ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ – บทที่ 677 นางต้องการจากไป

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 677

เจ้าหนูน้อยนอนคว่ำอยู่บนไหล่เขามองไปที่หนานหว่านเยียน หนานหว่านเยียนให้สัญญาณมือกับนาง จำไว้ให้ไปหาหยีเฟย

เจ้าหนูน้อยดูแล้วก็เข้าใจ มองนางด้วยนัยน์ตากลมโตซึ่งแดงเล็กน้อย และถูกกู้โม่หานอุ้มออกไปจากตำหนัก หนานหว่านเยียนไม่มัวรีรอ รีบลุกขึ้นแล้วพยักหน้าให้กับอวี๋เฟิงและเซียงอวี้ทันที “วันนี้รบกวนมากแล้ว ลาก่อน”

พูดจบ นางก็เดินออกไปจากตำหนักหยูซิน ไปรอเฉินกงกงอยู่ด้านนอก

เซียงอวี้มองดูด้านของหลังหนานหว่านเยียนที่ออกไปไกล ก็ขมวดคิ้วแล้วเข้าไปใกล้อวี๋เฟิง กระซิบเบาๆ “เจ้ารู้สึกหรือไม่ ว่าไป๋จื่อผู้นี้แปลกๆ ?”

อวี๋เฟิงลูบท้ายทอย แก้มแดงเล็กน้อยและหลบสายตา “แปลก แปลกตรงไหน”

“บอกไม่ได้ แต่ว่าแปลกๆ……”

เซียงอวี้ส่ายหน้า ใบหน้าฉงนสงสัย นางมักจะรู้สึกว่าดวงตาคู่นั้นของไป๋จื่อ และท่าทางของไป๋จื่อ ดูคุ้นๆ อย่างอธิบายไม่ถูก “ช่างเถิด นางไปแล้วก็ดี จะได้ไม่ต้องอยู่ ก่อกวนจิตใจของฝ่าบาท”

พูดจบ นางก็จ้องมองอวี๋เฟิง “บุรุษอย่างพวกเจ้า จิตใจเหี้ยมเกรียมกันทั้งนั้น!”

อวี๋เฟิงชะงักงันอยู่ที่เดิม มองดูด้านหลังที่เดือดดาลของเซียงอวี้ อย่างไม่เข้าใจ

วันนี้เขาไปแหย่อะไรแม่ทูนหัวนี้กันแน่ ถึงได้โมโหเดือดดาลถึงเพียงนั้น

แต่จะว่าไปก็ใช่ อย่างน้อยหากยังไม่รู้จักสตรีผู้นี้อย่างถ่องแท้ จะพาเข้าวังไม่ได้ องค์หญิงอายุยังน้อยความคิดบริสุทธิ์ จักถูกคนไม่ดีชักนำไปทางที่ผิดไม่ได้เด็ดขาด……

ในขณะเดียวกัน หนานหว่านเยียนก็ถูกเฉินกงกงพาไปถึงหน้าประตูวังอย่างราบรื่น

เฉินกงกงยิ้มพลางชี้ไปที่รถม้าที่อยู่ไม่ไกลเพื่อบอกหนานหว่านเยียน “แม่นางไป๋จื่อ ท่านขึ้นรถเกิด อย่ามัวเสียเวลาอยู่เลย”

หนานหว่านเยียนพยักหน้า “ขอบคุณกงกงยิ่งนัก”

นางเองก็ไม่ได้คิดอะไรมาก มุ่งตรงไปยังรถม้าทันที

ทันทีที่นางเปิดม่านรถออก นางก็นิ่งงันไป ในแววตานางเต็มไปด้วยความประหลาดใจและระมัดระวัง “ฝ่าบาท? องค์หญิงใหญ่อานผิง?”

นางไม่คาดคิดเลยแม้แต่น้อย ว่ากู้โม่หานจะพาหนูน้อยมารออยู่ในรถตั้งแต่เช้าเช่นนี้!

พวกเขาจะตามนางออกจากวังด้วยกันหรือ?!

กู้โม่หานเอนพิงเบาะรองนุ่ม นิ้วเรียวยาวเคาะลูกกรงเบาๆ ใบหน้าหล่อเหล๋าเดี๋ยวก็มืดเดี๋ยวก็สว่างภายใต้แสงอาทิตย์

เขาหรี่นัยน์ตาที่สวยงามสังเกตสีหน้าท่าทางตื่นตระหนกของหนานหว่านเยียน แววตาปรากฏรอยยิ้มจางๆ “ขึ้นมา”

ข้างกายเขา เกี๊ยวน้อยมองหนานหว่านเยียนอย่างตื่นเต้นดีใจเล็กน้อย นัยน์ตากลมโตเต็มไปด้วยความปีติยินดี “พี่ไป๋จื่อรีบขึ้นมาเถิด!”

เมื่อครู่นี้นางยังคิดอยู่เลยว่าจะไม่ได้เจอท่านแม่สักระยะ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าพ่อเฮงซวยจะออกจากวังไปส่งท่านแม่ด้วยกัน นางเองก็ต้องออกจากวังไปด้วย ได้อยู่กับท่านแม่นานอีกหน่อยก็ดีมากแล้ว!

ด้วยความกลืนไม่เข้าคายไม่ออก หนานหว่านเยียนทำได้เพียงเม้มปากแล้วขึ้นรถม้าไป และปล่อยม่านรถเบาๆ

นางนั่งตรงข้ามกู้โม่หานกับเกี๊ยวน้อย ท่าทางเกร็งๆ เล็กน้อย

“ฝ่าบาทกับองค์หญิงใหญ่จะออกจากวังหรือ?”

กู้โม่หานมองออกไปด้านนอกหน้าต่างดูเหมือนไม่สนใจ “เจ้าจะกลับจวนแม่ทัพน้อย ข้ากับอานผิงไม่ได้ออกจากวังนานแล้ว ก็เลยจะไปส่งเจ้า และถือว่าเป็นการพาอานผิงออกมาผ่อนคลายจิตใจด้วย”

“ทำไม ฮูหยินของแม่ทัพน้อยคิดว่าไม่เหมาะสมหรือ?”

นัยน์ตาแคบยาวของเขาจ้องมองหนานหว่านเยียน หนานหว่านเยียนขมวดคิ้วเบาๆ แล้วยิ้มด้วยสีหน้าปกติ “ข้ามิบังอาจ เพียงแต่ ที่ฝ่าบาทออกจากวังนี้ หากพบเจออันตรายละก็……”

คิ้วดาบของกู้โม่หานเลิกขึ้น “เจ้าไม่ต้องกังวลดอก”

ความรู้สึกของหนานหว่านเยียนหนักอึ้ง มองออกไปด้านนอกรถ แต่เห็นเพียงองครักษ์ติดตามห้าคน ล้วนสวมอาภรณ์ที่ใส่อยู่ประจำ ทั้งห้าคนนี้นอกจากเสิ่นอี่ว์แล้ว ที่เหลือก็ดูธรรมดาๆ

แม้ว่าคนอื่นๆ จะเก่งกาจ บวกเพิ่มเสิ่นอี่ว์กับกู้โม่หานไปก็มีเพียงหกคนเท่านั้น แต่หากใช้วิธีที่แข็งกร้าว นางก็จักวางยาเพื่อเอาชนะกู้โม่หานก่อน พี่ชายเหลือองครักษ์ลับไว้ให้นางอยู่ จัดการคนไม่กี่คนจักต้องชนะอย่างแน่นอน

หัวใจของหนานหว่านเยียนฮึกเหิมขึ้นมาทันที

ก่อนหน้านี้ยังกลัวอยู่เลยว่ากู้โม่หานตามนางกลับไปด้วย จะถูกเปิดเผยว่านางกับหยุนเหิงกำลังเล่นละครตบตา แต่พอคิดอีกมุมหนึ่ง

เกี๊ยวน้อยออกมาจากวังแล้ว เขาเองก็ไม่ได้พาคนมาเยอะ ไม่ว่าเขาจะมีแผนอะไร นางก็จักแย่งชิงหนูน้อยไปอย่างไม่ท้อถอย ไม่แน่ว่าวันนี้พวกนางอาจจะสามารถเดินทางกลับแคว้นต้าเซี่ยได้

นางระงับความดีใจอันล้นหลามภายในใจเอาไว้ แล้วเอ่ยอย่างราบเรียบ: “เพคะ ข้าเข้าใจแล้ว”

กู้โม่หานไม่ได้พูดอะไรอีก จนรถม้าขับเคลื่อนไปช้าๆ

เมื่อคืนนี้นอนไม่หลับ เขาพิงที่นั่งแล้วหลับตาลงพักผ่อน ฟังเกี๊ยวน้อยคุยกับหนานหว่านเยียนเสียงเจี๊ยวจ๊าวไม่หยุด

ไม่รู้ว่าเพราะเหตุอันใด บรรยากาศเช่นนี้ทำให้เขารู้สึกปลอดภัยและสบายใจ เขาผ่อนคลายไม่น้อยเลย ริมฝีปากบางยกขึ้นเล็กน้อยอย่างรู้สึกอบอุ่น

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ ในที่สุดรถม้าก็มาหยุดอยู่ด้านหน้าประตูจวนแม่ทัพน้อยแล้ว

ด้านในจวนแม่ทัพน้อย หยุนเหิงรออย่างกระสับกระส่ายแทบทนไม่ไหวตั้งนานแล้ว และยังมีเฟิงยาง ที่กระวนกระวายเหมือนกับเขา

ทั้งสองคนเห็นหนานหว่านเยียนเดินเข้ามา หยุนเหิงก็ราวกับยกภูเขาออกจากอก เขารีบไปต้อนรับทันที “ฮอง……”

ฮองเฮาเหนียงเหนียงสี่พยางค์นี้จ่ออยู่ที่ปากเขา แต่ก็ถูกเขากลืนลงไป

เพียงเพราะว่าเขาเห็นกู้โม่หานที่อุ้มเกี๊ยวน้อยตามมา อยู่ด้านหลังหนานหว่านเยียน

เฟิงยางเองก็เห็นเช่นกัน ภายในใจก็รู้สึกไม่ดีทันที สีหน้าของหยุนเหิงเปลี่ยนไป จากนั้นก็หันไปคำนับกู้โม่หานพลางเอ่ยอย่างประหม่าและเคร่งขรึม “ข้าพระพุทธเจ้าถวายบังคมฝ่าบาท ทรงพระเจริญหมื่นปี”

“ไม่ต้องพิธีรีตองนักดอก”

หยุนเหิงมองหนานหว่านเยียนที่ไม่บุบสลายตรงไหน แล้วหันไปเอ่ยกับกู้โม่หานด้วยรอยยิ้มขี้เล่น: “ฝ่าบาท ให้คนมาส่งไป๋จื่อก็พอแล้ว เหตุใดท่านถึงออกจากวังมา แถมยังพาอานผิงองค์หญิงใหญ่มาด้วยอีกเล่า”

เสิ่นอี่ว์ที่ถือดาบเม้มปากไม่เอ่ยอะไร แต่ก็สงสัยเช่นกัน

เช้าตรู่วันนี้ กู้โม่หานก็รับสั่งให้เขาติดตามออกจากวัง เพื่อคุ้มกันไปส่งฮูหยินของแม่ทัพน้อยในอนาคต

และก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดจู่ๆ ฝ่าบาทถึงได้สนใจ สตรีธรรมดาๆ ที่รู้วิชาแพทย์เพียงเล็กน้อยขนาดนี้กัน

กู้โม่หานวางเกี๊ยวน้อยลง นัยน์ตาแคบยาวกวาดมองดูรอบๆ เหมือนกับว่ากำลังหาอะไรสักอย่าง สายตาเย็นชาลึกล้ำเล็กน้อย

“ข้าพาอานผิงออกมาเดินเล่น ก็เลยถือโอกาสมาเยี่ยมเยือนเจ้า”

เฟิงยางขมวดคิ้วมองหนานหว่านเยียนแวบหนึ่ง แต่กลับเห็นหนานหว่านเยียนส่ายหน้าเบาๆ เพื่อบอกใบ้

ดูท่าแล้วฝ่าบาทคงจะยังไม่รู้ตัวตนของจวิ้นจู่

หยุนเหิงได้ยินเช่นนั้น ก็หัวเราะแห้งๆ สองครั้งหน้าเหยเก “เป็นเช่นนี้นี่เอง ฝ่าบาทท่านสวมฉลองพระองค์ชุดลำลองออกจากวัง และไม่บอกกระหม่อมล่วงหน้า ท่านดูกระหม่อมสิ ไม่ได้เตรียมอะไรเลย”

“ท่านรีบนั่งเถิด กระหม่อมจะไปเรียกคนมาตั้งโต๊ะน้ำชา”

กู้โม่หานกลับไม่ขยับเขยื้อน “ข้าไม่นั่ง เพิ่งจะเสวยพระกระยาหารเสร็จ ไปเดินดูรอบๆ ก็แล้วกัน”

หัวใจของหยุนเหิงประหลาดใจทันที ต้องการคัดค้าน แต่พอสบเข้ากับนัยน์ตาที่ไม่ให้พูดมากของกู้โม่หาน เขาก็หดคอกลับไปทันที

“จวนของกระหม่อมเป็นเพียงสถานที่ธรรมดา ไม่มีอะไรที่แปลกออกไป แต่หากฝ่าบาทต้องการดู กระหม่อมก็จักนำทางฝ่าบาทเดินดูรอบๆ”

เพลานี้ เกี๊ยวน้อยกะพริบตาปริบปริบมองกู้โม่หาน สีหน้าอ้อนวอนเล็กน้อย “เสด็จพ่อ ข้าไม่ไปแล้ว เดินตามพวกท่านไปมา ฟังสิ่งที่ข้าฟังไม่เข้าใจ น่าเบื่อยิ่งนัก”

“ข้าอยากไปเที่ยวเล่นสักประเดี๋ยว ได้หรือไม่?”

ท่านแม่อยู่ที่นี่ ซาลาเปาน้อยก็คงอยู่ที่นี่กระมัง? นางจะไปเจอซาลาเปาน้อย!

ท่าทางนุ่มนิ่มน่ารักของนาง ผู้ใดก็ปฏิเสธไม่ลง

กู้โม่หานลูบหัวนางอย่างรักใคร่เอ็นดู นัยน์ตาที่สวยงามมองหนานหว่านเยียนแวบหนึ่ง “ได้ เจ้าไปเถิด จำไว้ว่าอย่าออกจากจวน”

แววตาของเกี๊ยวน้อยเปล่งประกาย ยิ้มจนเผยให้เห็นฟันเขี้ยวสองซี่ “ขอบพระทัยเสด็จพ่อ!”

เกี๊ยวน้อยหลุดจากการควบคุมของกู้โม่หานได้อย่างราบรื่นเช่นนี้เลยหรือ นัยน์ตาของหนานหว่านเยียนสว่างวาบ อารมณ์ของนางพลุ่งพล่าน

สวรรค์ช่วยนางจริงๆ !

ไม่ไปตอนนี้ แล้วจะรอเมื่อไหร่——

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

Status: Ongoing
หนานหว่านเยียน อัจฉริยะแห่งวงการแพทย์ ข้ามภพมาเป็นพระชายาอัปลักษณ์ผู้ถูกทอดทิ้งแห่งจวนอ๋องอี้ แต่ด้วยมันสมองของอัจฉริยะ และความแข็งแกร่งฉบับสาวยุคใหม่ เธอจะพลิกเกมกลับมาแก้แค้นไอ้พวกเศษสวะให้สิ้นซาก!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท