มู่หนานจือ – บทที่ 317 มอบให้

มู่หนานจือ

ทาง​เจียง​เซี่ยน​จัดการ​เรื่อง​แสดง​งิ้ว​เรียบร้อย​แล้วก็​เริ่ม​สนใจ​เรื่อง​ชา เหล้า​ และ​ลูกอม​

ดี​ที่​จัดการ​เรื่อง​ของ​เรือน​ด้านหลัง​เรียบร้อย​แล้ว​ และ​นาง​ก็​ใช้กฎ​เข้มงวด​ ใน​บ้าน​จึงค่อยๆ​ กลายเป็น​เงียบสงบ​ขึ้น​ และ​ห​ลี่​ไท่​ก็​เป็น​คน​ที่​มีความสามารถ​ จึงจัดการ​เรื่อง​พวก​นี้​อย่าง​เร็ว​มาก​เช่นกัน​

เจียง​เซี่ยน​ก็​เริ่ม​หา​สถานที่​จัด​งานเลี้ยงต้อนรับ​

เดือน​เจ็ด​อากาศ​ร้อน​มาก​ หา​ศาลา​ริมน้ำ​สัก​แห่ง​จะดี​ที่สุด​ มีลม​พัด​มาจาก​ผิวน้ำ​ อากาศ​ร้อนใน​ฤดูร้อน​ก็​ลดลง​ครึ่งหนึ่ง​ เสียดาย​ที่​ตระกูล​ห​ลี่​ใหญ่​เพียง​แค่นี้​ ทั้ง​เรือน​มีสระน้ำ​อยู่​สามแห่ง​ แห่ง​หนึ่ง​อยู่​ที่​เรือน​ตะวันออก​ แห่ง​หนึ่ง​อยู่​ที่​เรือน​ตะวันตก​ และ​แห่ง​หนึ่ง​อยู่​ที่​เรือน​เล็ก​ที่​เกา​ฝูอวี้​อาศัย​อยู่​

นาง​คิดไปคิดมา​ ก็​ตัดสินใจ​ว่า​จัด​สถานที่​จัด​งานเลี้ยงต้อนรับ​ที่​เรือน​ตะวันออก​ของ​ฮูหยิน​เห​อ​ดีกว่า​

ไป่​เจี๋ย​ยิ้ม​พลาง​เอ่ย​ว่า​ “ท่าน​จะไปดู​สักหน่อย​หรือไม่​?”

เพราะ​สถานที่​เล็ก​ หาก​สถานที่​ที่​จัด​งานเลี้ยงต้อนรับ​สามารถ​ดู​งิ้ว​ได้​ด้วย​จะดี​ที่สุด​ และ​การ​หา​สถานที่​แสดง​งิ้ว​หรือ​ตั้ง​เวที​ก็​ยัง​ต้อง​ให้​คน​ที่​มีประสบการณ์​ไปดู​สักหน่อย​จริงๆ​ ไม่อย่างนั้น​ไกล​ไป​ก็​จะไม่ได้ยิน​ ใกล้​ไป​ก็​จะเสียงดัง​เกินไป​

เจียง​เซี่ยน​ไป​ที่​เรือน​ของ​ฮูหยิน​เห​อ​ โดย​ไป๋​เจี๋ย​ถือ​ร่ม​บัง​แดด​ให้​

ระหว่างทาง​ พวก​นาง​ผ่าน​ประตู​ข้าง​

ประตู​กับ​หน้าต่าง​ของ​ห้อง​ข้าง​ห้อง​หนึ่ง​ที่อยู่​ไม่ไกล​เปิดกว้าง​ สาวใช้​ที่​อายุ​ยัง​น้อย​สิบ​กว่า​คน​กำลัง​ก้มหน้า​เขียน​อะไร​บางอย่าง​อยู่​บน​โต๊ะ​ บริเวณ​โดยรอบ​เงียบ​มาก​ ได้ยิน​เพียง​เสียง​จักจั่น​เป็นระยะ​ พวก​สาวใช้​ร้อน​จน​บน​หน้าผาก​และ​ปลายจมูก​เต็มไปด้วย​เหงื่อ​

เจียง​เซี่ยน​ชะงัก​ฝีเท้า​

ไป่​เจี๋ย​เอ่ย​เสียง​เบา​ว่า​ “สาวใช้​สอง​สามคน​ที่​เรียน​เขียนหนังสือ​กับ​ฉิงเค่อ​ อาศัย​เวลาว่าง​ที่​ไม่เข้าเวร​มาเรียน​รู้หนังสือ​ที่นี่​เจ้าค่ะ​”

“สอง​สามคน​?” เจียง​เซี่ยน​ปรายตา​มอง​ห้อง​ข้าง​ครั้งหนึ่ง​

ไป่​เจี๋ย​รีบ​เอ่ย​ว่า​ “ท่านหญิง​ ตอนแรก​มีแค่​สอง​สามคน​จริงๆ​ เจ้าค่ะ​ ตอนหลัง​ทุกคน​เห็น​พี่​ฉิงเค่อ​สอน​พวก​นาง​อย่าง​จริงใจ​ และ​คนรับใช้​ข้าง​กาย​ท่าน​ก็​ล้วน​รู้หนังสือ​เล็กน้อย​ จึงต่าง​ใจกล้า​มาขอร้อง​กัน​ พี่​ฉิงเค่อ​บอ​กว่า​ สอน​คน​หนึ่ง​ก็​สอน​ สอน​สอง​คน​ก็​สอน​ และ​รับ​คน​ไว้​หมด​ เพราะ​ล้วน​มากัน​เฉพาะ​เวลาว่าง​ เพิ่งจะ​สอน​ได้​ไม่กี่​วัน​ ก็​ไม่รู้​เหมือนกัน​ว่า​พวก​นาง​จะทน​ได้​หรือไม่​ พี่​ฉิงเค่อ​จึงบอ​กว่า​ อีก​สอง​วัน​ค่อย​บอก​ท่าน​เจ้าค่ะ​”

“แบบนี้​ดีมาก​!” เจียง​เซี่ยน​ไม่ค่อย​ชอบ​คุม​เรื่อง​ของ​เรือน​ด้านใน​ ดังนั้น​จึงชอบ​มาก​ที่​ฉิงเค่อ​สามารถ​ตัดสินใจ​เอง​ได้​โดย​ไม่เป็นอันตราย​ต่อ​ทุกสิ่งทุกอย่าง​ “คน​ฉลาด​ขึ้น​จาก​การเรียนหนังสือ​ พวก​เจ้าตั้งใจ​สอน​คน​พวก​นี้​ ต่อไป​เวลา​ที่​ใน​จวน​มีเรื่อง​อะไร​ก็​ไม่จำเป็นต้อง​เปลือง​แรง​อธิบาย​มาก​ขนาด​นั้น​แล้ว​เช่นกัน​”

ทั้งสอง​คน​เอ่ย​พลาง​เดิน​ไป​ที่​เรือน​ตะวันออก​

ฮูหยิน​เห​อ​ไม่อยู่​ที่​เรือน​ บอ​กว่า​ไป​เรือน​ของ​ตง​จื้อ​

เจียง​เซี่ยน​คิด​ว่า​พระอาทิตย์​ดวง​ใหญ่​ขนาด​นี้​ นาง​ก็​มาแล้ว​ ยัง​จะกลับ​ไป​มือเปล่า​อีก​อย่างนั้น​หรือ​?

นาง​จึงให้​สาวใช้​นำทาง​ไป​เรือน​ของ​ห​ลี่​ตง​จื้อ​เสีย​เลย​

ที่​เรือน​ของ​ห​ลี่​ตง​จื้อ​ก็​เปิด​หน้าต่าง​กว้าง​เช่นกัน​ สาวใช้​สอง​คน​ยืน​อยู่​ตรง​ทางเดิน​ใต้​ต้นไม้​ที่​แสงแดด​ส่อง​ไม่ถึงและ​พิง​เสาที่​ทาสี​แดงเข้ม​และ​ใหญ่​ขนาด​หนึ่ง​คนโอบ​พลาง​สัปหงก​

เจียง​เซี่ยน​เห็น​แล้วก็​พยักหน้า​เล็กน้อย​

ก่อนที่จะ​จัดระเบียบ​งาน​ภายใน​ อย่า​ว่าแต่​อากาศ​ที่​ร้อน​มาก​แบบนี้​เลย​ กระทั่ง​ช่วงต้น​ฤดู​ร้อนที่​มีลม​เย็น​พัด​เบา​ๆ พวก​สาวใช้​ที่​เข้าเวร​ต่าง​ก็​จะหา​ข้ออ้าง​กลับ​ไป​พัก​ที่​ห้อง​ของ​ตนเอง​

นาง​กับ​ไป่​เจี๋ย​ขึ้น​บันได​

มารยาท​ที่​ดี​ทำให้​หยก​แขวน​ที่​ใช้ควบคุม​การ​เดิน​ไม่ให้​ก้าว​ใหญ่​เกินไป​จน​เสียมารยาท​ตรง​เอว​ของ​นาง​ไม่มีแม้แต่​เสียง​กระทบ​

สาวใช้​สอง​คน​ที่​ไม่กล้า​หลับสนิท​ตกใจ​ตื่น​ใน​ทันใด​

“ท่า​น.​..ท่านหญิง​…” พอ​เห็น​เจียง​เซี่ยน​ ทั้งสอง​คน​ก็​ตกใจ​จน​คุกเข่า​ลง​บน​พื้น​ทันที​

เจียง​เซี่ยน​มอง​สาวใช้​ทั้งสอง​คน​ครั้งหนึ่ง​ และ​สั่งไป่​เจี๋ย​ว่า​ “เรื่อง​นี้​มอบให้​เจ้าแล้ว​!” และ​เข้าไป​ใน​ห้อง​

ใน​ห้อง​ ห​ลี่​ตง​จื้อ​กับ​เห​อถง​เหนียง​นั่งขัดสมาธิ​เคียงข้าง​กัน​เขียนหนังสือ​อยู่​บน​เตียง​อรหันต์​ใน​ห้อง​พักผ่อน​ สาวใช้​เจ็ด​แปด​คน​กำลัง​พัด​อยู่​รอบ​พวก​นาง​ มุมหนึ่ง​ใน​ห้อง​กอง​ภูเขาน้ำแข็ง​เอาไว้​ ส่งความ​เย็น​ออกมา​เล็กน้อย​ ฮูหยิน​เห​อ​กับ​ป้า​เห​อ​นั่ง​โบก​พัด​อยู่​ข้าง​ภูเขาน้ำแข็ง​ด้วย​สีหน้า​เต็มไปด้วย​รอยยิ้ม​ ส่วน​เกา​เมี่ยวหรง​นั้น​สวม​เสื้อ​ชั้นเดียว​ผ้าไหม​สีชมพู​ กำลัง​ยืน​อยู่​ข้าง​เตียง​อรหันต์​ด้วย​ผิว​ขาวนวล​ไร้​เหงื่อ​ ดู​ห​ลี่​ตง​จื้อ​กับ​เห​อถง​เหนียง​เขียนหนังสือ​

พอ​ได้ยิน​เสียง​ คน​ที่อยู่​ใน​ห้อง​ต่าง​ก็​เงยหน้า​ขึ้น​มา และ​ทำ​หน้า​ประหลาดใจ​

เจียง​เซี่ยน​ก็​แปลกใจ​เล็กน้อย​เช่นกัน​

นาง​คิดไม่ถึง​ว่า​วันที่​ร้อน​แบบนี้​ห​ลี่​ตง​จื้อ​กับ​เห​อถง​เหนียง​ยัง​ฝึก​คัด​ตัวอักษร​อยู่​อีก​

