​เข้าสู่​ดินแดน​แห่ง​ความฝัน​

ตา​ซ้าย​ของ​ห​ลี่​เชีย​น​ค่อยๆ​ แง้มขึ้น​

เห็น​เจียง​เซี่ยน​หายใจ​ยาวเหยียด​และ​สม่ำเสมอ​ใน​อ้อมแขน​ เขา​ก็​กระชับ​แขน​

เจียง​เซี่ยน​ส่งเสียง​เบา​ๆ เล็กน้อย​ และ​เข้าใกล้​เขา​มากขึ้น​

ห​ลี่​เชีย​น​หัวเราะ​ออกมา​อย่าง​เงียบๆ​

วันรุ่งขึ้น​ ตอนที่​เจียง​เซี่ยน​ตื่น​มาก็​พบ​ว่า​ตนเอง​ถูกห​ลี่​เชีย​นก​อด​อยู่​ใน​อ้อมแขน​แน่น​เหมือน​หมอนอิง​ใบ​ใหญ่​

นา​งอด​ไม่ได้​ที่จะ​กัด​ปาก​ และ​ขยับ​อย่าง​แผ่วเบา​ คิด​ว่า​จะมุด​ออก​มาจาก​อ้อมแขน​ของ​ห​ลี่​เชีย​น​

ใคร​จะรู้​ว่า​พอ​นาง​ขยับ​ ห​ลี่​เชีย​น​ก็​ตื่น​ทันที​

เขา​พึมพำ​อย่าง​ยัง​ไม่ตื่น​ดี​ว่า​ “เจ้าตื่น​แล้ว​หรือ​” แล้วก็​ปล่อย​นาง​ และ​พลิกตัว​นอนหงาย​บน​เตียง​ พาด​แขน​บัง​ดวงตา​ เหมือน​นอน​ไม่ค่อย​หลับ​ และ​สมอง​ยัง​ไม่ปลอดโปร่ง​

เจียง​เซี่ยน​เห็น​แล้วก็​รู้สึก​ผ่อนคลาย​อย่าง​บอก​ไม่ถูก​ และ​เอ่ย​ว่า​ “อืม​” อย่าง​ขอไปที​

ห​ลี่​เชีย​น​เอ่ย​ว่า​ “ข้า​จะนอน​อีก​ครึ่ง​ชั่วโมง​ เจ้าอย่า​ลืม​ปลุก​ข้า​”

ท่าทาง​เหนื่อย​มาก​

เจียง​เซี่ยน​เอ่ย​ว่า​ “อืม​” อีกครั้ง​ แต่​มือ​กลับ​ลูบ​หน้าผาก​ของ​เขา​อย่าง​อดไม่ได้​ และ​เอ่ย​อย่าง​เป็นห่วง​ว่า​ “เจ้าไม่สบาย​ตรงไหน​หรือเปล่า​?”

ปกติ​เขา​มักจะ​ตื่น​ไป​ขี่ม้า​แต่เช้า​เสมอ​

“ไม่ได้​ไม่สบาย​ตรงไหน​!” ห​ลี่​เชีย​น​ตอบ​ แล้ว​เบิก​ตาโต​มอง​นาง​อย่าง​แน่วแน่​ ตัว​เหมือน​ค่อยๆ​ ตื่น​ ดวงตา​สดใส​ขึ้น​เล็กน้อย​ “แค่​วันนี้​อยาก​นอน​ตื่น​สาย​” ทว่า​เขา​พูด​อยู่​ก็​กลับ​ลุกขึ้น​มานั่ง​ “เพียงแต่​ตอนนี้​เห็น​เจ้าตื่น​แล้ว​ ก็​ไม่อยาก​นอน​แล้ว​” และ​เอ่ย​อี​กว่า​ “เช้านี้​เจ้าจะไป​เรือน​จิ่วซือ​กับ​ข้า​หรือไม่​? เจ้าต้อง​สั่งหลิว​ตง​เย​ว่​สักหน่อย​หรือเปล่า​?”

