ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ – บทที่ 684 ดอกบัวขาวโมโหจนจะบ้าตาย

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 684

ปี้หยุนรีบทาบทับมือลงด้านบน พลันแสดงท่าทางประจบสอพลออย่างเต็มพิกัด “เหนียงเหนียงฉลาดหลักแหลม!”

……

หนานหว่านเยียนเดินมุ่งหน้ามายังตำหนักอู๋ขู่ของหยีเฟย ตลอดทาง คู่สองแม่ลูกต่างพูดคุยกันไปมาอย่างไร้ร่องรอย หนานหว่านเยียนพลางพยายามไม่เปิดเผยความคิดถึงบุตรสาวของตนเอง ท่ามกลางสถานการณ์ที่มีอวี๋เฟิงคอยจับตามอง

ในขณะนั้นเอง พลางมีเงาของร่างกายอันคุ้นเคยปรากฏให้เห็นในสายตาของพวกเขา

เจ้าเกี๊ยวน้อยเห็นเหตุการณ์ ใบหน้าเล็กที่ยิ้มแย้มแจ่มใสพลันแสดงความไม่ยินดีออกมาทันที หนานหว่านเยียนจ้องมองหยุนอี่ว์โหรวที่แสดงท่าทางสง่างามหยาดเยิ้ม พลางหรี่ตาลงช้าๆ

หยุนอี่ว์โหรวกับปี้หยุนเดินมาอยู่ด้านหน้าของพวกเขาอย่างนวยนาด นางกวาดตามองหนานหว่านเยียนตั้งแต่หัวจรดเท้า เมื่อวานเคยเห็นแล้ว วันนี้ได้จ้องมองอย่างพินิจพิจารณา กลับรู้สึกว่าไม่มีอะไรตรงไหนพิเศษเลย

ดวงตาโกรธเคืองของปี้หยุนถลึงตาใส่ไป๋จื่อ พลางใช้เสียงแหลมสูงกล่าวตำหนิ “เจอตัวโหรวเฟยเหนียงเหนียง ยังไม่แสดงความเคารพอีก!”

“นี่มันในวัง ไม่ใช่จวนแม่ทัพน้อย!”

หยุนอี่ว์โหรวกลับไม่ห้ามปราม แต่กลับปล่อยให้ปี้หยุนใช้อำนาจอย่างพร่ำเพรื่อ พลางรอให้หนานหว่านเยียนคารวะนางด้วยเหตุผลเช่นนั้นเอง

หนานหว่านเยียนจ้องมองลักษณะท่าทางหยิ่งผยองด้วยท่วงท่าเช่นนี้ พลันมองหยุนอี่ว์โหรวที่จงใจหาเรื่อง พลันสวนกลับอย่างเย็นชา “เอ่ยถึงเรื่องแสดงความเคารพ องค์หญิงใหญ่ยืนอยู่ตรงนี้ เหตุใดพวกเจ้าถึงไม่แสดงความเคารพกันเล่า?!”

หากต้องการให้นางแสดงความเคารพหยุนอี่ว์โหรว รอชาติหน้าเถอะ

เจ้าเกี๊ยวน้อยย่นจมูก “ใช่ๆ พวกเจ้ายังไม่ทำความเคารพข้าเลยเนี่ย!”

เฟิงยางขมวดคิ้ว อวี๋เฟิงก้าวไปทางด้านหน้า พลางจ้องมองหยุนอี่ว์โหรวด้วยหน้าตาขึงขัง “พระชายารองหยุน ฝ่าบาทรับแม่นางไป๋จื่อเข้าวังด้วยตนเอง แล้วฝ่าบาทยังมีคำสั่งกำชับไว้ ให้ปฏิบัติกับแม่นางเฉกเช่นฮองเฮา ฉะนั้นท่านอย่าทำให้นางลำบากใจเลย”

กู้โม่หานให้อวี๋เฟิงปฏิบัติกับนางเฉกเช่นฮองเฮา?!

หยุนอี่ว์โหรวตกตะลึง สีหน้ามืดครึ้มลงทันที

หนานหว่านเยียนเองก็คิดไม่ถึง ในเมื่อว่ากู้โม่หานกลับพูดแบบนี้ออกมา ปรากฏว่ากลับปฏิบัติกับ “ตัวแทน” ได้ดีถึงเพียงนี้

ทว่ามีคนหนุนหลังก็ไม่ต้องขลาดเขลา หนานหว่านเยียนเชิดหน้าสูงขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงพลางเปลี่ยนเป็นเกียจคร้าน ค่อนข้างแสดงความหมายที่อาศัยว่าตนเองเป็นคนโปรดจึงหยิ่งยะโส

“ได้ยินหรือไม่ ข้ากับฮองเฮาอยู่ในระดับเดียวกัน ท่านเป็นเพียงสนม ยังไม่รีบทำความเคารพข้ากับองค์หญิงอีกหรือ?”

อวี๋เฟิงรู้สึกตะลึง ในความทรงจำของเขา นิสัยของไป๋จื่อน่าจะเป็นสตรีที่มีนิสัยนิ่งเฉย เหตุใดเมื่อหลังจากได้ยินว่าฝ่าบาทให้ปฏิบัตินางเฉกเช่นฮองเฮา ก็จองหองขึ้นมาแบบนี้ได้เล่า?

ที่แท้ สตรีเหล่านี้ยึดติดกับอำนาจ ยังดีไม่เท่าหนึ่งในหมื่นความดีของฮองเฮาเหนียงเหนียงสักนิด

หยุนอี่ว์โหรวมองเห็นสีหน้าไป๋จื่อเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้ ท่าทางยั่วให้โมโห ทำให้นางกัดริมฝีปากอย่างอดใจไม่อยู่ พลางทำหน้าดำหน้าแดง

ทว่าทำให้นางแสดงความเคารพให้คนชนชั้นต่ำคนหนึ่ง งั้นถือว่าเป็นเรื่องตลกอย่างยิ่ง

ปี้หยุนระเบิดความโกรธมากกว่าเดิม ในดวงตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความโกรธแค้นและดูแคลน “เป็นตัวอะไร ถึงคู่ควรให้เหนียงเหยียงของข้า…”

ยังพูดไม่ทันจบ เฟิงยางง้างมือขึ้น พลางตบหน้าปี้หยุนฉาดใหญ่ อย่างเต็มแรง “พูดจาดีๆ หน่อย”

นัยน์ตาความเย็นเฉียบยังแสดงเจตนาอาฆาตออกมาอยู่บ้าง ซึ่งในคำพูดมีคำตักเตือน “หากให้ข้าได้ยินเจ้าด่าถึงจวิ้นจู่สักคำ คราวหน้าที่จะทำร้าย คงไม่ใช่ใบหน้าของเจ้าอีกแล้ว”

“ยังไม่รีบคารวะจวิ้นจู่อีก!”

เจ้าเกี๊ยวน้อยชำเลืองมองเฟิงยางด้วยอาการอ้าปากค้างด้วยความตกใจ สีหน้าแววตายกย่องและชื่นชม

พี่เฟิงยางเก่งมาก! ต่อไปเมื่อนางเติบโตขึ้น ก็จะต้องเหมือนแบบพี่เฟิงยาง ทั้งเล่นวนยุทธ์ได้อีกทั้งสุขุมนุ่มลึก ประเด็นที่สำคัญที่สุดคือ ยังสามารถปกป้องท่านแม่ได้ด้วย!

ปี้หยุนตกใจกับเฟิงยาง ความพิฆาตที่อยู่บนตัวเฟิงยางแรงมาก นางตกตะลึงจนไม่ได้พูดอะไรออกมา ใบหน้าร้อนผ่าวด้วยความเจ็บปวด พลางกุมใบหน้าด้วยความอัปยศ พลางถอยไปแนบชิดตัวหยุนอี่ว์โหรว “นะ เหนียงเหนียง…”

หยุนอี่ว์โหรวกัดฟันกรามส่งเสียงกรอดกรอด พลันกำหมัดจนแดงแจ๋ ความเจ็บปวดกลับเตือนสตินาง คำพูดของกู้โม่หานเป็นคำสั่งเหมือนสวรรค์ นางไม่สามารถฝ่าฝืนกู้โม่หาน มิเช่นนั้นจะเอือมระอาจนโดนเขี่ยทิ้ง

ไป๋จื่อคนนี้เป็นคนชนชั้นต่ำจริงๆ ไม่มีความพอดี แถมยังหยาบคายปากจัดถึงเพียงนี้ หากให้นางเข้าวังหลังจริงๆ …..

นางอดกลั้นความโกรธเคืองสุมทรวง พลันทำความเคารพแก่หนานหว่านเยียนอย่างเข้มงวด “อี่ว์โหรวคารวะแม่นางไป๋จื่อ แม่นางไป๋จื่อทรงพระเจริญหมื่นปี คารวะองค์หญิงอานผิง องค์หญิงทรงพระเจริญพันปีพันพันปี”

ไป๋จื่อไม่มีสถานะจริงๆ เหมือนกับนาง การเรียกขานจากปากย่อมไม่ค่อยจริงจัง ซึ่งเหมือนกับอวี๋เฟิง ที่ไม่ได้เรียกนางว่าโหรวเฟยเหนียงเหนียง ตราบใดที่แสดงความเคารพให้ตรงตามสถานะก็พอ

ปี้หยุนเห็นแล้ว พลางรีบผสมโรงกับหยุนอี่ว์โหรวทันควัน พลางทำความเคารพอย่างทรงเกียรติ

หนานหว่านเยียนชำเลืองมองหยุนอี่ว์โหรวกระทำตามความเหมาะสม พลางใช้นิ้วจับเกี๊ยวน้อยไว้แน่นอย่างแผ่วเบา

เจ้าเกี๊ยวน้อยดีใจอย่างไม่รู้ตัว มีท่านแม่อยู่ด้วยดีมากจริง นางจะได้ไม่โดนคนรังแก แถมยังมีท่านแม่คอยคุ้มครอง รักและเอ็นดูอยู่ตลอด พลันได้ยินเสียงพูดของหนานหว่านเยียน “ลุกขึ้นเถอะ”

หยุนอี่ว์โหรวค่อยๆ ลุกขึ้น สีหน้าฟื้นคืนความเย็นชาดังเดิม

“แม่นางไป๋จื่อมีชะตาเจอกับฝ่าบาทเพียงครั้งเดียว พลันได้รับความเอ็นดูอย่างมากจากฝ่าบาทถึงเพียงนี้ ช่างทำให้คนอิจฉาเสียจริง เพียงแต่…”

นางลูกคลำหน้าท้องที่นูนจนเห็นชัด พลางใช้แววตาเย็นเฉียบเชือดเฉือนเล็กน้อยอันสงบเสงี่ยม “หากเกิดเรื่องผิดปกติขึ้นย่อมต้องมีอะไรแปลกๆแน่ แม่นางไป๋จื่อได้รับการปฏิบัติที่พิเศษเช่นนี้จากฝ่าบาท คิดหาเหตุผลไม่ได้ใช่หรือไม่? เพียงเพราะเจ้าโชคดี เช่นเดียวกับฮองเฮาเพียงที่ฝ่าบาทให้ความสำคัญเท่านั้นเอง”

“แต่พฤกษางามย่อมไร้การยืนยง หากแม่นางไป๋จื่ออยากอยู่ในวังอย่างยาวนาน จำต้องรักษากฎระเบียบ ในเมื่อพวกข้าเป็นพี่น้องที่คอยปรนนิบัติฝ่าบาทเช่นเดียวกัน ฉะนั้นอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขกับความรุ่งโรจน์”

“พี่น้องที่คอยปรนนิบัติฝ่าบาทเหมือนกัน?” หนานหว่านเยียนกวาดตามองหยุนอี่ว์โหรว พลางเผยรอยยิ้มดูแคลน

“ข้าขอไม่เทียบเคียงกับพี่สาวน้องสาวนี้ของท่านหรอก มองท่านแวบเดียวก็รู้ว่าไม่ใช่คนดี คราวที่แล้วเจ้าปล่อยให้คนอื่นรังแกองค์หญิงใหญ่ ข้ารังเกียจกับการมีคนมารังแกเด็กที่สุดในชีวิต”

“อีกอย่าง เจ้าเองก็ไม่ใช้นายท่านที่ไหน ข้ารักษากฎอะไร โดยการเชื่อฟังในสิ่งที่เจ้าพูดเช่นนั้นหรือ? เจ้าอยู่ในลำดับใดในวังนี้หรือ?”

คนชั้นต่ำ ปรากฏว่ากล้าพูดจาเช่นนี้กับนางสนมที่กำลังตั้งครรภ์รัชทายาท?!

ถึงแม้มีคำพูดประโยคนั้นของฝ่าบาทให้ปฏิบัติเฉกเช่นฮองเฮา ก็ไม่สามารถจองหองเช่นนี้ได้กระมัง?!

ปี้หยุนยากที่จะเชื่อ อยากจะตำหนิหนานหว่านเยียนสักหลายประโยค ทว่าเมื่อเห็นเฟิงยางกับอวี๋เฟิงที่อยู่ด้านหลังของหนานหว่านเยียน จึงไม่กล้าปากมาก

อวี๋เฟิงกลืนน้ำลายอย่างไม่รู้ตัว พลางรู้สึกไป๋จื่อบังอาจเหลือเกินจากใจจริง

ปรากฏว่ากล้าพูดจาแข็งข้อกับหยุนอี่ว์โหรว แม่ว่าฝ่าบาทไม่ยอมรับหยุนอี่ว์โหรวเป็นสนม แต่ในครรภ์ของนางกำลังตั้งครรภ์รัชทายาท พวกเขาไม่กล้าจะปฏิบัติต่อนางเช่นนี้มาก่อน

ทว่าไป๋จื่อกล้าทำ ใจกล้าบ้าบิ่นจริงๆ …

หยุนอี่ว์โหรวยังคงกลั้นความโกรธเคืองไว้ได้ การเผชิญหน้ากับความอวดเบ่งของหนานหว่านเยียน นางทำหน้าเห็นใจพลางเอ่ยต่อ

“ผิดเสียแล้วแม่นางไป๋จื่อ เป็นตัวแทนของคนคนหนึ่ง ท้ายที่สุดก็ไม่มั่นคง ข้าพูดสิ่งเหล่านี้ก็เพื่อเป็นการดีต่อเจ้า”

“แต่ยามเมื่อทำให้ฝ่าบาทขยะแขยงเจ้าแล้ว เจ้าก็ไม่มีน้องสาวอะไรที่ดีมาช่วยประคับประคองเจ้าไว้ได้ และหมดอนาคตอันสดใสอีกตลอดไป”

นางไม่เชื่อ ไป๋จื่อนางนี้ถูกฝ่าบาทมองเป็นตัวแทนหนานหว่านเยียน ถึงดีใจได้ขนาดนั้นจริงๆ

แม้ว่าเกี๊ยวน้อยจะดูละครฉากใหญ่ แต่เมื่อได้ยินคำพูดที่ไม่น่าฟังเช่นนี้ของหยุนอี่ว์โหรว ยากที่จะเลี่ยงอาการทำปากยื่นปากยาวด้วยความโกรธเคือง

ตัวแทนอะไรที่ไหน สตรีชั่วช้าคนนี้เป็นแบบนี้ทุกครั้งไป พูดจาอะไรไม่น่าฟัง ก็ยิ่งพูดออกมา แถมยังแสดงท่าทางข้าทำเพื่อส่งผลดีต่อเจ้า

น่ารังเกียจจริงๆ

คนอื่นล้วนรู้สึกว่าสิ่งที่หยุนอี่ว์โหรวพูดเป็นความจริง หนานหว่านเยียนอาจจะไม่ยินดี ทว่าคิดไม่ถึงหนานหว่านเยียนกลับหัวเราะทันที

นางม้วนผมขึ้นอย่างสะบัดสะบิ้ง พูดอย่างฉอเลาะออดอ้อน“ข้าว่า มีคนกินองุ่นไม่ได้ จึงพูดว่าองุ่นนั้นเปรี้ยวกระมัง?”

“สามารถเป็นตัวแทนของฮองเฮาเหนียงเหนียง นั่นย่อมเป็นเรื่องราวอันงดงามเรื่องหนึ่ง ใต้หล้านี้นอกจากข้า ยังมีใครที่โชคดีเช่นนี้เล่า? อีกอย่าง คนที่ถูกใจข้าไม่ใช่คนอื่น แต่นั่นคือฝ่าบาท ถึงแม้จะคิดว่าข้าเป็นปีศาจจิ้งจอก ข้าก็เต็มใจร้อยเท่าพันเท่า”

“ความสามารถแค่นี้ของเจ้ายังออกมาสะเออะคนอื่น สู้กลับไปดูแลครรภ์ที่จวนเถอะ อีกอย่าง ข้ามองเจ้าแล้วขัดหูขัดตาจริงๆ หากเจ้าปรากฏตัวต่อหน้าข้าอยู่บ่อยครั้ง ไว้คราวหน้าข้าจะบอกฝ่าบาท ให้ไล่เจ้าออกจากวังไป!”

“ส่งเจ้าไปยังถิ่นทุรกันดาร ให้เจ้ามีบันทึกการร้องขอชีวิตในถิ่นกันดาร เชื่อว่าน่าสนใจมากทีเดียว”

อวี๋เฟิงถึงกลับกระแอมออกมาสองครั้ง ด้วยความตกใจอย่างล้นพ้น

แม่นางไป๋จื่อท่านนี้ พูดจาไม่ไว้หน้าจริงๆ

เวลาชั่วอึดใจ หยุนอี่ว์โหรวโดนสวนกลับอีกครั้ง

หยุนอี่ว์โหรวน่าจะโกรธจนจะบ้าแล้วกระมัง —

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

Status: Ongoing
หนานหว่านเยียน อัจฉริยะแห่งวงการแพทย์ ข้ามภพมาเป็นพระชายาอัปลักษณ์ผู้ถูกทอดทิ้งแห่งจวนอ๋องอี้ แต่ด้วยมันสมองของอัจฉริยะ และความแข็งแกร่งฉบับสาวยุคใหม่ เธอจะพลิกเกมกลับมาแก้แค้นไอ้พวกเศษสวะให้สิ้นซาก!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท