บทที่ 571 ฉันจะช่วยนาย
บทที่ 571 ฉันจะช่วยนาย
เรื่องราวทั้งหมดฉู่เหินเองก็ไม่แน่ใจเท่าไรนัก ! เขารู้เพียงว่าแม่บุญธรรมของเขาเมื่อก่อนอยู่กลุ่มเสือขาว และยังเป็นน้องสาวของแม่ทัพกลุ่มหงส์เพลิง ! สำหรับรายละเอียดปลีกย่อยนั้นไม่มีใครเคยบอกเขามาก่อน พอมาวันนี้ได้ยินเรื่องราวทั้งหมด ก็ทำให้เขาโกรธจนควันออกหู
ถ้าตัวเองไม่รู้ก็ถือว่าช่างมันเถอะ ทว่าตอนนี้ตัวเองได้รู้เรื่องนี้แล้ว งั้นก็มีแต่ต้องแก้แค้นเท่านั้น แม้ว่าตนจะไม่ได้รู้จักกับหวังซานเหนียงนานเท่าไร แต่เมื่อเขาเรียกเธอว่าแม่แล้ว เขาก็ต้องรับผิดชอบต่อคำ ๆ นี้ ! กลุ่มเสือขาวกระทำเรื่องน่ารังเกียจถึงเพียงนี้ อย่างไรก็ต้องแก้แค้นคืนให้สาสมเสียหน่อย
ชายหนุ่มไม่ได้ปิดบังความรู้สึกตัวเอง และอนาคอนด้าตัวนี้ก็มองออกทุกอย่าง ! เมื่อเห็นฉู่เหินแสดงท่าทางแบบนั้น งูอนาคอนด้าก็อดที่จะพยักหน้าอย่างพอใจไม่ได้ เขารู้สึกว่าเจ้าหนุ่มคนนี้ไม่เลวเลย เป็นคนที่น่าคบหาด้วยอย่างยิ่ง ! ด้วยแม้ว่าเรื่องราวจะผ่านมาหลายปีแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยลืมเรื่องของหวังซานเหนียงเลย
อีกทั้งเขายังนึกโทษตัวเอง คิดว่าถ้าตัวเองไม่ไล่ตามจีบเธอเป็นหมาบ้า หวังซานเหนียงก็คงไม่ต้องไปกลุ่มเสือขาว และถ้าไม่ใช่เพราะไปกลุ่มเสือขาว มันก็จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร ! เพราะแบบนี้หลายปีมานี้เขาถึงได้ยังโทษตัวเองอยู่เลย
พอวันนี้มาได้ยินว่าฉู่เหินต้องการจะแก้แค้นกลุ่มเสือขาว สมองของเขาก็ประมวลผลอย่างต่อเนื่อง ! ด้วยต่อให้เขาอยู่บนภูเขาลูกนี้ก็ยังรู้สึกไม่สบอารมณ์เท่าไร และถ้าได้ก่อกวนกลุ่มเสือขาวสักรอบเขาคงจะรู้สึกดีขึ้นไม่น้อย !
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ดวงตาของเขาก็คล้ายตัดสินใจได้บางอย่าง “เด็กน้อย ไม่สู้ให้ฉันไปด้วยดีหรือไม่ ? ถึงตอนนั้นพวกเราก็จะได้ร่วมมือกันจัดการกลุ่มเสือขาว !” น้ำเสียงของเขาเจือความตื่นเต้นเล็กน้อย ยิ่งผนวกกับท่าทางคันไม้คันมือจนตัวสั่นนั้น ก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าถ้าคน ๆ นี้ไปด้วยกันจะวุ่นวายขนาดไหนนะ !
“เหอ ๆ ผู้อาวุโสเย็นก่อนนะ ! ผมว่าเรื่องนี้พวกเรายังต้องปรึกษากันก่อน ไม่งั้นเกิดเปิดฉากสังหารโหดเลย แล้วมีผู้บริสุทธิ์ตายขึ้นมาละ ! ดังนั้นผมคิดว่าพวกเราต้องวางแผนกันก่อน” ฉู่เหินหัวเราะและพูดเช่นนี้
“เด็กน้อยสายตามองการณ์ไกลไม่เบานี่ งั้นก็ว่ามาเถอะว่าพวกเราควรทำยังไงบ้าง !” พอเห็นท่าทานนั้นของฉู่เหิน อนาคอนด้านี้ก็ถามอย่างกระตือรือร้น
“ผู้อาวุโส ร่างกายของคุณสามารถทำให้มันเล็กลงหน่อยได้ไหม ไม่งั้นตอนพวกเราเข้าไปในเมืองของกลุ่มเสือขาวแล้ว ก็คงมีแต่จะเตะตา !” เมื่อชายหนุ่มวาดภาพในหัวว่าตัวเองเดินเข้าไปกับร่างกายใหญ่โตของงูยักษ์ตัวนี้ เขาก็รู้สึกผวาแล้ว!
ร่างกายใหญ่โตเช่นนี้ง่ายนักกับการตกเป็นเป้าโจมตี และแม้ว่าพลังวรยุทธ์ของอนาคอนด้านี้จะสูง หากแต่เขาก็คงต้านทหารนับพันนับหมื่นคนไม่ได้หรอก ! ดังนั้นฉู่เหินจึงต้องพูดเรื่องนี้ให้เข้าใจกันเสียก่อน ! เพราะถ้าอีกฝ่ายเอาแต่ใจตัวเองขึ้นมาล่ะก็ ตัวเขาเองเนี่ยแหละที่จะเหนื่อย
“ร่างกายของฉันสามารถทำให้ใหญ่ก็ได้เล็กก็ได้ ทั้งยังเปลี่ยนเป็นมนุษย์ได้อีกด้วย !” เมื่อพูดจบก็เห็นอนาคอนด้าตัวเดิมทว่าย่อขนาดเล็กลง ก่อนที่เวลาไม่นานจะเหลือไว้เพียงงูตัวเล็ก ๆ ตัวหนึ่งเท่านั้นที่กำลังเลื่อยลำตัวขึ้นมาพันรอบข้อมือฉู่เหิน ดูเผิน ๆ แล้วเหมือนเป็นกำไลข้อมือวงหนึ่ง ไม่มีใครคาดคิดหรอกว่ามันจะสามารถกลายร่างเป็นอนาคอนด้าได้แน่ !
“เด็กน้อย ตอนนี้ฉันไม่สนใจอะไรแล้ว เมื่อคนเราคิดจะลงมือก็จงทำอย่างกล้าหาญ ! ถ้าไม่ไหวจริงๆ ฉันจะพาหนีเอง แม้ว่าจะอยู่ในกลุ่มของพวกมันก็ตาม แต่ถ้าฉันต้องการจะหนีละก็ ไม่มีใครขวางฉันได้แน่นอน !” เมื่อพูดจบ งูอนาคอนด้าตัวนั้นก็เงียบเสียงไป ราวกับหลับไปแล้ว
ฉู่เหินถอนหายใจอย่างจนปัญญา ก่อนจะสำรวจทั้ง 4 ทิศและเลือกเดินไปเส้นทางหนึ่งที่มุ่งตรงไปยังกลุ่มเสือขาว ! ทว่าหลังจากเงาร่างของฉู่เหินหายไปจากตรงนี้เนิ่นนาน ตำแหน่งเดิมที่ฉู่เหินเคยหยุดยืน ก็ปรากฏแสงสว่างหนึ่งขึ้น และเห็นร่างของคน 2 คนปรากฏตัว
“คิดไม่ถึงว่าเจ้าหมอนั้นจะเจอกับปีศาจงูตัวนั้นได้ ! เช่นนี้พวกเราก็กลับไปรายงานได้แล้ว เพราะเมื่อมีปีศาจงูตามไปด้วยแบบนี้ ต่อให้พวกเราไม่อยู่ข้างกายเขาก็คงไม่เกิดปัญหาอะไร !” ชายชราผมสีขาวคนหนึ่งกล่าวเช่นนี้
“ศิษย์พี่กลับไปก่อนเถอะ ฉันจะตามไปดูอีกที ! นี้เป็นคำสั่งของนายหญิง เพราะงั้นพวกเราปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด !” เมื่อพูดประโยคนี้จบ ร่างของหญิงสาวก็หายไปไม่เหลือแม้แต่ร่องรอย ! ทิ้งไว้เพียงชายชราที่มองออกไปไกล
กลุ่มเสือขาวแม้จะเรียกว่ากลุ่ม แต่ว่ามองดูแล้วเป็นเหมือนประเทศ ๆ หนึ่งได้เลย ด้วยกลุ่มเสือขาวมีเมืองทั้งหมดสิบกว่าเมือง อีกทั้งยังแบ่งออกเป็นพื้นที่เขตเล็กใหญ่ ซึ่งถ้ารวมที่ดินทั้งหมดแล้วยากมากที่จะคำนวณออกมาได้
หลังจากฉู่เหินเดินออกจากตรงนั้นมา เขาก็ออกตัววิ่งไปข้างหน้าอย่างเดียว ! ทั้งที่ตามหลักการแล้วภูเขานี้จะเต็มไปด้วยสัตว์ร้ายจำนวนนับไม่ถ้วน ทว่าตั้งแต่ชายหนุ่มวิ่งมาจนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่พบเจอเลยสักตัว !
…ฉู่เหินไหนเลยจะรู้ว่าตอนที่เขาวิ่งนั้น งูอนาคอนด้าที่อยู่ตรงข้อมือเขาเปล่งแสงสีเงินออกมาตลอดเวลา ทำให้ระหว่างการเดินทาง พวกสัตว์ร้ายก็จะพากันรีบหลบไปซ่อนตัวให้ไกล เช่นนี้ระหว่างทางฉู่เหินถึงได้ผ่านมาอย่างราบรื่น !
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ฉู่เหินเดินทางอย่างราบรื่น ทว่าด้านทีมกององครักษ์กลับผ่านไปได้อย่างยากลำบาก แต่โชคยังดีที่ในที่สุดพวกเขาก็สลัดฝูงมดมาได้ อย่างน้อยก็ยังรักษาชีวิตน้อย ๆ นี้ได้อยู่ !
อย่างไรก็ตาม ตอนที่พวกเขาออกเดินทางต่อ ทั่วทั้งภูเขาก็ไม่ค่อยจะปกตินัก เนื่องจากฝูงมดคันไฟที่ไล่ตามพวกเขา ได้ถูกสัตว์ตัวอื่นโจมตี จนทำให้ฝูงมดจำนวนนับไม่ถ้วนตายเรียบ ! และที่ฉู่เหินไม่รู้ก็คือ ! มดคันไฟ 2 ตัวที่อยู่ในมือของเขาตอนนี้เป็น 2 ตัวสุดท้ายในสนามรบชิงคงแล้ว !
ภูเขาทั้งลูกโกลาหลวุ่นวายขึ้นมา เช่นนี้จึงทำให้ทีมเล็กไม่กี่คนนี้เดินทางอย่างยากลำบาก โชคดีที่พวกเขามีเครื่องมือติดต่อกัน ดังนั้นหลังจากผ่านไปได้สิบกว่าวันในที่สุดก็หากันเจอจนได้ ! แต่ว่าที่ทำให้พวกเขารู้สึกจนปัญญาก็คือ พวกเขาหาฉู่เหินไม่เจอ !!!
ต้องเข้าใจว่าสถานะตอนนี้ของฉู่เหินนั้นก็คือหลานของแม่ทัพ ตอนนี้พวกเขากลับทำเขาหายไปแล้ว ! คิดถึงตรงนี้พวกเขาก็รู้สึกขนหัวลุกขึ้นมา ! จึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องออกค้นหา ด้วยหวังว่าจะหาร่องรอยของฉู่เหินพบ ไม่งั้นก็ต้องกลับไปรายงานกับท่านแม่ทัพ !
ผ่านไป 3 วันฉู่เหินก็ออกมาจากภูเขาได้ ระหว่างที่กำลังจะเดินทางต่อ เขาก็พบคนกลุ่มหนึ่งมีจำนวน 3 คนกำลังสำรวจบางอย่างอยู่ตรงนั้น ! อีกทั้งมีดูท่าทางแล้วก็รู้ได้เลยว่าพวกเขาเป็นคนของกลุ่มเสือขาว และเป็นกลุ่มคนธรรมดาเสียด้วย !
ซึ่งคนเหล่านี้ก็ตรงกับแผนของชายหนุ่มพอดี ด้วยตอนนี้ร่างกายของฉู่เหินไม่มีกลิ่นอายของกลุ่มไหนเลย ! ครั้งก่อนที่บอกเขาว่าจะพาไปขึ้นทะเบียนเข้ากลุ่มหงส์เพลิง เขาก็ยังไม่ได้ทำ ! ดังนั้นตอนนี้เมื่อมองดูแล้วจึงเหมือนว่าเขาเป็นคนไร้กลุ่ม !
และที่ฉู่เหินจ้องมอง 3 คนนี้นั้นก็พอจะมีเหตุผลอยู่ เพราะต้องเข้าใจว่าแต่ละคนจะมีป้ายประจำตัวของในกลุ่มอยู่หนึ่งอัน ! ซึ่งป้ายนั้นก็จะมีกลิ่นอายเฉพาะตัวของกลุ่มอยู่ ส่วนคนที่ไม่มีกลุ่มก็จะไม่มีป้าย
ซึ่งที่เขาจ้องมอง 3 คนนี้ ก็เพราะเขาต้องการฆ่าแล้วชิงเอาป้ายประจำตัวมา ! เพื่อที่ชายหนุ่มจะได้เข้าไปในเมืองกลุ่มเสือขาวได้อย่างแนบเนียน อีกยังทำเรื่องต่าง ๆภายในกลุ่มได้สะดวกขึ้น !
หลังจากคิดจบเขาก็ค่อย ๆ ย่องเข้าไปอย่างระมัดระวัง !
ระหว่างที่เขากำลังเดินก็หยิบกระบี่ยาวมาถือไว้ในมือ สามารถโจมตีได้ทุกเมื่อ ! พร้อมกับคิดว่าต้องฆ่าให้ตายก่อนคนหนึ่ง เพื่อที่อีกสอนคนที่เหลือจะได้จัดการได้ง่ายหน่อย !