ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่398 ถ้าทุกอย่างไม่ใช่ความจริง
เหล่าเสิ่นขมวดคิ้วอย่างเข้มงวด “ขอรับ! ท่านอ๋องวางใจได้ ข้าน้อยจะสืบความจริงมาให้ได้ ขอท่านอ๋องรักษาตัวเองให้ดี พวกเราจะรอท่านกลับมาขอรับ”
กู้โม่หานพยักหน้า แผลที่หลังของเขาเริ่มติดเชื้อ เริ่มเวียนหัว มีไข้เล็กน้อย แต่สายตาของเขากลับเยือกเย็นจนน่าขนลุก
“พวกเจ้าก็ดูแลตัวเองให้ดี ระวังด้วย”
พวกทหารในค่ายสามัคคีกับเขา เหล่าเสิ่นกับรองแม่ทัพอวี๋กับเขาก็ต่อสู้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา ไม่มีทางทรยศเขาแน่นอน ให้พวกเขาจัดการเรื่องนี้ เขาก็สบายใจ
และเรื่องในค่ายทหาร ก็ต้องผ่านมือเขาทั้งหมด ครั้งนี้เขาจะไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดเด็ดขาด
“ขอรับ ข้าน้อยขอตัวลา!” เหล่าเสิ่นยกมือคารวะ หันหลังเดินออกไป
รอเหล่าเสิ่นเดินออกไปไกลแล้ว กู้โม่หานก็ทนต่อไปไม่ไหว นั่งลงเหงื่อแตกพลั่ก
นอกประตูมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น “ท่านอ๋อง บ่าวมาส่งยาให้ท่าน ท่านรีบกินเถอะ”
พ่อบ้านเกายกถ้วยยาเข้ามา เดินเข้าไปอย่างระมัดระวัง
วางถ้วยยาไว้บนเก้าอี้ข้างๆกู้โม่หาน เขาเงยหน้ามองสีหน้าของชายหนุ่ม
ริมฝีปากแหลมคมเม้มแน่น ขมวดคิ้วเป็นปม นัยน์ตาที่ไร้อารมณ์นั้นแฝงไปด้วยความเย็นชา
ทันใดนั้น พ่อบ้านเกาก็ก้มหน้าลง
กู้โม่หานมองไปยังคนตรงหน้า สายตามืดมน “ข้ารู้แล้ว”
ได้ยินน้ำเสียงที่เรียบเฉยของกู้โม่หาน พ่อบ้านเกาก็ถึงโล่งอก เงยหน้ามองสีหน้าที่ซีดเซียวของกู้โม่หาน
“ท่านอ๋อง บ่าวรู้ว่าท่านเป็นห่วงองครักษ์เสิ่น และเป็นห่วงความปลอดภัยของพระชายากับพระชายารอง แต่ตอนนี้ท่านเป็นไท่จื่อแล้ว ควรจะดูแลรักษาตัวเองให้ดี”
“บ่าวเห็นว่าท่านเหมือนจะบาดเจ็บ ก็ต้องดูแลรักษาร่างกายตัวเองให้ดี รักษาแผลให้ดี ก็ถึงมีแรงจัดการงานได้ ถ้าไม่อยากให้พระชายารักษาแผลให้ ให้บ่าวช่วยทายาให้ท่านไหมขอรับ?”
เขารู้แค่ว่ากู้โม่หานเหมือนจะบาดเจ็บ แต่ทำไมถึงบาดเจ็บ บาดเจ็บได้ยังไง บาดเจ็บหนักแค่ไหน เขาไม่รู้ กู้โม่หานกลับจากวังแล้วไม่ยอมพูดอะไรสักคำเลย
กู้โม่หานกวาดตามองพ่อบ้านเกาอย่างเรียบเฉย สายตาแฝงไปด้วยเล่ห์นัย เขาไม่ตอบแล้วถามกลับ
“พ่อบ้านเกา ข้าขอถามเจ้าหน่อย เมื่อวานตอนที่เจ้าเห็นเสิ่นอี่ร์บาดเจ็บ สถานการณ์เป็นยังไงกันแน่?”
ได้ยินดังนั้น พ่อบ้านเกาก็ใจสั่น เมื่อวานอธิบายเหตุการณ์ของเสิ่นอี่ร์ไปหมดแล้วนะ ทำไมกู้โม่หานถึงถามอีกครั้งล่ะ?
หรือว่า กู้โม่หานเริ่มสงสัยเขาแล้ว?
ถ้าเป็นเช่นนี้ งั้นเกรงว่าจะเก็บหยุนอี่ร์โหรวไว้ไม่ได้แล้ว
เพราะยังไงจะทำให้ท่านนั้นเสียเรื่องไม่ได้เพราะคนคนเดียว!
พ่อบ้านเกาสายตามืดมน ความดุร้ายแฝงไว้ในใจ ภายนอกกลับทำท่าครุ่นคิด ถอนหายใจอย่างปวดใจ
“ตอบท่านอ๋อง ตอนที่บ่าวไปถึง องครักษ์เสิ่นก็โดนนักฆ่าทำร้ายไปแล้ว พระชายารองหยุนก็ร้องไห้ให้บ่าวไปจับนักฆ่า ในตอนนั้น บ่าวทำได้แค่ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ แต่ไม่คิดว่าจะทำให้นักฆ่าโกรธ อยากลงมือทำร้ายข้า”
“องครักษ์เสิ่นใช้แรงทั้งหมดที่ปกป้องบ่าวกับพระชายารองหยุน นักฆ่าพวกนั้นก็ถึงรีบหนีออกไป จากนั้น องครักษ์เสิ่นก็ทนไม่ไหวแล้วล้มลงไป พวกองครักษ์ในจวนก็รีบวิ่งมาช่วย”
กู้โม่หานมองดูแผลที่มือของเขา แล้วนึกถึงคำพูดตอนกินข้าวของหยุนอี่ร์โหรว สายตาเย็นชา แฝงไปด้วยความเยือกเย็นที่ทำเอาคนที่เห็นขนลุกซู่
หยุนอี่ร์โหรวบอกว่า ตอนนั้นที่นางใกล้หมดสติ เสิ่นอี่ร์ต่อสู้กับนักฆ่ายังไง นางไม่รู้เลย จำได้แค่ว่าเสิ่นอี่ร์แย่งดาบของนักฆ่าไป
แต่พ่อบ้านเกากลับบอกว่าเสิ่นอี่ร์โดนแทงไปแล้ว และหยุนอี่ร์โหรวก็ยังมีสติอยู่ แถมยังตะโกนร้องขอให้ช่วยชีวิตอีก
พวกเขาสองคนพูดไม่ตรงกัน จะต้องมีคนโกหกแน่!
และคนผู้นี้ กู้โม่หานเชื่อว่าต้องเป็นหยุนอี่ร์โหรว
เพราะยังไงพ่อบ้านเกาก็เป็นคนแก่ของจวน เป็นคนซื่อสัตย์ขยันทำงาน ถึงจะคิดไม่ซื่อจริงๆ สิบปีมานี้ก็ไม่มีทางที่จะไม่ผิดพลาดเลย
นอกจากว่าจะมีเรื่องที่เขาไม่รู้เลย หรือพ่อบ้านเกาแอบเก็บซ่อนอำนาจไว้เบื้องหลัง
และหยุนอี่ร์โหรว ช่วงนี้นางร่วมมือกับหยุนโม่หรานทำบัญชีปลอม แล้วตั้งใจให้หยุนเหิงไปยุ่งกับหนานหว่านเยียน……
เหตุการณ์ทุกอย่าง หยุนอี่ร์โหรวไม่ไร้เดียงสาเหมือนเมื่อก่อนแล้ว จิตใจของนางมีเล่ห์เหลี่ยมมากกว่าที่เขาคิดไว้……
กู้โม่หานกำหมัดแน่น สีหน้าไร้อารมณ์
“เจ้าออกไปก่อน เดี๋ยวข้าค่อยกินยา”
พ่อบ้านเกาเดินออกไปอย่างเคารพ “ท่านอ๋อง งั้นบ่าวขอตัวก่อน”
กู้โม่หานจ้องมองแผ่นหลังของพ่อบ้านเกา นัยน์ตาเยือกเย็น
เขาเดาถูกแล้ว
หยุนอี่ร์โหรวป่าวประกาศเรื่องของเด็กสองคนนั้น เสิ่นอี่ร์สืบความจริงได้แล้วก็โดนลอบโจมตี เกือบโดนฆ่าก็เป็นฝีมือนาง
นางหว่านล้อมพ่อบ้านเกาให้ออกไปรับเขา เขาบังเอิญเจอนักฆ่า นางก็สร้างละครร้องขอความช่วยเหลือ ให้เขาช่วยขวางดาบ……
เช่นนี้ จดหมายที่มีลายมือของเสิ่นอี่ร์ที่พ่อบ้านเกาให้เขาก็ไม่มีความน่าเชื่อถือแล้ว
ถ้า ทุกอย่างเป็นฝีมือหยุนอี่ร์โหรว
ถ้า ทุกอย่างในจดหมายเป็นเรื่องโกหก
เขาจะเผชิญหน้ากับหนานหว่านเยียนยังไง?
เมื่อคืนเขาบังคับให้นางไปช่วยคน แล้วเมื่อกี้ตอนกินข้าว เขาก็ห้ามไม่ให้หนานหว่านเยียนลงโทษหยุนอี่ร์โหรว……
ความเยือกเย็นแผ่ซ่านออกมาจากรอบกาย กู้โม่หานใจสั่น นิ้วมือเรียวยาวนั้นก็เย็นยะเยือก