ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 528 ไท่จื่อกับไท่จื่อเฟยใจตรงกัน
ชายหญิงมัดมือกันเตะบอล?
ยังต้องสุ่มจับคู่ นี่……
ทุกคนต่างมองหน้ากัน สงสัย แปลกประหลาดใจกับความคิดของฉินมู่ไป๋
นี่เป็นกฎที่ไม่เคยมีมาก่อน คนที่ถูกมัดไว้ด้วยกันหากเป็นสามีภรรยากันก็ว่าไปอย่าง หากเป็นชายหญิงที่ยังไม่ได้แต่งงาน งั้นถือว่าเป็นการต้องถูกเนื้อต้องตัวกัน
ยิ่งไปกว่านั้น หากผู้หญิงที่แต่งงานแล้วได้เป็นคู่กับชายโสด นี่…นี่จะเหมาะสมได้อย่างไร
หนานชิงชิงกวาดสายตามองดูฉินมู่ไป๋ อย่างเย็นชาเล็กน้อย
องค์หญิงที่มาเชื่อมสัมพันธ์คนนี้ใจกล้าจริงๆ คิดอยากทำอะไรคนอื่น ล้วนเขียนไว้บนหน้า ไม่กลัวคนอื่นหัวเราะเย้ย
หนานชิงชิงยังมองรู้ความตั้งใจของฉินมู่ไป๋ กู้จิ่งซานเองก็เหมือนกัน ฉินมู่ไป๋ชอบกู้โม่หาน อยากฉวยโอกาสนี้ใกล้ชิดสร้างไมตรีกับเขา แต่เขาไม่มีทางให้กู้โม่หานแต่งงานกับนางเด็ดขาด
กู้จิ่งซานพูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชา แต่ไม่เคร่งขรึม
“งั้นตามที่องค์หญิงฮั่นเฉิงพูดมา การจับกลุ่มควรเลือกยังไง”
“ง่ายมาก” ฉินมู่ไป๋ล้วงหยิบริบบิ้นหลายเส้นที่มีความยาวต่างกันออกมา หลังจากจับปลายให้เท่ากันหมด ก็กำไว้ในมือ ทำให้มองไม่เห็นความสั้นยาว แล้วพูดขึ้นว่า “หากจับริบบิ้นได้ความยาวเท่ากัน ทั้งสองคนก็ถือว่าเป็นคู่กัน เป็นอย่างไร?”
ทุกคนต่างมองดูอยู่อย่างสนใจ จู่ๆชี่กุ้ยเฟยก็ยิ้มหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นมาอย่างอ่อนโยนว่า “ฮ่องเต้ หม่อมฉันเห็นว่าวิธีนี้ไม่เลว น่าสนุกดี และเป็นการมัดมือเท่านั้นเอง ไม่ถือว่าเป็นเรื่องผิดอะไร”
กู้จิ่งซานเงียบ เขาหันไปมองกู้โม่หลิงแวบหนึ่ง คิดว่านี่เป็นโอกาสของกู้โม่หลิง หากกู้โม่หลิงได้คู่กับ ฉินมู่ไป๋ ยังได้ผูกมือกัน ถึงจะไม่เหมาะสม แต่ก็เป็นวิธีการส่งเสริมมิตรไมตรีที่ดี
“ดี งั้นก็ทำตามที่องค์หญิงเสนอ ทุกคนไม่ต้องคิดมาก เพียงเกมเท่านั้นเอง เพื่อความสนุกสนาน”
ฉินมู่ไป๋ดีใจ รีบเดินไปหากู้โม่หาน พร้อมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานว่า
“ไท่จื่อเตี้ยนเซี่ย เชิญท่านก่อน?”
ถึงคนอื่นจะไม่รู้สั้นยาว แต่นางเป็นคนถือ นางรู้ดีที่สุด
ขอเพียงนางสัมผัสรู้ริบบิ้นที่กู้โม่หานจับได้ จากนั้นก็เหลือความยาวที่เท่ากับของเขาไว้ก็พอ
ครั้งนี้ จะต้องได้อยู่กับเขา
กู้โม่หานมองดูหนานหว่านเยียนแวบหนึ่ง แล้วก็หันไปมองบนมือฉินมู่ไป๋
ในมือฉินมู่ไป๋มีริบบิ้นสิบเส้น ตอนนี้ดูแล้วเห็นความยาวเท่ากัน นิ้วเรียวยาวของเขาเลือกขึ้นมาหนึ่งเส้น ดึงอย่างเด็ดเดี่ยว พร้อมพูดขึ้นว่า “เอาอันนี้”
ฉินมู่ไป๋แทบเก็บความดีใจไว้ไม่อยู่ แอบจับเส้นที่เท่ากับของกู้โม่หานไว้แน่นยิ่งขึ้น
คนต่อไป เป็นหนานหว่านเยียน
ฉินมู่ไป๋ยื่นริบบิ้นให้นางเลือก หนานหว่านเยียนเงยหน้าขึ้น สายตาจับจ้องมองดูฉินมู่ไป๋ตรงหน้าที่แลดูหยิ่งยโส ในใจกลับมีแผนขึ้นมา
นิ้วเรียวยาวของหนานหว่านเยียน ค่อยๆ เลื่อนไปมาท่ามกลางริบบิ้นหลายเส้น สายตาคอยจับตาดูท่าทีการเปลี่ยนแปลงของฉินมู่ไป๋
นางพบว่า เมื่อใดก็ตามที่นางเลื่อนนิ้วไปทางขวาสุด สายตาฉินมู่ไป๋จะตื่นเต้น
เห็นทีองค์หญิงฮั่นเฉิงไม่รู้จักเข็ดหลาบจริงๆ จนถึงตอนนี้แล้ว ยังคิดถึงแต่กู้โม่หาน
หนานหว่านเยียนกระตุกมุมปาก จงใจวางมือไว้ทางด้านซ้ายเพื่อดึงริบบิ้นออก พร้อมพูดขึ้นว่า “อันนี้….”
ฉินมู่ไป๋ค่อยโล่งอก
แต่วินาทีต่อมา จู่ๆ หนานหว่านเยียนก็ยื่นมือออกไปที่ริบบิ้นด้านขวาสุด ชักดึงออกมา พร้อมพูดขึ้นว่า “ช่างเถอะ เอาอันนี้ดีกว่า”
ฉินมู่ไป๋ถูกดึงอย่างไม่ทันตั้งตัว เดิมนางก็กำไว้แน่น ตอนนี้จึงถูกหนานหว่านเยียนดึงจนเกือบหล่นตกลงพื้น
หลังจากที่ซวนเซ นางเงยหน้าขึ้นมา กัดฟันถลึงตาใส่หนานหว่านเยียนที่แสร้งทำเป็นตกใจอยู่ตรงหน้า พร้อมพูดขึ้นว่า “มือไท่จื่อเฟยช่างมีแรงไม่น้อยจริงๆ”
หนานหว่านเยียนยิ้มให้นางอย่างขออภัย พร้อมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดว่า “ต้องขออภัยจริงๆ”
นางมองดูริบบิ้นในมือ แล้วก็มองดูในมือกู้โม่หานเส้นนั้น เหมือนกันเลย สายตาอดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มเย้ย
พวกผู้คนที่มามุงดู ก็เห็นเหมือนกัน ต่างพูดขึ้นมาด้วยเสียงสูงว่า “รีบดู ไท่จื่อกับไท่จื่อเฟยจับได้ความยาวเหมือนกัน”
“ทั้งสองคนนี้รู้ใจกันมากจริงๆ สมกับที่สวรรค์บรรจงสร้างขึ้นมาเป็นคู่กันจริงๆ”
หนานหว่านเยียนไม่รู้สึกอะไรกับพวกที่คอยพูดชื่นชม นางเลือกคู่กับกู้โม่หาน เพราะกู้โม่หานเหมาะสมกับนางที่สุด
อีกอย่าง นางจะให้ฉินมู่ไป๋สมปรารถนาไม่ได้
ถึงตอนนั้นหากเกิดเรื่องเดือดร้อนขึ้นมา นางก็จะต้องมาช่วยเก็บกวาดอีก
แต่กู้โม่หานได้ยินเสียงพวกนั้นแล้ว ในใจกลับอดไม่ได้ที่จะรู้สึกมีความสุข
ช่วงนี้ ยิ่งอยู่ก็ยิ่งชอบฟังคำพูดพวกนี้ ได้ผูกติดอยู่กับหนานหว่านเยียน ยิ่งใกล้ชิดยิ่งดี….
ถูกหนานหว่านเยียนแย่งริบบิ้นไปแล้ว ไม่ได้คู่กับกู้โม่หานแล้ว ฉินมู่ไป๋หมดสนุกขึ้นมาทันที เกลียดหนานหว่านเยียน เกลียดชังอย่างที่สุด
การแบ่งกลุ่มต่อจากนั้น หนานชิงชิงกับกู้โม่เฟิง ขุนนางแคว้นเทียนเซิ่งกับสาวใช้ ฉินอี้หรานกับสาวใช้คนหนึ่ง สุดท้ายเหลือสองเส้น ก็เหลือฉินมู่ไป๋กับกู้โม่หลิงพอดี
ฉินมู่ไป๋มองดูท่านอ๋องเจ็ดด้านข้าง ที่รู้จักแต่ส่ายพัดไปมา ยิ้มให้กับนาง แล้วก็อดไม่ได้ที่จะโมโห
นางเม้นริมฝีปาก ระงับความโกรธไว้แล้วพูดกับกู้โม่หลิงว่า “ท่านอ๋องเจ็ด ข้าว่าเจ้าก็ไม่เหมือนคนชำนาญในการเตะบอล เดี๋ยวฟังคำสั่งข้าก็พอ”
พูดเสร็จ นางก็ลงไปเตรียมตัวแล้ว
เหลือไว้เพียงกู้โม่หลิงยังอยู่ที่เดิมคนเดียว ยกมือขึ้นมาลูบหัวอย่างเก้อเขินและจนใจ กลับแอบซ่อนความมืดที่ไร้ร่องรอยไว้
ทุกคนเตรียมความพร้อมกันหมดแล้ว แต่ละกลุ่มต่างเป็นสวมชุดนักเตะบอล ยืนเรียงชายซ้าย หญิงขวา ในนั้น มือขวาของผู้ชายผูกติดกับมือซ้ายของผู้หญิง
มีเพียงมือของหนานหว่านเยียน ถูกกู้โม่หานคว้าจับไว้แน่น
ถึงหนานหว่านเยียนจะรู้สึกอึดอัดใจ แต่ภายใต้สายตาคนมากมาย ก็ไม่สะดวกที่จะพูดอะไรมาก เพียงกระซิบพูดกับชายหนุ่มที่อยู่ด้านข้างว่า “ข้าเตะบอลไม่เก่ง เดี๋ยวข้าพยายามให้ความร่วมมือเจ้า”
กู้โม่หานมองดูนาง ริมฝีปากบางกระตุกเล็กน้อย เผยรอยยิ้มที่มีความหมาย พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ง่าย ที่จะมีสิ่งที่เจ้าไม่ชำนาญ….”