ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ – บทที่ 376 เจ้าอยากจูบข้าใช่ไหม

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่376 เจ้าอยากจูบข้าใช่ไหม

นางรีบยกขาขึ้น เตะกู้โม่หานแรงๆ อยากเตะเขาตกลงไปบนเตียง

กู้โม่หานได้สติ รีบจับข้อเท้าเนียนขาวของนางไว้

เขาไม่รู้ว่าทำไมถึงควบคุมตัวเองไม่ได้ อยากจูบนางตลอด สีหน้าเขินอายมาก เป็นความรู้สึกที่พยายามไม่รู้สึกต่อนาง

“หนานหว่านเยียน เจ้าอ่อนโยนหน่อยได้หรือไม่ ยังไงข้าก็เป็นสามีของเจ้านะ เอาแต่ตีข้า เจ้าเป็นพระชายาประสาอะไรกัน?”

หนานหว่านเยียนโกรธจนหัวเราะออกมา แล้วลดขาลง

“ข้าตกใจเลยเตะออกไปไง เจ้าพูดมาสิ เจ้าทำตัวลับๆล่อๆ เจ้าคิดจะทำอะไรข้า?”

กู้โม่หานพูด “ข้าแค่เห็นใบหน้าเจ้ามีอะไรติดอยู่ เลยอยากช่วยเอาออกให้เจ้า”

หนานหว่านเยียนลูบใบหน้าตัวเอง สะอาด ไม่มีอะไรติดอยู่ นางหรี่ตาจ้องมองกู้โม่หาน

“ใบหน้าข้ามีอะไร กู้โม่หาน เจ้าคงไม่ได้คิดจะจูบข้าหรอกนะ?”

ช่วงนี้ นางคิดว่ากู้โม่หานเปลี่ยนไป ปกป้องนาง ดีต่อนาง อาจเป็นเพราะเขาชอบนางแล้วก็ได้

แต่ผ่านเรื่องเมื่อวานไป นางก็เข้าใจแล้วล่ะ ก่อนหน้านั้นนางคงคิดไปเอง กู้โม่หานไม่เคยคิดจะรักนางเลย

มีเพียงแค่ความคิดที่อยากควบคุมนางไว้ก็เท่านั้น

แต่การกระทำเมื่อกี้ของเขา ก็แปลกมากจริงๆ

กู้โม่หานใจสั่น สายตาจับจ้องนางนิ่ง

“คิดอะไรบ้าๆ ข้าจะมีความคิดแบบนั้นต่อหญิงปากร้ายอย่างเจ้าได้ยังไง”

นางคือหญิงปากร้ายเหรอ?!

หนานหว่านเยียนแสยะยิ้ม เหมือนแมวน้อยที่โมโห อยากข่วนหน้าเขาให้เละ!

ทันใดนั้น นอกประตูก็มีเสียงข้ารับใช้ในวังดังขึ้น “ไท่จื่อ ไท่จื่อเฟย หม่อมฉันเอาน้ำล้างหน้ามาเพคะ”

ไท่จื่อเฟย?

หนานหว่านเยียนยังไม่ชิน นางเดินอ้อมกู้โม่หานลงจากเตียง รีบสวมเสื้อผ้าแล้วใส่รองเท้า เดินออกไปด้านนอก “ออกมาเปลี่ยนยา”

กู้โม่หานมองดูแผ่นหลังของนาง ขมวดคิ้วเป็นปม ควบคุมความคิดไม่ซื่อของเขาไว้ ต่อมาก็เดินตามออกไป

และในตอนนี้ ไทเฮาก็พาเด็กสองคนเดินมาทางตำหนักนอนของหนานหว่านเยียน

มือซ้ายของนางจับมือซาลาเปาน้อย มือขวาจับมือเกี๊ยวน้อย อารมณ์ดีมาก

สองพี่น้องเปลี่ยนเสื้อผ้าในวังแล้ว ใบหน้าของซาลาเปาน้อยเนียนขาวและอมชมพูเล็กน้อย ดูเหมือนหุ่นตุ๊กตาปั้นเลย ซาลาเปาน้อยมัดผมสองข้างน่ารัก กะพริบตาใสมองดูรอบๆอย่างสงสัย

น่ารักจริงๆ

ไทเฮายิ่งดูก็ยิ่งชอบ “ในวังมีกฎเกณฑ์เยอะ แต่ถ้าอยู่กับเสด็จย่าทวด พวกเจ้าไม่ต้องสนใจเรื่องพวกนั้นหรอก ทำตามใจพวกเจ้าได้เลย”

เด็กสองคนพยักหน้า “ขอบพระคุณเสด็จย่าทวดเพคะ”

“พ่อแม่ของพวกเจ้าอยู่ในจวนเป็นยังไงบ้าง?”

เกี๊ยวน้อยกำลังจะพูดความจริง ซาลาเปาน้อยดึงแขนเสื้อนางไว้ก่อน แล้วพูดว่า: “เสด็จย่าทวด ข้ากับพี่สาวก็ไม่รู้เหมือนกันเพคะ”

เรื่องนี้ พวกนางจะพูดมั่วไม่ได้ กลัวทำให้ท่านแม่ลำบาก

ไทเฮามองออกว่าเด็กสองคนไม่อยากพูดมาก เลยไม่ได้บังคับ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า

“ไม่รู้ก็ไม่เป็นไร ต่อไปจะต้องทำให้พ่อแม่พวกเจ้ารักกันมากๆนะ พวกเขารักกันมากๆแล้ว พวกเจ้าถึงจะมีชีวิตที่ดี”

เสด็จย่าทวดอยากให้ลุงกู้กับท่านแม่อยู่ด้วยกันเหรอ?

เมื่อวานลุงกู้สละชีวิตเพื่อปกป้องท่านแม่ เด็กสองคนก็ซาบซึ้งใจมาก ในใจก็อยากให้ทั้งสองได้อยู่ด้วยกันจริงๆ

“เข้าใจแล้วเพคะ เสด็จย่าทวด”

ไทเฮายิ้มตาหรี่เป็นเส้นตรง พาเด็กสองคนเดินเข้าตำหนัก

ตลอดทาง ทุกคนในวังก็เปลี่ยนคำเรียกกันหมด

“ขอคารวะไทเฮา จวิ้นจู่”

ต้องรู้ว่าพวกนางเป็นจวิ้นจู่ที่พบในร้อยปี เป็นบุคคลที่ทุกคนรักและเอ็นดู!

ไม่มีใครกล้าทำอะไรเด็ดขาด

……

หนานหว่านเยียนแต่งตัวเสร็จแล้ว ก็ได้ยินชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงออกคำสั่ง “แต่งตัวให้ข้าด้วย”

หนานหว่านเยียนอดทนไว้แล้วหันหน้ากลับไปอย่างไม่พอใจ

หันไปเห็นกู้โม่หานยืนอยู่ข้างเตียง มองนางด้วยสายตาที่เย็นชา

ร่างกายของเขากำยำ กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ ถึงแม้จะมีผ้าพันแผลปิดไว้ แต่ก็ยังเห็นกล้ามเนื้อรางๆที่ทำให้คนอดไม่ได้คิดไปไกล

โดยเฉพาะใบหน้าซีดเซียวและเย็นชานั้น ทำเอาสาวรับใช้ในวังตกหลุมรักกันให้ทั่ว

เห็นแก่ที่เขาช่วยนางกับเกี๊ยวน้อยซาลาเปาน้อย เห็นแก่สัญญาที่ทำร่วมกัน หนานหว่านเยียนก็ฝืนยิ้มต่อหน้าสาวรับใช้ “ได้เลยท่านอ๋อง”

กู้โม่หานมองดูใบหน้าที่ฝืนยิ้มของหนานหว่านเยียน เห็นนางใส่เสื้อผ้าให้เขาโดยไม่พอใจ เขาก็กระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อย

เขาอารมณ์ดีขึ้นมาก

ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น “แบบนี้สิถูกต้อง สามีภรรยาก็ต้องรักกันให้มากๆ”

กู้โม่หานกับหนานหว่านเยียนหันไปมองพร้อมกัน ก็เห็นไทเฮาเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม และยังมีลูกๆเดินเข้ามาอีกด้วย

หนานหว่านเยียนรีบปล่อยมือออก เดินเข้าไป “เสด็จย่ามาแล้วเหรอเพคะ”

เกี๊ยวน้อยกับซาลาเปาน้อยรีบกอดขาของหนานหว่านเยียนไว้ “ท่านแม่”

หนานหว่านเยียนก้มหน้ามองเด็กสองคน ลูบหัวของพวกนางเบาๆ แล้วมองไปยังไทเฮา “เกี๊ยวน้อย ซาลาเปาน้อย ไม่ได้ก่อเรื่องให้เสด็จย่าทวดใช่ไหม?”

ไทเฮาพูดด้วยรอยยิ้ม: “จะก่อเรื่องได้ยังไงกัน เหลนรักของข้าเป็นเด็กดีมากเลย”

หนานหว่านเยียนก็สบายใจ เด็กสองคนหันไปมองกู้โม่หาน

สีหน้าของกู้โม่หานยังคงซีดเซียว ดูท่าทางจะไม่สบายมาก เกี๊ยวน้อยขมวดคิ้ว “ท่านแม่ ท่านพ่อยังเจ็บไหม? ให้ข้าช่วยท่านพ่อเป่าดีหรือไม่?”

ไม่รู้ว่าควรเรียกกู้โม่หานต่อหน้าคนภายนอกยังไงดี แต่ในเมื่อเสด็จย่าทวดบอกว่าเป็นท่านพ่อ งั้นก็เรียกท่านพ่อก็ได้

ซาลาเปาน้อยหันไปมองกู้โม่หาน “ตำหนักของเสด็จย่าทวดมีขนมหวานเยอะมาก ท่านพ่อกินหน่อยสิ กินแล้วเดี๋ยวก็ดีขึ้นแล้ว”

ท่านพ่อ!

เด็กสองคนเรียกเขาว่าท่านพ่อเหรอ!

กู้โม่หานใจสั่นระริก ใบหน้าหล่อเหลานั้นยิ้มหน้าบาน เขาเดินลงไปนั่งยองตรงหน้าเด็กสองคน รู้สึกอารมณ์ดีมาก

“ข้าดีขึ้นมากแล้ว เมื่อคืนพวกเจ้าหลับสบายไหม?”

เด็กสองคนพยักหน้า “อืม หลับสบายมาก เสด็จย่าทวดเหมือนแม่เลย กล่อมพวกเราจนหลับ”

หนานหว่านเยียนสายตาอ่อนโยน ลูบหัวของเด็กสองคนเบาๆ

ตอนนี้เอง ข้ารับใช้เดินเข้ามาส่งยาให้กู้โม่หาน

เกี๊ยวน้อยเลิกแขนเสื้อขึ้น ยืดอกแล้วพูดอย่างมั่นใจว่า “ข้าป้อนยาให้ท่านพ่อเอง!”

ว่าแล้ว นางก็ยกถ้วยยา แล้วตักขึ้นมาเป่า จากนั้นก็ยื่นไปที่ปากของกู้โม่หาน “อา——กินยาของท่านแม่จะได้หายเจ็บนะ!”

กู้โม่หานรู้สึกอบอุ่นหัวใจ อ้าปากกินยาที่ลูกสาวป้อนมา

ใบหน้าของเขาซีดเซียวทันทีเมื่อดื่มยานั้น

ขม! ขมมาก!

ขมกว่าเมื่อวานอีก

เขายิ้มแห้ง แล้วกลืนยาลงไป แอบหรี่ตามองหนานหว่านเยียนอย่างโมโห

นางกำลังแก้แค้นงั้นเหรอ——

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

Status: Ongoing
หนานหว่านเยียน อัจฉริยะแห่งวงการแพทย์ ข้ามภพมาเป็นพระชายาอัปลักษณ์ผู้ถูกทอดทิ้งแห่งจวนอ๋องอี้ แต่ด้วยมันสมองของอัจฉริยะ และความแข็งแกร่งฉบับสาวยุคใหม่ เธอจะพลิกเกมกลับมาแก้แค้นไอ้พวกเศษสวะให้สิ้นซาก!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท