บทที่ 627 กลับตาลปัตร
บทที่ 627 กลับตาลปัตร
เช่นนี้กู้เฟิงจือเลยถูกจับเข้ามาในวัง ! แต่ชายหนุ่มคนนี้ค่อนข้างจะโชคดีที่เขามีหน้าตาหล่อเหลา บวกกับพรสวรรค์ก็ไม่เลว เลยไม่ต้องไปเป็นขันที !
และเพราะพรสวรรค์ของกู้เฟิงจือค่อนข้างจะโดดเด่นกว่าคนอื่น ๆ เช่นนี้เขาเลยกลายเป็นตัวเลือกที่ถูกคนแย่งกันมากที่สุด ! เป็นดั่งเนื้อรสหวานที่คนจ้องจะจับกิน !
ต้องเข้าใจว่าใคร ๆ ก็อยากได้คนที่มีความสามารถกันทั้งนั้น !
แม้ว่าคนส่วนมากจะมีสถานะสูงส่งและหน้าตาดี แต่เมื่อเทียบกับเรื่องพรสวรรค์แล้ว พวกเขาก็ยังสู้กู้เฟิงจือไม่ได้ เช่นนี้ทำให้หลายคนพยายามจะกำจัดกู้เฟิงจือทิ้ง !
ซึ่งในวังก็มีลูกชายขององค์ชายใหญ่อยู่คนหนึ่ง เขาเป็นหนึ่งในบรรดาคุณชายที่เป็นบัณฑิต อีกทั้งไม่ว่าด้านไหน ๆ ก็มีความสามารถเทียบเท่ากับกู้เฟิงจือเลย ! ทำให้ในตอนแรกทั้งสองเรียกได้ว่าเป็นสหายที่ดีต่อกันได้เลย แต่ต่อมาเมื่อต้องแข่งขันกันมาก ๆ ก็ทำให้ทั้งสองกลายเป็นศัตรูกัน !
แม้ว่าจะมีตำแหน่งบัณฑิตว่างกว่าหลายสิบที่ แต่พวกเขาก็ยังคงแก่งแย่งเพื่อให้ได้เป็นคนที่โดดเด่นที่สุดในกลุ่ม !!!
ตั้งแต่ที่กู้เฟิงจือมายังโลกแห่งนี้ ทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไปหมดสำหรับเขา ! โดยเฉพาะเมื่อเขาจำต้องนำของวิเศษที่สามารถช่วยตระกูลเรื่องพัฒนาพลังกลับไป เพื่อให้ตัวเองและพี่น้องคนอื่น ๆ มีโอกาสเลื่อนขั้น เช่นนี้เขาจึงจำต้องสลัดคราบตัวเอง เข้าสู่การแข่งขันไร้สาระนี่ !!!
และเมื่อลูกขององค์ชายใหญ่เห็นถึงความกระตือรือร้นของกู้เฟิงจือ นัยน์ตาก็ฉายแววไม่พอใจ ! ก่อนจะโดนองค์ชายสี่ยั่วยุเข้าไปอีก ด้วยคนผู้นี้เป็นคนขี้อิจฉาผู้หนึ่ง ที่เมื่อได้ยินว่ากู้เฟิงจือดีอย่างนั้นอย่างนี้ก็เกิดความรู้สึกไม่พอใจ !
ดังนั้นจึงกลายเป็นว่าทั้งสองร่วมมือกัน จนได้ออกมาเป็นแผนการหนึ่ง ที่ทำให้กู้เฟิงจือโดยหลอกเข้าไปในห้องนอนขององค์หญิง ก่อนจะโดนใส่ร้ายว่าเขาตั้งใจจะทำมิดีมิร้ายกับนาง ทำให้กู้เฟิงจือโดนลดขั้นลงมา
ก่อนที่สุดท้ายจะโดนองค์ชายสามลากตัวไปเป็นคนรับใช้ !
กล่าวได้ว่ากู้เฟิงจือดวงซวยมาตั้งแต่ต้น ชนิดที่ว่าเขาไม่เหลือความหวังอะไรแล้ว และถ้ายังดึงดันจะทะเยอทะยานต่อไป ก็เกรงว่าแม้แต่ชีวิตตัวเองก็คงไม่รอด !
อย่างไรก็ตาม จู่ ๆ เขาก็ถูกองค์จักรพรรดิเรียกตัวไปคุยอยู่นาน จนทำให้กู้เฟิงจือเริ่มนั่งไม่ติด ด้วยเขาไม่คิดเลยว่าองค์จักรพรรดิจะมองเห็นเขาอยู่ในสายตา ! ต้องเข้าใจว่าแม้พรสวรรค์เขาจะไม่ด้อย แต่องค์จักรพรรค์ก็ไม่น่าจะสนใจเขาขนาดเรียกตัวมาแบบนี้
อัจฉริยะที่ไม่สามารถแสดงความสามารถออกมาได้อย่างเต็มที่ ก็เป็นได้แค่มดปลวกตัวหนึ่งเท่านั้น ! คนเช่นนั้นมีแต่จะทำให้องค์จักรพรรดิไร้ความสนใจ แล้วยิ่งเขาเป็นคนที่มีเรื่องเป็นคนในราชวงศ์ด้วยยิ่งแล้วใหญ่ ! แต่เมื่อฟังสักพัก เขาก็เข้าใจในที่สุดว่ามีคนที่รู้จักตัวเองจากโลกเดิม ที่มีฐานะใหญ่ไม่น้อยในตอนนี้ต้องการพบตัว !
ที่แท้คนคนนั้นก็ต้องการจะช่วยเหลือเขาออกไป ! แต่คนที่รู้จักตัวเองทั้งยังรุ่นราวคราวเดียวกัน เขานั้นคิดไม่ออกเลยว่าเป็นใครที่มีความสามารถมากถึงขนาดนี้ได้ !
สำหรับฉู่เหิน ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยนึกถึง แต่ตอนที่จากกันพลังวรยุทธ์ของฉู่เหินยังเทียบกับตัวเองไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ภายในระยะเวลาสั้น ๆ ต่อให้อีกฝ่ายมีพรสวรรค์มากขนาดไหน ก็คงไม่สามารถล้ำหน้าตัวเองได้หรอกมั้ง !? ดังนั้นเขาได้เพียงแต่คาดเดา แต่สุดท้ายก็ละทิ้งความคิดพวกนี้ไป เพราะว่าอีกไม่นานตัวเองก็จะได้เจอกับอีกฝ่ายแล้ว
สำหรับความแค้นที่มีกับคนของราชวงศ์ เมื่อได้เพื่อนคนนี้ ก็คงไม่ต้องคิดแล้วว่าความสงบสุขของราชวงศ์จะมีอยู่ต่อไปไหม ! เพราะคนที่มาจากโลกไม่ได้มีแค่เขาคนเดียว ยังมีอีกหลายคนที่น่าสงสารยิ่งกว่าเขาอีก
เมื่อกู้เฟิงจือพยักหน้ายอมรับทุกเงื่อนไข พวกราชวงศ์ก็ถึงกับถอดหายใจอย่างโล่งอก ! จากนั้นก็ส่งกู้เฟิงจือและของวิเศษจำนวนหนึ่ง พร้อมกับยอดฝีมือขั้นเทพดาราติดตามไปส่งถึงที่พรรควายุอัสนี !
หัวหน้าพรรควายุอัสนีคิดไม่ถึงเลยว่าพวกราชวงศ์จะมาหาถึงที่พรรค ! เขาคิดอย่างหวาด ๆ ว่าหรือคนพวกนี้จะคิดแค้นพรรคตัวเองขึ้นมา ไม่รู้ว่าพวกเขาต้องโดนร่างแหอะไรบ้าง ! ซึ่งเขาก็รู้เลยว่าที่คนพวกนี้มาที่นี่ต้องเกี่ยวข้องกับฉู่เหินอย่างแน่นอน ถ้าเห็นข้อความนี้จากที่อื่นโปรดกลับมาเยี่ยมเราบ้างนะ ขอบคุนจ้า
เขาคิดกระทั่งว่าต่อให้เสียบ้านวายุทั้งหมดไป ก็ไม่รู้สึกเสียดายอะไรด้วยซ้ำ ! และเมื่อคิดได้ดังนั้น เขาก็พุ่งตัวออกไปต้อนรับคนกลุ่มนั้นทันที ! โดยในเวลาเดียวกัน เขาก็ได้ติดต่อกับผู้อาวุโสที่เข้าฌานอยู่ให้ออกมาเสีย เพื่อให้พวกเขาคอยปกป้องพรรควายุอัสนี หรืออย่างน้อยก็ปกป้องแก่นกลางของพรรคเอาไว้ก็ยังดี !!!
แม้ว่าฉากภายนอกพวกเขาจะทำเป็นต้อนรับอย่างดี แต่ภายในกลับตื่นตัวตลอดเวลา ! ด้วยพวกเขากลัวว่าพวกราชวงศ์จะเปิดฉากลงมือโดยไม่พูดไม่จาขึ้นมา ! และไม่เพียงแต่หัวหน้าพรรค เพราะบ้านวายุเองก็ตื่นตัวระวังภัยเช่นกัน !
โดยเฉพาะจูเก๋อโยวหมิง ที่มาตอนนี้เขาคิดแผนในใจแล้วว่าถ้าพวกราชวงศ์กล้าจู่โจมขึ้นมา เขาจะสังหารพวกนั้นโดยไม่ลังเล ! ซึ่งก็ไม่ใช่แค่ตัวเขาเท่านั้น เพราะทุกคนในบ้านวายุเองก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน !
พวกราชวงศ์ค่อย ๆ ลดระดับลงมาที่พื้น และเมื่อมองรอบ ๆ แล้วไม่เห็นเงาของฉู่เหินก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ! เพราะองค์จักพรรดิกำชับพวกเขาว่าไม่ว่ายังไงก็ห้ามสร้างความแค้นกับฉู่เหินเด็ดขาด เพราะแบบนี้พวกเขาถึงได้รู้สึกโล่งใจที่ไม่เห็นฉู่เหินในตอนนี้ !
“ยินดีตอนรับสมาชิกจากราชวงศ์ทุกท่าน !” หัวหน้าพรรควายุอัสนีรีบออกมาต้อนรับด้วยการคุกเข่าให้ ทำให้พวกราชวงศ์รู้สึกหยิ่งผยองขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ แต่ต้องเข้าใจว่าพรรควายุอัสนีในปัจจุบันนั้นไม่เหมือนเดิมเช่นวันวานอีกแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าที่จะท้าทายอำนาจที่นี่มากนัก
“ท่านหัวหน้าพรรคเกรงใจเกินไปแล้ว วันนี้ฉันมาเพื่อสานสัมพันธ์ เพราะงั้นพวกท่านไม่จำเป็นต้องมากพิธีไป !” หลังจากสิ้นคำพูดนั้น ในใจหัวหน้าพรรคก็เกิดคำถาม ด้วยเขาไม่รู้ว่าคนพวกนี้จะมาสานสัมพันธ์อะไรกับพรรคของพวกเขา ! จนพาลให้เขาคิดว่าหรืออีกฝ่ายคิดจะตลบพวกเขาทีหลังกันแน่ !
“ท่านกล่าวเกินไปแล้ว พวกเราเป็นเพียงพรรคเล็ก ๆ เท่านั้น ไหนเลยจะกล้าล่วงเกิน ! ถ้ามีเรื่องอะไรท่านเชิญกล่าวมาได้เลย พวกเราจะทำตามพระบัญชา !” เรื่องราวได้ดำเนินมาจนถึงตอนนี้แล้ว จะพูดวนไปวนมาให้ได้อะไรอีก ดังนั้นเขาจึงถามออกไปตรง ๆ
“ท่านหัวหน้าพรรคเกรงใจเกินไปแล้ว พวกเราไม่กล้ารับ ๆ!!”
เมื่อประโยคนี้เข้าหูของหัวหน้าพรรค มันก็ทำให้เขายิ่งไม่ไว้ใจ ! ด้วยคิดว่าอีกฝ่ายต้องตลบหลังแน่ !
“ได้โปรบอกมาเถอะ พรรควายุอัสนีย่อมทำตามคำสั่งของราชวงศ์แน่นอนอยู่แล้ว !” หลังจากพูดจบ เขาก็แสดงออกอย่างนอบน้อมยิ่งขึ้น
…ทว่าในสายตาของคนอื่นที่มองมานั้น การกระทำดังกล่าวมันก็ดูจะจอมปลอมเป็นอย่างยิ่ง !!!