ยากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 671
“ความรักคือการไม่คำนึงถึงผลได้ผลเสีย หากเจ้าต้องการดวงจันทร์ ข้าก็สามารถเก็บลงมาให้เจ้าได้ แต่เจ้าจักต้องเป็นของข้า”
อะไรนะ?
หนานหว่านเยียนชะงักงันทันที แต่เขากลับก้าวเข้ามาใกล้นางเรื่อยๆ สายตาคมกริบ “ข้าเกลียดที่เจ้ามักเอ่ยถึงชายอื่น ข้าไม่ชอบอย่างยิ่ง อย่างยิ่ง อย่างยิ่งที่สุด”
นางถูกเขาประชิดตัวจนต้องถอยหลัง พูดไม่ออกเพราะคำพูดของเขาทำให้ตกตะลึง งงงัน และหวาดกลัว ทันใดนั้นก็สะดุดโซเซ จนล้มลงไปด้านหลัง
ลูกตาดำของกู้โม่หานเบิกกว้างทันที แขนล่ำสันแข็งแรงคว้าไปที่เอวอ่อนนุ่มราวกับไร้กระดูกของหนานหว่านเยียน ดึงนางกลับมาไว้ในอ้อมกอด
สัมผัสนุ่มนิ่มที่ปลายนิ้ว ราวกับว่าได้สัมผัสแผ่นน้ำแข็งที่เงียบสงบมายาวนานในใจเขา อุ้งมือของเขาเปลี่ยนเป็นร้อนผ่าว
เขาควบคุมตัวเองไม่ได้เลยสักนิด เขาโอบกอดนางไว้ในอ้อมกอดแน่น รูปร่างสูงตระหง่านคลุมนางเอาไว้จนมิด สัมผัสได้ถึงอุณหภูมิของนาง ความนุ่มนิ่มของนาง และกลิ่นหอมดอกไม้อ่อนๆ บนตัวนาง
เฉินกงกงมองดูเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างตกตะลึง หลังเขาได้สติกลับมา ก็ปิดตาของตัวเองอย่างลนลาน
ฝ่าบาทกอดคนอื่นที่ไม่ใช่ฮองเฮาเหนียงเหนียง!
อีกอย่างเมื่อครู่นี้ฝ่าบาททรงกริ้วอย่างเห็นได้ชัด แต่เมื่อเห็นไป๋จื่อล้มลง สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที เห็นได้ชัดว่ากระวนกระวายไม่น้อยเลย นี่นี่นี่มัน……
ฝ่าบาทคงจะไม่ได้ชอบแม่นางผู้นี้นะ?
หนานหว่านเยียนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ติดอยู่ในอ้อมกอดของเขาอย่างสมบูรณ์ นางปกป้องท้องของตัวเองโดยอัตโนมัติ มืออีกด้านยืนไปดันหน้าอกของกู้โม่หาน แต่กลับพบว่าเขากอดนางแน่นอย่างยิ่ง “ปล่อย!”
คำพูดที่พูดออกมารู้สึกแข็งกระด้างเย็นชาและทะนงตัวอย่างยิ่ง ไม่เหมือนกับสามัญชน หนานหว่านเยียนกัดฟัน แล้วอ่อนลงเล็กน้อย “ฝ่าบาท ข้าไม่เป็นอะไร ท่านปล่อยข้าเถิด”
กู้โม่หานเขาเป็นอะไรกัน คำพูดนั้นของเขาเป็นการสารภาพรักหรือ ตอนนี้ก็ยังกอดนางเสียแน่น เขาจำนางได้จริงๆ หรือชอบคนใหม่เบื่อคนเก่ากัน ถูกหญิงแปลกหน้าคนอื่นดึงดูดเสียแล้ว?
คิดอย่างถี่ถ้วนแล้วก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ เขาบอกว่าเขาชอบนาง ตอนหลังจากนางแสดงวิชาแพทย์ ตอนนี้นางใช้ตัวตนอื่นในการแสดงวิชาแพทย์ เขาก็ดูไม่ออกแล้ว
กู้โม่หานคนสารเลวชอบหมอหญิงจริงๆ กระมัง!
แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด ระยะห่างระหว่างพวกเขาใกล้กันเกินไป ครรภ์ของนางก็เห็นได้อย่างชัดเจนแล้ว หากเขาสัมผัสนางอีกไม่กี่ครั้งก็จะพบได้ง่ายยิ่งนักว่านางตั้งครรภ์!
นัยน์ตาที่สวยงามแคบยาวของกู้โม่หานหรี่ลงเล็กน้อย ตอนที่หนานหว่านเยียนเอ่ยปากครั้งที่สอง เขาก็ปล่อยมือ
เขาแสร้งทำเป็นดันนางออกเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วชายตามองหนานหว่านเยียนอย่างเย็นชา
“ความบุ่มบ่ามเช่นนี้ในพระราชวัง ข้าก็ยังไม่รู้จริงๆ ว่าหยุนเหิงชอบเจ้าจากตรงไหนกัน”
หนานหว่านเยียนถอยหลังไปครึ่งก้าวราวกับลูกแมวน้อย ปรากฏความร้อนใจไม่เป็นสุขเล็กน้อยในตานาง เห็นได้ชัดเจนว่าคำพูดพวกนั้นที่เขาเพิ่งจะพูดมันกำกวมเกินไป!
ราวกับรู้ว่านางกำลังคิดอะไร กู้โม่หานมองผ่านนางไป เอ่ยเสียงเย็นยะเยือก: “คำพูดพวกนั้นที่ข้าพูดเมื่อครู่นี้ คือความชอบที่ข้าคิดไปเอง ข้าสามารถทำได้ทุกอย่าง โดยสามารถไม่ต่อรองได้ แต่ ข้าจักต้องได้ครอบครองนางแต่เพียงผู้เดียว”
เสียงของเขาเย็นยะเยือกอย่างยิ่ง แต่กลับมีความดื้อรั้นเล็กน้อย “ในใจของนาง ในสายตาของนาง จักมีเพียงข้าคนเดียวเท่านั้น”
หนานหว่านเยียนได้ยินเช่นนั้น ใบหน้างดงามก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยทันที รู้สึกว่าคำพูดที่เขาเพิ่งจะพูดกับนาง เพียงกำลังตอบคำถามของนางเท่านั้น
นางยังคิดว่า……เหตุใดนางถึงได้มีความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ว่าเขากำลังพูดกับนางเลยเล่า?
นางเงยหน้ามองกู้โม่หาน แต่เขากลับก้าวไปข้างหน้าต่อ มองไม่เห็นสีหน้าบนหน้าของเขาเลยแม้แต่น้อย เห็นเพียงด้านหลังสูงตระหง่านของเขาเท่านั้น
หนานหว่านเยียนทำได้เพียงตามไป เฉินกงกงเองก็รีบตามไปเช่นกัน
เงียบสงัด
ไม่มีผู้ใดส่งเสียงเลย
ทันใดนั้น กู้โม่หานก็อดไม่ได้แล้วถามขึ้นอีกครั้ง เสียงเบาลง ไม่สามารถบอกได้ว่ามีความสุขหรือโกรธ
“วิชาแพทย์ของเจ้าดูเก่งกาจยิ่งนัก ไม่ทราบว่าจะสามารถแสดงให้ข้าดูอีกรอบได้หรือไม่?”
หนานหว่านเยียนมองกู้โม่หานอย่างระมัดระวัง พึมพำอยู่ในใจ
กู้โม่หานคงจะไม่ได้ชอบสตรีที่รู้วิชาแพทย์จริงๆ ดอกกระมัง?
เพียงแต่ กู้โม่หานเข้าใจชัดเจนแจ่มแจ้งเกี่ยวกับฝีมือทางการแพทย์ในการช่วยชีวิตผู้คนของนาง โชคดีที่เมื่อก่อนนางแสดงความสามารถด้านศัลยศาสตร์เป็นส่วนใหญ่เท่านั้น และใช้วิธีการการรักษาของยุคปัจจุบันมากมาย
อันที่จริงนางคือนักศึกษาปริญญาเอกแพทย์แผนจีนและแพทย์แผนปัจจุบัน ความสามารถด้านศัลยศาสตร์ก็ไม่เลวเลย ศักยภาพด้านการแพทย์แผนจีนก็ไม่ได้อ่อนด้อย แต่กู้โม่หานไม่ได้ถือว่า เข้าใจนางลึกซึ้งมากนัก
หนานหว่านเยียนเอ่ยกับกู้โม่หานอย่างสุภาพ “ข้าเรียนวิชาแพทย์มาตั้งแต่เด็ก เรียนรู้การสังเกตการณ์ฟังการซักถามและการสัมผัสจากท่านพ่อและท่านปู่ การแตะชีพจรและการฝังเข็ม ล้วนเป็นความเชี่ยวชาญที่สุดของข้า”
“ไม่ทราบว่า ฝ่าบาทต้องการให้ข้าแสดงอะไรหรือ?”
กู้โม่หานหันกลับไปมองนางแวบหนึ่ง นัยน์ตาสีดำเข้ม “ช่วงนี้ข้ามักจะรู้สึกว่าร่างกายไม่สบายเท่าไหร่นัก ให้แม่นางไป๋จื่อลองจับชีพจรให้ข้าดูก็ได้ ดูสิว่าแท้ที่จริงแล้วเป็นอันใด?”
ได้ยินเช่นนั้น เฉินกงกงที่เงียบมาตลอดก็ตึงเครียดและตกตะลึงเล็กน้อยทันที
“ฝ่าบาท มัน มันไม่เหมาะสม”
ฝ่าบาทไม่เข้าใกล้สตรีมาตั้งแต่ไหนแต่ไร และยิ่งไม่ชอบเข้าใกล้สตรีอื่นนอกจากฮองเฮาเหนียงเหนียง แต่เหตุใดวันนี้ถึงได้ต้องการให้ไป๋จื่อผู้นี้จับชีพจรให้เขากัน?
และถึงอย่างไรไป๋จื่อผู้นี้ก็ไม่เข้าใจสถานการณ์ มิอาจให้นางล่วงเกินพลานามัยที่ทรงแข็งแรงของฝ่าบาท!
กู้โม่หานตวัดสายตาคมกริบไปทางเฉินกงกง เฉินกงกงทำได้เพียงปิดปาก ก้มหน้าและไม่กล้าพูดอะไรอีก
กู้โม่หานมองหนานหว่านเยียนพลางยิ้มอ่อน “ได้หรือไม่?”
แม้ว่าหนานหว่านเยียนจะไม่รู้ ว่าเหตุใดเขาถึงอยากให้นางตรวจ แต่นางเองก็ไม่ได้กลัว และล้วงผ้าเช็ดหน้าใหม่เอี่ยมจากอกออกมา แล้วโค้งคำนับให้กับกู้โม่หานเล็กน้อย “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นข้าก็จักทำตามที่ท่านต้องการเพคะ”
“ฝ่าบาทโปรดทรงยื่นมือออกมาเถิด ข้าจักจับชีพจรให้ท่าน”
มือขวาที่ยกขึ้นหยุดชะงัก และกู้โม่หานก็วางมันลง
รอยไหม้บนแขนขวาเห็นได้ชัดอย่างยิ่ง อีกทั้งยังอัปลักษณ์ยิ่งนัก……
ทันใดนั้นอาการร้อนใจไม่เป็นสุขของชายหนุ่มก็ฉายวาบทั่วทั้งตาและคิ้ว ปากบางเม้มแน่น แล้วยื่นแขนซ้ายออกมา ยื่นไปตรงหน้าหนานหว่านเยียนแทน “อืม”
มือที่อยู่ตรงหน้ายาวเรียวขาวผ่อง แต่เพราะการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ ตรงข้อต่อนิ้วมือจึงมีผิวหนังด้าน แต่มันไม่ได้ส่งผลต่อความงดงามเลย แต่กลับเพิ่มเสน่ห์เฉพาะตัวของบุรุษแทน
ข้อมือซ้ายของกู้โม่หานมีหนังและเนื้อใหม่เกิดออกมาเล็กน้อย ดูแล้วขาวและโปร่งใสยิ่งนัก
เขาได้รับบาดเจ็บหรือ?
หนานหว่านเยียนขมวดคิ้วอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้คิดใคร่ครวญ ทันใดนั้นก็นำผ้าเช็ดหน้าวางลงบนข้อมือของชายหนุ่ม นิ้วมือเรียวเล็กกางออกเบาๆ
ลักษณะของชีพจรปั่นป่วนและเต้นเร็ว บ่งบอกถึงความกลัดกลุ้มที่อัดแน่นอยู่ในใจ ดูท่าแล้วอาการนี้คงจะเป็นต่อเนื่องกันมานานยิ่งนัก ช่วงนี้ กู้โม่หานคงจะไม่ได้นอนหลับสนิท ความอยากอาหารก็คงไม่ดีเช่นกัน
หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าจะเหนื่อยล้าทั้งใจและกาย จนสุขภาพถดถอย……