เจียงเซี่ยนเห็นหลี่เชียนจริงจังและตรงไปตรงมาเหมือนถูกฮ่องเต้เรียกมาเข้าเฝ้าและสั่งให้ตอบคำถามในตำหนักจินหลวน ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงดัง
หลี่เชียนฉวยโอกาสฝังหน้าที่คอของเจียงเซี่ยน และออกแรงสูดหายใจสองสามครั้ง
กลิ่นต้นสนและต้นไป่อ่อนๆ มุดเข้าไปในใจเขา ทำให้ใจของเขาเย็นสบายและสดชื่นขึ้น
เจียงเซี่ยนหน้าร้อนผะผ่าว และผลักหน้าของหลี่เชียนออก...
ทั้งสองคนหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน และลืมเรื่องข้างๆ ไปจนหมดสิ้นอีกครั้ง กระทั่งตื่นมาเช้าวันรุ่งขึ้น ฉิงเค่อพาเหล่าสาวใช้ยกของใช้สำหรับล้างหน้าบ้วนปากเข้ามา เจียงเซี่ยนถึงจะนึกขึ้นได้อย่างกะทันหัน
นางนั่งอยู่ข้างโต๊ะเครื่องแป้ง ใช้ขี้ผึ้งหอมทามือของตนเอง พลางเล่าเรื่องที่เล่นไพ่เป็นเพื่อนฮูหยินเหอเมื่อวานให้หลี่เชียนฟัง “…บ้านก็เหมือนราชสำนักเล็กๆ มีคนอยากได้ผลประโยชน์ มีคนอยากได้ชื่อเสียง แล้วก็ยังมีคนที่แค่อยากใช้ชีวิตอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้อย่างสบายๆ เป็นเพียงสาวใช้ที่กวาดพื้นของเรือนด้านนอก ก็อาศัยว่าเคยถูกนายหญิงเรียกใช้สองสามครั้ง วิ่งมาวิพากษ์วิจารณ์เกินจริงที่ลานบนได้ เรื่องแบบนี้แย่มาก และยิ่งไม่อาจปล่อยปละละเลยได้…ต่อไปหากทุกคนเลียนแบบและทำตาม พวกพ่อบ้านจะคุมงานอย่างไร หากคำพูดของพวกพ่อบ้านใช้ได้ไม่ดีแล้ว ในบ้านจะไม่ต้องวุ่นวายสุดๆ อย่างนั้นหรือ?”
หลี่เชียนได้ยินแล้วก็ถอนหายใจตลอด เขาเดินมานั่งข้างกายเจียงเซี่ยน และจับมือของนางพลางเอ่ยว่า “ฮูหยินไม่รู้ว่าจะดูแลบ้านอย่างไร ทำให้เจ้าลำบากแล้ว! เรื่องนี้ข้าจะหาเวลาที่เหมาะสมบอกท่านพ่อ”
เจียงเซี่ยนพบว่าหลี่เชียนเหมือนจะชอบสัมผัสนางเป็นพิเศษ
ต่อให้ไม่กอดนางไว้ในอ้อมแขนก็ต้องจับมือของนางไว้เช่นกัน
หัวใจของนางอ่อนจนเละไปหมด และแน่วแน่กับการตัดสินใจของตนเองมากขึ้นแล้ว
“ข้าไม่ได้มาร้องทุกข์กับเจ้า” เจียงเซี่ยนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม และปล่อยให้หลี่เชียนเล่นนิ้วมือของตนเอง “ข้ากำลังคิดว่า ในเมื่อฮูหยินดูแลบ้านไม่เป็น ก็ให้คนที่อยู่ข้างกายข้าสอนนางดีกว่า…”
ถึงอย่างไรฮูหยินเหอก็เป็นแม่สามีของนาง ฮูหยินเหอเสียหน้า นางที่เป็นสะใภ้จะบอกว่าไม่เกี่ยวกับตนเองได้อย่างนั้นหรือ?
มอบปลาให้คนอื่นมิสู้สอนวิธีจับปลาให้เขา
ฮูหยินเหอยังสาว หากนางควบคุมอาหารการกินในบ้านดีๆ นางก็สามารถแอบเสวยสุขอยู่เบื้องหลังฮูหยินเหอได้
แต่หลี่เชียนกลับยากที่จะปิดบังความประหลาดใจได้ เขามองนางอย่างตกตะลึง “เจ้า…เจ้ายินดีดูแลบ้านหรือ?”
“ไม่ใช่” เจียงเซี่ยนเม้มปากยิ้ม ความเจ้าเล่ห์ฉายวาบผ่านไปในดวงตาอย่างเบาบาง “ข้าอยากจัดการกฎระเบียบในบ้านหน่อย แล้วบอกฮูหยินเหอว่าดูแลบ้านอย่างไร แบบนี้ก็ไม่ต้องเจอพวกเรื่องกังวลใจทั้งวัน จนเล่นไพ่ก็ยังไม่สงบแล้ว!”
โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ต้องเกิดเรื่องที่เกาเมี่ยวหรงพาสมาชิกในครอบครัวที่เป็นผู้หญิงในวงการขุนนางซานซีมาโดยไม่ถามแบบนี้อีกแล้ว
เรือนของนางไม่ใช่ประตูสวนผักเสียหน่อย เกาเมี่ยวหรงอยากพาใครเข้ามาก็พาเข้ามา เห็นนางเป็นใครกัน?
เจียงเซี่ยนโกรธมาก
นางคิดว่านางเห็นแก่หลี่เชียนและปฏิบัติกับเกาเมี่ยวหรงอย่างสุภาพมาตลอด ทว่าสุดท้ายเกาเมี่ยวหรงกลับตอบโต้นางแบบนี้
เช่นนั้นนางก็จะสอนเกาเมี่ยวหรงว่ากฎระเบียบคืออะไร!
แม้หลี่เชียนจะไม่รู้ว่าเจียงเซี่ยนกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ก็สนับสนุนสิ่งที่นางทำมาก
เขาตบมือของนางอย่างสนิทสนมมาก และเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ท่านพ่อหวังมาตลอดว่าเจ้าจะช่วยฮูหยินดูแลบ้านได้ เวลานี้เจ้ายินดีช่วยฮูหยินจัดการเรื่องในบ้าน ท่านพ่อรู้แล้วจะต้องดีใจมากอย่างแน่นอน เจ้าต้องการอะไรบอกข้ามาได้เลย ข้ารับรองว่าเจ้าพูดอะไรก็จะเป็นอย่างนั้น ในบ้านจะไม่มีใครขัดความต้องการของเจ้า”
จุดประสงค์เดิมของเจียงเซี่ยนก็คือหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากหลี่เชียนกับหลี่ฉางชิง แบบนี้จะประหยัดเวลาและแรงกายแรงใจของนางไปมากมาย
นางยิ้มพลางพยักหน้า และลากหลี่เชียนไปรับประทานอาหารเช้า
แล้วทั้งสองคนก็ไปคารวะหลี่ฉางชิงกับฮูหยินเหอ
เพียงแต่ตอนที่ทั้งสองคนเข้าไป หลี่ฉางชิงไม่รู้ว่ากำลังสั่งสอนหลี่จวีเรื่องอะไรอยู่ เห็นหลี่เชียนกับเจียงเซี่ยนก็ไม่คิดจะหยุดเช่นกัน
เจียงเซี่ยนรีบหลบออกไป
หลี่ฉางชิงอึ้งไปทันทีและทำอะไรไม่ถูก ทว่าในใจกลับแอบรู้ว่าตนเองเหมือนจะทำอะไรผิดอีกแล้ว
เขาจึงไม่มีอารมณ์ต่อว่าหลี่จวีอย่างรุนแรงต่อแล้วเช่นกัน เขาลากหลี่เชียนไปคุยข้างๆ “เจียหนานเป็นอะไรไปอีก? ข้าไม่ได้ว่านางเสียหน่อย นางหลบออกไปทำไม?”
หลี่เชียนจำต้องเอ่ยกับเขาเสียงเบาว่า “ไม่ว่าอย่างไรอาจวีก็เป็นน้องชายสามีของนางเช่นกัน ท่านสั่งสอนอาจวีอยู่ตรงนี้ นางดูอยู่ข้างๆ ต่อไปอาจวียังจะมีหน้าเจอนางได้อย่างไร”
หลี่ฉางชิงหัวเราะ และเอ่ยว่า “ภรรยาของของเจ้านี่ใช้ได้ทีเดียว ยังรู้จักไว้หน้าน้องชายของเจ้าด้วย
หลี่เชียนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
เมื่อก่อนเขาไม่เคยยุ่งพวกเรื่องของเรือนด้านหลังเลย เวลานี้แต่งงานไม่ถึงครึ่งเดือน จิตใจของเขาครึ่งหนึ่งล้วนใช้ไปกับการคาดเดาจิตใจของเจียงเซี่ยน จึงเข้าใจเรื่องของเรือนด้านในมากขึ้นกว่าในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา และยิ่งเข้าใจมากขึ้น เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าเรือนด้านในกำลังตกที่นั่งลำบากจนไม่อาจถอนตัวได้จริงๆ หากไม่จัดการมันให้ดี ก็ยังไม่มีวันที่สงบสุขจริงๆ
ไม่อย่างนั้นจะมีคำกล่าวว่า ‘แม้แต่ห้องห้องหนึ่งยังไม่ปัดกวาด แล้วจะปกครองใต้หล้าได้อย่างไร’ ได้อย่างไร?
เขาฉวยโอกาสบอกความคิดของเจียงเซี่ยนกับหลี่ฉางชิง
หลี่ฉางชิงตื่นเต้นมาก และรีบเอ่ยว่า “ให้นางช่วยสอน ให้นางช่วยสอน หากมีใครกล้าไม่ฟังนาง เจ้าให้นางมาบอกข้าได้เลย ไม่ถูก ให้แม่นมที่มีความสามารถข้างกายนางมาบอกข้า ดูสิว่าข้าจะไม่หวดเขาเจียนตาย” หลี่ฉางชิงเอ่ยจบก็ยังเอ่ยกับหลี่เชียนอย่างค่อนข้างภูมิใจว่า “ข้าพูดแบบนี้ถูกใช่หรือไม่…ให้แม่นมที่มีความสามารถข้างกายนางมาบอกข้า”
หลี่เชียนอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ และเอ่ยติดกันหลายครั้งว่า “ถูกขอรับ ถูกขอรับ!”
“ไอ้ลูกชาย” หลี่ฉางชิงยิ้มพลางด่าลูกชาย ทว่าสีหน้ากลับภูมิใจมากขึ้นเรื่อยๆ ฝีเท้าที่ไปศาลาว่าการต่างก็ผ่อนคลายและมีความสุขไม่น้อย
เจียงเซี่ยนคิดว่าฮูหยินเหอไม่ใช่คนคิดมาก แทนที่จะให้หลี่ฉางชิงบอกเรื่องนี้กับฮูหยินเหอ สู้บอกฮูหยินเหอเองดีกว่า
หลังจากนางคารวะฮูหยินเหอแล้วก็ไม่ได้จากไปเหมือนเช่นเคย แต่ไปจุดธูปที่ห้องเล็กซึ่งจัดเป็นห้องพระเล็กๆ หลังห้องหลักของลานบนกับฮูหยินเหอ
ฮูหยินเหอก็ไม่ใช่คนแบบที่ไม่รู้เรื่องถึงขั้นไม่รู้เรื่องอะไรเลยเช่นกัน
จุดธูปแล้ว นางก็เชิญเจียงเซี่ยนไปดื่มชาที่ห้องพักผ่อนเอง
เจียงเซี่ยนบอกความคิดของตนเองกับฮูหยินเหอ
ฮูหยินเหอโล่งอกทันที นางอยากจะให้เจียงเซี่ยนรับช่วงต่อเรื่องการควบคุมอาหารการกินภายในบ้านไปด้วยทีเดียว และเตือนเจียงเซี่ยนว่า “ท่านก็รู้ว่าตระกูลหลี่มาจากไหนแล้ว ตระกูลของพวกเราไม่มีกฎระเบียบจริงๆ และข้าก็ดูแลบ้านไม่ค่อยเป็นจริงๆ ท่านไม่ต้องกลัว ข้าจะไม่คิดว่าสะใภ้ดูแลครอบครัว ข้าก็ไม่มีประโยชน์แล้ว และไม่รู้กาลเทศะอย่างแน่นอน ข้ามอบป้ายไม้ในตระกูลกับสมุดบัญชีของเรือนด้านในให้ท่านแล้วกัน ท่านไม่รู้หรอก ช่วงนี้ข้ากับแม่นมเหมียวสะสางบัญชีตอนที่พวกท่านแต่งงานก็ทำให้ข้าเวียนศีรษะตาลายแล้ว ข้าอยากให้ท่านหรือคนของท่านมาคุมเรื่องพวกนี้จริงๆ”
เจียงเซี่ยนยิ้ม
นางรู้สึกได้ถึงความจริงใจและความจนปัญญาตอนที่ฮูหยินเหอพูด
“ข้ารู้ว่าท่านจริงใจ” นางคุยกับฮูหยินเหอเบาๆ ด้วยเสียงอ่อนโยน “แต่ท่านเคยคิดหรือไม่ว่า น้องหญิงยังไม่แต่งงาน หากท่านไม่ดูแลเรื่องในบ้านเร็วขนาดนี้ ตอนที่คุยเรื่องแต่งงาน น้องหญิงจะทำอย่างไร?”
หากเมื่อก่อนฮูหยินเหอกล้าหาญ แล้วมอบอำนาจในการดูแลบ้านให้สะใภ้ คนอื่นมีแต่จะเอ่ยว่านางกำลังเสวยสุข ทว่าเมื่อก่อนฮูหยินเหอดูแลบ้านเละเทะไปหมด มอบอำนาจในการดูแลบ้านให้สะใภ้ที่มาจากตระกูลที่มั่งคั่งและมีอำนาจมากที่สุดอีก ก็มีแต่จะลงเอ่ยด้วยชื่อเสียงว่าไร้ความสามารถ
มารดาแบบไหนก็สอนลูกสาวออกมาแบบนั้น
ต่อให้ฮูหยินเหอจะเลอะเลือนแค่ไหน ก็ยังเข้าใจเหตุผลนี้
นี่เจียงเซี่ยนกำลังคิดเพื่อนางทุกอย่างหรือ!
ฮูหยินเหออดไม่ได้ที่จะจับมือของเจียงเซี่ยนแน่น และเอ่ย “ขอบคุณ” ด้วยน้ำตาคลอเบ้า นางเอ่ยพลางถอนใจว่า “คุณชายใหญ่ได้แต่งงานกับท่าน เป็นเรื่องที่ดีมากของตระกูลหลี่จริงๆ”
————————————