ป้า​เห​อ​ยังคง​เป็น​คน​แรก​ที่​ตั้งสติ​ได้​

“ท่านหญิง​มาแล้ว​!” นาง​ลุกขึ้น​และ​เดิน​มาหา​เจียง​เซี่ยน​ด้วย​สีหน้า​เต็มไปด้วย​รอยยิ้ม​ แล้ว​เอ่ย​ว่า​ “อากาศ​นี้​ก็​ร้อน​เกินไป​แล้ว​เช่นกัน​ พวกเรา​อยู่​ใน​เรือน​ต่าง​ก็​นั่ง​ไม่ค่อย​ได้​แล้ว​ แต่​ปี​นี้​กว่า​พวกเรา​จะกลับ​ไท่​หยวน​ก็​ช่วง​เดือน​สาม จึงไม่ได้​สั่งน้ำแข็ง​กับ​คลัง​น้ำแข็ง​ล่วงหน้า​ ทำให้​ตอนนี้​ใน​จวน​ไม่ได้​เก็บ​น้ำแข็ง​ไว้​สัก​เท่าไร​ พอ​รู้​ว่า​เพราะ​พวก​ตง​จื้อ​ต้อง​ฝึก​คัด​ตัวอักษร​ ทุก​บ่าย​จึงจะกอง​น้ำแข็ง​สอง​สามก้อน​วาง​ไว้​ใน​มุม พวกเรา​เลย​มาอยู่​ด้วย​ คิด​ว่า​ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​สามารถ​ประหยัด​น้ำแข็ง​ให้​ใน​จวน​ได้​สัก​สอง​สามก้อน​…”

เอ่ย​อย่าง​ซื่อตรง​

เจียง​เซี่ยน​เม้มปาก​ยิ้ม​

น้องสาว​ทั้งสอง​คน​ของ​สามีรีบ​ลง​มาจาก​บน​เตียง​อรหันต์​ และ​คารวะ​เจียง​เซี่ยน​ คน​หนึ่ง​เรียก​ “พี่สะใภ้​ใหญ่​” อีก​คน​เรียก​ “พี่สะใภ้​”

ส่วน​ฮูหยิน​เห​อ​ก็​รีบ​สั่งให้​เสี่ยว​ฮุ่ย​ยก​ม้านั่ง​มาให้​เจียง​เซี่ยน​ “ไป​วาง​ตรง​เตียง​อรหันต์​ จะได้​ไม่ถูก​อากาศ​หนาว​ เดี๋ยว​หนาว​เดี๋ยว​ร้อน​เช่นนี้​ ป่วย​ง่าย​ที่สุด​แล้ว​”

เจียง​เซี่ยน​ยิ้ม​พลาง​รับ​ความหวังดี​ของ​ฮูหยิน​เห​อ​ แล้วไป​ยืน​ข้าง​เตียง​อรหันต์​ และ​ถามถึงการเรียน​ของ​ห​ลี่​ตง​จื้อ​กับ​เห​อถง​เหนียง​

ห​ลี่​ตง​จื้อ​เอ่ย​อย่าง​นอบน้อม​ว่า​ “พี่​เกา​บอ​กว่า​ หลาย​วันนี้​อากาศ​ร้อน​เกินไป​ ว้าวุ่น​ใจง่าย​ จึงหยุด​การเรียน​ไป​ก่อน​ ทุก​บ่าย​ฝึก​คัด​ตัวอักษร​สอง​ชั่ว​ยาม​ สงบจิตสงบใจ​ ไว้​ผ่าน​เทศกาล​ไหว้​พระจันทร์​ไป​แล้ว​ ค่อย​สอน​บทเรียน​ใหม่​เจ้าค่ะ​”

ส่วน​เห​อถง​เหนียง​เอ่ย​พึมพำ​ว่า​ “ข้า​…ข้า​เพิ่งจะ​อ่าน​ ‘คัมภีร์​กตัญญู​’ จบ​ ว่าง​ไม่มีอะไร​ทำ​ จึงฝึก​คัด​ตัวอักษร​เป็นเพื่อน​น้อง​หญิง​เจ้าค่ะ​”

เจียง​เซี่ยน​ตั้งใจ​มอง​ลายมือ​ของ​เห​อถง​เหนียง​

สิ่งที่​คัด​คือ​อักษร​บรรจง​ของ​ฮูหยิน​เว่ย​ ค่อนข้าง​มีพื้นฐาน​ทีเดียว​

นา​งอด​ที่จะ​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ไม่ได้​ว่า​ “น้อง​หญิง​ลายมือ​สวย​กว่า​ข้า​เสีย​อีก​!”

“ไม่หรอก​ ไม่หรอก​!” เห​อถง​เหนียง​เอ่ย​เสียง​เบา​ อยาก​ถ่อมตน​สักหน่อย​ ก็​ไม่รู้​จะเริ่ม​พูด​จาก​ตรงไหน​ดี​ จึงยืน​ทำ​อะไร​ไม่ค่อย​ถูก​อยู่​ตรงนั้น​

ป้า​เห​อ​เกลียด​ที่​ลูกสาว​ไม่ได้เรื่อง​ ทว่า​ก็​ไม่อาจ​ตำหนิ​ลูกสาว​ต่อหน้า​เจียง​เซี่ยน​ได้​ จึงรู้สึก​ร้อนใจ​มาก​

ใคร​จะรู้​ว่า​เจียง​เซี่ยน​จะเอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ “ข้า​พูด​จริงๆ​ หาก​เจ้าไม่เชื่อ​ วัน​ไหน​ข้า​เขียน​ให้​เจ้าดู​สัก​สอง​สามตัว​ เจ้าก็​รู้​แล้ว​ แต่​ใน​เมื่อ​เจ้าฝึก​ฮูหยิน​เว่ย​ ก็​คิด​ว่า​จะต้อง​ชอบ​จงเหยา​[1]มาก​เช่นกัน​อย่าง​แน่นอน​ ที่​ข้า​มี ‘แบบ​ลี่​มิ่ง’ ที่​วัง​เจิน​นักเขียน​พู่กัน​จีน​ใน​ราชวงศ์​ก่อน​คัด​ตอน​อายุ​ยัง​น้อย​อยู่​พอดี​ มอบให้​เจ้าแล้วกัน​ เดี๋ยว​เจ้าอย่า​ลืม​ให้​สาวใช้​ไป​เอา​ที่​เรือน​ของ​ข้า​ล่ะ​”

‘แบบ​ลี่​มิ่ง’ เป็นผล​งานชิ้นเอก​ของ​จงเหยา​ ของแท้​ไม่รู้​ไป​ไหน​ตั้ง​นาน​แล้ว​ และ​วัง​เจิน​ก็​เป็น​นักเขียน​พู่กัน​จีน​อันดับ​ต้น​ๆ ของ​ราชวงศ์​ก่อน​ ผลงาน​ของแท้​ของ​เขา​ก็​มีค่า​มาก​เช่นกัน​ ถึงแม้ ‘แบบ​ลี่​มิ่ง’ ที่​เขา​คัด​จะเทียบ​จงเหยา​ไม่ได้​ นั่น​ก็​เป็น​ของล้ำค่า​ที่​ทำได้​เพียง​เฝ้ารอ​และ​ไม่สามารถ​บังคับ​ได้​เช่นกัน​

เห​อถง​เหนียง​อึ้ง​ไป​ตรงนั้น​

เกา​เมี่ยวหรง​ยิ่ง​สีหน้า​นิ่ง​ แล้ว​ความ​หม่นหมอง​ก็​ฉาย​วาบ​ผ่าน​ไป​ใน​ดวงตา​อย่าง​เบาบาง​

‘แบบ​ลี่​มิ่ง’ ที่​วัง​เจิน​คัด​ เจียง​เซี่ยน​ก็​มอบให้​เห​อถง​เหนียง​แบบนี้​

เหมือน​มอบ​ผักกาด​ขาว​ให้​

เจียง​เซี่ยน​รู้​หรือไม่​ว่า​ลายมือ​นั้น​มีค่า​แค่​ไหน​กัน​แน่​?

เกา​เมี่ยวหรง​อัดอั้นตันใจ​ จน​พูด​อะไร​ไม่ออก​สัก​คำ​นาน​มาก​

ทว่า​เห​อถง​เหนียง​ได้สติ​กลับมา​แล้ว​

นาง​โบกมือ​ติดกัน​หลายครั้ง​ “พี่สะใภ้​ ไม่ได้​ ไม่ได้​ มีค่า​มากเกินไป​ ข้า​รับ​ไว้​ไม่ได้​เจ้าค่ะ​!”

เจียง​เซี่ยน​ยิ้ม​และ​เอ่ย​ว่า​ “ของมีค่า​ควร​มอบให้​คน​ที่​เหมาะสม​ใช้ถึงจะสามารถ​แสดง​ผลลัพธ์​ออกมา​ได้​อย่าง​เต็มที่​ น้อง​หญิง​ชอบ​พอดี​ เช่นนั้น​ก็​ไม่มีอะไร​จะดี​ไป​กว่า​อีกแล้ว​ ส่วน​มีค่า​หรือไม่​ นั่น​ก็​แตก​ต่างกัน​ไป​ตาม​แต่ละคน​เช่นกัน​ อย่าง​ข้า​นั้น​…ชอบ​อักษร​กึ่ง​หวัด​มากกว่า​อักษร​บรรจง​ ‘แบบ​ลี่​มิ่ง’ อยู่​กับ​ข้า​ ก็​เพียงแค่​เก็บ​ไว้​ก้น​หีบ​และ​เอา​ออกมา​ตากแดด​เป่า​ลม​ทุกวัน​ที่หก​เดือน​หก​ ดังนั้น​มอบให้​น้อง​หญิง​ชมดีกว่า​”

ทว่า​นี่​ก็​มีค่า​เกินไป​แล้ว​เช่นกัน​!

เห​อถง​เหนียง​ยัง​อยาก​ปฏิเสธ​ ป้า​เห​อ​ก็​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​แล้ว​ว่า​ “ใน​เมื่อ​เป็น​สิ่งที่​พี่สะใภ้​ของ​เจ้ามอบให้​ เจ้าก็​รับ​เอาไว้​เถอะ​ พี่สะใภ้​ของ​เจ้าบอก​แล้ว​ไม่ใช่หรือว่า​ นาง​ชอบ​อักษร​กึ่ง​หวัด​ ต่อไป​หาก​เจ้าเจอ​แบบ​คัดลายมือ​ที่​ดี​ ก็​อย่า​ลืม​ซื้อ​มาให้​พี่สะใภ้​ของ​เจ้าแล้วกัน​ คนใน​ครอบครัว​…ไม่จำเป็นต้อง​เกรงใจ​เช่นนี้​”

————————————

[1] จงเหยา​ นักเขียน​พู่กัน​จีน​ที่​มีชื่อเสียง​ใน​สมัย​สามก๊ก​

มู่หนานจือ

มู่หนานจือ

Status: Ongoing
นิยายรักย้อนยุค จากนักเขียนดัง ‘จือจือ’ กับการฟาดฟันอันดุเดือดของนางเอกสุดแกร่งในวังหลวง!แม้ เจียงเซี่ยน เป็นถึงสตรีผู้สูงศักดิ์ ทั้งยังได้แต่งงานกับ ‘จ้าวอี้’ ผู้เป็นฮ่องเต้ ทว่าเขามิเคยร่วมหออุ่นเตียงกันจนกระทั่งจากนางไปเมื่อนางต้องกลายเป็นไทเฮา จึงได้โอบอุ้ม ‘จ้าวสี่’ ลูกชายคนเดียวของจ้าวอี้ว่าราชการหลังม่าน ประคองราชวงศ์อย่างยากเข็ญแต่แล้วนางกลับถูกฆ่าตายด้วยถ้วยยาพิษ ที่อยู่ในอุ้งมือของฮ่องเต้น้อยอย่างจ้าวสี่!เมื่อลืมตาตื่นมาอีกครั้ง ก็พบว่าได้ย้อนกลับมาช่วงชีวิตวัยสิบสามปี… ก่อนมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในราชสำนัก‘เหตุใดจ้าวสี่จึงมอบความตายให้นาง?’…แม้โอกาสในการมีชีวิตอาจทำให้ไขปริศนานี้ได้แต่นางขอเลือกเดินในเส้นทางใหม่ ไม่เข้าไปข้องเกี่ยวกับตระกูลจ้าว ไม่สนใจการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินนางขอเพียงมีชีวิตครอบครัวเล็กๆ กับสามีที่วางใจได้ และลูกที่แสนน่ารักทว่า เมื่อนางได้นำพบกับ หลี่เชียน แม่ทัพหนุ่มที่นางเคยรู้สึกเกลียดทุกคราที่พบหน้าชีวิตและความรักของนางจึงกำลังจะพบกับจุดเปลี่ยนอีกครั้ง…หรือ ‘โชคชะตา’ จะนำพาให้เกิดเรื่องราวและวังวนที่ไม่เหมือนเดิม!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท