ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่191 กู้โม่หาน ข้าจะไม่ช่วยเจ้าอีกแล้ว
เขากำหมัดแน่น แขนเสื้อสะบัด เสื้อสีดำดั่งหมึกโบกพลิ้วไปตามสายลม กระดาษทดสอบที่กลายเป็นฝุ่นผงปลิวว่อนลงบนพื้น
หนานหว่านเยียนตกตะลึงกับความเย็นยะเยือกของกู้โม่หาน
บรรยากาศตึงเครียดขึ้นมาทันที เกี๊ยวน้อยกับซาลาเปาน้อยทนดูต่อไม่ไหว รีบปัดแขนของอวี๋เฟิงและเซียงอวี้ออกไป แล้วรีบวิ่งไปหาหนานหว่านเยียน
เกี๊ยวน้อยตะโกนเสียงดังเพื่อเปลี่ยนประเด็น “ท่านแม่ ท่านแม่! ในทะเลสาบจิ้งมีของอยู่เจ้าค่ะ!”
ซาลาเปาน้อยก็วิ่งไปข้างหน้า
ลูกน้อยสองคนวิ่งเข้ามา หนานหว่านเยียนกับกู้โม่หานก็ถึงคลี่คลายลง
หนานหว่านเยียนมองไปยังเกี๊ยวน้อย แล้วโน้มตัวถามว่า: “ในทะเลสาบมีอะไรเหรอ?”
เดี๋ยวน้อยทำท่าต่อหน้าทั้งสอง “ท่านแม่ ข้าเห็นในทะเลสาบมีของสว่างๆเปล่งประกายอยู่ น่าจะยาวประมาณนี้ น่าจะเป็นของคนผู้นั้นทำตกลงไปนะเจ้าคะ……”
ซาลาเปาน้อยกัดมือ หันไปมองกู้โม่หานด้วยสีหน้าลำบากใจ
“ท่านแม่บอกแล้วว่า ถ้ามีคนทำของตก ต้องเก็บมาแล้วคืนเจ้าของไป แต่ข้ากับพี่สาวว่ายน้ำไม่เป็น ท่านลุง ช่วยข้าเก็บขึ้นมาหน่อยได้หรือไม่?”
กู้โม่หานมองดูใบหน้าของซาลาเปาน้อย ความโกรธกับหนานหว่านเยียนก็ถึงหายไปไม่น้อย
ถึงเขาอยากจะรู้ตัวตนของเด็กมากแค่ไหน อยากจะถามหนานหว่านเยียนให้ชัดเจนมากแค่ไหน บังคับให้นางสารภาพตัวตนของเด็ก แต่เด็กยังอยู่ที่นี่ และเห็นได้ชัดว่าพวกเขาอยากมาช่วยหนานหว่านเยียน เขาจะพูดอะไรต่อได้อีกล่ะ
ซาลาเปาน้อยเห็นเขาไม่พูด ก็ดึงแขนเสื้อของเขาอีก “ท่านลุง?”
“ได้สิ”
ว่าแล้ว กู้โม่หานก็หันไปมองหนานหว่านเยียน นางก็กำลังมองเขา สีหน้าเย็นชา กู้โม่หานเดินกลับไปที่ทะเลสาบจิ้ง
ในเมื่อหนานหว่านเยียนพูดแล้ว ต้องเป็นตัวอย่างให้กับพวกเด็กๆ งั้นเขาก็จะไปทำ
เขาจะพิสูจน์ให้นางเห็นว่า เขาทำดีต่อเด็กจริงๆ ไม่มีทางเกี่ยวข้องกับพวกผลประโยชน์หรือแผนการชั่วร้ายอะไรแน่นอน
ลูกสาวของเขา ถึงจะต้องการดวงดาวบนฟ้า เขาก็จะไปเด็ดมาให้พวกนาง!
แต่เขาไม่รู้ว่า ในตอนที่เขาหันหลังนั้น ซาลาเปาน้อยก็ก้มหน้าลง มีความรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยแต่ก็หายไปอย่างรวดเร็ว
อันที่จริงนางก็ไม่อยากกู้โม่หานกังวลเรื่องของหยุนอี่ร์โหรวมากนัก แต่พี่สาวบอกแล้วว่า มีเพียงดึงดูดเขาไปตรงนั้น ก็ถึงจะล้างแค้นให้ท่านแม่ได้
เกี๊ยวน้อยก็ไม่พอใจมาก นำทางให้กู้โม่หานแต่กลับยิ้มตาหรี่ “ท่านลุง อยู่ข้างหน้าเลย”
ทั้งสองเดินไปที่ข้างทะเลสาบ อวี๋เฟิงกับเซียงอวี้ก็ตกใจมาก กลัวว่าสองท่านนี้จะก่อเรื่องอะไรอีก
ซาลาเปาน้อยจับมือหนานหว่านเยียน เดินตามไปที่ข้างทะเลสาบ
หนานหว่านเยียนมองดูซาลาเปาน้อยแล้วขมวดคิ้ว
นางรู้ว่าสองพี่น้องไม่มีทางบอกว่าในทะเลสาบมีของบางสิ่งโดยไม่มีสาเหตุแน่นอน จะต้องคิดแผนการอะไรได้แน่
กู้โม่หานมาถึงข้างทะเลสาบ มองไปยังในทะเลสาบ สะอาดมาก ไม่มีอะไรตกอยู่เลย
“ของอยู่ด้านในเหรอ?”
“อยู่ในทะเลสาบเลยเจ้าค่ะ!” เกี๊ยวน้อยพูดแล้วก็เดินถอยหลังไปสองก้าว ต่อมาก็เตะไปยังข้อพับเข่าของกู้โม่หานแรงๆ “ลุงชั่ว ลงไปเร็ว”
กู้โม่หานกำลังจะกลับหลังหัน ปวดข้อพับเข่า เขาเห็นสีหน้าที่สะใจของเกี๊ยวน้อยแล้วตกตะลึงมาก ไม่คิดเลยว่าเกี๊ยวน้อยจะเกลียดเขาได้ขนาดนี้ ก็เลยไม่ได้ตอบโต้กลับ
‘บุ๋ม’ ชายหนุ่มตกลงไปในทะเลสาบจิ้ง
ผมของกู้โม่หานกระจายออกจากกัน เสื้อสีดำก็ลอยอยู่บนน้ำ ดูเหมือนว่าเขาจะคิดอะไรบางอย่างได้ และแววตาของเขาก็ตื่นตระหนก
ทั้งที่เขาเอาชนะปมจมน้ำได้แล้ว แต่ในขณะนี้ดูเหมือนว่าเขาจะขวัญหาย ไม่สามารถเคลื่อนไหวในทะเลสาบได้ เพียงแค่จ้องมองไปข้างหน้าอย่างว่างเปล่าและรู้สึกหายใจไม่ออก
“ช่วย……”
เขาพยายามจะพูด แต่กลับพูดไม่ออกเลย
เกี๊ยวน้อยก็ปรบมืออย่างสะใจ เท้าเอวทำหน้าบึ้งใส่เขา “เหอะ เจ้าหาเองคนเดียวเถอะ!”
ซาลาเปาน้อยกับหนานหว่านเยียนก็เพิ่งมาถึง
ซาลาเปาน้อยมองดูกู้โม่หานที่ตกใจ ก็พูดอย่างสะใจเช่นกันว่า: “คนที่รังแกแม่ของข้า ก็จะมีจุดจบเช่นนี้!”
หนานหว่านเยียนมองดูกู้โม่หานที่อยู่ในน้ำอย่างเย็นชา รู้สักทีว่าเด็กสองคนนี้คิดอะไรกันอยู่ ที่แท้ก็จะแก้แค้นให้นางนี่เอง
นางรู้ว่ากู้โม่หานว่ายน้ำไม่เป็น เพราะตอนเด็กเจ้าของร่างเดิมเคยช่วยเขาไว้
แต่ตอนนี้ นางกลับกอดอก มองเขาลงไป สายตาเต็มไปด้วยความเยือกเย็น
“กู้โม่หาน ครั้งนี้ ข้าจะไม่ช่วยเจ้าเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว……”
ถ้าตอนนั้นเจ้าของร่างเดิมไม่ช่วยเขาไว้ กู้โม่หานเจ้าคนชั่วที่หลงในอนุจนละเลยภรรยา ไม่แน่เขาอาจจะตายไปนานแล้วก็ได้
และแค่เรื่องที่ช่วยคน หนานหว่านเยียนรู้สึกว่าโชคของเจ้าของร่างเดิมไม่ดีเท่านาง ตอนนั้นนางเคยช่วยเด็กผู้ชายคนหนึ่งไว้ เด็กชายคนนั้นจับมือนางแล้วพูดว่า——
“รอข้าโตแล้ว ข้าจะตอบแทน และขอเจ้าแต่งงาน……”
ถึงแม้จะจำไม่ได้แล้วว่าคนผู้นั้นหน้าตายังไง วันนั้นมืดมาก นางมองเห็นไม่ชัด แต่อย่างน้อยคนอื่นเขาก็ยังอยากตอบแทนบุญคุณ ไม่ใช่ว่ามาแก้แค้น!
ตอนนี้ หนานหว่านเยียนมองดูกู้โม่หาน ไม่คิดที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยเลย
ไม่เพียงเท่านี้ นางยังจับมือเด็กสองคน เดินไปที่เรือนโดยไม่สนใจไยดีเขาอีก
เซียงอวี้กับอวี๋เฟิงอึ้งมาก ไม่รู้จะทำตัวยังไง และกู้โม่หานก็ยังดิ้นรนไม่หยุด มองดูแผ่นหลังที่จากไปของหนานหว่านเยียน ดูเหมือนว่าบางสิ่งที่คลุมเครือในความทรงจำของเขาจะค่อยๆทับซ้อนกัน
แต่เขาเวียนหัว รู้สึกปวดหัวมาก ข้างหูก็มีเสียงของหนานหว่านเยียนดังขึ้น
ช่วยเขาเหมือนเมื่อก่อน?
หนานหว่านเยียนช่วยเขาไว้เมื่อไหร่กัน? เมื่อก่อนหยุนอี่ร์โหรวเคยช่วยเขาไว้ ก็เลยทำให้นางป่วยออดแอดมาจนถึงตอนนี้
แต่ยังไม่รอเขาได้คิด กู้โม่หานก็รู้สึกตัวหนัก เหมือนมีปีศาจจากนรกมาลากคอเขาลงไป
“ไม่ได้การแล้ว!” ในที่สุดอวี๋เฟิงก็รู้ตัว ไม่สนใจว่าหนานหว่านเยียนจะโกรธไหม เขารีบกระโจนเข้าไปในน้ำแล้วช่วยกู้โม่หานขึ้นมา
“ท่าน ท่านอ๋อง ท่านไม่เป็นไรนะ?” อวี๋เฟิงตกใจขวัญแทบกระเจิง มองดูกู้โม่หานย่างหวาดกลัว
เซียงอวี้ก็ใจเต้นแรงขาอ่อนล้มลงพื้น
พระชายากับคุณหนูสองคนกล้ามากจริงๆ!
นี่เป็นถึงท่านอ๋องเชียวนะ!
เทพสงครามผู้ยิ่งใหญ่!
กลับโดนคนเตะลงทะเลสาบ!
ถึงแม้เสื้อผ้าของกู้โม่หานจะเปียกปอนไปหมด ผมสีดำขลับแนบติดใบหน้า แต่ก็ไม่ได้ดูแย่อะไรเลย สายตามองดูทางที่สามแม่ลูกเดินออกไป
“หนานหว่านเยียน เจ้ามาพูดให้รู้เรื่องเลยนะ……”
บทที่ 190 ยอมรับบรรพบุรุษ หวนกลับคืนสู่ต้นตระกูล