ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ – บทที่ 636เขาเป็นใครกันแน่

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 636

ขณะนั้น หนานหว่านเยียนที่ “จากไป” สองเดือนแล้ว และองค์หญิงน้อยของแคว้นซีเหย่ที่หายไปก็อยู่ในห้องส่วนตัวของโรงเตี๊ยม

อาจี้จับหน้าต่างอย่างกัดฟัน มองขบวนที่ยิ่งใหญ่โอ่อ่า อย่างโกรธมาก

ทันใดนั้น เขาก็ปิดหน้าต่างด้วยความโกรธ เป็นเดือดเป็นร้อนแทนหนานหว่านเยียนอย่างมาก

“ช่างน่าโมโหเสียจริง เพิ่งผ่านมาสองเดือน ฝ่าบาทก็อดใจรอไม่ไหวรับหยุนอี่ว์โหรวเข้าวังแล้วงั้นรึ”

“ก็แค่เข้าวัง ไม่คิดว่าจะจัดฉากยิ่งใหญ่ ทั้งตระเตรียมเสลี่ยงนุ่มๆ ให้นางโดยเฉพาะขนาดนี้ เหอะ!”

ฝ่าบาทช่างแย่ซะจริง! ฮองเฮาเหนียงเหนียงเพิ่งจากไปเพียงสองเดือนเท่านั้น ก็รีบร้อนรื้อฟื้นความสัมพันธ์เก่าก่อนกับสตรีผู้อื่นเสียแล้ว!

โม่หวิ่นหมิงพิงหน้าต่าง ดวงตาดอกท้ออ่อนโยนตอนนี้เปลี่ยนเป็นเย็นชาราวกับน้ำแข็ง

สองเดือนมานี้ กู้โม่หานตามหาคนราวกับหมาบ้าตลอดสองเดือน พลิกแผ่นดินค้นหาทั้งเมืองหลวง หากมิใช่เพราะกองกำลังของแคว้นต้าเซี่ยหยั่งรากที่นี่ไว้ลึก หนานหว่านเยียนคงถูกเจอตัวไปแล้ว

เขานึกว่ากู้โม่หานบ้าคลั่งขนาดนั้น อาจมีความรักลึกซึ้งกับหว่านหว่าน แต่คิดไม่ถึงว่า แค่สองเดือนก็ถึงขีดจำกัดของความรักลึกซึ้งนั้นแล้ว

หึ น่าขันจริงๆ

หนานหว่านเยียนอุ้มซาลาเปาน้อย ไม่ได้พูดอะไร

แสงแดดส่องลงบนร่างนาง ท้องของนางนูนขึ้นเล็กน้อย มองออกว่าตั้งครรภ์ ใบหน้างดงามหาที่เปรียบมิได้ยังคงไม่เปลี่ยนสีหน้า แต่ดวงตาดำขลับหรี่ลง รู้สึกว่าขบวนบนถนนยาวบาดตาอย่างบอกไม่ถูก

นางยังเก็บอาการเอาไว้ได้ แต่ซาลาเปาน้อยกลับอดทนไม่ไหว ดึงแขนเสื้อหนานหว่านเยียนอย่างขัดเขิน ดวงตาแดงก่ำรู้สึกเศร้าโศกมาก

“ท่านแม่ เสด็จพ่อลืมพวกข้าแล้วหรือ…”

เพิ่งผ่านไปเพียงสองเดือนเท่านั้น เสด็จพ่อไม่คิดถึงพวกนางแล้วหรือ

หากเป็นเช่นนั้นจริง ทำไมตอนแรกเสด็จพ่อถึงแสดงท่าที รักใคร่เอ็นดูพวกนางขนาดนั้นกัน

ในใจนางแทบไม่อยากจะเชื่อ แต่นี่คือเรื่องจริง นางไม่อาจไม่เชื่อได้

เพียงแต่ไม่รู้ว่า พี่สาวอยู่ในวังคนเดียวจะสบายดีหรือไม่ ไม่มีนางกับท่านแม่อยู่ด้วย พี่สาวจะถูกรังแกหรือไม่…

หนานหว่านเยียนลูบหัวซาลาเปาน้อยเบาๆ “น่าจะใช่”

นางรู้ว่า สุดท้ายกู้โม่หานก็ปล่อยหยุนอี่ว์โหรวไปไม่ได้ ต่อให้นางไม่ได้แกล้งตาย การที่ให้หยุนอี่ว์โหรวเข้าวัง ก็เป็นเรื่องไม่ช้าก็เร็ว

แต่ถึงกระนั้นนางก็ไม่คาดคิดว่า กู้โม่หานจะเป็นชายสารเลวหน้าด้านไร้ยางอาย รีบรับหยุนอี่ว์โหรวเข้าไปไวขนาดนี้

บุรุษล้วนมักมากหลายใจจริงๆ! ตอนนั้นนางตัดสินใจถูกแล้วที่จะหนีไป!

ขณะนี้เอง บ่าวหญิงที่เฝ้าดูอยู่บนถนนยาวเปิดประตูเข้ามา นางก้าวไปข้างหน้าหนานหว่านเยียน โค้งคำนับให้หนานหว่านเยียนอย่างนอบน้อม “จวิ้นจู่ ท่านแม่ทัพน้อยไปรับหยุนอี่ว์โหรวที่จวนอี้อ๋องแล้วเจ้าค่ะ”

หนานหว่านเยียนมองบ่าวหญิงคนนั้น “เป็นอย่างไร ได้ยินหยุนเหิงกับหยุนอี่ว์โหรวคุยอะไรกันบ้างไหม”

เฟิงยางมีวรยุทธ์สูง และฉลาดมาก ซึ่งเป็นหนึ่งในองครักษ์ลับที่โม่หลีทิ้งไว้ให้หนานหว่านเยียน

วันนี้หยุนอี่ว์โหรวจะเข้าวัง แม่ทัพน้อยเป็นคนคุ้มกัน ดังนั้นนางจึงจัดให้เฟิงยางไปสืบสถานการณ์ของแม่ทัพน้อยเป็นพิเศษ

เฟิงยางเอ่ยอย่างนอบน้อม “จวิ้นจู่ บ่าวเพิ่งได้ยินท่านแม่ทัพน้อยคุยกับหยุนอี่ว์โหรว ล้วนเกี่ยวกับท่าน ทั้งไม่พอใจแทนท่าน ภักดีต่อท่านมากเจ้าค่ะ”

นางยืนตั้งตระหง่าน ใบหน้านั้นไร้อารมณ์เสมอมา เคร่งขรึมราวกับหน้าตาย

เมื่อได้ยิน นัยน์ตาดอกท้อของโม่หวิ่นหมิงฉายประกายลึกซึ้ง

“หว่านหว่าน เห็นชัดว่าตอนนี้หยุนอี่ว์โหรว มีอิทธิพลแข็งแกร่งแล้ว แต่หยุนเหิงก็ยังกล้าที่จะต่อปากต่อคำ แสดงว่าเขาเป็นคนตรงไปตรงมาและจริงใจ และตอนนี้เขาเป็นหลานชายของไทเฮา สถานะสูงศักดิ์ จึงเป็นตัวเลือกที่ดี สำหรับพวกข้า”

ใบหน้างดงามไร้ที่เปรียบของหนานหว่านเยียน ดวงตากระจ่างใสสะดุดตา ริมฝีปากแดงยกโค้ง แย้มยิ้มเบาๆ

“ตั้งแต่เขารอดพ้นจากความตาย แล้วได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของหยุนอี่ว์โหรว ก็ไม่สติเลอะเลือนอีก เลือกเขาละกัน รอเขากลับมาแล้ว ข้าจะไปเจอเขา แล้วขอความร่วมมือกับเขาเอง”

นางลูบท้องที่เห็นว่าตั้งครรภ์แล้ว นางไม่ได้มีมิตรภาพที่ลึกซึ้งกับหยุนเหิง ดังนั้นการขอความช่วยเหลือจากเขา จึงไม่รู้ว่าจะราบรื่นหรือไม่

แต่ตอนนี้นางไม่สนใจอะไรแล้ว เกี๊ยวน้อยถูกกู้โม่หานจับกลับไป เมื่อไม่มีเกี๊ยวน้อย นางก็ไปไหนไม่ได้ จะยอมแพ้กลับแคว้นต้าเซี่ย ก็ถูกล้อมอยู่ในเมืองหลวงมองไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน นางจึงต้องรั้งอยู่ต่อ พาเกี๊ยวน้อยไปด้วยถึงจะสบายใจ

แต่การรักษาความปลอดภัยของพระราชวังเข้มงวดมาก โดยเฉพาะเพิ่งเกิดเรื่องนั้นไป แม้กระทั่งเดินไปตรงประตูวัง ก็ต้องถูกจับกุมสอบสวน นางไม่สามารถปรากฏตัวออกไปได้เลย

และช่วงนี้ สถานการณ์ก็คลี่คลายลงเล็กน้อย

นางจึงคัดเลือกเฟ้นหาคนทันที ซึ่งหยุนเหิงเป็นเป้าหมายร่วมมือที่ดีมาก ด้วยเขาเป็นหลานชายของไทเฮาองค์ปัจจุบัน และมีโอกาสติดต่อกับหวงไท่เฟยอย่างแน่ชัด

หวงไท่เฟยจะต้องช่วยนางแน่นอน ขอเพียงมีโอกาสส่งคำขอของนางไป นางต้องรวมกับตนเองสอดประสานทั้งนอกและใน ช่วยเกี๊ยวน้อยที่ถูกทิ้งไว้ในวังคนเดียวออกมา เหมือนเมื่อสองเดือนที่แล้ว…

เมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อสองเดือนก่อน สถานการณ์ในตอนนั้นช่างน่าหวาดเสียวจริงๆ

วันก่อนพิธีการ นางถูกกู้โม่หานกักขังไว้ในตำหนัก ไม่ให้เจอใคร และไม่ออกไปไหนทั้งนั้น ตอนนั้นโกรธจนเวียนหัว อยากจะทุบทุกอย่างทิ้ง

แล้วในตอนนั้น จู่ๆ นางก็เห็นกล่องใบหนึ่ง ข้างในบรรจุของที่ท่านน้ามอบให้เด็กทั้งสองคน

วันนั้นกู้โม่หานส่งของมาให้ในตำหนักนางมากมาย แต่ทั้งหมดเป็นของที่เขาส่งมา ไม่มีทางที่ของท่านน้าจะปะปนเข้ามาได้ นางรู้ทันทีว่าจะต้องเป็นของที่ส่งมาจากคนของท่านน้า จึงไล่เซียงอวี้ออกไป เปิดกล่อง เจอจดหมาย จากนั้นถึงรู้แผนการ

ในแผนการบอกว่า วันพิธีการจะมีการระเบิด นางไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น เพียงต้องร่วมมือเข้าไปในตำหนักใหญ่ ที่เหลือทั้งหมดมอบให้ท่านน้าจัดการ

ท่านน้าบอกในจดหมายว่า ไม่มีทางทำร้ายผู้บริสุทธิ์ ปริมาณของดินปืนเพียงพอที่จะทำให้ผู้คนหวาดกลัว ดึงความสนใจเท่านั้น แต่เพื่อให้การแสดงสมจริง ทำให้กู้โม่หานเชื่อว่า สถานการณ์นี้จงใจสร้างความวุ่นวาย มีผู้คนรับบาดเจ็บแตกตื่น ซึ่งหวงไท่เฟยเป็นคนวางแผนทั้งหมด ให้หนานหว่านเยียนไม่ต้องกังวล

แผนการละเอียดมาก แม้ว่าหนานหว่านเยียนไม่รู้ว่าพวกเขาปิดบังกู้โม่หาน แล้วทำเรื่องทั้งหมดนี้หรือไม่ แต่ในวันพิธีการ นางยังคงทำตาม ตอนดอกไม้ไฟกำลังจะจุด นางเอ่ยลากับกู้โม่หาน หวังว่าหลังจากนี้จะไม่ได้พบกันอีก

ดอกไม้ไฟถูกจุดขึ้น แล้วเกิดการระเบิด นางเข้าไปในตำหนักใหญ่ และถูกโม่หวิ่นหมิงพาออกไปจากพระราชวัง

เนื่องจากความสำคัญของพิธีบรมราชาภิเษก กองกำลังและขุนนางเกือบทั้งหมดต่างอยู่ในพิธีการ สถานที่อื่นๆ จึงหละหลวมมาก บวกกับมีไท่เฟยค่อยเปิดทางให้ แล้วใครจะหยุดรั้งพวกเขาได้

นางได้ออกนอกวังตามต้องการ ถึงรู้ว่าโม่หลีมีส่วนร่วมในการวางแผนทั้งหมดนี้ด้วย แต่ตอนร่วมมือกับโม่หลี เกี๊ยวน้อยกลับไม่ได้ถูกพาออกมาด้วย

ตอนนั้นนางกังวลและรู้สึกผิด ซาลาเปาน้อยก็ร้องไห้ออกมาทันที กำเสื้อผ้าของนางแน่น

“ท่านแม่ ล้วนต้องโทษข้า โทษที่ข้าทำพี่สาวหายไป…”

“ทำอย่างไรดีท่านแม่ ข้ากลัว ข้ากลัวว่าพี่สาวจะเจออันตราย ข้า ข้าไม่เคยแยกกับพี่สาวมาก่อน…”

เสียงร้องไห้ของนางทำให้หัวใจของผู้ใหญ่สามคนในห้องแตกสลาย

โดยเฉพาะหนานหว่านเยียน ผู้เป็นแม่ เกี๊ยวน้อยถูกทิ้งไว้ในวังเพียงลำพัง นี่เป็นการควักเนื้อชิ้นใหญ่ออกจากใจนางอย่างไม่ต้องสงสัย

นางตบหลังซาลาเปาน้อยแผ่วเบา เกยคางไว้บนหัวซาลาเปาน้อย “ซาลาเปาน้อยไม่ร้อง ตอนนั้นสถานการณ์วุ่นวายเกินไป ไม่รู้ใครคาดคิดว่ามันจะกลายเป็นเช่นนี้ เจ้าทำได้ดีมากแล้ว”

“แม่ก็คิดถึงนางมา แต่เจ้าวางใจ แม่ไม่มีทางทิ้งนางไว้แน่ ในเมื่อต้องไป ทุกคนในครอบครัวจะต้องมีระเบียบเรียบร้อย หากใครหายไปสักคน ข้าก็ไม่มีทางจากไปได้”

ภายใต้การปลอบโยนของนางซาลาเปาน้อยค่อยๆ สงบลง เงยหน้าขึ้นพลางสะอึกสะอื้น ใบหน้าเล็กแดงจากการร้องไห้แก้มจ้ำม่ำสั่นกระเพื่อม

“อืม ข้า ข้าฟังท่านแม่ทั้งหมด”

โม่หลีกลับขมวดคิ้ว “เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เจ้าไม่อาจหันหลังกลับได้ กู้โม่หานไล่ล่าหนักมาก ต้องกลับแคว้นต้าเซี่ยกับข้าก่อน ส่วนเกี๊ยวน้อย ข้าจะพานางออกมาในภายหลังอย่างแน่นอน!”

นางมองร่างสูงตระหง่านของโม่หลี บังคับตัวเองให้ใจเย็นลง

ก่อนหน้านี้นางเคยสงสัยว่าโม่หลีไม่ใช่คนธรรมดา แต่ตอนนี้โม่หลีจะพานางไปภายใต้จมูกของกู้โม่หาน จึงก็ยิ่งมั่นใจในความคิดของนางมากขึ้น

“โม่เซียนเซิง เจ้าเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงช่วยข้าขนาดนี้”

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

Status: Ongoing
หนานหว่านเยียน อัจฉริยะแห่งวงการแพทย์ ข้ามภพมาเป็นพระชายาอัปลักษณ์ผู้ถูกทอดทิ้งแห่งจวนอ๋องอี้ แต่ด้วยมันสมองของอัจฉริยะ และความแข็งแกร่งฉบับสาวยุคใหม่ เธอจะพลิกเกมกลับมาแก้แค้นไอ้พวกเศษสวะให้สิ้นซาก!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท