ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 35 ท่านอ๋องถูกพระชายาหลอกแล้ว
คิ้วและตาของไทเฮาขมวดกันเป็นก้อน ดวงตาหรี่ลงครึ่งหนึ่ง บอกไม่ถูกว่าไม่พอใจหรือว่าไม่เข้าใจกันแน่
ในดวงตาของเจียงหรูเยว่เต็มไปด้วยความสะใจ นางลุก “ซวบ” ขึ้นมาในที่นั่งของสมาชิกสตรี มือข้างหนึ่งเท้าเอวไว้ อีกข้างหนึ่งชี้ไปที่หนานหว่านเยียน “พระชายาอี้วันนี้ยังสอนวิธีปฏิบัติตัวแก่ข้าอยู่เลย แต่คิดไม่ถึงว่าพระชายาอี้ต่างหากที่เป็นคนที่ไม่รู้จักมารยาทที่สุดคนนั้น!”
น้ำเสียงของนางเฉียบแหลม ไม่ให้โอกาสหนานหว่านเยียนได้อธิบายเลยแม้แต่น้อย
หนานหว่านเยียนมองไปที่เจียงหรูเยว่อย่างเย็นชา “ของขวัญที่ข้าส่งให้กงกงพิธีการ ไม่ใช่ต้นไม้กระถางนี้”
เจียงหรูเยว่ยิ้มเย้ยหยันออกมา: “เจ้าบอกว่านี่ไม่ใช่ของขวัญของเจ้า เช่นนั้นเจ้าก็ลองหาดู ในตำหนักแห่งนี้ยังมีอะไรที่เจ้ามอบให้อีก? ถึงแม้จะเป็นของขวัญธรรมดา แต่อย่างน้อยก็เป็นของขวัญชิ้นหนึ่งนะ”
หยุนอี่ว์โหรวก็มองดูหนานหว่านเยียนเช่นกัน “พระชายาอี้ บางทีท่านอาจจะมีเหตุผลอย่างอื่น ทำให้การเลือกของขวัญวันเกิดให้ไทเฮาล่าช้าไป แต่ว่าไทเฮาชอบท่านขนาดนี้ แล้วก็ยังเป็นวันเกิดของนางอีก……ท่านทำแบบขอไปทีเช่นนี้ มันไม่ดีเลยจริงๆ”
หยุนอี่ว์โหรวกับเจียงหรูเยว่ผลัดกันตำหนิ หนานหว่านเยียนมองดูพวกนางอย่างเย็นชาครู่หนึ่ง นังตอแหลสองคนนี้ ไม่สร้างเรื่องก็จะตายใช่ไหม
แต่ตอนนี้นางไม่มีเวลามาสนใจพวกนาง ถูนิ้วมือครุ่นคิดหามาตรการตอบโต้อย่างจริงจัง
เจียงหรูเยว่เห็นหนานหว่านเยียนไม่พูดอะไรแล้ว นึกว่านางร้อนตัวแล้ว ในใจรู้สึกได้ใจและสะใจมาก
เมื่อครู่หนานหว่านเยียนทำให้นางอับอายขนาดนั้น ในที่สุดตอนนี้ก็หาโอกาสแก้แค้นนางได้แล้ว!
บรรยากาศตึงเครียดไปชั่วขณะหนึ่ง
ทุกคนต่างก็กำลังรอดูหนานหว่านเยียนถูกลงโทษอย่างหนัก ทางที่ดีสุดคือถูกไทเฮาเกลียด อับอายจนไม่มีหน้าอยู่ในราชวงศ์ซีเย่นับแต่นี้ไป!
ทันใดนั้น ก็มีคนคนหนึ่งเดินออกมาจากกลุ่มคน เอ่ยปากกล่าวขึ้นมาอย่างเคร่งขรึม: “ขอฝ่าบาทโปรดประทานอภัยด้วย เท่าที่กระหม่อมดูแล้ว พืชชนิดนี้ไม่ใช่พืชธรรมดา”
คนคนนี้ก็คือบิดาผู้ให้กำเนิดของหนานหว่านเยียน——หนานฉีซานเฉินเซี่ยงแห่งแคว้นซีเย่
ได้ยินคำพูด สายตาของทุกคนต่างก็มองไปทางหนานฉีซานอย่างพร้อมเพรียงกัน สายตาตกตะลึง
แม้แต่หนานชิงชิง ก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก
พ่อคนนี้ของนาง ในเวลาปกติไม่สนใจเรื่องหนานหว่านเยียนเลยด้วยซ้ำ วันนี้ถึงกับช่วยนางพูดขึ้นมาได้?
ฮ่องเต้กวาดตามองหนานฉีซานครู่หนึ่ง น้ำเสียงไม่พอใจ “เฉินเซี่ยงนี่คือกระตือรือร้นในการปกป้องลูกสาว ต้องการจะแก้ต่างให้จวนอ๋องอี้หรือ?”
“กราบทูลฝ่าบาท กระหม่อมไม่เคยมีความคิดเช่นนี้มาก่อน เพียงแต่ตอนที่ทัศนาจรสมัยยังเป็นหนุ่ม โชคดีเคยเห็นพืชชนิดนี้มาก่อน พืชชนิดนี้มีชื่อว่าผูหย่า คือพืชสายพันธุ์ประหลาดที่ในรอบพันปีจะพบได้ในโลกเพียงครั้งเดียว ในร้อยปีจะออกดอกเพียงครั้งเดียว
ขณะที่พูดไป เขาก็หยุดไปอีกครู่หนึ่ง “เท่าที่กระหม่อมดูมา ถึงแม้คำพูดจะไม่สามารถเชื่อได้หมด แต่พืชชนิดนี้หายากจริงๆ ไม่ใช่วัชพืชริมทาง แต่เป็นสมบัติที่หาได้ยากในโลก”
สิ้นเสียง ทุกคนฮือฮาขึ้นมาในทันที!
อะไรนะ!
หญ้าต้นนี้ถึงกับเป็นสมบัติหายากในโลก? ? !
นี่มันสมเหตุสมผลหรือ!
หนานหว่านเยียนเองก็ทำหน้างุนงง
วันนี้พระอาทิตย์ขึ้นมาทางทิศตะวันตกหรือ?
โดยพื้นฐานแล้วหนานฉีซานกับร่างเดิมมีความสัมพันธุ์ทางผลประโยชน์เท่านั้น ไม่ได้มีความสัมพันฉันพ่อลูกที่จริงใจต่อกัน
ในห้าปีมานี้นางกลายเป็นชายาผู้ถูกทิ้ง หนานฉีซานไม่เคยมาเยี่ยมนางเลยสักครั้ง
แต่ตอนนี้ หนานฉีซานถึงกับกำลังช่วยนางอยู่?
และคนอื่นๆต่างก็มองหน้ากันไปมา
มีคนกล่าวว่า: “เฉิงเซี่ยงหนานเป็นพ่อของพระชายาอี้ ความน่าเชื่อถือของคำพูดที่พูดออกมานี้ดูจะไม่…..”
“แค่คำพูดเพียงฝ่ายเดียวของเฉิงเซี่ยงหนาน ทำให้คนเชื่อได้ยากจริงๆ……”
จู่ๆฮ่องเต้ก็ตรัสขึ้นมาว่า: “ท่านมหาบัณฑิต ท่านมาดูสิ พืชชนิดนี้เหลือเชื่ออย่างที่เฉิงเซี่ยงกล่าวมาหรือไม่?”
ท่านมหาบัณฑิตรับพระบัญชา ก้าวเข้ามาข้างหน้าทันที ตรวจสอบกระถางต้นไม้ขึ้นมาอย่างละเอียด
“นี่……” รูม่านตาของเขาหดตัวแน่นทันที ในดวงตาเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้นที่ไม่ธรรมดา
“สิ่งอัศจรรย์! คือสิ่งอัศจรรย์จริงๆด้วย!”
หลังจากที่ท่านมหาบัณฑิตศึกษาอย่างละเอียดแล้ว ก็กำหมัดกราบทูลต่อฮ่องเต้ว่า: “ฝ่าบาท ฮองเฮา ไทเฮา สิ่งที่พระชายาอี้มอบให้คือ ‘ผูหย่า’ จริงๆ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด!”
ดูเหมือนเขาจะตื่นเต้นมาก คนทั้งคนดูเปล่งประกาย “ต้นนี้ น่าจะเป็น ‘ผูหย่า’ ที่กลายพันธุ์ เป็นการดำรงอยู่ที่ล้ำค่ายิ่งกว่ามัน! หายากมากๆ! ! !”
ถึงแม้จะเป็นฮ่องเต้ หลังจากที่ได้ยินสีหน้าท่าทางก็ตกตะลึง “คือหญ้าวิเศษจริงหรือเนี่ย?”
คนอื่นๆตกตะลึงกันไปโดยตรง จ้องมองพืชกระถางนั้นตาไม่กะพริบ อ้าปากกว้างจนสามารถยัดกำปั้นเข้าไปได้แล้ว!
สถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างมากทันที
มุมปากของหนานหว่านเยียนกระตุกเบาๆ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
“เช่นนั้นสิ่งนี้มีผลดีอันน่าทึ่งอย่างไรหรือไม่?” ไทเฮารู้สึกนั่งไม่ติดเล็กน้อยแล้ว
นางยังนึกว่าของขวัญที่หนานหว่านเยียนมอบให้นั้นใช้สำหรับทำให้นางโกรธจริงๆ คิดไม่ถึงว่าสิ่งที่มอบให้จะเป็นหญ้าวิเศษ!
ท่านมหาบัณฑิตตื่นเต้นจะตายแล้ว
“ทูลไทเฮา กระหม่อมเคยอ่านเจอเกี่ยวกับ ‘ผูหย่า’ พืชชนิดนี้ในหนังสือโบราณ ต้นและใบใช้เป็นยา มีผลทำให้อายุยืน! ผู้ที่รับประทานเข้าไปยังสามารถคงความอ่อนเยาว์ ร่างกายแข็งแรง ได้ยินมาว่าคนที่ใกล้ตายขอเพียงแค่ได้กินกลีบดอกของผูหย่ากลายพันธุ์ ยังสามารถมีชีวิตรอดได้อีกสิบปี! คือยาวิเศษที่ไม่มีอะไรเทียบได้!”
“พระชายาอี้มอบของขวัญชิ้นนี้มีใจแล้วจริงๆ แค่ ‘ผูหย่า’ ธรรมดา เติบโตจนออกดอกก็ต้องใช้เวลานับร้อยปีแล้ว หายากอย่างมาก และต้นกลายพันธุ์ต้นนี้ก็ยิ่งหายากเข้าไปใหญ่ กระหม่อมมีชีวิตอยู่มาสี่สิบกว่าปี เพิ่งจะเคยเห็นครั้งแรกเลย!”
ได้ยินคำพูด ในใจของกู้โม่หานรู้สึกมีคลื่นโหมซัดสาดอย่างบ้าคลั่งในชั่วพริบตา
หญ้านี่เป็นสิ่งที่มีค่าขนาดนี้เลยท? !
แต่หนานหว่านเยียนกลับแสร้งทำท่าทางไม่รู้อะไรเลย แม้แต่เขาก็ถูกนางหลอก ช่างมีความคิดที่ลึกล้ำจริงๆ
เมื่อเป็นเช่นนี้ ไทเฮาจะต้องชอบนางมากยิ่งขึ้น!
อย่างไรเสียท่านมหาบัณฑิตก็เป็นชายชราผู้มีคุณธรรมและบารมีสูงส่งในแคว้นซีเย่ ทั่วทั้งแคว้นซีเย่รวมไปถึงฮ่องเต้และฮองเฮา ล้วนให้ความเคารพต่อเขาทั้งนั้น คำพูดของเขาไม่เป็นเท็จอย่างแน่นอน
หญ้าวิเศษที่มีผลในการทำให้อายุยืนและคงความอ่อนเยาว์ ใครๆก็ปราถนาทั้งนั้น
ฮ่องเต้ก็สนใจประสิทธิภาพของ ‘ผูหย่า’ กลายพันธุ์ต้นนี้แล้ว สายตาลุกเป็นไฟ
เขากัดฟันขึ้นมากะทันหัน ตรัสต่อไทเฮาว่า “ไทเฮา ข้าอยากจะใช้หยกเกล็ดมังกรแลกกับกระถางพืชสีเขียวนี่ ไทเฮาทรงคิดเห็นอย่างไร?”