บทที่ 539 แปลกประหลาดน้อย
บทที่ 539 แปลกประหลาดน้อย
“พี่ 6 พี่ไม่ต้องกังวล ! เอาอย่างนี้ไหม พวกเราไปหาอาจารย์ก่อน ส่วนเรื่องน้ำวิญญาณ ฉันพอมีวิธีอยู่” ฉู่เหินไม่กล้าพูดสุ่มสี่สุ่มห้า เพราะน้ำวิญญาณที่เขาเอามาจากดินแดนปีศาจ มันแปลกประหลาดเล็กน้อย ไม่รู้ว่าจะยังใช้ได้อยู่หรือเปล่า !
ศิษย์พี่ 6 ได้ยินชายหนุ่มพูดแบบนั้นก็คลายความกังวลลง ก่อนจะพยักหน้าและเดินไปหาอาจารย์พร้อมกับฉู่เหิน ! อย่ามองว่าร่างที่แท้จริงของพี่ 6 จะเป็นสัตว์เซียน ! เพราะถึงจะเป็นแบบนั้นเขาก็นับถือจูเก๋อโยวหมิงเสมือนพ่อตัวเอง
ตอนนี้จูเก๋อโยวหมิงอยู่ในห้องตัวเอง เขากำลังศึกษาว่ามีวัตถุดิบวิญญาณที่สามารถใช้แทนน้ำวิญญาณได้ไหม ! ทว่าหลังจากลองผิดลองถูกอยู่นาน สุดท้ายก็ล้มเหลว และในตอนที่ชายชรากำลังเป็นกังวลอยู่นั้น ทั้งสองก็เดินเข้ามาพอดี
เห็นท่าทางกลุ้มใจของอาจารย์ ฉู่เหินก็รู้สึกไม่ดีเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อเขารู้ว่าเพื่อเอาน้ำวิญญาณ อาจารย์ถึงกับแวะไปดินแดนปีศาจ จนปะทะกับเจ้าปีศาจในนั้น เมื่อคิดแบบนั้น ในใจก็ยิ่งรู้สึกผิด
“ท่านอาจารย์อย่าเพิ่งคิดมาก ผมพอมีน้ำวิญญาณอยู่บ้าง แต่ไม่รู้ว่าจะใช้ได้ไหม !” ตอนพูด ฉู่เหินก็หยิบเอาขวดน้ำขนาดเล็กออกมาด้วย
เมื่อจูเก๋อโยวหมิงมองน้ำวิญญาณที่นำออกมาอย่างละเอียด เขาก็อดที่จะตกตะลึงไม่ได้ เพราะชายชรารู้สึกว่าคุณภาพของน้ำวิญญาณตรงหน้านี้เมื่อเทียบกับที่ดินแดนปีศาจแล้ว ดีกว่าหลายเท่า เพียงแต่จำนวนน้อยไปหน่อย เมื่อเห็นหน้าคิ้วขมวดของอีกฝ่าย ฉู่เหินก็นำถังอันใหญ่ที่บรรจุน้ำวิญญาณออกมา
จูเก๋อโยวหมิงเห็นดังนั้นก็ตะลึง ต้องเข้าใจว่าขนาดขวดเล็กเมื่อครู่ก็สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้แล้ว ครานี้กลับมาเป็นถังใหญ่ ! น้ำวิญญาณเยอะขนาดนี้ถ้าเอาไปแปรรูปจะต้องน่ากลัวแน่นอน !!!
“นี้นาย ไม่ใช่ว่าเอามาหมดสระหรอกนะ ทำไมถึงมีน้ำวิญญาณเยอะขนาดนี้ !” จูเก๋อโยวหมิงพูดอย่างตกใจ
พอได้ยินอาจารย์พูด ชายหนุ่มก็ก้มหัวอย่างรู้สึกผิด “อาจารย์ ที่จริงแล้ว น้ำวิญญาณในดินแดนปีศาจนั้นผมเป็นคนขโมยมาเอง ! อีกทั้งผมยังเอาของดี ๆ มาด้วยอีกจำนวนหนึ่ง” พูดจบฉู่เหินก็โบกมือครั้งหนึ่ง และรูปปั้นครั้งนั้นก็ออกมา ก่อนที่เขาจะอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง !
พอจูเก๋อโยวหมิงและหยวนกังฟังที่ฉู่เหินเล่าจบก็ตกใจมาก ! ทั้ง 2 คนอ้าปากค้างตกตะลึงอยู่นานสองนาน ไม่รู้ว่าควรพูดยังไงดี ก่อนที่สุดท้ายจะยกนิ้วขึ้นมานิ้วหนึ่งพูดว่า “นายมันตัวประหลาดน้อยชัด ๆ !”
ฉู่เหินขำแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ ในมือเขาถือหางหนูอันนั้นเอาไว้และส่งให้อาจารย์ “ท่านอาจารย์ ผมยังมีหางหนูอยู่อัน 1 ด้วย ถ้าคุณต้องการผมยกให้ !” เมื่อจูเก๋อโยวหมิงมองหางหนูนั้น ในใจของเขาก็พลันเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมาย
“ไม่น่าเชื่อเลยจริง ๆ ว่านายจะเป็นเด็กหนุ่มที่โชคดีแบบนี้ เพียงแต่จำไว้ว่าอย่าเอาออกมาให้คนอื่นเห็นอีก แม้ว่ามันจะเป็นของล้ำค่า แต่มันก็อันตรายมากเช่นกัน !” จากนั้นจูเก๋อโยวหมิงก็บอกเล่าความลับให้ฟัง !
สัตว์เทพบนโลกนั้นต่างก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่มากไปด้วยพลัง ร้ายกาจเกินจะกล่าว หากแต่ที่ทำให้ปัจจุบันนี้ไม่มีใครรู้จัก ก็เพราะพวกมันนั้นได้ทำการปราบปรามโลกอีกด้าน จนพวกมันกลายเป็นรูปปั้น
อย่างไรก็ตาม ภายหลังสงครามอันดุเดือดที่ทำให้โลกฝั่งนี้แตกออกเป็น 4 -5 ส่วน ! รูปปั้นพวกนั้นก็ได้หายไปด้วย จนหลายปีก่อน ทุกคนถึงเพิ่งรู้ว่าพวกมันถูกเอาไปรวมไว้ที่แท่นบูชาดินแดนปีศาจ !
ตามที่ได้ยินมา พวกปีศาจนั้นพยายามหาทางปลดผนึกรูปปั้นเหล่านี้เรื่อยมา ด้วยหวังว่าเมื่อวันหนึ่งรูปปั้นกลับมาเป็นดังเดิมแล้ว จะสามารถทำให้เผ่าปีศาจเป็นใหญ่ และนำทัพปีศาจบุกถล่มดินแดนเล็ก ๆ แห่งนี้ให้ราบเป็นหน้ากลอง หากทว่าการจะทำให้ได้ถึงจุดนั้นยากมาก ๆ
ตั้งแต่สมัยโบราณมา มีนักรบผู้เก่งกาจคาดเดาว่า การที่รูปปั้นจะคืนสภาพได้ ก็มีแต่ต้องเป็นเพราะถูกขโมยออกมาจากดินแดนปีศาจนั่นแหละ ! แต่ถ้าเป็นแบบนั้นจริงล่ะก็ แม้ว่าพวกปีศาจจะไม่ตายแต่ก็มีสภาพไม่ต่าง ! เมื่อรูปปั้นถูกนำเข้ามาที่ดินแดนนี้ ไม่ว่าใครจะเป็นคนนำเข้ามาก็ตาม เตรียมรับมือกับความโกลาหลครั้งใหม่ได้เลย !
ดังนั้นบรรดานักรบโบราณถึงได้เรียกคนที่นำรูปปั้นมาที่นี่ว่า ตัวปัญหา ! เป็นต้นเหตุสู่หายนะ ก่อนที่หลายปีต่อจากนั้น กลุ่มอำนาจทั้งหลายก็มีหน้าที่หนึ่งที่พวกเขาต้องจำให้ขึ้นใจ ก็คือว่าขอเพียงเจอตัวปัญหาคนนั้นจะต้องฆ่าทิ้งซะ !
คนที่ไม่รู้เรื่องที่ว่า พวกเขาพากันคิดว่ากลุ่มอำนาจพวกนั้นทำตัวเป็นเผด็จการ มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่รู้ว่าพวกเขาเพียงต้องการจะแย่งรูปปั้นไปจากเจ้าตัวปัญหานั้นต่างหาก ! เพราะเมื่อรูปปั้นออกมา เกรงว่าสงครามที่น่ากลัวได้เกิดขึ้นแน่นอน ! อีกทั้งถ้าเชื่อมต่อกับรูปปั้นได้ ก็ยังมีความเป็นไปได้ว่ารูปปั้นนั้นจะให้ความรู้ของกฎแห่งสวรรค์อีกด้วย !
นี้เป็นสิ่งขุมทรัพย์ที่น่ากลัวเลยทีเดียว ! คิดไม่ถึงว่าคนที่ได้จะกลายเป็นฉู่เหิน เพราะแบบนี้พอชายชราบอกความลับกับชายหนุ่ม มันก็ทำให้เขาเพิ่มการระวังตัวมากขึ้นในทันที !
“อาจารย์ ด้วยความสามารถของผม การจะดูแลรูปปั้นนี้ เกรงว่าจะไม่ง่าย ! ไม่สู้ผมให้รูปปั้นนี้แก่คุณดีกว่า ถ้าคุณสามารถรู้แจ้งกฎแห่งสวรรค์ได้ ต่อให้ในอนาคตจะเกิดสงครามขึ้นมาจริง คุณก็จะสามารถรับมือมันได้อย่างแน่นอน !” ฉู่เหินคิดถึงความเป็นจริง เลยกะว่าจะยกรูปปั้นนี้ให้อาจารย์ไป !
“เรื่องพวกนี้ไว้วันหลังค่อยพูดเถอะ ได้รูปปั้นนี้มาครอบครองเป็นเรื่องโชคดีที่หาได้ยากในรอบพันปี แต่ในขณะเดียวกันมันก็นำมาซึ่งความอันตราย กับคนที่ดวงแข็งอย่างนาย ถ้าให้เก็บไว้ต่อไป ไม่แน่ว่าอาจจะสามารถผ่านคราวเคราะห์ไปได้ แต่ถ้าเอาไว้กับฉัน หรือศิษย์คนอื่นเกรงว่าพวกเขาคงจะต้องรับศึกหนักแล้ว”
ฉู่เหินเข้าใจที่อีกฝ่ายพูดดี ขอเพียงมีดวงที่ดี ก็จะไม่ต้องรับความซวยนี้ไป หรือว่าง่าย ๆ ก็คือโชคของตัวเองนั้น ถ้าเอาไปไว้ที่ตัวคนอื่น มันก็อาจเป็นไปได้ว่าจะกลายเป็นโชคร้ายมากกว่าดี ! แต่ถ้าเอาไว้กับตัวเอง มันคงไม่เกิดอะไรขึ้น เพราะสวรรค์ได้ลิขิตให้เป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว !
หลังจากนั้น จูเก๋อโยวหมิงจึงหันไปเตือนลูกศิษย์คนที่ 6 ของตัวเองด้วยว่า ห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร ! ทางด้านหยวนกังก็เข้าใจดี พยักหน้ารับคำ ก่อนจะถอนหายใจแล้วพูดว่า “เพียงแต่น่าเสียหายที่ยังหาหญ้าร้อยฝันไม่เจอ ไม่งั้นเรื่องกลุ้มใจของอาจารย์ก็คงหมดแล้ว ถ้าตอนนั้นสิถึงจะเรียกว่าน่ายินดีจริง ๆ!”
ฉู่เหินได้ยินดังนั้นก็ถามด้วยความมึนงง “พี่ 6 หมายความว่าอะไร หรือว่าอาจารย์ยังมีเรื่องกลุ้มใจอะไรอีก” พอได้ยินที่ชายหนุ่มถาม หยวนกังก็พลันอ้าปากค้าง เพราะเมื่อครู่เขาพูดก่อนคิด ตอนนี้เลยโดนอาจารย์จ้องใหญ่แล้ว !
จูเก๋อโยวหมิงปรายตามองศิษย์ 6 ของตัวเองอย่างจนปัญญา คนคนนี้อะไรก็ดีหมด เสียแต่นิสัยตรงไปตรงมาเกินไปนี่แหละ คิดอะไรก็พูดอย่างนั้นหมดเลย ! ในเมื่อพูดขนาดนี้แล้ว ถ้าไม่อธิบายให้ชัดเจน ด้วยความฉลาดของฉู่เหิน จะปิดไปได้นานแค่ไหน !
เมื่อคิดถึงตรงนี้ จูเก๋อโยวหมิงก็ถอนหายใจและพูดออกมา ว่าเดิมทีตอนที่จูเก๋อโยวหมิงยังวัยรุ่นนั้น เขาเคยได้รับบาดเจ็บครั้งหนึ่ง ซึ่งการบาดเจ็บที่ว่ามันก็ส่งผลถึงรากฐานของเขาเลย ! แม้ว่าตอนนี้พลังวรยุทธ์ของเขาจะสูงส่ง แต่ทุก ๆ ร้อยปีมันจะกำเริบ 1 ครั้ง ! และทุกครั้งที่กำเริบพลังวรยุทธ์ของเขาจะหายไปนาน 7 วัน !
อีกทั้งในระยะเวลา 7 วันนั้น เขาก็จะต้องถูกสายฟ้าสายลงทัณฑ์ 1 ครั้ง ! ซึ่งมันก็เจ็บปวดเจียนตายเป็นอย่างมาก ! และหากอยากจะหายจากโรคนี้มีเพียงหญ้าร้อยฝันเท่านั้นถึงจะสามารถทำได้ เพราะนอกจากหญ้าร้อยฝันจะสามารถช่วยยืดอายุได้แล้ว มันยังทำให้รากฐานที่หายไปของเขากลับคืนมาได้อีกด้วย ! เพียงแต่หญ้าร้อยฝันพวกนั้นหายากเกินไป
ตลอดระยะเวลาที่ศิษย์พี่ 6 ออกเดินทางไปข้างนอก 7 ปี เขาไม่เคยพบหญ้าร้อยฝันแม้สักต้นเดียว เพราะแบบนี้เมื่อครู่ถึงได้บ่นขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ ทว่าหลังจากฉู่เหินได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด สายตาของชายหนุ่มก็เปลี่ยนเป็นแปลกประหลาด
“เออ อาจารย์ครับ ดูเหมือนผมจะมีหญ้าร้อยฝันพอดี !” พอฉู่เหินพูดจบ ไม่ว่าจะจูเก๋อโยวหมิงหรือว่าหยวนกังก็ดวงตาเป็นประกายทันที ! ต้องเข้าใจว่าพวกเขา 2 คนเพื่อค้นหาหญ้าร้อยฝัน ต้องเสียเวลาไปหลายปีเลยนะ !