ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ – บทที่ 522 น่าเสียดาย

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 522 น่าเสียดาย

ไทเฮาพูดว่า “เจ้าหก ห้ายุทธการที่สำคัญ สี่ยุทธการที่สำคัญของแคว้นซีเหย่ ก็ยกให้เจ้าเป็นแม่ทัพ เจ้าประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย รักษาเสถียรภาพครึ่งหนึ่งของแคว้นและปกป้องประชาชนแคว้นซีเหย่ แต่น่าเห็นใจ ที่ความจริงใจของเจ้าถูกพ่อของเจ้าหวาดระแวง หวังใช้แผนพลิกอำนาจพันธนาการเจ้า เป็นความผิดที่ใหญ่หลวง มีการจลาจลในสมัยโบราณ ตอนนี้ก็ควรจะมีรัฐประหารในวัง เจ้าต้องตั้งไจไปปกป้องสิทธิ์อำนาจของเจ้า….”

กู้โม่หานเป็นแม่ทัพอัจฉริยะที่หายาก อายุสิบห้าก็เป็นถึงแม่ทัพเทพสงครามที่มีชื่อเสียง ได้ใจประชาชนอย่างมาก กลับก็เป็นจุดเริ่มต้นของเหตุร้าย

ไม่ว่าฮ่องเต้องค์ไหน ล้วนไม่ชอบคนที่มีอำนาจชื่อเสียงมากกว่าตน ต่อให้คนคนนั้นคือลูกชายของเขา

กู้โม่หานตกตะลึง มองดูไทเฮา พร้อมพูดขึ้นว่า “เสด็จย่า….”

ความหมายของไทเฮาคือ ให้เขาก่อการรัฐประหารหรือ?

เขามีความคิดเช่นนี้จริง เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องกระชั้นชิดเจียนตัว เขาเองก็เร่งเตรียมตัวอยู่แล้ว แต่เขาคิดไม่ถึงว่า ไทเฮาจะพูดออกมาแบบนี้

ยังไง เขากับกู้จิ่งซานล้วนเป็นสายเลือดของนาง

ไทเฮามองดูเขา พร้อมพูดขึ้นว่า

“ข้ารู้ว่าเจ้าคิดอะไรอยู่ แต่ข้าไม่ใช่สตรีที่ไม่รู้เรื่องอะไร แผ่นดินที่เสด็จปู่ของเจ้าเฝ้าปกป้องมาทั้งชีวิต ไม่ว่ายังไงข้าก็จะปล่อยให้ล่มสลายไม่ได้ เสด็จพ่อของเจ้าเห็นแก่ตัวเกินไป ไม่เหมาะที่จะเป็นฮ่องเต้แล้ว ไม่อย่างนั้นแคว้นซีเหย่จะต้องเกิดเรื่องวุ่นวายแน่ เจ้าไปวางแผนอย่างวางใจได้เลย ข้าจะคอยปกป้องพวกเจ้าตลอด”

“เยียนเอ๋อร์ฉลาดหลักแหลม คิดถึงเข้าใจเจ้า ไม่มีทางหักหลังเจ้า แต่เรื่องนี้อย่าให้นางเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง เดี๋ยวจะตกอยู่ในอันตราย ยังมีเหลนอีกสองคน พวกนางสามแม่ลูกเป็นจุดอ่อนของเจ้า อย่าให้ใครเอาไปเป็นเครื่องมือเด็ดขาด ต้องปกป้องให้ดี จำไว้หรือยัง?”

กู้โม่หานกำหมัดแน่น ภายในสายตาดำเต็มไปด้วยความจริงจัง พร้อมพูดขึ้นว่า “หลาน เข้าใจแล้ว”

ไทเฮาภาคภูมิใจอย่างมาก เวลานี้ หนานหว่านเยียนพาหลี่หมัวมัวชงน้ำชาเสร็จ พร้อมกลับเข้ามาใหม่

นางเห็นท่าทีกู้โม่หานกับไทเฮาเป็นปกติ จึงไม่คิดอะไรมาก หลังจากรินน้ำชาให้ไทเฮาใหม่แล้ว ก็กลับมานั่งด้านข้างนาง

“เสด็จย่า ช่วงนี้อากาศช่วงเช้าเย็นเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ท่านต้องระวังอย่าเป็นหวัด”

ไทเฮารับชาร้อนมา มองดูหนานหว่านเยียนมีความกตัญญูขนาดนี้ ก็ยิ้มอย่างรักใคร่มีเมตตา พร้อมพูดขึ้นว่า “ได้ ข้าจำไว้แล้ว”

จู่ๆ เหมือนนางคิดอะไรขึ้นมาได้ น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นกระตือรือร้นขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “แต่จะว่าไปแล้ว ในเมื่อตอนนี้พวกเจ้าสองคนมีลูกสาวสองคนแล้ว งั้นลูกชาย ก็ควรมีได้แล้ว?”

ได้ยินแบบนี้ หนานหว่านเยียนใจเต้นแรง แล้วก็พูดอะไรไม่ออก

แต่ไม่ช้า นางก็คิดขึ้นมาได้ว่ากู้โม่หานกับหยุนอี่ว์โหรวเคยเข้าหอกัน สายตาจึงมัวหมิงลง พร้อมฉีกยิ้มขึ้นมา

“เสด็จย่า ช่วงนี้ท่านอ๋องมีงานยุ่ง ดังนั้น….แต่ยังมีเวลาอีกนาน เมื่อถึงเวลาควรที่จะมี ก็จะต้องมีแน่”

กู้โม่หานมองดูหนานหว่านเยียนอย่างลึกซึ้ง คลื่นในแววตาค่อนข้างปั่นป่วน

จู่ๆ เขายื่นมือไปโอบเอวบางของหนานหว่านเยียน บนใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“เรื่องนี้ หลานกับหว่านเยียนกำลังเตรียมตัวอยู่ บางทีไม่นานก็อาจจะมีข่าวดีแล้ว”

หนานหว่านเยียนถูกกู้โม่หานโอบกอดอย่างไม่ทันตั้งตัว ร่างกายแข็งทื่ออย่างเห็นได้ชัด เมื่อฟังคำพูดของเขาแล้ว ก็หันไปมองกู้โม่หานด้วยสายตาเบิกโต กลับเห็นบนใบหน้าหล่อเหลาของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ทั่วทั้งใบหน้าเต็มไปด้วยความอ่อนโยน

แล้วนางก็เข้าใจขึ้นมาทันที กู้โม่หานคงไม่อยากให้เหล่าไท่ไท่เป็นกังวล พูดจาโกหกอย่างกับเป็นความจริง

ดังนั้นนางจึงไม่ได้เปิดโปงเขา เพียงแสร้งทำเป็นทีท่าเอียงอาย ก้มหน้าก้มตาลง

“เตรียมการอยู่ก็ดีแล้ว เยียนเอ๋อร์ ปกติเจ้าต้องดื่มน้ำแกงบำรุงเยอะๆ บำรุงสุขภาพให้ดี ขอให้ได้ลูกชายในทีเดียว ดีที่สุดขอให้มีลูกชายอีกสองคน” ไทเฮายิ้มหัวเราะขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “ไอหยา แบบนี้เชื้อสายราชวงศ์ก็จะมีมากขึ้น ดีจริงๆ ดีจริงๆ”

ขอเพียงหนานหว่านเยียนคลอดลูกผู้ชาย งั้นต่อไปแคว้นซีเหย่ก็จะมีผู้สืบทอดแล้ว พวกเราขุนนางก็จะยิ่งวางใจ

หนานหว่านเยียนยิ้มหัวเราะอย่างขอไปที กู้โม่หานเหลือบมองดูตาคิ้วที่งดงามของนาง กับท่าทีไม่แยแส แววตาปรากฏความมัวหมอง

นางคิดว่าเขากำลังอยากทำให้ไทเฮามีความสุขจึงพูดแบบนี้ แต่เขาพูดเป็นความจริง

มีหรือไม่มีลูกค่อยว่ากันอีกที แต่ตัวนาง เขาไม่ปล่อยไปอย่างแน่นอน

ไทเฮามองดูกู้โม่หานกับหนานหว่านเยียน เหมาะสมกันดั่งกิ่งทองใบหยก พร้อมพูดขึ้นอย่างยิ้มแย้มว่า “คืนนี้พวกเจ้าต้องค้างอยู่ในวังใช่ไหม ข้าสั่งให้หลี่หมัวมัวไปจัดการ จัดห้องนอนไว้ให้กับพวกเจ้า คืนนี้ก็พักอยู่ที่นี่แหละ ตอนนี้ก็ยังเช้าอยู่ เยียนเอ๋อร์เจ้าไปเตรียมตัวอาบน้ำเถอะ”

หนานหว่านเยียนยังไม่ทันได้พูดอะไร ไทเฮาก็หันไปยิ้มแย้ม ตะโกนพูดกับหลี่หมัวมัวที่อยู่ด้านนอกว่า “หลี่หมัวมัว คืนนี้ไท่จื่อกับไท่จื่อเฟยจะค้างที่นี่ เจ้าต้องปรนนิบัติดูแลไท่จื่อเฟยให้ดี”

“บ่าวเข้าใจแล้ว” หลี่หมัวมัวที่ได้ยินเสียงเรียกรีบผลักประตูเข้ามา พร้อมพูดตอบรับ

หนานหว่านเยียนเห็นไทเฮายิ้มหัวเราะอย่างดีใจขนาดนั้น แล้วก็เกิดนึกถึงเมื่อก่อนตอนที่เคยนอนค้างอยู่ที่นี่ ไทเฮาเตรียมชุดเสื้อผ้าเนื้อบางไว้ให้นางโดยเฉพาะ ยังวางยากู้โม่หาน

นางรู้สึกไม่ดีขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก แต่โชคดีที่ครั้งนี้กู้โม่หานแสดงละครไว้ก่อนแล้ว ไทเฮาไม่น่าจะเตรียมสิ่งของพวกนั้นอีก นางจึงก็ยิ้มแย้มอย่างให้ความร่วมมือ

“งั้นหลานสะใภ้ขอตัวก่อน เสด็จย่าท่านพักผ่อนให้ดี”

“ได้ ข้าเชื่อฟังเจ้า” ไทเฮาผงกหัวอย่างปลื้มใจ มองดูหลี่หมัวมัวพาตัวหนานหว่านเยียนออกไป

แล้วไทเฮาก็หันมามองกู้โม่หาน พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้ายังต้องเตรียมงานในพระราชวังพรุ่งนี้ รีบไปทำงานเถอะ ทำงานเสร็จแล้วก็ไปอยู่เป็นเพื่อนเยียนเอ๋อร์”

กู้โม่หานมัวหมองลงเล็กน้อย ลุกขึ้นมาถวายความเคารพไทเฮา พร้อมพูดขึ้นว่า “ขอรับ หลานเข้าใจ”

ไทเฮาเห็นแบบนี้แล้วก็ยิ่งปลาบปลื้มใจ ห้าปีแล้ว ในที่สุดนางก็ได้เห็นกู้โม่หาน รู้จักรักและทะนุถนอมคนข้างกาย

เชื่อว่าต่อไปจะยิ่งอยู่ก็ยิ่งดีขึ้น

หนานหว่านเยียนถูกหลี่หมัวมัวพาไปอาบน้ำ แล้วก็เป็นการอาบน้ำอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งโปรยดอกไม้ ทั้งแต่งตัวแต่งหน้า

อลังการอย่างมาก

หลังจากนานสักพักแล้ว ในที่สุดหนานหว่านเยียนก็ถูกส่งมายังห้องนอน

นางสวมชุดตัวบาง อยากใส่เยอะกว่านี้หน่อย หลี่หมัวมัวก็ไม่ยอม พร้อมพูดขึ้นว่า “ไท่จื่อเฟย ท่านช่างไม่รู้ใจผู้ชายเลย สวมชุดแบบนี้ถึงจะสามารถยั่วยวนไท่จื่อได้…..”

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

Status: Ongoing
หนานหว่านเยียน อัจฉริยะแห่งวงการแพทย์ ข้ามภพมาเป็นพระชายาอัปลักษณ์ผู้ถูกทอดทิ้งแห่งจวนอ๋องอี้ แต่ด้วยมันสมองของอัจฉริยะ และความแข็งแกร่งฉบับสาวยุคใหม่ เธอจะพลิกเกมกลับมาแก้แค้นไอ้พวกเศษสวะให้สิ้นซาก!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท