ยากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 673
ทันใดนั้น ความโกรธรุนแรงก็รวมตัวกันในดวงตาของชายหนุ่ม มีความแค้นฝังลึกอย่างยิ่ง
เขานั้นคิดถึงนางจนซูบผอม แต่นางกลับกินดีดื่มดีอย่างมีความสุข จนอ้วนพี
“เป็นสตรีที่ไร้หัวใจจริงๆ”
ชายหนุ่มจ้องมองหญิงสาวในอ้อมกอดด้วยความโกรธ ลมหายใจของนางสม่ำเสมอ ตาปิดสนิท ไม่รู้เลยสักนิดว่าเขากำลังเจ็บปวดใจอย่างยิ่ง และขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธ
ชายหนุ่มประชิดนางอีกครั้ง แล้วจูบนางอย่างลึกซึ้ง จูบลึกซึ้งหนักหน่วง ราวกับต้องการกลืนกินนาง มือขวาของเขารัดหนานหว่านเยียนแน่น มือทั้งสิบประสานเข้าด้วยกัน บนข้อนิ้วมือนิ้วก้อยของชายหนุ่ม มีรอยรัดชัดเจน ราวกับว่าสวมใส่อะไรบางอย่างมาเนิ่นนาน
กุมมือนางแน่น เขาจูบอย่างรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ กอดนางแน่นราวกับว่าต้องการกลืนกินนางเข้าเขามาอยู่กับตัว
ในการหลับฝันอันเลือนรางของหนานหว่านเยียนเพียงรู้สึกว่ามีลมหายใจรุนแรงวนเวียนอยู่รอบตัวนาง
ริมฝีปากของนางเหมือนกับว่าถูกอะไรบางอย่างปิดอยู่ ลมหายใจติดขัด แต่กลับไม่สามารถลืมตาได้
นางขยับตัว แยกไม่ออกว่านี่คือความจริงหรือความฝัน เอ่ยละเมอเบาๆ “อื้อ เจ็บ……”
เสียงนี้ดูเหมือนจะไปสะกิดหัวใจของเขา ไม่เหมือนการแดกดันถากถางและไม่เหมือนคนแปลกหน้าตามปกติ แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นอ่อนนุ่ม มีเสน่ห์ราวกับแม่น้ำ
จู่ๆ ลมหายใจของเขาก็กระชั้นถี่เล็กน้อย นัยน์ตาแดงฉานคู่นั้นลุกโชนแทบบ้า
“แค่นี้ก็เจ็บแล้ว หากเจ้ารู้ความเจ็บปวดของข้า จะเจ็บปวดเท่าไหร่กัน หญิงทรยศ หญิงทรยศ!”
ความรู้สึกหายใจไม่ออกรุนแรงขึ้น ปากเจ็บยิ่งนัก หนานหว่านเยียนทรมานอย่างยิ่งจริงๆ จึงอ้าปากกัดอะไรสักอย่างโดยอัตโนมัติ “อื้อ ข้าเจ็บ……”
การเคลื่อนไหวของชายหนุ่มหยุดชะงัก ริมฝีปากถูกกัดจนแตก เจ็บเล็กน้อยแต่ก็ได้สติกลับมา
นางไม่ได้กลับมาง่ายๆ เขาจะทำให้นางตกใจกลัวไม่ได้
เขานอนอยู่ข้างๆ นาง มือเรียวก่ายหน้าผากตัวเอง ผ่อนลมหายใจที่หนักอึ้ง
นัยน์ตาสีเข้มของชายหนุ่มจ้องมองหนานหว่านเยียนที่กลับเข้าสู่ห้วงหลับลึกอีกครั้งเงียบๆ จากนั้นไม่นาน รอยยิ้มที่หายไปก็กลับมาในดวงตา
ครั้งนี้ เขาจะไม่ให้นางหนีอีกแล้ว……
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ หนานหว่านเยียนก็ตกใจตื่นจากฝัน ฝันเห็นคนเข้ามาในห้อง ยิ่งไปกว่านั้นคนที่เข้ามาคือกู้โม่หาน เขาบีบหน้านาง แล้วจูบนางอย่างสุดแรง และตำหนินาง ว่านางเป็นหญิงทรยศ ท่าทางโหดร้ายราวกับจะกลืนกินนาง
นางรีบลุกขึ้นนั่ง เงยหน้าขึ้นมอง เห็นเพียงท้องฟ้าสว่างหมดแล้ว
นางก้มหน้าลงสำรวจร่างกายตัวเอง และลูบผิวหน้าไปมา ยังคงแข็งแรงดังเดิม แล้วหยิบกระจกทองเหลืองที่อยู่ข้างๆ ขึ้นมาดู ปากก็ปกติดี ไม่มีปัญหาอะไร
ทั่วทั้งตัวยังไม่มีตรงไหนบุบสลาย นางแตะหน้าอกที่ตื่นตระหนกตกใจและถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ดูเหมือนจะเป็นความฝัน……”
เพียงแต่ นางตั้งครรภ์แล้ว เหตุใดถึงได้ฝันอะไรบ้าๆ เช่นนี้……
อีกอย่าง เมื่อคืนนี้นางว่าจะไม่หลับ เหตุใดงีบหลับประเดี๋ยวเดียว พอลืมตาขึ้นก็รุ่งสางเสียแล้ว
หนานหว่านเยียนสางผมไปมา และด่าตัวเองในใจว่าไม่รู้จักระมัดระวัง แล้วลูบท้องไปมา พลางเอ่ยกับเจ้าตัวน้อยในท้องสองประโยค กำลังจะลงจากเตียง ก็มีคนมาเคาะประตู และมีเสียงใสไพเราะของสตรีดังขึ้น “แม่นางไป๋จื่อ ท่านตื่นหรือยังเพคะ?”
หนานหว่านเยียนขมวดคิ้ว แล้วจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ไม่ให้คนดูออกว่าท้องผิดปกติ จากนั้นก็เอ่ยตอบอย่างใจเย็น “อืม”
“เช่นนั้นบ่าวจะเข้าไปแล้วนะเพคะ” ขณะที่พูด ประตูก็ถูกนางกำนัลรับใช้ที่อายุน้อยเปิดออก
ในมือของนางกำนัลรับใช้ถือกะละมังทองเหลืองอยู่ ด้านในบรรจุน้ำร้อน ที่แขนมีห่อผ้าประณีตงดงามห้อยอยู่ คงจะเป็นเสื้อผ้าและเครื่องใช้
นางกำนัลรับใช้วางกะละมังน้ำกับเสื้อผ้าและเครื่องใช้ไว้บนโต๊ะ จากนั้นก็หันไปยิ้มตาหยีพลางเอ่ยกับหนานหว่านเยียน “บ่าวคือจูเอ๋อร์ถวายบังคมแม่นาง บ่าวเดินทางมาเพื่อคอยปรนนิบัติแม่นาง ในเมื่อแม่นางลุกแล้ว เช่นนั้นก็เชิญล้างหน้าบ้วนปากผลัดผ้าเถิด”
ขณะที่พูด จูเอ๋อร์ก็ก้าวมาข้างหน้าจะล้างหน้าบ้วนปากให้หนานหว่านเยียน
นัยน์ตาของหนานหว่านเยียนเบิกกว้าง และหลบโดยอัตโนมัติ
“ไม่ต้องดอก ข้าค่อนข้างกลัวคนแปลกหน้า ยังไม่ค่อยชินที่คนไม่รู้จักมาคอยปรนนิบัติอยู่ข้างๆ”
“เจ้าถอยไปก่อนเถิด ข้าทำเองได้”
จูเอ๋อร์กัดริมฝีปากอย่างรู้สึกลำบากใจทันที “แต่ว่า……นี่คือรับสั่งของฝ่าบาท ให้จูเอ๋อร์จักต้องดูแลท่านอย่างเหมาะสม”
“ฝ่าบาทตรัสว่าสาวใช้ของท่านไม่อยู่ อยู่ในวังคนเดียวคงไม่สะดวกมากนักเป็นแน่ จึงได้ให้บ่าวมา หาก……หากท่านไม่ต้องการให้บ่าวคอยปรนนิบัติท่านล้างหน้าบ้วนปากอยู่ข้างๆ เช่นนั้นบ่าวช่วยท่านผลัดผ้าได้หรือไม่?”
แม้นางเองจะไม่เข้าใจ ว่าเหตุใดฝ่าบาทถึงได้เอาใจใส่แม่นางไป๋จื่อท่านนี้เช่นนี้ แต่รับสั่งของนายท่านนั้นสำคัญสูงสุด ไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่กล้าต่อต้าน
หนานหว่านเยียนปกป้องท้องน้อยได้อย่างไม่ผิดสังเกต มองดูอาภรณ์และเครื่องใช้บนโต๊ะ จู่ๆ ความรู้สึกอยากอาเจียนก็พรั่งพรูออกมา
ทันใดนั้นนางก็รู้สึกว่าท่าไม่ดีแล้ว จึงอดกลั้นความรู้สึกไม่สบายในท้อง หันไปยิ้มให้จูเอ๋อร์อย่างเก้ๆ กังๆ “ไม่ต้องจริงๆ ข้าทำเองได้ เจ้าไม่ต้องช่วยข้าดอก ออกไปรอเถิด”
ตอนนี้ครรภ์ของนางชัดเจนยิ่งนัก หากให้นางกำนัลรับใช้เห็น อาจจะไปกราบทูลกู้โม่หานได้ จะเสี่ยงไม่ได้เด็ดขาด
จูเอ๋อร์เห็นท่าทางลำบากใจของหนานหว่านเยียน ยังคิดว่าเป็นเพราะนางเขินอาย ดังนั้นจึงไม่ดื้อดึง และทำตามที่นางสั่งทันที “บ่าวอยู่ด้านนอก หากแม่นางต้องการอะไร ก็สั่งบ่าวได้เลยนะเพคะ”
หนานหว่านเยียนพยักหน้าเล็กน้อย “อืม”
นางมองดูจูเอ๋อร์ปิดประตูห้องลง และรีบหยิบมะขามออกมาจากห้วงเวลา อมไว้ในปากเพื่อระงับความอยากอาเจียน
ตอนนี้นางแทบจะไม่แพ้ท้องแล้ว เพียงแค่บางครั้งจะรู้สึกไม่ดีเล็กน้อยตอนตื่นนอนตอนเช้า
หลังกลับคืนสู่สภาพเดิม และนางมั่นใจว่าจูเอ๋อร์ไม่ได้แอบดู จึงหยิบห่อผ้าเข้าไปด้านหลังฉากกั้นเพื่อที่จะผลัดผ้า
วินาทีที่หนานหว่านเยียนเปิดห่อผ้า แววตาก็เปลี่ยนไปทันที……