ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 10 เขาเป็นคนบ้าชัดๆเลย
เดิมกู้โม่หานอยากจะมาดูอาการของเสิ่นอี่ว์ เขาเห็นประตูเปิดมาตั้งแต่ไกล คำพูดของพ่อบ้านกาวเข้าหูเขาทั้งหมดไม่หายเลยแม้แต่คำเดียว
เขาแทบจะพุ่งพรวดเข้ามา เขายื่นมือมาบีบคอหนานหว่านเยียนอย่างแรง ดวงตาแดงก่ำนั่นมีแววสังหารอยู่
“หนานหว่านเยียน! เจ้าช่างชั่วช้าเลวทรามจริงๆ! เพื่อแก้แค้นข้า ขนาดคนใกล้ตายนอนหายใจรวยรินเจ้ายังไม่ปล่อยเลย!”
หนานหว่านเยียนปวดคอ เธอพยายามแกะมือกู้โม่หานออก เห็นเขายิ่งบีบแรงขึ้นเรื่อยๆ จนเธอแทบหายใจไม่ออก
เมื่อครู่นั้นเธอไม่ทันรู้ตัว เลยโดนเขาบีบไว้
เธอแค่นเสียงหนักอย่างไร้เรี่ยวแรง พูดอะไรไม่ออกเลย
ผู้ชายคนนี้ก็คือคนบ้า!
เวลานี้มีองครักษ์กลุ่มหนึ่งมาที่ด้านนอกประตู และยังคุมตัวอวี๋เฟิงมาอีก
อวี๋เฟิงเห็นท่าทางดิ้นรนทรมานของหนานหว่านเยียน รีบเข้ามาคุกเข่าอธิบายด้านหน้ากู้โม่หานทันที
“ท่านอ๋อง พระชายามาช่วยองครักษ์เสิ่นขอรับ ไม่ใช่คนเลวอะไรแน่…”
กู้โม่หานรู้จักคนนี้ หนึ่งในองครักษ์ที่เขาส่งไปดูแลคุ้มกันเรือนเซียงหลิน เขายิ่งลงน้ำหนักที่มือมากขึ้นหลายส่วน ความดุร้ายในแววตาเหมือนอยากจะฉีกกระชากหน้ากากของหนานหว่านเยียนให้กระจุย
“ไม่คิดเลยนะ เวลาสั้นๆแค่นี้ เจ้ายังสามารถทำให้คนของข้าทรยศได้ หนานหว่านเยียน ข้าดูเบาเจ้าไปจริงๆ!”
พอเห็นหนานหว่านเยียนค่อยๆหมดเรี่ยวแรงต่อต้าน กู้โม่หานถึงคลายมือออกอย่างโกรธจัด
ตอนนี้นางยังตายไม่ได้
หนานหว่านเยียนทรุดลงนั่งกับพื้น ทั้งไอทั้งสำลักไม่หยุด
เธอไม่มีโอกาสส่งเสียงเลยสักนิด จากนั้นได้ยินเสียงเขากัดฟันกรอดพูดว่า “หนานหว่านเยียน การลอบฆ่าที่เรือนเซียงหลินในวันนี้ เจ้าเป็นคนจัดการกระมัง! เพราะข้าจะรับโหรวเอ๋อร์เข้ามา เจ้าแค้นอยากให้ข้าตาย ดังนั้นเลยแสดงละครฉากนี้ด้วยตัวเอง แต่ไม่คิดว่าคนที่บาดเจ็บจะเป็นเสิ่นอี่ว์ ดังนั้นเลยหาหนทางวิ่งมาฆ่าเขาให้หายแค้น!”
หนานหว่านเยียนมองเขาอย่างไม่เชื่อสายตา ใครที่สมองปกติไม่มีทางพูดคำแบบนี้ออกมาได้แน่
“เจ้าประสาทหรือเปล่า? ถ้าไม่ใช่พ่อบ้านกาวพูดถึง ข้าไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเจ้าจะแต่งงาน ยิ่งไปกว่านั้นข้าอยู่ที่เรือนเซียงหลินไม่เคยออกไปไหนเลยสักครั้ง เจ้าก็ไม่เคยมาหาข้าที่เรือนเซียงหลิน ข้าจะหานักฆ่ามาฆ่าเจ้า ก็ไม่มีทางจัดหามาที่เรือนข้าหรอกนะ!”
นักฆ่าพวกนั้นเห็นได้ชัดว่าพุ่งเป้ามาที่เธอ กู้โม่หานตาบอดหรือเปล่า?
กู้โม่หานโกรธจัด ไม่ให้โอกาสหนานหว่านเยียนแก้ตัวเลย เขาตะโกนดังว่า “ใครก็ได้ มานำสตรีอสรพิษและคนทรยศผู้นี้ไปขังไว้ในคุกของจวนอ๋อง!”
หนานหว่านเยียนโกรธจัด “กู้โม่หาน! ข้าจะพูดอีกครั้ง ข้าไม่เคยคิดให้ร้ายเสิ่นอี่ว์ ข้าช่วยชีวิตเขา เจ้าไม่เพียงไม่ขอบคุณข้า ยังจะจับข้าเข้าคุก เจ้าต้องเสียใจภายหลังแน่….”
เธอยังพูดไม่ทันจบ ก็โดนองครักษ์ลากตัวไป
บรรยากาศเงียบกริบราวกับป่าช้า
“เสิ่นอี่ว์เป็นอย่างไรบ้าง?” กู้โม่หานถามอย่างเคร่งเครียด
พ่อบ้านกาวเองก็ไม่กล้าหอบหายใจดัง “เรียนท่านอ๋อง เมื่อครู่หมอในจวนมาดูแล้ว บอกว่า องครักษ์เสิ่นน่ากลัวจะ… ถึงคราว ถึงพระชายาจะพยายามลอบฆ่า แต่ข้าน้อยดูแล้ว องครักษ์เสิ่นไม่ได้เป็นอะไร และยังมีชีวิตอยู่”
สีหน้ากู้โม่หานเย็นชานัก
เสิ่นอี่ว์ตามติดเขามาหลายปี ไม่ได้เห็นกันเป็นนายบ่าวนานแล้ว ต่อหน้าคนนอก เสิ่นอี่ว์เคารพนบนอบต่อเขามาก แต่ส่วนตัวแล้วพวกเขารักกันดุจพี่น้อง
ตอนนี้เสิ่นอี่ว์อาการสาหัส เขารู้สึกไม่สบายใจเลย…
พ่อบ้านกาวคิดว่ากู้โม่หานยังโกรธเรื่องหนานหว่านเยียน รีบบอก “ท่านอ๋อง วันนี้ถึงพระชายาจะมีความผิด แต่ท่านยังต้องพาพระชายาเข้าวังไปร่วมงานเลี้ยง ขอท่านอ๋องเห็นแก่การใหญ่ อย่าได้ทำร้ายพระชายา มิเช่นนั้นถึงเวลานั้น หากไทเฮาเห็นพระชายาได้รับบาดเจ็บ ต้องเดือดดาลอย่างมากแน่…”
ท่านอ๋องจะโดนหางเลขไปด้วย
พอได้ยินดังนั้น กู้โม่หานรู้สึกเดือดดาลขึ้นมาทันที
ยิ่งพ่อบ้านกาวบอกให้เขาทนและยอมถอย เขายิ่งรู้สึกว่าเขาทนหนานหว่านเยียนถึงขีดสุดแล้ว ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว!
“หมอหลวงมาแล้ว ให้เขารีบรักษาเสิ่นอี่ว์เร็ว!”
พูดจบ กู้โม่หานสะบัดประตูอย่างแรง เดินไปทางคุกอย่างเต็มไปด้วยไอสังหาร!
หนานหว่านเยียน สตรีผู้ที่จิตใจดุจอสรพิษเลวทรามต่ำช้านี่ ต่อไปยามโหรวเอ๋อร์เข้าจวนอ๋อง หากได้รับบาดเจ็บอะไรเพราะสตรีอสรพิษผู้นี้ เขาต้องเสียใจเป็นอย่างมากแน่!
ต้องถอนรากถอนโคน วันนี้เขาจะจัดการหนานหว่านเยียนให้สิ้นซากซะ!
ในตอนนี้ ส่วนลึกของคุกใต้ดิน
หนานหว่านเยียนและอวี๋เฟิงโดนองครักษ์โยนเข้าในคุกใต้ดิน เธอล้มลงบนพื้น ทำเอาข้อมือเจ็บ
เธอโกรธมาก หันมององครักษ์และสาวใช้ที่อยู่นอกคุกพลางว่า “ข้าไม่ได้ฆ่าคนจริงๆ ข้ากำลังช่วยคน พวกเจ้าไปเรียกกู้โม่หานมา ข้าจะพูดกับเขา!”
อวี๋เฟิงรีบถาม “พระชายา ตอนนี้อาการองครักษ์เสิ่นเป็นอย่างไรบ้าง?”
“เขาพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่พิษยังล้างออกไปไม่หมด” หนานหว่านเยียนตอบอวี๋เฟิงก่อน พลางมององครักษ์เหล่านั้น “ข้าจะพูดอีกครั้ง ข้าบริสุทธิ์ พวกเจ้าปล่อยข้าออกไปนะ!”
ทันใดนั้น สาวใช้ที่คุมตัวหนานหว่านเยียน ชี้หน้าหนานหว่านเยียนว่า “สตรีชั่วช้าเช่นเจ้า มีเรื่องอะไรบ้างที่ทำไม่ได้! คุณหนูโหรวสง่างดงาม รู้จักมารยาทและจริยธรรม และยังรักใคร่ปรองดองกับท่านอ๋องของเรา แต่กลับโดนสตรีที่ใช้วิธีการต่ำช้าเช่นเจ้าเข้ามาแทรกกลาง และยังเกือบถูกเจ้าให้ร้ายจนตายอีก เจ้ายังมีหน้ามาบอกว่าเจ้าบริสุทธิ์อีก?! ถุย!”
สาวใช้ถุยน้ำลายใส่เธอ “สตรีชั่วร้ายเช่นเจ้า ไม่คู่ควรเป็นพระชายาเลยสักนิด! พระชายาควรเป็นคนดีจิตใจงดงามอย่างคุณหนูโหรวเท่านั้น! ส่วนเจ้า–เจ้าควรโดนโทษทุบตีจนตาย!”
หนานหว่านเยียนโกรธจนหัวเราะ
จิตใจงดงามกับผีสิ คนที่หยุนอี่ว์โหรวฆ่าน่ะมีมากกว่าเธอเสียอีก!
และกู้โม่หานมีเมียเป็นสิบหรือจะมีสนมนับพัน เมียหลวงเมียน้อยเป็นโขยงก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ!
ผู้ชายแบบนี้ คนอย่างเธอหนานหว่านเยียนอยากจะหนีไปให้ไกลแสนไกลเสียด้วยซ้ำ!
“ต่อให้ข้าแย่แค่ไหน ก็เป็นพระชายาที่กู้โม่หานตบแต่งอย่างถูกต้องตามประเพณี เจ้าเป็นแค่คนรับใช้ มีสิทธิ์ตัดสินโทษทุบตีจนตายให้ข้าด้วยรึ?!”
“นักโทษคนหนึ่งเท่านั้น ต่อให้เป็นพระชายา ข้าจะให้เจ้าตาย เจ้าก็อยู่ไม่ถึงพรุ่งนี้หรอก!”
สาวใช้ผู้นั้นถลึงตาใส่เธอ หยิบไม้ท่อนหนึ่งขึ้นมาฟาดลงไปที่หัวหนานหว่านเยียน….