ตอนที่ 643 คุ้มค่าแล้วหรือที่เสี่ยงอันตรายเพื่อนาง
ประตูเสินอู่เป็นประตูที่ฮองเฮากับเหล่าสนมจะเข้าวังถึงจะเปิดใช้ประตูนี้ ทหารที่อยู่ที่นี่ก็สบายที่สุด ปกติแทบจะไม่มีคนเข้าออกประตูนี้ ฮ่องเต้ยังไม่เริ่มเลือกนางสนม นางสนมพวกนั้นที่อยู่ในวัง ครึ่งหนึ่งถูกเนรเทศไปเฝ้าสุสานที่ไท่โจว คนที่ยังอยู่ในวังเหล่านี้เป็นคนมีคุณประโยชน์ที่พ่อและพี่ชายยังสามารถพูดคุยด้วยได้ ชื่อพวกนางแม้ว่าจะเป็นกุ้ยเฟยให้เป็นไท่เฟย แต่ในความเป็นจริงแล้วทั้งหมดนี้เป็นคนน่าสงสารที่ถูกทำโทษด้วย อยากจะไปเจอหน้าครอบครัวสักครั้งจะต้องไปขอร้องกับไทเฮาอยู่นาน ยังต้องดูด้วยว่าวันนี้อารมณ์ของไทเฮาดีหรือไม่ ถ้าอารมณ์ไม่ดี แค่คำเดียวสามารถลากออกไปได้ ให้เจ้ารออีกนานหลายปีก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นผู้หญิงเหล่านี้หน้าตาแม้จะดี แต่ความจริงแล้วลับหลังใช้ชีวิตไม่เหมือนคนทั่วไป
ประตูเสินอู่ปกติสิบวันครึ่งเดือนก็ไม่มีคนผ่านสักคน พอดีกับเซวียไท่เฟยสองสามวันนี้ได้รับพระกรุณาจากไทเฮา สามารถนำมารดาเข้ามาฉลองกันในวันครึ่งวันได้ ประตูเสินอู่ได้รับข้อมูลข่าวสารล่วงหน้าก่อนไม่กี่วัน ตอนนี้เข้าวังหลวง ทั้งวังหลวง แม้แต่ขนมต่างๆ ที่ถืออยู่ในมือก็ยังต้องตรวจดูทีละอันให้ละเอียด จะมีข้อผิดพลาดแต่น้อยไม่ได้ ถ้าเกิดมีปัญหาเกิดขึ้น คนที่ทำงานอยู่ที่ประตูเสินอู่นี้จะต้องเอาชีวิตมาแลกไว้ที่นี่
หานสือพูดเรื่องนี้กับอวี่เหวินลู่แล้ว ให้เขาคิดหาวิธีเข้าไปปะปนกับขบวนรถม้าของเซวียฮูหยินเอง ถึงตอนนั้นเขาสามารถปิดหูปิดตาได้ ถ้าหากถูกคนอื่นจับได้ จะจับตัวเขาไปรับรางวัลจากฮ่องเต้ ให้เขาแอบดีๆ หน่อย ถ้าหากเขาทำให้คนจับได้ คนที่เดือดร้อนไม่ใช่เพียงแค่เขาคนเดียว
อวี่เหวินลู่เป็นเด็กดื้อตั้งแต่เล็ก มีความฉลาดหลักแหลมมาก เรื่องนี้ไม่ยากเลย แต่ว่าเขาบอกกับหานสือไปว่าไม่ใช่ไปแค่เขาเพียงคนเดียว ยังมีเว่ยเฉินยาง เดิมทีมีเขาแค่คนเดียว เขาแค่คนเดียวยังรับปากไปแบบไม่เต็มใจ ถ้ามีเว่ยเฉินยางอีกสักคน เขาจะไม่รับปากเลย ทักษะการต่อสู้ของหานสือด้อยกว่าเขา เขาก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้ ประนีประนอมให้เขาแค่นี้ถือว่าดีเท่าไรแล้ว เขาไม่อยากมีปัญหาอะไรขึ้นมาอีกแล้ว
อวี่เหวินลู่เอาเรื่องนี้เก็บไปคิด พอกลับไปก็เริ่มต้นเตรียมการ พ่อของเซวียไท่เฟยเป็นหัวหน้าสำนักตรวจการ สอบสวนลงโทษคดีการกระทำความผิดและประพฤติมิชอบที่ได้รับความอยุติธรรมมีมากมายเกินไปแล้ว ไม่กี่ปีมานี้ทางครอบครัวได้รับเงินที่ติดสินบนมาก็ไม่น้อย ดังนั้นจึงมีบ้านจึงมีทรัพย์สมบัติมาก การที่คนในครอบครัวจะสามารถเขาไปเยี่ยมลูกสาวได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เมื่อผู้เป็นแม่ทราบว่าลูกสาวของตนตกอยู่ในสภาพใดในวังหลวง ก็กลัวว่าลูกสาวที่อยู่ในวังหลวงจะลำบากกินไม่ได้นอนไม่หลับ ดังนั้นการไปวังหลวงครั้งนี้ ตั้งแต่ได้รับพระกรุณามา เซวียฮูหยินก็เริ่มเตรียมของที่จะนำเข้าไปในวังหลวง ของที่ลูกชอบกินก็สั่งให้คนเตรียมไปหนึ่งรถม้า สุดท้ายบรรจุเข้าไปไม่ได้ และยังกลัวอึกทึกครึกโครมทำให้คนนำไปวิจารณ์ได้ เดิมทีหลังจากที่ฮ่องเต้พระองค์ก่อนสวรรคตไป ชีวิตความเป็นอยู่ของสนมอย่างพวกนางก็ยากลำบาก แต่ก่อนตอนที่ฮ่องเต้พระองค์ก่อนยังอยู่ วันปกติยังสามารถแย่งชิงความโปรดปรานกัน ไม่คุ้มค่าแก่การให้ไทเฮาเป็นใหญ่คนเดียว ตอนนี้ฮ่องเต้พระองค์ก่อนไม่อยู่แล้ว ในวังนี้ไทเฮาเป็นใหญ่ที่สุด การใช้ชีวิตแบบต้องคอยดูสายตาคนอื่นทรมานแค่ไหนผู้เป็นแม่รู้ดีที่สุด
ไหลลู่ไปเฝ้าอยู่ที่นอกจวนสกุลเซวียตามคำสั่ง เขาถามว่าเฝ้าทำไม อวี่เหวินลู่พูดขึ้นดื้อๆ ว่า “เข้าวังต้องนั่งรถม้าเข้าไปสิ ข้าวของพวกนั้นของเซวียฮูหยินสามารถบรรจุคนได้หรือ รถม้าที่สามารถบรรจุคนได้มีแต่รถม้าของนางเท่านั้น เจ้าอยู่ที่นี่คอยจ้องมองให้ข้าดีๆ ข้าไปหาของก่อน ตอนเย็นพวกเราค่อยมาประกอบช่องลับที่รถม้า”
ไหลลู่พูดขึ้นมา “ประกอบช่องลับที่รถม้า? ไม่ใช่ ท่านซื่อจื่อ ท่านจะไปจริงๆ หรือ เรื่องนี้…เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกเราเลย คุ้มค่าแล้วหรือที่เสี่ยงอันตรายเพื่อนาง”
ตอนที่ 644 ไปตายด้วยกันกับนาง
อวี่เหวินลู่บิดหูของเขาลากเขาไปที่เชิงกำแพง “เจ้าจะไปเข้าใจอะไร ข้าไม่ได้ทำเพื่อเว่ยเฉินยาง ข้าช่วยนางเป็นเพราะอยากให้เฝิงเยี่ยไป๋ติดค้างน้ำใจคน อย่างนี้เขาถึงช่วยเหลือท่านพ่อได้อย่างเต็มความสามารถ ช่วยเหลือพวกเราให้แย่งชิงแผ่นดินมาได้”
ไหลลู่ปิดหูพูด ถ้าคิดแบบนี้จริงๆ ตอนแรกบอกเว่ยเฉินยางว่าฮ่องเต้จะส่งคนมาแอบดูนาง ให้นางระมัดระวังขึ้นก็ได้แล้ว เห็นชัดเจนเลยว่าสงสารนางเห็นนางทุกข์ไม่ได้ จึงสละชีวิตเพื่อช่วยเหลือ เขาติดตามอวี่เหวินลู่มาตั้งแต่เด็กย่อมรู้ดี
“แม้ว่าท่านคิดอยากจะช่วยเหลือท่านต้องมีขอบเขต ท่านช่วยพวกเขาไปมากพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องเอาชีวิตตัวเองเข้าไปเสี่ยงเลย เป็นนางเองที่จะเข้าวังกระโดดเข้าไปในที่อันตราย ท่านจะกระโดดไปกับนางไม่ได้ เราทำไม่ได้ จะไปตายก็ให้นางไปคนเดียว”
เขาเป็นแค่คนรับใช้ ชีวิตของเขาผูกติดอยู่กับผู้เป็นนาย ผู้เป็นนายเดือดร้อน คนรับใช้ต้องไม่รักตัวกลัวตายพุ่งไปข้างหน้าสุดรับแทนผู้เป็นนาย ในวังเข้มงวดมากย่อมต้องระวัง ถ้าผิดพลาดเพียงเล็กน้อย สิ่งที่จะเสียไม่ใช่ชีวิตเขาแค่คนเดียว กิจการงานทั้งหลายที่วางแผนมานานหลายปีอาจพังได้ และยังมีหมื่นพันกว่าชีวิตอีก
บอกแล้วว่าผู้ชายตระกูลอวี่เหวินไม่ปกติ ตั้งแต่ตระกูลอวี่เหวินบุกเบิกเมืองมานั้น ผู้ชายตระกูลอวี่เหวิน แต่ละคนล้วนไร้สาระ อวี่เหวินลู่ก็เป็นตามทวดที่เป็นฮ่องเต้ และฮ่องเต้พระองค์ก่อนคนที่ไม่ชอบไม่เป็นไร คนที่ชอบกลับเป็นภรรยาของคนอื่น คนหนึ่งชอบภรรยาของขุนนางชั้นผู้ใหญ่ ทำให้ครอบครัวขุนนางผู้จงรักภักดีแตกสาแหรกขาด อีกคน ตัวเองให้องค์หญิงแต่งออกไป จากนั้นก็เป็นคนแย่งชิงกลับมา แย่งกลับมาไม่เป็นไร แต่สุดท้ายยังส่งชีวิตตัวเองเข้าไปด้วย พอถึงอวี่เหวินลู่ ยิ่งไม่น่าเชื่อถือไปใหญ่ ทำเพื่อเว่ยเฉินหยาง โดยการเอาชีวิตตัวเองเข้าไปเสี่ยงอันตรายก็ไม่เป็นไร ถ้าหากเขาเป็นอะไรขึ้นมา จะมีคนอีกกี่คนต้องมาเอาชีวิตมาตายไปกับเขาด้วย
แต่ตนพูดกับเขา เขาก็ไม่ฟัง โกรธมาก ไม่รู้ว่าเว่ยเฉินยางนางใช้ยาอะไรให้ท่านซื่อจื่อของเขาดื่ม ทำให้ท่านซื่อจื่อของพวกเขาจะไปตายกับนางด้วย
การวางแผนระหว่างเว่ยเฉินยางกับอวี่เหวินลู่เฉาเต๋อหลุนไม่รู้เรื่องด้วย ถ้าเขารู้เรื่องเข้า จะต้องไม่ออกหน้าให้ไปเสี่ยงเป็นแน่ ไม่เพียงแต่เฉาเต๋อหลุนจะไม่รู้เรื่อง แม้แต่คนที่อยู่ข้างกายนางอย่างซั่งเหมยกับซั่งเซียงก็ไม่สามารถพูดด้วยได้ นางเหมือนตัดสินใจแล้วว่าจะปิดปากให้สนิท จะพูดเรื่องนี้กับใครไม่ได้
อวี่เหวินลู่รู้สึกดีใจมาก เรื่องนี้เป็นความลับระหว่างเขากับเว่ยเฉินยาง มีเพียงแค่พวกเขาสองคนเท่านั้นที่รู้ความลับนี้ แต่ก่อนสองคนนี้เจอกันก็มีแต่ยิ่งโกรธกันมากยิ่งขึ้น แต่ตอนนี้ไม่ใช่อย่างนั้นแล้ว ตอนนี้ค่อยๆ เริ่มมีความรู้สึกดีๆ ขึ้นมา แม้ว่าเขายังไม่สามารถแก้ข้อเสียเรื่องคำพูดของเขา แต่เว่ยเฉินยางปฏิบัติต่อเขาดีกว่าแต่ก่อนมาก ถ้าเฝิงเยี่ยไป๋ไม่กลับมา ความสัมพันธ์ของเขากับเว่ยเฉินยางก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ แม้ว่านางจะเคยมีลูกมาแล้ว แต่ลูกของนางตอนนี้ยังเล็กอยู่ ยังไม่รู้เรื่องอะไร เขาจึงยังทำดีกับเด็กได้อยู่เหมือนเป็นลูกของเขาเอง เพราะถือว่าเห็นแก่หน้านาง จุดนี้นับว่าใจกว้างอยู่ แค่มีลูกเพิ่มเข้ามาเอง…
อยากเข้าไปสอดแทรกด้วยโดยไม่รู้ตัว คิดจากไหนถึงไหน เขาควบคุมตัวเองไม่ได้ คิดไร้สาระทั้งวัน แต่ก่อนยังคุยโวกับไหลลู่ว่า ตระกูลอวี่เหวินตั้งแต่บุกเบิกบ้านเมืองจนถึงตอนนี้ ทั้งตระกูลมีเขาคนเดียวที่เป็นคนปกติ แต่มองดูแล้ว เหมือนกับว่าแม้แต่เขาเองก็ไม่ปกติเช่นกัน