ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 178 หนานหว่านเยียน เจ้าพูดอีกครั้งซิ
ฝ่ามือกว้างใหญ่ของกู้โม่หาน ทาทับอยู่บนมือของหนานหว่านเยียนทั้งมือ แข็งกร้าวจนทำให้นางขยับเขยื้อนไม่ได้
คิ้วหมึกของหนานหว่านเยียนขมวดขึ้น เงยหน้าขึ้นมามองเขา “ข้าหมายความว่ายังไงเหรอ? ข้าใส่ห่วงหยกนี่แล้วรู้สึกแปลก ๆ ใส่แล้วกลุ้มใจ ข้าจะแกะออก”
ไม่ใช่ของดีอะไรสักหน่อย ของที่มีความหมายว่าเป็นของแทนใจกับกู้โม่หาน นางจะใส่ไว้ทำไม!
ที่สำคัญยังเสียงดังขนาดนี้ด้วย กลุ้มใจตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ไอ้ของนี่เสียงดังจนทำให้นางยิ่งทรมานมากขึ้น
ความโกรธเคืองในดวงตาของกู้โม่หานก็ยิ่งลึกซึ้งมากขึ้น คิ้วเรียวราวดาบเคร่งขรึมขึ้น “เสด็จพ่อมีราชโองการมาแล้ว เจ้ากล้าขัดหรือ?”
ทุกการกระทำของหนานหว่านเยียนในวันนี้ ไม่มีอะไรที่ไม่แตะต้องขอบเขตของเขาเลย ซึ่งรวม ๆ กันแล้ว ก็มากพอที่จะแสดงให้เห็นถึงความเฉยเมยและความไม่แยแสที่ผู้หญิงคนนี้มีต่อเขา
บวกกับเมื่อกี้ได้ไปตำหนักอู๋ขู่มาเที่ยวหนึ่ง สภาพที่เจ็บป่วยทรุดโทรมของหยีเฟย ก็ลบเลือนไปจากสายตาเขาไม่ได้
ความโหดเหี้ยมของกู้โม่หานอยู่ ๆ ก็ยิ่งหนักหน่วงขึ้นมา
“หรือว่า เจ้าร้อนรนอยากโดนลงโทษลงมาก?”
ดวงตาสดใสของหนานหว่านเยียนเต็มไปด้วยความขัดแย้งและความต่อต้าน นางใช้แรงขัดขืนออกจากมือชายหนุ่ม มองไปทางกู้โม่หานที่ใบหน้าเย็นชาและมืดมน แล้วถามเสียงสูงขึ้น
“เสด็จพ่อมีราชโองการ มา แต่ก็ไม่ได้บอกว่าต้องใส่ตลอดเวลา เพียงแต่ใส่เป็นพิธีตอนที่เข้าไปพบพระองค์ในวัง เพื่อแสดงออกว่าข้ากับเจ้ายังเป็นสามีภรรยากันอยู่ ความรู้สึกยังไม่แตกสลาย ในจุดนี้เจ้าคิดไม่ตกหรือ?”
“และที่สำคัญนะกู้โม่หาน เจ้ากับข้าช้าเร็วก็ต้องหย่ากัน ตอนนี้จะมาแสดงเป็นลูกกตัญญูอะไรอยู่ที่นี่? เรื่องแสดงละครแบบนี้ เจ้าเข้าใจมากกว่าข้าอีกไม่ใช่เหรอ?”
นางรู้ เขาถูกความแค้นบังตาทั้งคู่เอาไว้ ตอนนี้จึงตั้งใจมาหาเรื่องนาง
เพราะว่าสำหรับเขาแล้ว ตระกูลหนานคือหนามทิ่มอก!
ดวงตาดำของกู้โม่หานกระตุกเล็กน้อย ไฟโกรธพุ่งสูงขึ้นมาถึงหัว เขาลุกพรวดพลาดขึ้นไปจับข้อมือนางเอาไว้ แล้วเอาไว้กดไว้ที่ด้านหลังศีรษะ
“เจ้ายังกล้าพูดถึงเรื่องนี้อีกหรือ?! หนานหว่านเยียน จากที่ข้าดูมา คนที่ทำลายสัญญาตามใจชอบ ล้วนเป็นคนทรยศหักหลังที่ต่ำทรามทั้งนั้น!”
“โดยเฉพาะก่อนหน้านี้ที่เจ้าเอ่ยถึงเรื่องหย่าต่อหน้าเสด็จพ่อ ถ้าไม่ใช่เพราะว่ามีจิตใจแอบแฝง ก็ไม่สามารถอธิบายการกระทำของเจ้าได้!”
พอหนานหว่านเยียนได้ยิน ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมา
“ข้ามีจิตใจแอบแฝงเหรอ? กู้โม่หาน ทำไมข้าต้องพูดถึงเรื่องหย่าขึ้นมาล่วงหน้า? ก็เพราะเจ้าเป็นคนบีบบังคับทั้งนั้น?”
“ข้าบังคับเจ้าหรือ? แล้วเจ้าไม่ได้เป็นคนต้องการหนังสือหย่าเองหรือ? เจ้าเป็นคนทำสัญญาครึ่งปีกับข้าเองไม่ใช่หรือ? ข้ามอบหนังสือหย่าให้เจ้าแล้วด้วยซ้ำ เจ้ายังจะเสแสร้งอะไรอีก?!”
หนานหว่านเยียนถูกทำให้โมโหจนหัวเราะขึ้นมา “มอบให้ข้าแล้วยังไง? ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าบีบบังคับทุกฝีก้าว บีบข้าให้ถึงตายเพื่อผู้หญิงคนหนึ่งครั้งแล้วครั้งเล่า ข้าจะเปิดปากพูดขึ้นมาได้เหรอ?”
“ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าเอาความแค้นของตระกูลมาลงที่ข้า จะยื้อแย่งลูกสาวทั้งสองคนของข้า เวลาแค่ครึ่งปีข้าจะรอไม่ได้ จนอยากจะหย่ามากขนาดนี้เชียวเหรอ?”
“กู้โม่หาน เจ้าอยากมีชีวิตยังไง ข้าไม่สน แต่ข้าแค่อยากออกห่างจากความแค้นนี้ ไปใช้ชีวิตสงบสุขกับลูกสาวทั้งสองของข้า แต่เจ้าขัดขวางข้า ยังสวมเขาให้กับข้า เจ้าก็คือศัตรูของข้า!”
พูดแล้ว นางก็เอาเข็มเงินออกมาจากห้วงเวลา อยากจะปักไปที่ตัวเขาอย่างแรง
สายตาของกู้โม่หานหยุดนิ่งครู่หนึ่ง มือซ้ายดึงเข็มเงินที่หนานหว่านเยียนซ่อนอยู่ตรงนิ้วมือออกไป
“ทุกครั้งก็เป็นแบบนี้ พูดกันได้ครึ่งเดียว ก็จะใช้วิธีสกปรกพวกนี้มาต่อกรกับข้า!”
เขาเอาเข็มเงินโยนออกไปนอกหน้าต่าง แล้วจับข้อมือหนานหว่านเยียนไว้แน่น จ้องมองใบหน้าที่โกรธจนขาวซีดของนาง ดวงตาก็ยิ่งโหดเหี้ยมมากขึ้น
ผู้หญิงคนนี้ ในใจคิดแค่อยากจะหลบหนี ตอนนี้แม้แต่เวลาทะเลาะกันก็ยังเอาแต่คิดว่าจะทำร้ายเขายังไง!
หนานหว่านเยียนไม่สนใจเขามากแค่ไหน ถึงได้เหยียบย่ำเขาครั้งแล้วครั้งเล่า สร้างความลำบากให้เขาต่อหน้าผู้คน ทำให้ทุกคนรู้สึกว่าเขาไม่สำคัญ?!
ยังมีเด็กหญิงสองคนนั่น……
“ข้าจะยื้อแย่งยัยเด็กหญิงสองคนนั่นแล้วทำไม? ก็เด็กเป็นลูกข้ามาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว!”
พอหนานหว่านเยียนเห็นเข็มเงินถูกแย่งไปแล้ว ก็กัดฟันกรอก ขาทั้งคู่เตะไปอย่างแรง “ไสหัวไป! ไอ้ผู้ชายชั่ว!”
กู้โม่หานตอบสนองเร็วมาก ใช้มือเดียวรัดเอวหนานหว่านเยียนเอาไว้ แล้วดึงลงข้างล่างอย่างแรง ก็หลบหลีกการจู่โจมของนางไปได้อย่างง่ายดาย
พื้นที่ในรถม้าไม่ได้กว้างมาก ตอนนี้ทั้งสองคนบิดกันเป็นก้อน ล้มลงไปบนที่นั่งเลย
เขาตำหนิขึ้น “หนานหว่านเยียน เจ้ายังกล้าลงมือกับข้าอีก……”
นางยิ่งโกรธเคือง “ข้าจะลงมือแล้วทำไม?! เจ้ายั่วยุข้าไม่หยุด แตะโดนขอบเขตของข้าตั้งนานแล้ว ข้าจะบอกเจ้านะ อย่านึกว่าเจ้าเกลียดข้าคนเดียว พวกเจ้าไม่ต้อนรับข้า ข้าก็รังเกียจเจ้าเหมือนกัน!”
“ไม่ว่าจะเป็นจวนอ๋อง หรือในวังก็ช่าง ข้าไม่อยากอยู่แม้แต่วินาทีเดียวแล้ว! แล้วข้าก็รอครึ่งปีไม่ไหวแล้ว ตอนนี้ข้าจะเลื่อนเวลาหย่าเข้ามา เป็นตอนนี้เลย หย่ากันเดี๋ยวนี้เลย!”
นางทนไม่ไหวแล้ว?
นางมีอะไรให้น่าอดทนกัน? ช่วงที่ผ่านมานี้ ต้องมีชีวิตลำบากขึ้นเพราะเขาไม่ใช่เหรอ!
พอเห็นท่าทางนางมีไฟโกรธพุ่งขึ้นมา แล้วแทบอยากจะตัดขาดจากเขาให้ชัดเจน ไม่รู้ทำไมในใจกู้โม่หาน ก็เกิดคลื่นใหญ่ซัดขึ้นมาทันที มีแต่ความหดหู่และขุ่นเคืองไม่รู้จบ
“หนานหว่านเยียน! เจ้าลองพูดขึ้นมาอีกครั้งให้ข้าดูซิ!”
“ข้าบอกให้เจ้าไสหัวไป! ตอนนี้ เดี๋ยวนี้เลย อู่ว์……”
คำพูดของนางยังพูดไม่ทันจบ อยู่ ๆ เขาก็ก้มหัวลงมา แล้วจูบปากหนานหว่านเยียนไว้อย่างแรง รุนแรงเป็นอย่างมาก ……