ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ – บทที่ 174 เจ้าตกหลุมรักหนานหว่านเยียนแล้วเหรอ

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 174 เจ้าตกหลุมรักหนานหว่านเยียนแล้วเหรอ

นางเดาว่ากู้โม่หานกับหนานชิงชิงจะต้องมีเรื่องลับลมคมในอะไรกัน แต่คิดไม่ถึงว่าความสัมพันธ์จะลึกซึ้งขนาดนี้…….

หนานหว่านเยียนตั้งใจฟังขึ้นมาทันที และตั้งใจฟังคำพูดทุกคำที่หนานชิงชิงจะพูดต่อไป

กู้โม่หานเหมือนจะคิดไม่ถึงว่าหนานชิงชิงจะพูดอย่างตรงไปตรงมาแบบนี้ ถึงกับพูดคำพูดที่ไม่มียางอายแบบนี้ออกมา ความเบื่อหน่ายในดวงตาเย็นชาปรากฏออกมาทันที

“เจ้าหมายความว่ายังไง?”

หนานชิงชิงกับกู้โม่หานต่างก็ไม่รู้ว่าตอนนี้หนานหว่านเยียนกำลังแอบฟังอยู่ นางเปิดเผยความในใจกับกู้โม่หานไปอย่างบ้าคลั่ง

“โม่หาน ข้ากับเจ้าเป็นคู่กิ่งทองใบหยกกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว ตั้งแต่เด็กก็ได้อยู่ด้วยกันมา ตอนนั้นข้างกายเจ้าไม่มีใครอื่น ข้าเป็นคนอยู่เคียงข้างเจ้าเสมอ พวกเราในตอนนั้น ไม่มีเรื่องกังวลใด ๆ เป็นอิสระและมีความสุข”

“แต่น่าเสียดายที่โชคชะตาเล่นตลกกับคน ถ้าไม่ใช่เพราะว่าพ่อข้าบังคับให้ข้าแต่งงานกับอ๋องเฉิง บางที หว่านเยียนก็ไม่ต้องมาแต่งงานกับเจ้าแล้ว……”

คำพูดนั้นพูดไปแบบนี้ แต่ในใจหนานชิงชิงนั้นเข้าใจดี

ถ้าไม่ใช่เพราะว่ากู้โม่หานไม่ยอมก้าวหน้า ทั้ง ๆ ที่มีความสามารถอย่างเทพสงคราม แต่กลับไม่ชิงดีชิงเด่น ยินยอมที่จะเป็นท่านอ๋องว่างงาน นางก็คงจะไม่มีทางปล่อยเขาไปหรอก

เขาเป็นคนที่สมบูรณ์แบบขนาดนั้น ตัดสินใจอะไรเฉียบขาด รูปลักษณ์ภายนอกดูดี ดีกว่าอ๋องเฉิงทุกด้าน สถานะก็สูงส่ง

แต่น่าเสียดายที่เขาไม่อยากครอบครองแผ่นดิน งั้นนางก็เลยต้องเลือกอ๋องเฉิง แต่งงานกับอ๋องเฉิง มีฮองเฮาคอยคุ้มครองอยู่ นางถึงจะมีโอกาสได้เป็นฮองเฮา

หนานหว่านเยียนที่แอบฟังอยู่ ในใจเกิดความรังเกียจขึ้นมา

ในความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม หนานชิงชิงกับอ๋องเฉิงมีความสัมพันธ์ที่ไม่เลวต่อกัน ตอนนั้นตอนที่หนานชิงชิงแต่งงานออกไป ก็มีรอยยิ้มเต็มหน้า มองไม่ออกเลยสักนิดว่าถูกบังคับ

มาตอนนี้พออยู่ต่อหน้ากู้โม่หาน กลับมาพูดว่าถูกบังคับให้แต่งงานกับอ๋องเฉิง และอยากจะสานสัมพันธ์เก่ากับกู้โม่หานต่อ ช่างเป็นดอกพันหมื่นปีที่แอบซ่อนไว้มิดชิดจริง ๆ แกร่งกว่าหยุนอี่ว์โหรวพวกที่มีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวไปไม่รู้ตั้งเท่าไหร่

แต่ว่า เรื่องราวจะสำเร็จหรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่วางแผน อยู่ที่โชคล้วน ๆ

ตอนนี้นางเองก็เข้าใจชัดเจนแล้ว ว่าทำไมหนานชิงชิงถึงได้ส่งคนมาลอบฆ่านาง

สาเหตุของเรื่องทุกอย่าง น่าจะเป็นเพราะว่าหนานชิงชิงชอบกู้โม่หาน อิจฉาริษยาเท่านั้น

ในฐานะที่กู้โม่หานเรียกหนานชิงชิงว่าพี่สะใภ้สาม และเห็นแก่ที่สมัยเด็กยังถือได้ว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน จึงไม่ได้พูดจารุนแรงอะไรใส่หนานชิงชิง

แต่คำพูดของนาง ทำให้เขาขมวดคิ้วขึ้นมาจริง ๆ

“เจ้าแต่งงานกับอ๋องเฉิงไปแล้ว ทำไมยังพูดคำพูดแบบนี้ออกมาได้อีก?”

พอหนานชิงชิงได้รับคำตอบกลับมาของกู้โม่หาน บนใบหน้าก็ย่ำแย่ไปเล็กน้อย

“ข้ารู้ ว่าที่ข้าแต่งงานกับอ๋องเฉิงทำให้เจ้าโกรธ สำหรับห้าปีมานี้ เจ้าไม่เคยติดต่อกับข้าเลย ตอนพบหน้ากันก็ไม่ค่อยพูดคุยกับข้ามากนัก แต่ว่าข้ารู้ ในใจเจ้านั้นมีข้าอยู่เสมอ”

นางพูดแล้ว ก็เอาปิ่นหยกที่สดใสแวววาวอันหนึ่งออกมาจากอก แล้วยื่นไปตรงหน้ากู้โม่หาน

“ตอนนั้น เจ้าตามหาทั่วเมืองหลวงเพื่อจะเอาปิ่นหยกมามอบให้ข้า หลายปีมานี้ ข้าเอาพกติดตัวไว้เสมอ เห็นปิ่นก็เสมือนว่าได้เห็นเจ้า”

“ความในใจของเจ้า ข้ารู้มาตลอด แต่ว่าเจ้า……เจ้ากำลังโทษข้าอยู่หรือ? แต่ว่าตอนนั้น ข้าไม่ได้ยินยอมจริง ๆ นะ ข้ารอคอยให้เจ้ามาชิงงานแต่งเสมอ แต่สุดท้ายเจ้าก็ไม่มา”

ความในใจเหรอ?

ตอนนี้หนานชิงชิงเป็นแม่คนแล้ว กลับยังมาพูดคำพูดแบบนี้กับเขา ช่างฟังไม่เข้าหูจริง ๆ

คิ้วเรียวราวดาบของกู้โม่หานเคร่งขรึมขึ้นมา “เจ้าเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า ข้าไม่เคยชอบเจ้าเลย!”

ปิ่นหยกนั่นเป็นของขวัญวันเกิดที่เขามอบให้นางจริง ๆ ตอนนั้นอายุยังน้อย และมารดาของเขาก็ยังไม่เกิดเรื่อง พวกเขายังถือว่าเป็นสหายที่ดีต่อกัน สำหรับวันเกิดของนาง แน่นอนว่าเขาต้องใส่ใจหน่อยอยู่แล้ว

เขาเป็นคนให้ความสำคัญกับความรู้สึกเสมอ ถึงจะมีความแค้นใหญ่หลวงกับตระกูลหนาน แต่หนานชิงชิงเคยช่วงเขาไว้ เขาก็เลยยังไงก็ไม่ทำร้ายนาง

หนานหว่านเยียนฟังออกว่าในคำพูดของหนานชิงชิงมีคำพูดแอบแฝงอยู่ ปิ่นหยกนั่นมีกลิ่นอายของสื่อแห่งความรักอยู่เล็กน้อย

นางอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวขึ้น ถ้ากู้โม่เฟิงรู้เข้าว่าบนหัวตัวเองถูกสวมเขาไว้มากมาย ไม่รู้ว่าจะเอาดาบมาไล่ฟันกู้โม่หานหรือเปล่า?

แต่ความรังเกียจที่มีต่อกู้โม่หานในดวงตานางก็ยิ่งหนักหน่วงขึ้น

กู้โม่หานเป็นผู้ชายที่เจ้าชู้มากจริง ๆ ผู้หญิงรอบกายนั้นมีนับไม่ถ้วน แต่ละคนล้วนแต่คบหากันอย่างสนิทสนม นางยังนึกว่า ในใจเขามีแต่หยุนอี่ว์โหรวคนเดียวจริง ๆ ซะอีก

แต่คิดไม่ถึงเลยว่า……

ผู้ชายชั่วคนนี้ เขาจะปฏิบัติกับผู้มีพระคุณ ปฏิบัติกับภรรยาหลวงของเขาได้ชั่วช้าแบบนี้

ถุย! ไอ้สารเลว! นางยิ่งอยู่ก็ยิ่งรู้สึกไม่คุ้มต่อเจ้าของร่างเดิมจริง ๆ

หนานหว่านเยียนยังไม่ทันจะได้รังเกียจในใจเสร็จ น้ำเสียงทางหนานชิงชิงก็ดังขึ้นมาอย่างเร่งรีบซะก่อน “ถ้าเจ้าไม่ชอบข้า แล้วทำไมถึงดีกับข้าแบบนี้? โม่หาน เจ้า……”

นางอยากโผเข้าไปอยู่ในอกกู้โม่หาน กู้โม่หานกลับขมวดคิ้วแล้วหลบไป สีหน้าหนานชิงชิงขาวซีดมากยิ่งขึ้น จ้องมองเขาด้วยดวงตาแดงก่ำ แล้วเปิดปากพูดสะอื้นขึ้น

“ถ้าเจ้าไม่มีเยื่อใยกับข้า แล้วทำไมต้องเกลี้ยกล่อมข้าว่าอย่ากินกุ้ง? ทั้ง ๆ ที่เจ้าจำได้เสมอว่าข้ากินอะไรไม่ได้บ้าง ผ่านมานานหลายปีแบบนี้แล้ว ยังไงก็ไม่เคยลืม นี่ยังถือว่าไม่ชอบอีกเหรอ?”

นางไม่เชื่อว่ากู้โม่หานไม่มีความรู้สึกอะไรต่อนางเลยสักนิด เขาจะต้องมัวคำนึงถึงความสัมพันธ์ชั้นนี้ ก็เลยเอ่ยปากไม่สะดวก

กู้โม่หานมองไปที่นางอย่างเบื่อหน่าย “ทำไมข้าถึงเกลี้ยกล่อมเจ้าว่าอย่ากินกุ้งงั้นเหรอ? แล้วจะให้ทนดูเจ้าเอาโรคแผ่ขยายไปให้ลูกเหรอ? นี่ตกลงเจ้ายังมีความรับผิดชอบของคนเป็นแม่อยู่หรือเปล่า?”

ลูกเหรอ?

สายตาของหนานชิงชิงหยุดนิ่งไป ถึงนางจะฉลาดขนาดไหน ก็คิดไม่ถึงว่าที่กู้โม่หานช่วยนางไว้จะเพราะสาเหตุแบบนี้

นางดึงแขนเสื้อกู้โม่หานไว้อย่างหูตาว่องไว “เจ้าห้ามปรามข้า ไม่ใช่เพราะว่ากลัวข้าไม่สบาย แต่เพราะกลัวลูกข้าจะไม่สบายเหรอ?”

กู้โม่หานปัดมือของนางทิ้งไป “ไม่งั้นเจ้าคิดว่าเพราะอะไรล่ะ? ในใจข้าไม่มีเจ้าอยู่ เจ้าอย่าคิดมากไปเองเลย!”

ใจของหนานชิงชิงกระตุกขึ้นมาอย่างรุนแรง แล้วถามขึ้นมาอย่างน่าเวทนาว่า “ในใจเจ้าไม่มีข้าอยู่ หรือว่าเจ้าตกหลุมรักหนานหว่านเยียนแล้วเหรอ?”

“ตอนนี้นางหน้าตาสะสวย การแพทย์ก็ช่ำชอง สามารถ……สามารถทำให้เจ้าชอบนางได้จริง ๆ”

หัวคิ้วของกู้โม่หานขมวดกันแน่นมากยิ่งขึ้น “ข้าชอบหนานหว่านเยียนหรือไม่ ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้า ถ้าเจ้าพูดจามากพอแล้ว ก็รีบจากไปซะ”

หนานหว่านเยียนยัยสมควรตายนี่ ทำไมถึงยังไม่มาอีกนะ? นางจะไม่ออกจากวังแล้วใช่ไหม!

หนานชิงชิงจ้องมองกู้โม่หานไว้นิ่ง ดวงตามีแววเย็นชากะพริบขึ้นมา บนใบหน้ากลับมีสภาพน่าเวทนาอยู่

“ข้านึกว่าเจ้าจะชอบหว่านเยียนแล้ว ถึงแม้ว่าข้าจะเสียใจมาก แต่อย่างน้อยก็ยืนยันได้ว่าเจ้าได้ปล่อยวางความแค้นกับตระกูลหนานเราแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่า ความสัมพันธ์ที่เจ้ากับหว่านเยียนเป็นสามีภรรยากันมาหลายปีแบบนี้ ยังคงห่างเหินกันขนาดนี้อีก……”

ร่างกายของกู้โม่หานสั่นเทาอย่างแรงทีหนึ่ง ความเกลียดที่มหาศาลพุ่งขึ้นมาจากก้นบึ้งหัวใจทันที

ในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ เพราะว่าหนานหว่านเยียน เขาเหมือนจะค่อย ๆ ลบเลือนความเกลียดในใจลงไป ถ้าไม่ใช่เพราะหนานชิงชิงเอ่ยออกมาแบบนี้ เขาเกือบจะลืมเป้าหมายที่ตัวเองมีต่อหนานหว่านเยียนไปแล้วด้วยซ้ำ

แต่เขาจะลืมไปได้ยังไงกัน? ทุกเรื่องที่ตระกูลหนานทำกับแม่และเขา ความแค้นฝังลึกของตระกูลหนานและเขา เขาจะลืมไปได้ยังไง!

กู้โม่หานยังไม่ได้ตอบ หนานหว่านเยียนที่แอบฟังอยู่ตรงหลังภูเขาจำลอง อยู่ ๆ ก็รู้สึกเย็น ๆ ตรงหน้าผาก พอลองลูบดูก็เป็นหนอนขนฟู ๆ ตัวหนึ่ง กำลังแยกเขี้ยวยิงฟันและบิดตัวไปมาให้กับนาง

หนานหว่านเยียนไม่ทันได้ตั้งตัว สูดลมเย็น ๆ เข้าไปคำหนึ่ง แล้วขนลุกไปทั่วตัว

การเคลื่อนไหวนี้เสียงดังไม่น้อย ทำให้หนานชิงชิงเกิดความสนใจขึ้นมาทันที

นางมองไปทางภูเขาจำลองทันที ดวงตาลูกแอปริคอทเต็มไปด้วยแรงสังหาร แล้วพูดเสียงขรึมขึ้นว่า “ใครอยู่ตรงนั้น……”

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

Status: Ongoing
หนานหว่านเยียน อัจฉริยะแห่งวงการแพทย์ ข้ามภพมาเป็นพระชายาอัปลักษณ์ผู้ถูกทอดทิ้งแห่งจวนอ๋องอี้ แต่ด้วยมันสมองของอัจฉริยะ และความแข็งแกร่งฉบับสาวยุคใหม่ เธอจะพลิกเกมกลับมาแก้แค้นไอ้พวกเศษสวะให้สิ้นซาก!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท