บทที่ 620 การโจมตีที่สอง …อสนีบาต !
บทที่ 620 การโจมตีที่สอง …อสนีบาต !
ฉากนี้ทำให้ทุกคนสูดหายใจอย่างตื่นตะลึง เพราะแม้แต่บัญญัติสวรรค์ก็ยังตกอยู่ในสภาพน่าอนาถ ! แล้วแบบนี้ท่านแม่ทัพของพวกเขาจะยังมีชีวิตอยู่ไหมเนี่ย ! ตอนนี้ในใจของทุกคนรู้สึกย่ำแย่ บางคนที่อารมณ์อ่อนไหวถึงกับน้ำตาไหลอย่างห้ามไม่อยู่แล้ว
พวกเขารู้สึกว่านี้มันไม่ยุติธรรมเลย เหตุใดวีรบุรุษผู้หนึ่งถึงต้องมาตายอย่างน่าเศร้าแบบนี้ ! และมันก็คงไม่มีอะไรจะน่าเศร้าใจไปมากกว่านี้แล้ว !
ฮวามู่ตันเป็นคนที่มีสติดีที่สุดในตอนนี้ เธอรับเปิดประสานสัมผัสทั้งหก ก่อนนัยน์ตาจะเป็นประกาย !
ขณะที่ทุกคนคิดว่าฉู่เหินตายแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย จู่ ๆ ก็มีเสียงไอดัง แค่ก ๆ มาจากภายในหลุม และแม้ว่าเสียงนั้นจะไออย่างรุนแรงมากก็ตาม แต่นั่นก็ทำให้ทุกคนใจชื้นขึ้นมา ! ด้วยพวกเขารู้แน่แล้วว่าท่านแม่ทัพตนยังมีชีวิตอยู่ !
ต่อมาพวกเขาก็เห็นร่างที่มีสภาพอนาถยิ่งกว่าปีนขึ้นมาจากในหลุมลึก ! และที่ฉู่เหินมีสภาพน่าอนาถเช่นนี้ ก็เพราะว่าก่อนหน้าต้องรับการโจมตีจนทำให้ผิวหนังปริแตกจนเลือดไหลไม่หยุด !
โชคดีที่ร่างกายของฉู่เหินฝึกฝนมาแล้วอย่างดี ทำให้มีผิวหนังที่แข็งกว่าคนทั่วไป ไม่งั้นเกรงว่าหนังของเขาคงลอกออกมาจนหมด แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น มาตอนนี้เขาก็ไม่ได้ถือว่าอยู่ในสภาพดีเท่าไร ด้วยการระเบิดครั้งนี้ทำให้เขาได้ลิ้มลองความทรมานอย่างถึงที่สุด ! และถ้าไม่ใช่เพราะลมปราณของตนแตกต่างจากคนปกติ ก็น่ากลัวว่าลมปราณของเขาคงแตกซ่านไปแล้ว !
แขนและขาของชายหนุ่มห้อยต่องแต่ง เห็นได้ชัดว่ามันหักแล้ว ! ทำให้ตอนที่ปีนขึ้นมา เขาต้องใช้เวลาอยู่นานกว่าจะขึ้นมาได้ ก่อนจะมาลงเอยด้วยการนอนแผ่หลาอย่างน่าขำอยู่ในตอนนี้
หลังจากทุกคนเห็นฉู่เหินปีนออกมา แม้ว่าร่างกายจะดูไม่ได้ แต่ก็ยังมีชีวิตอยู่ ก็เลยพากันโห่ร้องอย่างดีใจออกมา ! ด้วยเดิมทีพวกเขานึกว่าบัญญัติสวรรค์จะชนะไปแล้ว แต่ในตอนนี้เมื่อท่านแม่ทัพของตัวเองปีนออกมา พวกเขาก็พากันคิดแล้วว่าบัญญัติสวรรค์อาจมีสิทธิ์ที่จะแพ้ก็เป็นได้ !
ฉู่เหินนอนหอบหายใจอยู่อย่างนั้น ปล่อยให้ร่างกายค่อย ๆ ฟื้นฟูตัวเอง ก่อนที่ไม่นานนักกระทั่งพลังก็ฟื้นกลับคืนมาเต็มเปี่ยมแล้ว ! เช่นเดียวกับบัญญัติสวรรค์ที่ก็คล้ายจะฟื้นพลังกลับมาแล้วเช่นเดียวกัน …ทั้งยังทำท่าเตรียมพร้อมจะโจมตีอีกครั้งแล้วด้วย !
