ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ – บทที่ 316 ลูกตกหลุมรักหนานหว่านเยียนจากใจ

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 316 ลูกตกหลุมรักหนานหว่านเยียนจากใจ

เสด็จพ่อป้องกันแม้กระทั่งเขา อยากจะให้เขากลายเป็นคนพิการไร้ประโยชน์ ส่วนหนานหว่านเยียนยังเป็นสายลับของเสด็จพ่อ บัดนี้เมื่อนางเรียกร้องจะหย่าร้างกับเขา เสด็จพ่อก็ตอบตกลง ทว่ากลับยื่นสุราให้แก่นาง คิดว่าจะเป็นของดีหรือ?

เขาเดาออกตั้งแต่แรกแล้วว่าเสด็จพ่อจะต้องให้เขาเดินทางมาแน่ ดังนั้นจึงได้กล่าวว่าหนานหว่านเยียนมิอาจไปไหนได้

อีกอย่างเขาเองก็มิอยากให้หนานหว่านเยียนไปไหน

“ท่านอ๋อง!” หนานหว่านเยียนตกตะลึง น้ำตาที่กลั้นไว้ตรงหางตาของนางหดกลับไป

นางมิคิดว่ากู้โม่หานจะมิได้เดินไปตามตารางหมากที่วางไว้ เขาดื่มสุราแทนนางจนหมดแก้ว

เฟิ่งกงกงตกใจมาก รีบมองไปทางฮ่องเต้อย่างรวดเร็ว

กู้จิ่งซานขมวดคิ้ว น้ำเสียงดุดัน

“อ๋องอี้ เหตุใดเจ้าจึงมิยินยอมหย่าร้าง นี่มิใช่สิ่งที่เจ้าต้องการมาโดยตลอดหรือ?”

เมื่อห้าปีก่อน กู้โม่หานอยากจะให้หนานหว่านเยียนหายไปจากโลกนี้ ห้าปีต่อม ก็ได้แต่งงานกับหยุนอี่ว์โหรวตามที่เขาประสงค์ เห็นได้ชัดว่าเขามิได้ชอบหนานหว่านเยียนเลย

นี่เพิ่งจะผ่านไปเพียงมิกี่เดือน กู้โม่หานกลับมิยินดีหย่าร้างกับหนานหว่านเยียนแล้ว กู้โม่หานวางแก้วสุราลง เดินตรงไปทางหนานหว่านเยียน แล้วโอบนางไว้ในอ้อมกอด

หนานหว่านเยียนได้แต่ตกตะลึง

เดิมทีนางตั้งใจที่จะขัดขืน แต่กลับได้ยินกู้โม่หานกล่าวว่า “เสด็จพ่อ ลูกตกหลุมรักนาง มิอยากให้นางจากไปไหน เสด็จพ่อโปรดคืนคำสัญญาที่มีให้นางเถิด หว่านหว่าน เจ้าอย่าได้ดิ้นรนไปเลย อยู่เคียงข้างข้าไปตลอดได้หรือไม่?”

หนานหว่านเยียนได้ยินดังนั้นก็ขนลุกขนพอง

นางมองไปทางกู้โม่หานซึ่งกล่าวคำเหล่านั้นออกมาได้โดยหน้ามิเปลี่ยนสี ทั้งยังดูท่าทีลึกซึ้ง สีหน้าของนางเปลี่ยนไปชั่วขณะ

นางมิแน่ใจว่าการที่เขาทำเช่นนี้เพราะเขาเห็นถึงแผนการของฮ่องเต้ จึงจงใจแสร้งทำออกมา หรือเพียงเพราะต้องการเข้าขัดขวางแผนการหย่าร้างของนางเท่านั้น หรือ…… ทั้งสองประการ

หนานหว่านเยียนยังมิได้ตัดสินใจว่าจะร่วมมืออย่างไรดี สีหน้าของฮ่องเต้ดูมืดมน กล่าวด้วยน้ำเสียงต่ำทุ้มว่า “พระชายาอี้ นี่คือสิ่งที่เจ้ากล่าวกับข้าหรือ? ความรู้สึกของเจ้าและเจ้าหกเข้ากันมิได้? จากที่ข้ามองดู เจ้าหกชื่นชอบเจ้าเหลือเกิน เจ้าทั้งสองเคยผ่านความทุกข์ยากมาด้วยกัน เจ้าเองก็ดูแลเขาอย่างยากลำบาก ในใจเขาซาบซึ้งต่อบุญคุณเจ้า”

แววตาของหนานหว่านเยียนกะพริบวาบ ต้องการจะผลักร่างกู้โม่หานออก แต่กลับถูกเขากอดไว้แน่นกว่าเดิม

นางอดทนอยู่สักพักก่อนจะหันไปมองทางฮ่องเต้ “เสด็จพ่อ สิ่งที่ลูกกล่าวเมื่อสักครู่นั้นเป็นความจริง ตอนที่ท่านอ๋องได้รับบาดเจ็บ ลูกมิได้เข้าไปช่วยรักษาเขาเท่าไรนัก ดูแลเขามิดีเท่าบ่าวรับใช้เสียด้วยซ้ำ นั่นเป็นเพราะความสัมพันธ์ระหว่างลูกกับท่านอ๋องหมดลงอย่างแท้จริง บัดนี้เมื่อท่านอ๋องหายแล้ว ลูกจึงต้องการจะเดินทางจากไป”

คาดว่าบัดนี้ฮ่องเต้ยังคงทดสอบอยู่ มิว่าจะเป็นทดสอบนางหรือทดสอบกู้โม่หาน แต่นางจะกลับคำอย่างง่ายดายมิได้ ว่าบทบาทของสตรีที่เต็มไปด้วยความขาดแคลน

มิเช่นนั้นการแสดงนี้ก็จะทิ้งร่องรอยไว้มากเกินไป บัดนี้มิจำเป็นจะต้องลากกู้โม่หานลงน้ำด้วย

กู้โม่หานจับมือของหนานหว่านเยียนเอาไว้แน่น กำไว้ในฝ่ามือของตน ใบหน้าของเขาอันหล่อเหลาเต็มไปด้วยความสำนึกผิด

“เสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ ลูกยอมรับว่าลูกเคยปฏิบัติกับหว่านหว่านมิดีนัก ทำให้นางรู้สึกเย็นชาและปวดใจจึงประสงค์จะหย่าร้างกับลูก แม้แต่ตอนที่ลูกได้รับบาดเจ็บสาหัส นางก็มิเข้ามาดูแล แต่หลังจากที่ลูกได้ผ่านช่วงวิกฤตของชีวิตมาแล้ว จึงได้ตระหนักว่าลูกตกหลุมรักนางตั้งนานแล้วและมิอาจปราศจากนางได้”

กล่าวจบเขาก็มองไปทางหนานหว่านเยียนที่อยู่ในอ้อมกอด ความรู้สึกนั้นดูจริงใจ “หว่านหว่าน เจ้ายกโทษให้ข้าแล้วเรากลับมาเริ่มต้นใหม่ได้หรือไม่?”

สิ่งที่กู้โม่หานกล่าวออกมานั้นช่างน่าสะอิดสะเอียน ราวกับว่าเป็นความจริง สมจริงกว่าที่นางแสดงเสียอีก

หนานหว่านเยียนพยายามต่อต้าน และต้องการถอนมือกลับ แต่แรงของกู้โม่หานนั้นมากเสียจนนางมิอาจทำอะไรได้

“ท่านอ๋อง ปล่อยมือเถิด หม่อมฉันรู้ดีว่าแตงโมที่รูปร่างน่าเกลียดจะมิหวาน ท่านและพระชายารองหยุนจึงจะเป็นคู่รักกันโดยสมบูรณ์ ในเมื่อหม่อมฉันมิอาจได้รับความรักจากท่าน สู้หม่อมฉันวางมือเสียดีกว่า ขอเสด็จพ่อ โปรดประทานน้ำใจนี้ให้ลูกด้วย”

กู้จิ่งซานมองไปทางกู้โม่หานและหนานหว่านเยียน เขาขมวดคิ้วเข้าหากัน

จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เจ้าหก พระชายาของเจ้าเป็นเช่นนี้แล้ว เจ้ายังมีสิ่งใดจะกล่าวอีก?”

“เสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ ลูกรู้ว่าบัดนี้หว่านหว่านเพียงแค่อยู่ในอารมณ์ฉุนเฉียว สิ่งที่นางกล่าวมิได้ออกมาจากใจ”

กู้โม่หานยังคงยืนยันคำเดิม เขาจ้องมองไปที่หนานหว่านเยียน น้ำเสียงอ่อนโยนยิ่งนัก “หว่านหว่าน เป็นความผิดของข้าเอง เมื่อคืนนี้ข้ารุนแรงกับเจ้าเกินไป มิทะนุถนอมเจ้า จนทำให้เจ้าโมโหถึงเพียงนี้”

หนานหว่านเยียนได้ยินดังนั้นก็ชะงักลงทันที มือข้างหนึ่งหยิกไปที่กู้โม่หาน จ้องมองเขาอย่างเหลือเชื่อ

เขากล่าวอะไรออกมานี่?

ราวกับว่าเมื่อคืนนี้ทั้งสองได้ร่วมหลับนอนกันแล้ว!

เมื่อเห็นท่าทีอันตกอกตกใจของนาง กู้โม่หานก็ยิ้มขึ้นอย่างนุ่มนวล

“เมื่อคืนนี้เจ้าดื่มสุรามากไป ข้าจึงอุ้มเจ้ากลับไปที่ห้อง แต่เจ้าดูมีความสุขยิ่ง ด้วยเหตุนี้ข้า……ข้าจึง เอาเป็นว่าจากนี้ข้าจะ บังคับใจตนเองให้ได้มากขึ้น และดีกับเจ้าให้มากกว่าเดิม เจ้าอย่าได้มาเรียกร้องฟ้องหย่ากับเสด็จพ่อเลย มิแน่ว่าบัดนี้ในท้องของเจ้าอาจมีลูกของข้าอยู่……”

กู้โม่หานช่างกล่าวออกมาอย่างกล้าหาญนัก แม้แต่กู้จิ่งซานกับเฟิ่งกงกงก็อดมิได้ที่จะสีหน้าเปลี่ยนไป

กู้จิ่งซานขมวดคิ้วมองไปทางหนานหว่านเยียนแล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “พระชายาอี้ ในเมื่อความสัมพันธ์สองสามีภรรยาเจ้านับว่ายังแน่นแฟ้น แล้ววันนี้เจ้าจะมาสนทนากับข้าเรื่องหย่าร้างเพราะเหตุใด?”

หนานหว่านเยียนรีบกล่าวขึ้นว่า “มิใช่เพคะเสด็จพ่อ ลูก……”

“พอได้แล้ว!” กู้จิ่งซานตะคอกออกมาอย่างดุดัน ความสง่าของบรรดาราชวงศ์นั้นเกินบรรยาย “ข้ามิอยากได้ยินเจ้าพูดว่าหย่าร้างอีก”

“ถึงอย่างไรพวกเจ้าก็แต่งงานกันมาหลายปี ในเมื่อมิอาจแยกออกจากกันได้ ก็จงซื่อสัตย์ต่อกันเถอะ”

หนานหว่านเยียนตกตะลึง

กู้โม่หานมองไปยังหนานหว่านเยียนที่บัดนี้แววตาดูซับซ้อน ก่อนจะหันไปกล่าวกับกู้จิ่งซานว่า “ขอบพระทัยเสด็จพ่อ ต่อจากนี้ลูกและหว่านหว่านจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข มิสร้างเรื่องน่าขันเช่นนี้ต่อหน้าเสด็จพ่ออีก”

หนานหว่านเยียนจึงได้แต่ก้มศีรษะลง “เพคะ หม่อมฉันฟังตามที่เสด็จพ่อกล่าว”

สีหน้าอันเย็นชาของกู้จิ่งซานดูดีขึ้นเล็กน้อย “ในเมื่อเจ้ามิอาจขอหย่าร้างได้สำเร็จ แล้วเจ้ามีสิ่งใดที่ต้องการอีกหรือไม่?”

นางอาจเลือกที่จะหย่าร้างแล้วไปจากสถานที่อันน่ากลัวแห่งนี้เสีย หรือไม่ก็เลื่อนการหย่าร้างออกไปเพื่อยึดอำนาจให้แก่กู้โม่หาน จัดการปัญหาความกังวลทั้งหมดแล้วค่อยเดินทางออกไป

นางมีเพียงสองทางเลือกเท่านั้น และจากปัจจุบันดูเหมือนทางเลือกแรกนางจะมิมีโอกาสได้มันมาเลย มีอีกเพียงอีกทางเลือกหนึ่งที่ต้องยึดคืนอำนาจ

ความน่าเชื่อถือของกู้โม่หานมากกว่าฮ่องเต้

แม้เขาจะมิใช่สามีที่ดี แต่เขาก็เป็นแม่ทัพและเป็นท่านอ๋องที่ดี หากจะกล่าวถึงความไว้วางใจนั้น ก็สามารถไว้วางใจได้

หนานหว่านเยียนกล่าวกับฮ่องเต้ด้วยความเคารพว่า “ทูลเสด็จพ่อ ลูกอยากจะรับเสด็จแม่กลับมาอยู่ที่จวนอ๋องอี้ด้วย……”

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

Status: Ongoing
หนานหว่านเยียน อัจฉริยะแห่งวงการแพทย์ ข้ามภพมาเป็นพระชายาอัปลักษณ์ผู้ถูกทอดทิ้งแห่งจวนอ๋องอี้ แต่ด้วยมันสมองของอัจฉริยะ และความแข็งแกร่งฉบับสาวยุคใหม่ เธอจะพลิกเกมกลับมาแก้แค้นไอ้พวกเศษสวะให้สิ้นซาก!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท