ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่251 กู้โม่หานเสียใจภายหลัง1
“รองแม่ทัพอวี๋แน่ใจว่ากำลังแก้แค้นแทนข้าใช่ไหม?”
หนานหว่านเยียนผู้หญิงคนนี้ เวลาโมโหไม่มีการอ่อนข้อเลย ถ้าเขาไม่ได้เรียนวิทยายุทธมาแต่เด็ก ถ้าเปลี่ยนเป็นคนทั่วไป คงรับแรงของนางไม่ไหว
หนานหว่านเยียนแทบขาดอากาศหายใจ มองค้อนกู้โม่หาน
เจ้าหมอนี่หล่อไม่เกินสามวิ เผยธาตุแท้ออกมาเร็วเชียวนะ!
กล้าฟ้องต่อหน้าคนเยอะขนาดนี้เลยเรอะ!
ตีเขาแล้วยังไง ถ้าเขาทำตัวดีๆ นางจะตีเขาไปทำไม?!
รองแม่ทัพอวี๋กะพริบตาปริบๆ รู้สึกเหมือนตัวเองพูดผิด รีบพูดกับหนานหว่านเยียนว่า: “พระชายานี่เอง ตีได้ดีขอรับ ตีได้……อ้อ ไม่ใช่ๆๆ นี่เป็นเรื่องในบ้านของท่านอ๋องกับพระชายา ข้าน้อยจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวขอรับ”
ปากเขานี่มัน รนหาที่จริงๆ! และท่านอ๋องพูดอะไรกัน พวกเขาจะกล้าทำอะไรพระชายาได้ยังไง?!
พวกพลทหารไม่กล้าทำอะไรหนานหว่านเยียน ที่จริงทั้งกองทัพ ขอแค่เป็นทหารของกู้โม่หาน ก็ไม่มีใครกล้ารังแกหนานหว่านเยียน!
ทันใดนั้นทุกคนก็เหมือนดูละคร ต่างก็ก้มหน้าซุบซิบกันว่า สมแล้วที่หนานหว่านเยียนเป็นผู้หญิงของท่านอ๋อง ลงมือกับท่านอ๋องโหดมาก!
ท่านอ๋องไม่เคยบาดเจ็บตรงไหนเลย
หนานหว่านเยียนจ้องมองกู้โม่หานอย่างเย็นชา “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ความรู้สึกของข้าสำคัญที่สุด!”
ทุกคนต่างก็ซุบซิบกันใหญ่ เดาว่าท่านอ๋องใช้ชีวิตอยู่ในจวนยังไง ต้องสยบอยู่ภายใต้พระชายาหรือเปล่า……
กู้โม่หานไม่คาดหวังว่าหนานหว่านเยียนจะกลัว หรือร้องขอเขา และเขายังนึกถึงเรื่องเมื่อเช้า เขากับหนานหว่านเยียนมีสัมพันธ์ทางร่างกาย ก็รู้สึกปากแห้งทันที
เขารีบหันไปสนใจทางอื่น มองดูพลทหารทุกคน “เงียบ!”
ผู้คนที่ยังซุบซิบก็เงียบกันหมด และเงยหน้ามองกู้โม่หาน ไม่กล้าพูดอะไรอีก
กู้โม่หานถอดเกราะบนตัวของตัวเองออก ใส่แค่เสื้อสีขาวด้านในธรรมดา มีเลือดซึมออกมาเล็กน้อย เป็นสีแดงที่แสบตามาก รองเท้าบูตยาวติดแข้งของเขา เผยให้เห็นถึงร่างกายที่กำยำของชายหนุ่ม
ทุกคนต่างก็เห็นบาดแผลบนไหล่ของเขา ต่างก็อดไม่ได้มองไปยังหนานหว่านเยียน
โหด โหดจริงๆ!
ท่านอ๋องกับพระชายา ปกติเล่นกันขนาดนี้เลยเหรอ?
“ต่อไป ข้าจะสอนวิธีการฝึกซ้อมให้พวกเจ้า” กู้โม่หานไม่รู้ว่าพวกเขากำลังคิดอะไร ตอนนี้ชายแดนมีภัย เกียรติส่วนตัวของเขาไม่สำคัญแล้ว ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยเรื่องสงคราม สายตาที่เฉียบคมนั้นเต็มไปด้วยประสบการณ์
“ฟังให้ดี วิธีการฝึกซ้อม ข้าจะพูดแค่รอบเดียว และแสดงแค่รอบเดียวเท่านั้น ต่อไปเหล่าอวี๋จะพาพวกเจ้าไปซ้อมเอง!”
ว่าแล้ว สายตาของเขาเด็ดเดี่ยว ยืนอยู่บนแท่นฝึกซ้อมที่ทุกคนสามารถมองเห็น เขาพูดไปด้วยและแสดงไปด้วย จะจัดการศัตรูยังไงไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว รวมไปถึงตอนที่โดนศัตรูจับตัว ควรช่วยเหลือตัวเองยังไง เพื่อพัฒนาความสามารถตัวเอง
วินาทีนี้ แสงอาทิตย์อัสดงสะท้อนไปยังตัวของกู้โม่หาน หล่อกว่าเดิมอีก
รองแม่ทัพอวี๋รีบไปกระซิบข้างหูหนานหว่านเยียน เอ่ยชมไปว่า: “พระชายา เป็นยังไงบ้าง ท่านอ๋องเก่งไหม?”
“ข้าน้อยจะบอกท่านให้นะ ถ้าอยู่ในสนามรบ ท่านอ๋องคือผู้กล้าหาญและมีอำนาจเพียงผู้เดียวในท้องนภาและผืนแผ่นดิน รังสีอำมหิตนั้นสามารถทำให้ทหารหลายพันนายหวาดเกรง และดาบสีเงินก็พุ่งเข้าใส่ผู้นำของศัตรูโดยตรง เป็นไงล่ะ หวั่นไหวบ้างไหม?”
เขารู้ว่าจวนเฉิงเซี่ยงกับพระชายาอี้ไม่ถูกกัน พระชายากับท่านอ๋องก็มีเรื่องให้ทะเลาะกัน แต่เขารู้สึกว่าพวกเขาเหมาะสมกันมากจริงๆ
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อกี้ตอนที่ท่านอ๋องปกป้องพระชายา ท่านอ๋องต้องชอบพระชายาแน่ เขาจะให้ท่านอ๋องเสียใจทีหลังไม่ได้
หนานหว่านเยียนยอมรับ วันนี้นางมองกู้โม่หานเปลี่ยนไป และรู้สึกว่าเวลาที่กู้โม่หานจริงจังขึ้นมา ก็ยังพอดูได้ อย่างน้อยก็ไม่เปลืองใบหน้าหล่อเหลาของเขา
แต่ความคิดแบบนี้ก็มีแค่ตอนที่เขาอยู่ในค่ายเสินเชื่อเท่านั้น นอกนั้น เขายังคงไร้ประโยชน์ เป็นแค่ผู้ชายโง่ที่เอาแต่ปกป้องยัยคนตอแหลนั่น
สำหรับคนแบบนี้ ยากที่นางจะหวั่นไหวได้
นางตอบอย่างไม่สนใจว่า: “ถ้าเป็นคนอื่นคงจะไม่เหมือนกัน? ข้าว่ารองแม่ทัพอวี๋ก็ไม่เลวนะ”
รองแม่ทัพอวี๋ตกตะลึง เหงื่อแตกพลั่ก รีบพูดเสียงเบาว่า “พระชายา พูดแบบนี้ไม่ได้นะขอรับ ข้าน้อยไม่กล้าเทียบเคียงกับท่านอ๋องหรอก!”
หนานหว่านเยียนไม่อยากพูดมาก วันนี้นางเจออะไรมาเยอะ อ่อนเพลียมาก อยากกลับไปกอดเจ้าก้อนน้อยสองคนนอน
หลังตื่นนอน นางยังต้องวางแผนหนีออกจากจวน……
“แพทย์ทหารมาหรือยัง ถ้ายังไม่มา ข้าฝากเจ้าไปบอกกับแพทย์ทหารหน่อย ให้เขาช่วยเหล่าเสิ่นบริหารร่างกาย”
รองแม่ทัพอวี๋ยังไม่ได้ตอบ หนานหว่านเยียนก็ไม่อยากรอแล้ว สอนเขาช่วยเหล่าเสิ่นบริหารร่างกายทันที