ทั้งสองพักเพียงช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ก่อนกลับมาประจันหน้ากันอีกครั้ง ! เพียงแต่ตอนนี้ท่าทีของพวกเขาไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้เลยสักนิด ด้วยการโจมตีครั้งแรกทำให้ฉู่เหินได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง ดังนั้นก่อนการโจมตีครั้งที่สอง เขาจึงระวังตัวมากกว่าครั้งแรกขึ้นระดับหนึ่ง !
เดิมทีบัญญัติสวรรค์ไม่เห็นฉู่เหินอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ เขาคิดว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาเท่านั้น แต่หลังจากปะทะกันครั้งแรก มันก็ทำให้เขาระวังมากขึ้น เพราะเขาสัมผัสได้จากการโจมตีครั้งนั้นว่าพลังที่อยู่ภายในบาเรียนั่น ถ้าไม่ใช่เพราะว่าตัวเองใช้พลังของฟ้าดิน ก็เกรงว่าจะเป็นเขาเนี่ยแหละที่จะต้องตาย !!
ต้องเข้าใจว่าเขาเป็นใคร เขาเป็นถึงร่างที่สวรรค์สร้างขึ้นเชียวนะ ! และการที่เขาตกอยู่ในสภาพแบบนี้ได้ เขาก็ไม่อยากเชื่อเลย ! ด้วยตลอดมานี้เขามีหน้าที่รักษากฎระเบียบในสนามรบชิงคงมาหลายปี ไม่เคยต้องตกที่นั่งลำบากแบบนี้มาก่อน ! ซึ่งชายหนุ่มตรงหน้า ก็ทำให้โหมดเตือนภัยของเขาเริ่มทำงานอย่างหนักแล้ว !
ฉู่เหินไม่เพียงแต่ยังไม่ได้เลื่อนขั้นเทพดาราด้วยซ้ำ กลับรับมือได้ยากยิ่งกว่าพวกขั้นเทพดาราไปแล้วพวกนั้นเสียอีก ! แน่นอนว่าที่ผลลัพธ์มันออกมาเป็นแบบนี้ ก็เพราะว่าฉู่เหินมีต้นไม้ธาตุไฟระดับขั้นตัดวิญญาณ กับต้นไม้ธาตุน้ำแข็งที่อยู่ระดับขั้นบรรลุ !!
ต้องเข้าใจว่าพวกที่เกินขั้นเทพดาราไปแล้วพวกนั้น ไม่เคยมีพลังขั้นตัดวิญญาณมาก่อนเลย ! และถ้าหากต้องการพลังเวทย์ขั้นตัดวิญญาณ ก็มีแต่ต้องใช้ชิ้นส่วนพลัง ! และที่ผลลัพธ์ของฉู่เหินออกมาเป็นแบบนี้ ก็เพราะว่าเขาได้ดูดซับพลังมาจากชิ้นส่วนพลังอย่างเต็มเปี่ยม !!
เหตุผลรองลงมาคือความรู้ของชายหนุ่มที่ค่อนข้างสูง บวกกับร่างกายของเขาที่ไม่ขาดแคลนธาตุไฟ ดังนั้นพลังธาตุไฟที่เขาได้มา ก็มีส่วนที่อัคคีสงสารวัฏและสองเพลิงพิโรธช่วยเหลือ ! จนทำให้พลังธาตุไฟของชายหนุ่มก้าวหน้าอย่างรวดเร็วอย่างที่เห็นในตอนนี้ !
และหลังจากได้วิเคราะห์ชิ้นส่วนพลัง มันก็ทำให้เขาสัมผัสได้ถึงมิติเล็ก ๆ ที่แทบจะไม่แตกต่างไปจากมิติของจริงเลย ! ส่งผลให้พลังของเขากล้าแกร่งขึ้นจนต้านทานอีกฝ่ายได้อย่างที่เห็น !
หลังจากได้พัก แม้จะเป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ บัญญัติสวรรค์ก็เตรียมตัวโจมตีครั้งที่สองแล้ว ซึ่งก็จะเห็นว่าบัญญัติสวรรค์กำลังยืนขยับมือสองข้างร่ายเวทย์อย่างต่อเนื่อง ก่อนเพียงพริบตาพลังมหาศาลจะรวมตัวกันกลายเป็นร่างมังกรสูงใหญ่ !
และในทันทีที่ร่างแปลงมังกรปรากฏขึ้น พลังมหาศาลก็พลันไหลเข้าสู่ร่างกายของมันทันที ทำให้ภายในพริบตามันก็ไม่ต่างอะไรจากมังกรตัวจริงเลยแม้แต่น้อย !
วิชามังกรไร้ลักษณ์ ! เมื่อเห็นวิชานั้น ฉู่เหินก็ต้องคลี่ตาสงสัย ด้วยเขาเองก็เคยใช้มาก่อน แต่ไม่เคยใช้แล้วดูมีชีวิตชีวาแบบนี้มาก่อนเลย ! ก่อนที่จากนั้นไม่นานเขาจะหลับตา สองมือผสานอิน
เพียงพริบตา มิติเล็ก ๆ ของฉู่เหินก็พลันปรากฏสัตว์ร่างใหญ่ขึ้นหนึ่งตัว และมันก็คือกิเลนที่ร่างกายอาบไปด้วยเปลวเพลิง ! ซึ่งเมื่อมันบินสูงขึ้นไป ก็ตามมาด้วยเสียงดังก้องที่ทำให้ฟ้าและปฐพีสั่นสะเทือน !
พลังส่วนหนึ่งในมิติเล็ก ๆ ของฉู่เหินไหลเข้าสู่ร่างกายกิเลนตัวนี้ ! ก่อนที่มันจะบินขึ้นไปโจมตีส่วนหางของมังกรตัวใหญ่ ด้วยพลังโจมตีที่รุนแรงที่สุดของตัวเอง !!!
กิเลนเพลิงไม่รอช้า กัดเข้าไปที่ลำตัวของมังกรจนผิวหนังของมันเปิดออก ! ทำให้มังกรนั่นคำรามอย่างเจ็บปวด และตามมาด้วยอสนีบาตที่ถูกปล่อยออกมา ! ซึ่งเดิมทีมังกรตัวนี้ก็เป็นมังกรสายฟ้าอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงเลยว่าอสนีบาตของมันจะรุนแรงมากเพียงไหน !
เสียงอสนีบาตดังสนั่นลั่นฟ้า ก็ราวกับโลกจะถึงกาลอวสาน ! แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น หากแต่สายตาที่ฉู่เหินมองกลับเจือไปด้วยรอยยิ้ม ! เพราะสวรรค์และปฐพีรู้ดีว่าสิ่งที่เขาไม่กลัวที่สุดอย่างหนึ่งก็คือสายฟ้า !!
ฉู่เหินโบกมือทีหนึ่ง ทำการส่งพลังจิตสังหารออกมา ! ก่อนเป็นจิตสังหารที่พุ่งขึ้นไปรับอสนีบาตและดูดซับสายฟ้าเข้าไป ทำให้เกิดภาพโดมขนาดใหญ่ที่มีสายฟ้าโอบล้อม ! ทว่าสายฟ้าพวกนั้นกลับไม่ได้ทำอันตรายใดพลังจิตสังหารเลย กลับค่อย ๆ ไหลเข้าไปภายในอย่างรวดเร็วราวกับแม่น้ำเสียอย่างงั้น !
สถานการณ์พลิกผันเช่นนี้ ไม่ว่ายังไงบัญญัติสวรรค์ก็ไม่เคยคิดฝันมาก่อน ! เพราะต้องเข้าใจว่าอสนีบาตของเขาไม่เคยพ่ายแพ้แก่ผู้ใด ! แล้วใครจะรู้ว่าชายหนุ่มตรงหน้าจะสามารถดูดสายฟ้าที่เขาภาคภูมิไปได้ง่าย ๆ แบบนี้กัน ! จนทำให้มาตอนนี้เขาก็เริ่มจะทำตัวไม่ถูกแล้ว ! และถ้าเขาอยากจะเปลี่ยนสถานการณ์ ก็ไม่ใช้ว่าทำไม่ได้ หากแต่มันจะเป็นการเสียเกียรติเนี่ยสิ !
ถ้าตอนนี้เขาปรับเปลี่ยนอะไร ก็เท่ากับว่าเขาได้โจมตีครบ 3 กระบวนท่าแล้ว ! และถ้าเกิดอีกฝ่ายชนะได้ทั้ง 3 กระบวนท่า เขาก็ไม่สามารถกลับคำได้อีก ! ดังนั้นแล้วเขาจึงไม่รอช้า รีบถ่ายเทพลังทั้งหมดของตัวเองใส่เข้าไปในมังกรไร้ลักษณ์นั่น !
เช่นนี้อสนีบาตก็พลันรวมตัวกันเข้าสู้ร่างมังกรสูงใหญ่ และเพียงเสียงสายลมวาดผ่านอากาศรอบ ๆ ร่างนั่น ก็บอกได้เลยว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งมาก เพราะว่าสายฟ้าของมันได้แอบซ่อนพลังลึกลับบางอย่างไว้ !