เรือน​ตะวันตก​มีห้อง​หนังสือ​สอง​ห้อง​

ห้อง​หนึ่ง​อยู่​ที่​ห้อง​ที่อยู่​ตรงข้าม​ห้อง​หลัก​ของ​ส่วน​แรก​ ตั้ง​ชื่อว่า​ ‘จิ่วซือ’​ เป็น​สถานที่​ที่​ปกติ​ห​ลี่​เชีย​น​จะจัด​การงาน​ อีก​ห้อง​หนึ่ง​อยู่​ใน​เรือน​หลัก​ของ​ส่วน​ที่สอง​ ตั้ง​ชื่อว่า​ ‘เรือน​ซื่อ​อู๋’​ เป็น​สถานที่​ที่​ห​ลี่​เชีย​น​จะอ่าน​และ​เขียนหนังสือ​

นึกไม่ถึง​ว่า​ห​ลี่​เชีย​น​จะให้​นาง​เข้า​ออกเรือน​จิ่วซือ​ เจียง​เซี่ยน​รู้สึก​ว่า​อยู่​นอกเหนือ​เหตุผล​ แต่​ก็​อยู่​ใน​ความคาดหมาย​

ชาติก่อน​เขา​ก็​ไม่เกรงกลัว​ว่า​นาง​จะทำ​สิ่งใด​

ใน​ความคลุมเครือ​เผย​ให้​เห็น​ความมั่นใจ​ใน​ตนเอง​ที่​กล้าหาญ​ต่อตัว​เขา​เอง​

ทุกครั้งที่​ห​ลี่​เชีย​น​ที่​เป็น​แบบนี้​ปรากฏตัว​ต่อหน้า​นาง​ นาง​มักจะ​อิจฉาริษยา​ต่างๆ​ นานา​ รู้สึก​ว่า​เขา​ไร้​ความเกรงกลัว​และ​รับได้​ทุกอย่าง​ เป็น​ขุนนาง​ที่​มีอำนาจ​บีบบังคับ​คน​มากกว่า​นาง​ที่​เป็น​ไทเฮา​เสีย​อี​ก.​..

วันนี้​เขา​ยัง​ไม่ฝึกฝน​จน​ตำแหน่ง​สูงและ​มีอำนาจ​มาก​อย่าง​ชาติก่อน​ ทว่า​ก็​ใจกว้าง​ และ​มีรูปลักษณ์​ของ​ชาติก่อน​แล้ว​เช่นกัน​

เจียง​เซี่ยน​ยิ้ม​เล็กน้อย​ หลังจาก​รับประทาน​อาหารเช้า​แล้วก็​ไป​ที่​เรือน​จิ่วซือ​กับ​เขา​

เรือน​จิ่วซือ​เป็น​ห้อง​หนังสือ​ที่​ตกแต่ง​ธรรมดา​ หาก​ต้อง​บอก​ความแตกต่าง​สัก​จุด​สอง​จุด​ ก็​น่าจะเป็น​ซีฝู่ไห่​ถังที่​เลี้ยง​อยู่​ตรง​ประตู​หลัง​แล้ว​

“นึกไม่ถึง​ว่าที่​เรือน​ของ​เจ้าจะเลี้ยง​ซีฝู่ไห่​ถัง?” นาง​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​อย่าง​ชื่นชม​ว่า​ “แถมยัง​เลี้ยง​รอด​ และ​เลี้ยง​ได้ดี​ขนาด​นี้​ด้วย​”

เจียง​เซี่ยน​วนรอบ​ซีฝู่ไห่​ถังที่​เขียวชอุ่ม​และ​เจริญงอกงาม​รอบ​หนึ่ง​

ห​ลี่​เชีย​น​รับ​ถ้วย​ชาที่​สาวใช้​ถือ​เข้ามา​และ​ใช้นิ้วมือ​แตะ​ผนัง​ถ้วย​ทดลอง​อุณหภูมิ​ พลาง​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ “เจ้าชอบ​ซีฝู่ไห่​ถังหรือ​? เช่นนั้น​พวกเรา​ก็​ปลูก​ที่​เรือน​หลัก​สัก​สอง​สามต้น​ด้วย​แล้วกัน​?”

“ใคร​บอก​กัน​?” เจียง​เซี่ยน​ยิ้ม​ตาหยี​ รอยยิ้ม​สดใส​และ​งดงาม​เหมือน​อากาศ​ดี​ใน​เดือน​ห้า​ “ซีฝู่ไห่​ถังปลูก​ยาก​ หาก​ไม่ปักชำ​และ​เติบโต​อย่าง​อิสระ​แบบนี้​ จะโต​และ​สูงได้​ถึงสามสี่ฉื่อ[​1] ปลูก​สอง​สามต้น​ จะไม่ยึดครอง​ทั้ง​ลาน​อย่างนั้น​หรือ​? ข้า​จำได้​ว่า​ข้าง​ซีฝู่ไห่​ถังใน​อุทยาน​หลวง​ยัง​ต้อง​ปลูก​อวี้​หลาน​ โบตั๋น​ และ​หอม​หมื่น​ลี้​ด้วย​ เรียก​ว่า​ ‘อวี้​ถังฟู่กุ้ย[​2]’” นาง​เอ่ย​พลาง​มอง​ไป​รอบด้าน​ และ​เอ่ย​อย่าง​ผิดหวัง​ว่า​ “ตรงนั้น​มีต้น​อวี้​หลาน​ต้น​หนึ่ง​ แต่​ไม่ได้​ปลูก​โบตั๋น​กับ​หอม​หมื่น​ลี้​…”

ห​ลี่​เชีย​น​เห็น​อุณหภูมิ​ของ​ชาเหมาะสม​แล้ว​ จึงยื่น​ถ้วย​ชาให้​เจียง​เซี่ยน​ ส่งสัญญาณให้​นาง​ดื่ม​ชาสัก​อึก​ให้​ชุ่มคอ​ก่อน​ แล้ว​ถึงเอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ “ตอนที่​ข้า​ซื้อ​บ้าน​หลัง​นี้​ซีฝู่ไห่​ถังกับ​ต้น​อวี้​หลาน​ที่​เจ้าเอ่ย​ก็​ปลูก​อยู่​ที่นี่​แล้ว​ ตรงนี้​ยังมี​ที่​อีก​มากมาย​ ไว้​ถึงต้น​ฤดูใบไม้ผลิ​ปีหน้า​ พวกเรา​ค่อย​ปลูก​โบตั๋น​สอง​สามต้น​และ​ต้น​หอม​หมื่น​ลี้​ต้น​หนึ่ง​ตรงนี้​ก็ได้​” แล้วก็​ชี้โต๊ะ​หิน​กับ​ม้าหิน​ข้าง​ซีฝู่ไห่​ถัง และ​เอ่ย​ว่า​ “สร้าง​ค้าง​องุ่น​ตรงนั้น​อีก​ ใน​เรือน​นี้​ก็​มีชีวิตชีวา​แล้ว​”

เจียง​เซี่ยน​ได้ยิน​ก็​อึ้ง​ไป​ แล้วก็​ยิ้ม​ออกมา​แทบจะ​ทันที​ และ​เอ่ย​ว่า​ “เจ้าไม่รู้​ว่า​อัน​ไหน​คือ​ซีฝู่ไห่​ถังอัน​ไหน​คือ​ต้น​อวี้​หลาน​หรือ​?”

เวลานี้​ปลาย​ฤดูร้อน​แล้ว​ ซีฝู่ไห่​ถังกับ​ต้น​อวี้​หลาน​ต่าง​บาน​ไป​แล้ว​ เหลือ​เพียง​ใบไม้​สีเขียว​เป็นมัน​ขลับ​ คน​ที่​ไม่เคย​ตั้งใจ​สังเกต​ก็​จำไม่ได้​จริงๆ​

ห​ลี่​เชีย​น​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ “ข้า​จะรู้จัก​ต้นไม้​พวก​นั้น​ไป​ทำไม​? ข้า​รู้​เพียงแค่​ว่า​ต้นไม้​พวก​นั้น​อายุ​เท่าไร​? ทาง​ไหน​เป็น​ทิศตะวันออก​ ทาง​ไหน​เป็น​ทิศตะวันตก​ และ​ไม่จำผิด​ตอนที่​กรีธาทัพ​ทำสงคราม​ก็​พอแล้ว​”

พูด​อย่าง​เต็มปากเต็มคำ​ ไม่เห็นด้วย​แม้แต่​นิดเดียว​

ทันใดนั้น​เจียง​เซี่ยน​ก็​เข้าใจ​แล้ว​ว่า​ทำไม​ตนเอง​ถึงชอบ​คุย​กับ​ห​ลี่​เชีย​น​

ไม่ว่า​นาง​จะพูด​อะไร​ ห​ลี่​เชีย​น​ก็​จะไม่ถูก​ทำร้าย​ สิ่งที่​มีเหตุผล​ เขา​ยอมรับ​ สิ่งที่​ไม่มีเหตุผล​ เขา​โต้แย้ง​ ไม่เคย​จะรู้สึก​ต่ำต้อย​และ​ขี้ขลาด​ เพราะ​ข้อด้อย​ใน​ด้าน​วงศ์ตระกูล​ ประสบการณ์​ และ​ความรู้​ กระทั่ง​จะเสริม​และ​ชดเชย​ข้อบกพร่อง​ใน​ด้าน​วงศ์ตระกูล​และ​ความรู้​ของ​ตนเอง​อย่าง​เร็ว​มาก​ เพราะ​รู้​ข้อบกพร่อง​ของ​ตนเอง​

ก็​เหมือน​หยก​ก้อน​หนึ่ง​ ยิ่ง​เจียระไน​ยิ่ง​แวววาว​

ทำให้​คน​รู้สึก​ว่า​เวลา​อยู่​กับ​เขา​ มักจะ​กระตือรือร้น​ และ​ต่อให้​มีอุปสรรค​ ก็​จะผ่าน​ไป​อย่าง​เร็ว​มาก​เช่นกัน​

ใน​ชีวิต​ไม่มีคน​และ​เรื่อง​ที่​น่าหวาดกลัว​

ห​ลี่​เชีย​น​ที่​เป็น​แบบนี้​ ทำให้​เจียง​เซี่ยน​ชอบ​มาก​

เขา​เหมือน​แสงแดด​ที่​ส่อง​เข้ามา​ใน​ชีวิต​ที่​เต็มไปด้วย​ความ​มืดมน​ของ​นาง​

“เช่นนั้น​ทำไม​เจ้าถึงสั่งมั่วซั่ว​?” เจียง​เซี่ยนอด​ไม่ได้​ที่จะ​โต้เถียง​กับ​เขา​อย่าง​กำเริบเสิบสาน​และ​ไร้​ความเกรงกลัว​เหมือน​ชาติก่อน​ “แถมยัง​จะสร้าง​ค้าง​องุ่น​บน​โต๊ะ​หิน​กับ​ม้าหิน​อีก​? โต๊ะ​หิน​กับ​ม้าหิน​นี้​เป็น​สิ่งที่​มีอยู่​ก่อนที่​เจ้าจะซื้อ​บ้าน​นี้​ใช่หรือไม่​?” นาง​เอ่ย​พลาง​เดิน​ไป​ชี้ที่ว่าง​ที่อยู่​ไม่ไกล​จาก​โต๊ะ​หิน​และ​ม้าหิน​ แล้ว​เอ่ย​ว่า​ “ตรงนี้​เดิมที​ต้อง​ปลูก​ต้น​หอม​หมื่น​ลี้​อย่าง​แน่นอน​ ตอน​หน้าร้อน​ ต้น​หอม​หมื่น​ลี้​จะตั้งตรง​สูงมาก​และ​แตก​กิ่งก้าน​ต่อกัน​เหมือน​ร่ม​ นั่ง​ตรงนี้​รับลม​ได้​พอดี​” แล้วก็​ชี้ที่​ที่​ปลูก​ไผ่​เขียว​สอง​กอ​ฝั่งตรงข้าม​ “ตรงนั้น​เดิมที​ต้อง​ปลูก​ดอก​โบตั๋น​อย่าง​แน่นอน​ ตอนที่​รับลม​ก็​สามารถ​ชมดอกไม้​ได้​พอดี​”

ห​ลี่​เชีย​น​ไม่สน​หรอ​กว่า​ตรงนั้น​ตรงนี้​ปลูก​อะไร​บ้าง​กัน​แน่​ เขา​ชอบ​คุย​กับ​เจียง​เซี่ยน​ ชอบ​มอง​สีหน้า​ตอน​พูด​ของ​เจียง​เซี่ยน​ เดี๋ยว​ก็​เม้มปาก​ยิ้ม​ เดี๋ยว​ก็​มอง​เขา​อย่าง​เจ้าเล่ห์​ แก้ม​แดงก่ำ​ สดใส​ ร่าเริง​ และ​มีชีวิตชีวา​ ไม่ใช่ผู้หญิง​ซีดเซียว​ที่​เหมือน​ใส่หน้ากาก​ใน​วัง​ฉือ​หนิง​คน​นั้น​

และ​ทั้งหมด​นี้​ล้วน​เป็น​สิ่งที่​เขา​นำมา​ให้​นาง​

เขา​อด​ไม่ได้​ที่จะ​รู้สึก​ภูมิใจ อยาก​ตามใจ​นาง​อีก​นิด​ตามใจ​นาง​อีกหน่อย​ ทำให้​นาง​มีชีวิต​อยู่​อย่าง​อิสระ​อีก​นิด​และ​มีความสุข​อีกหน่อย​…

เขา​เดิน​ไป​ตรงหน้า​เจียง​เซี่ยน​ และ​มอง​ดวงตา​ที่​เหมือน​ดำ​สนิท​และ​สดใส​ของ​นาง​แวววาว​และ​ทอ​ประกาย​

“เจ้ารู้​ได้​อย่างไร​ว่า​ตรงนี้​ปลูก​ต้น​หอม​หมื่น​ลี้​? ตรงนั้น​ปลูก​ดอก​โบตั๋น​?” เขา​ตื๊อ​นาง​ไม่ปล่อย​ “ข้า​ว่า​ ข้าง​โต๊ะ​หิน​ต่างหาก​ที่​ปลูก​ดอก​โบตั๋น​ กอ​ไผ่​ตรงนั้น​ต่างหาก​ที่​ปลูก​ต้น​หอม​หมื่น​ลี้​ ไม่อย่างนั้น​ทำไม​เจ้าของ​บ้านเดิม​ถึงปลูก​ไผ่​ตรงนั้น​ และ​วาง​โต๊ะ​หิน​ตรงนี้​…ต้นไม้​ตัด​แล้​วจะ​เหลือ​ตอไม้​ แสดงว่า​ต้น​หอม​หมื่น​ลี้​ที่​เจ้าเอ่ย​นั้น​ถอนรากถอนโคน​ ก็​จะต้อง​ทิ้ง​รู​เอาไว้​อย่าง​แน่นอน​ แทนที่จะ​ต้อง​ใช้ดิน​ถมรู​ต้นไม้​อีก​ สู้ปลูก​ไผ่​สอง​สามต้น​ดีกว่า​สะดวก​กว่า​”

“เจ้าพูด​ได้​ไม่เลว​!” เจียง​เซี่ยน​มอง​ห​ลี่​เชีย​น​ด้วย​สีหน้า​เต็มไปด้วย​รอยยิ้ม​ สายตา​เคลื่อนย้าย​เปลี่ยน​ตำแหน่ง​อย่าง​ต่อเนื่อง​ เปล่งแสง​ระยิบระยับ​ราวกับ​ทางช้างเผือก​ “ตาม​หลัก​ทั่วไป​เป็น​อย่าง​ที่​เจ้าว่า​ แต่​ตอนนี้​พวกเรา​พูดถึง​การ​ตกแต่ง​บ้าน​! การ​ตกแต่ง​บ้าน​ก็​ต้อง​เอ่ยถึง​หยวน​จื้อ[​3] เจ้าไม่เห็น​อย่างนั้น​หรือ​ ว่า​ไผ่​ปลูก​อยู่​ทาง​ทิศตะวันออก​ โต๊ะ​หิน​กับ​ม้าหิน​อยู่​ทาง​ทิศตะวันตก​ ตอนที่​พระอาทิตย์​ออกมา​จะส่อง​ไผ่​ก่อน​ ตอนที่​พระอาทิตย์​ตก​ทาง​ทิศตะวันตก​ แม้ไม่มีไผ่​บัง​ พระอาทิตย์​ตก​กลับ​จะส่อง​ไป​ที่​โต๊ะ​หิน​นั้น​ตลอด​…”

ทั้งสอง​คน​คุย​กัน​เรื่อง​ต้น​หอม​หมื่น​ลี้​กับ​ดอก​โบตั๋น​ที่​ไม่มีอยู่​จริง​เกิน​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​ ลืม​เรื่อง​ที่จะ​เรียก​หลิว​ตง​เย​ว่​มาพบ​ไป​เสีย​สนิท​

———————————–

[1] 1 ฉื่อ​ = 10 นิ้ว​ ดังนั้น​ 3-4 ฉื่อ​ = 30-40 นิ้ว​

[2] อวี้​ถังฟู่กุ้ย​ ภาพวาด​ดอก​อวี้​หลาน​ ดอก​ไห่​ถัง และ​ดอก​โบตั๋น​

[3] หยวน​จื้อ​ งานเขียน​ที่​ว่าด้วย​เรื่อง​การจัดสวน​ใน​สมัยโบราณ​ของ​จีน

มู่หนานจือ

มู่หนานจือ

Status: Ongoing
นิยายรักย้อนยุค จากนักเขียนดัง ‘จือจือ’ กับการฟาดฟันอันดุเดือดของนางเอกสุดแกร่งในวังหลวง!แม้ เจียงเซี่ยน เป็นถึงสตรีผู้สูงศักดิ์ ทั้งยังได้แต่งงานกับ ‘จ้าวอี้’ ผู้เป็นฮ่องเต้ ทว่าเขามิเคยร่วมหออุ่นเตียงกันจนกระทั่งจากนางไปเมื่อนางต้องกลายเป็นไทเฮา จึงได้โอบอุ้ม ‘จ้าวสี่’ ลูกชายคนเดียวของจ้าวอี้ว่าราชการหลังม่าน ประคองราชวงศ์อย่างยากเข็ญแต่แล้วนางกลับถูกฆ่าตายด้วยถ้วยยาพิษ ที่อยู่ในอุ้งมือของฮ่องเต้น้อยอย่างจ้าวสี่!เมื่อลืมตาตื่นมาอีกครั้ง ก็พบว่าได้ย้อนกลับมาช่วงชีวิตวัยสิบสามปี… ก่อนมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในราชสำนัก‘เหตุใดจ้าวสี่จึงมอบความตายให้นาง?’…แม้โอกาสในการมีชีวิตอาจทำให้ไขปริศนานี้ได้แต่นางขอเลือกเดินในเส้นทางใหม่ ไม่เข้าไปข้องเกี่ยวกับตระกูลจ้าว ไม่สนใจการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินนางขอเพียงมีชีวิตครอบครัวเล็กๆ กับสามีที่วางใจได้ และลูกที่แสนน่ารักทว่า เมื่อนางได้นำพบกับ หลี่เชียน แม่ทัพหนุ่มที่นางเคยรู้สึกเกลียดทุกคราที่พบหน้าชีวิตและความรักของนางจึงกำลังจะพบกับจุดเปลี่ยนอีกครั้ง…หรือ ‘โชคชะตา’ จะนำพาให้เกิดเรื่องราวและวังวนที่ไม่เหมือนเดิม!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท