ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 16 สองสาวพี่น้องแกล้งพ่อสารเลว
เซียงอี่ว์รีบทำการคารวะ “ข้าน้อยคารวะท่านอ๋อง”
เด็กหญิงสองคนเงยหน้าขึ้นพร้อมกัน และมองไปทางกู้โม่หาน
กู้โม่หานเหล่มองเซียงอี่ว์ พลางพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “พระชายาล่ะ?”
เซียงอี่ว์บอก “ตอนนี้พระชายาไม่อยู่ที่เรือนหน้า ถ้าท่านอ๋องอยากพบพระชายา ข้าน้อยจะไปกราบเรียน”
กู้โม่หานกำลังจะบอกว่าไม่ต้อง ก็เห็นเด็กหญิงสองคนยืนอยู่เรือนหน้าเพ่งมองมาทางเขา
คิ้วเขาขมวดมุ่นขึ้นมาทันที อ้อมผ่านเซียงอี่ว์มายืนหน้าเกี๊ยวน้อยกับเจ้าก้อนแป้ง พลางโค้มตัวถามว่า “แม่เจ้าล่ะ?”
เกี๊ยวน้อยกะพริบตาปริบๆ “ข้าเองก็ไม่รู้”
สีหน้ากู้โม่หานเคร่งเครียด
สตรีผู้นี้พอมีคนรับใช้ก็ไม่สนใจเด็กสองคนนี้แล้ว สมควรตายนัก!
“แม่เจ้า….” เขากำลังจะพูด พลันมีร่างสีดำสองร่างพุ่งเข้าหากู้โม่หาน
ชายหนุ่มยังไม่รู้ตัว ก็ได้ยินเกี๊ยวน้อยตะโกนว่า “เผ็ดไม่เผ็ด!หลบไป!”
จากนั้นน้ำสกปรกถาดใหญ่สาดใส่ร่างเขา
พริบตาเดียวกู้โม่หานกลายเป็นลูกหมาตกน้ำเปียกมะล่อกมะแล่ก น้ำสกปรกหยดติ๋งติ๋งจากใบหน้าเขา เขากำหมัดแน่นทันที มองไปทางเกี๊ยวน้อยที่ไม่รู้ถือถังน้ำตั้งแต่เมื่อไหร่ด้วยสีหน้าถมึงทึง
เซียงอี่ว์ยืนมองอ้าปากค้าง ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก
นี่…ท่านอ๋องที่สูงศักดิ์ที่สุดกลายเป็นลูกหมาตกน้ำ?!
เจ้าก้อนแป้งรีบบอก “ขอโทษด้วย พี่สาวอยากช่วยท่านไล่เผ็ดไม่เผ็ดไป พวกมันขี้เล่นมาก ท่านอา ท่านคงไม่โกรธพี่สาวใช่หรือไม่?”
เขาโกรธจัดสุมทรวง ก้มหน้าต่ำลง และมองเห็นในแววตากลมโตของเจ้าก้อนแป้งมีน้ำตาคลอ ก็ทำใจกล่าวโทษไม่ได้
“ข้าไม่โทษพวกเจ้าดอก”
เกี๊ยวน้อยรีบวิ่งเข้าไปหยิบผ้าสองผืนออกมาจากในห้อง ยื่นให้เจ้าก้อนแป้งหนึ่งผืน สีหน้ามีแววรู้สึกผิด “ขอโทษด้วยท่านอา ข้าไม่ได้ตั้งใจ ข้ากับเจ้าก้อนแป้งจะช่วยท่านเช็ดหน้าดีหรือไม่?”
“อืม” กู้โม่หานมองดูเด็กน้อยสองคนหน้าตายน่ารัก ขนาดตัวเขาเองก็ยังไม่รู้ว่า ทำไมถึงได้เชื่อฟังคำสั่งของเด็กหญิงสองคนได้ เขานั่งอยู่บนขั้นระเบียงแล้ว
เกี๊ยวน้อยเห็นอย่างนั้น ส่งสายตาให้ซาลาเปาทันที
ทั้งสองคนยืนข้างกู้โม่หานซ้ายขวา และเช็ดหยดน้ำบนใบหน้าอย่างพิถีพิถัน
มือน้อยๆของเกี๊ยวน้อยช่วยกู้โม่หานเบี่ยงผมที่บดบังดวงตา “ท่านอาหน้าตาดีขนาดนี้ ก็อย่าปิดไว้เลย”
เจ้าก้อนแป้งมองการกระทำของเกี๊ยวน้อย และเบี่ยงผมอีกด้านของเขาเหมือนกัน
กู้โม่หานได้ยินเสียงอ่อนโยนของเด็กหญิง ใจกลับสงบลงอย่างน่าประหลาด
แต่เขาไม่รู้ว่า ในจุดที่เขามองไม่เห็น สองสาวพี่น้องได้แอบหยิบดินสอสีคนละแท่งออกมาจากผ้าเช็ด
สองสาวพี่น้องเช็ดไป ก็แอบละเลงสีลงบนหน้ากู้โม่หานไปพลางอย่างเงียบเชียบ
ให้เจ้ารังแกท่านแม่! ให้เจ้าไม่รับพวกเราเป็นลูก! คนเลว!
ในเวลานี้เซียงอี่ว์ยืนอยู่ข้างๆ ไม่กล้าขยับเลยสักนิด
ตั้งแต่แรก นางเห็นนายน้อยทั้งสองใช้วิธีอะไรไม่รู้มาวาดหน้าเลอะเทอะให้ท่านอ๋อง!
ตอนนี้บนตัวกู้โม่หานมีหยดน้ำไหลหยดติ๋งๆไม่หยุด เสื้อผ้ายุ่งเหยิง ใบหน้าหล่อเหลายังโดนวาดจนฉูดฉาด จนกลายเป็นขอทานคนหนึ่ง!
และกู้โม่หานไม่รู้ตัวเลยสักนิด เขาสัมผัสความอบอุ่นเอาใจใส่จากสองเด็กน้อย ดวงตาทุ้มลึกมองสำรวจเนื้อตัวพวกนางไม่หยุด
กระทั่งเขายังมีความคิดเหลวไหลขึ้นมาว่า—-
ถ้าเกิดเด็กหญิงสองคนนี้เป็นลูกสาวของเขา จะดีสักแค่ไหนกันนะ…
ไม่นาน กู้โม่หานสีหน้าเครียดลงเพราะความคิดนี้
ก่อนหน้าที่เขาจะร่วมหอกับหนานหว่านเยียน นางไม่มีแต้มพรหมจรรย์ด้วยซ้ำ หมัวมัวยังเคยตรวจร่างกายหนานหว่านเยียน และยืนยันว่ามิใช่ครั้งแรก
และไม่รู้ว่าไปนอนกับใครมา
ปากบอกปาวๆว่ารักเขา ก่อนแต่งงานกับเขากลับคบชู้สู่ชาย นี่เรียกว่ารัก! ทั้งด้อยค่าทั้งน่ารังเกียจ!
พอคิดถึงตรงนี้ กู้โม่หานยิ่งอับอายจนโกรธมากขึ้นมา ดวงตาดำขลับทุ้มลึกของเขาทอประกายเคียดแค้นชิงชังหนานหว่านเยียนหนักขึ้น
“เกี๊ยวน้อย เจ้าก้อนแป้ง! กินข้าวได้แล้ว!”
ทันใดนั้นเสียงหนานหว่านเยียนดังขึ้นจากด้านหลัง
กู้โม่หานหันไปตามเสียง เห็นเพียงแค่หนานหว่านเยียนยืนยิ้มอยู่หน้าโต๊ะกลมที่ไกลออกไป และกวักมือเรียกเด็กสองคนให้ไปกินข้าว
และในวินาทีที่นางเห็นเขา สีหน้าพลันเย็นชาลง
กู้โม่หานรู้สึกไม่ชอบใจขึ้นมา และเดินตามเด็กสองคนที่กระโดดโลดเต้นไปทางนาง
หนานหว่านเยียนเห็นกู้โม่หานที่เดินมาด้วยใบหน้าบูดบึ้ง สีหน้าเธอเย็นชาก่อน จากนั้นก็หัวเราะออกมา
กู้โม่หานรู้สึกว่านางกำลังหัวเราะเยาะเขา คิ้วขมวดหนักขึ้น “เจ้าขันอันใดกัน?”
ซาลาเปากับเกี๊ยวน้อยรีบหันไปทำหน้าล้อเลียนหนานหว่านเยียน หนานหว่านเยียนเข้าใจในทันที
“ไม่มีนี่ ข้ามิได้ขันอันใด” หนานหว่านเยียนยิ้มไม่หุบ เธอย่อตัวลง ลูบหัวเกี๊ยวน้อยที่วิ่งมาถึงก่อน “หิวแล้วหรือไม่ลูก? วันนี้แม่ทำอาหารที่พวกเจ้าชอบกินที่สุดด้วยนะ”
เกี๊ยวน้อยอุทานด้วยความดีใจ “ดีเลย! ข้ารักท่านแม่ที่สุดเลย!” พูดเสร็จ ก็หอมแก้มหนานหว่านเยียนหนึ่งที จากนั้นก็วิ่งไปล้างมือเองเลย
เจ้าก้อนแป้งที่มาช้ากว่าก็วิ่งตามหลังเกี๊ยวน้อยไปติดๆ
กู้โม่หานคิ้วขมวดมุ่น เขารู้สึกว่าสีหน้าหนานหว่านเยียนดูแปลกมาก
แต่เขาไม่ได้คิดอะไรมาก สายตาจับจ้องไปที่บนโต๊ะอาหาร
บนโต๊ะกลม นอกจากอาหารหลายอย่างที่กู้โม่หานรู้จักแล้ว ยังมีอาหารหน้าตาน่าดูหลายจานนักที่เขาไม่รู้ชื่อ
โดยส่วนตัวแล้วสตรีผู้นี้สิ้นเปลืองเพียงนี้?!
และพอมองสีหน้าเด็กสองคนนั่น เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรก
กู้โม่หานโกรธจนสีหน้าเขียวเข้ม
หลายปีมานี้หนานหว่านเยียนอยู่อย่างสุขสบายขนาดนี้ ต้องมีปัญหาตรงไหนแน่ๆ เขาต้องหาเวลาสืบดูให้รู้แน่ชัด !
ในตอนนี้เอง เซียงเหลียนที่ยืนข้างๆและเหล่าคนรับใช้เห็นใบหน้ากู้โม่หาน ทนไม่ไหวอยากถามว่า “ท่านอ๋อง ท่าน….”