บทที่ 133 สัตว์สงคราม[รีไรท์]
บทที่ 133 สัตว์สงคราม[รีไรท์]
เมื่อเห็นแบบนั้นฉู่เหินจึงเรียกใช้ระบบเชื่อมโลกาที่เขามีทันที หลังจากเสียค่าประสบการณ์ไปนิดหน่อย ในที่สุดเขาก็สามารถอ่านข้อความในสมุดบันทึกนั้นได้ ภายในสมุดเล่มนั้น มันได้เขียนเกี่ยวกับห้องทดลองที่เหลืออยู่ช่วงสมัยสงคราม
ในนั้นบอกไว้ว่าคนพวกนี้ก็คือผู้ที่ฟื้นคืนชีพขึ้นจากความตาย หรือก็คือซอมบี้ดี ๆ นั่นเอง
บันทึกเล่มนี้เป็นของชายที่ชื่อ ฮิกาชิอุระ อิจิโระ ตามที่บันทึกเอาไว้ ภายในสมุดเล่มนี้มันได้พูดถึง ฮิกาชิอุระ อิจิโระ ว่าหลังจากความพ่ายแพ้ในสงคราม คนเหล่านี้ก็ยังไม่เต็มใจที่จะล่าถอย อย่างไรก็ตามปัญหาเรื่องการขาดแคลนน้ำและอาหารก็ถือเป็นว่าหนักหนาพอสมควร พวกเขาฝืนอยู่ได้ไม่นานก็ค่อย ๆ กลายเป็นเหมือนกับต้นไม้ที่เหี่ยวเฉา ทว่าไฟแห่งความมุ่งมั่นในการวิจัยกลับไม่เคยมอดดับลง พวกเขายังคงไม่ยอมแพ้ต่อการทดลองตรงหน้า
ความตั้งใจที่มากเกินไปจนกลายเป็นความลุ่มหลง มันมากเสียจนในที่สุดเมื่อพวกเขาหมดสติ พวกเขาก็ยังคงพยายามอย่างไม่หยุดหย่อน แต่เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาก็ล้มลง หลังจากนั้นศพเหล่านี้ก็อยู่ที่นี่และดึงดูดมดและหนูจำนวนนับไม่ถ้วนเข้ามา
ตอนแรกพวกเขาทดลองกับสิ่งของ แต่ในตอนนี้พวกเขาหันมาทดลองกับพวกหนู ด้วยการทดลองอันแสนยาวนาน เขาไม่รู้ว่าอะไรทำให้มันเป็นแบบนี้ เป็นเพราะว่าตอนนี้พวกเขามีชีวิตรอดในอีกรูปแบบหนึ่งที่ต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช่ผีหรือปีศาจที่สร้างโลกใต้ดินอันน่าสยดสยองแห่งนี้ แต่ฉู่เหินก็ไม่อาจให้คนพวกนี้อยู่ในโลกนี้ได้ หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน ฉู่เฟิงก็ถูกสั่งให้จัดการพวกมัน
เคร้ง! ดาบยาวของฉู่เฟิงฟันไปที่ข้างหน้าอย่างแรง แต่แล้วมันก็มีสิ่งที่ทำให้ทุกคนคาดไม่ถึง พวกเขารู้ดีว่าดาบยาวนี้คมแค่ไหน แต่มันกลับไม่สามารถเจาะผิวหนังของคู่ต่อสู้ได้เลย และหลังจากที่ทั้งสองปะทะกัน มันก็เสียงที่ปะทะกันของโลหะ ซึ่งมันน่าฟังดูกลัวเกินไม่ใช่น้อย
ศพที่ถูกฟันหันกลับมามองด้วยดวงตาสีแดงก่ำ จากนั้นนิ้วที่ปกติก็กลายเป็นบิดเบี้ยว ชุดเกราะที่แหลมคมเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเขี้ยวในปากของเขาที่มีจำนวนมากขึ้นในพริบตา
หลังจากเห็นภาพนี้ฉู่เหินก็ถึงกับตกตะลึงและตัวสั่น ซอมบี้อีก 2 ตัวที่เหลือ พวกมันเองก็เข้ามาช่วยสู้กับฉู่เฟิง จนตอนนี้หุ่นเชิดของเขาถูกล้อมไปทุกทิศทางแล้ว ผิวหนังของพวกมันหนาเกินไป ฉู่เฟิงทำอะไรพวกมันไม่ได้เลย
หลังจากปล่อยให้ทั้งสองฝ่ายปะทะกันอยู่ครู่หนึ่ง ฉู่เหินก็รู้ดีว่าเขาไม่อาจยื้อแบบนี้ต่อไปได้ ไม่งั้นแล้วเสียงการต่อสู้จะดึงดูดพวกหนูทดลองเหล่านั้นให้มาเสริมกำลัง และในเมื่อดาบคม ๆ ใช้ไม่ได้ผล ดังนั้นฉู่เหินจึงเก็บดาบวงพระจันทร์ลงไปแล้วใช้พัดของเขาแทน
ชายหนุ่มบอกให้โจวหู่ปกป้องเว่ยตงจื่อ จากนั้นก็พุ่งตัวเองออกไปเพื่อใช้พัดที่ได้รับการเสริมพลังมาแล้วเพื่อจัดการพวกมันด้วยความรวดเร็ว
ฉู่เหินพุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็วอยู่ตรงหน้าพวกครึ่งคนครึ่งผี เขาใช้พัดของเขาซัดจนร่างซอมบี้พวกนั้นกระเด็นไปกระแทกกับอีกตัวหนึ่งจนเกิดเสียงดังก้อง ซึ่งนั่นก็ทำให้มือของฉู่เหินถึงกับชาจากแรงกระแทกที่เกิดขึ้นจนพัดเกือบหลุดออกจากมือ
แรงสะท้อนเกิดขึ้นรุนแรงจนทำให้ชายหนุ่มถอยหลังกลับออกมา เขาแทบไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น ฉู่เหินรู้สึกเหมือนกับว่าเมื่อครู่เขาได้กระแทกเข้ากับหินก้อนยักษ์ แต่ถึงอย่างงั้นแล้ว ตัวพวกซอมบี้ก็ดูเหมือนจะไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย เมื่อภาพสิ่งเกิดขึ้น นี่ก็ทำเอาเขาหวาดหวั่นอยู่ไม่ใช่น้อย
ทำแบบนี้ก็ไม่ได้ผล แผนการอื่นก็ไม่มี ดูแล้วฉู่เหินคงไม่มีทางเลือกนอกจากจะต้องฝ่าฟันอุปสรรคออกไปกันเอง เขาไม่มั่นใจเลยว่าจะจัดการซอมบี้ตัวนี้ได้ไหม ดูเหมือนว่าการจัดการซอมบี้พวกนี้จะยากกว่าการช่วยเว่ยตงจื่อเสียอีก
หลังจากซัดร่างของซอมบี้เข้าไปอีกครั้ง ขาของฉู่เหินก็ชาไปทั้งท่อน ร่างของพวกนี้มันแข็งเกินไปแล้ว ไม่มีทางที่จะอัดมันให้ล้มได้เลย ตอนแรกเขาคิดจะหนี แต่แล้วฉู่เหินก็คิดได้ว่าถ้าหากปล่อยพวกนี้ไปอยู่บนโลกละก็คงได้เป็นปัญหาใหญ่แน่ ๆ
ถึงแม้เขาจะไม่ใช่ผู้ปลดปล่อยหรือผู้กอบกู้อะไรทั้งนั้น แต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นแบบนี้กับเขาแล้ว จะให้เขายอมถอยไปแบบนี้งั้นเหรอ?
พวกซอมบี้พากันโกรธจัด พวกมันกำลังวิจัยงานอยู่แท้ ๆ แต่กลับถูกรบกวนจากอะไรก็ไม่รู้ ตอนนี้พวกมันพร้อมที่จะกินผู้บุกรุกตรงหน้าพวกมันแล้ว
พวกมันอ้าปากเผยให้เห็นเขี้ยวยาวและน้ำลายที่ยืดลงมาพร้อมกับรอยเลือดที่ผสมลงมาด้วยเช่นกัน ดูน่ากลัวไม่ใช่น้อย
ถึงโจวหู่จะถูกกันออกมาจากการต่อสู้ แต่เขาก็ไม่ได้นิ่งไปเสียทีเดียว เขาหยิบมือถือขึ้นมาแล้วถ่ายวิดีโอเหตุการณ์เอาไว้ทั้งหมด และต่อให้มันโดนรีพอร์ตแน่ ๆ บนเน็ต แต่เขาก็คิดว่ามันน่าจะได้ยอดดูถึงล้านแน่ ไม่ใช่เพราะความเบื่อหน่ายหรอกนะ แต่เป็นเพราะว่าจะเก็บไปศึกษาทีหลังต่างหาก
พวกซอมบี้น่ากลัวมาก มันฟาดมือใส่ฉู่เหินทีเดียวก็ทำเอาพัดแทบหลุดออกจากมือของเขาไปแล้ว แถมที่หูและจมูกของพวกมันก็ยังมีเลือดไหลออกมาไม่หยุดอีกด้วย
ฉู่เหินยิ้มออกมาอย่างดุเดือด เขาไม่คิดว่าจะได้เจอศัตรูแบบนี้มาก่อน ชายหนุ่มจึงค่อย ๆ ถอยตัวออกมาดูเชิง
หลังจากเห็นภาพนี้แล้ว ฉู่เหินก็ไม่คิดว่าเขาจะต้องออมมืออีกต่อไป เพราะเขารู้ว่าถ้าฉู่เฟิงแพ้ทุกคนก็จะตายกันหมด
“ไม่เบาเลยนี่นา พวกนายนี่มีฝีมือเอาเรื่องเลย แต่พวกนายอันตรายเกินไป เพราะอย่างนั้นฉันจะฝึกพวกนายเอง!” ฉู่เหินพุ่งเข้าไปหาอีกฝ่ายอย่างดุเดือด ในเวลานี้จะมัวอ้อยอิ่งไม่ได้แล้ว!
ในจังหวะที่โจวหู่กำลังสงสัย ฉู่เหินก็โบกมือแล้วเรียกหม้อสามขาออกมา จากนั้นฉู่เหินก็เปิดฝาครอบด้านบนก่อนจะดูดซอมบี้เข้าไปในนั้น ด้วยแรงดูดอันมหาศาล พวกมันตัวหนึ่งจึงถูกขังเอาไว้ข้างในโดยไม่อาจต่อต้านได้เลยแม้แต่น้อย
หลังจากที่ฝาครอบด้านบนโค้งงอขึ้น เปลวไฟก็ปรากฏขึ้นในมือของฉู่เหิน เมื่อเปลวไฟลุกโชนขึ้นที่ใต้หม้อสามขา อุณหภูมิโดยรอบก็เพิ่มสูงขึ้นทันที ในขณะที่อุณหภูมิสูงขึ้น ฉู่เหินก็ได้ยินเสียงจากด้านในของหม้อ มันเป็นเสียงร้องคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด
เสียงร้องของซอมบี้ที่กรีดร้องออกมาจากในหม้อสามขาทำเอาทุกคนหวาดกลัวจนตัวสั่น
“ให้ตายสิ ถึงจะโดนขังอยู่แต่ก็ยังทำให้ฉันกลัวได้อยู่นะเนี่ย วันนี้แหละแกจะต้องกลายเป็นขี้เถ้า!” พูดจบฉู่เหินก็เร่งไฟขึ้นอีกจนมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว
ดูเหมือนว่าซอมบี้จะทนไฟไม่ไหว ทุกส่วนของร่ายกายมันโยกไปมาพยายามจะทำลายหม้อใบนี้ออกไป ทุกครั้งที่มันโจมตีหม้อ หัวใจของฉู่เหินก็เริ่มสั่นคลอนจนแทบอยากจะกระอักเลือดออกมา
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เขาหวาดกลัวอย่างมาก ชายหนุ่มไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าการที่อีกฝ่ายโจมตีไปยังหม้อสามขาจะทำให้เขาบาดเจ็บไปด้วยได้
Next