ยากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 705
หัวใจของหนานหว่านเยียนสั่นไปเล็กน้อย นางทราบความสำคัญของคำอธิบายเหล่านี้ดียิ่งกว่าใคร
แต่กล่าวถึงที่สุดแล้วเรื่องราวเกิดขึ้นอย่างกระทันหัน ถึงอย่างไรนางก็คิดมิถึงว่ากู้โม่หานจะล่วงรู้ศักดิ์ฐานะของนางแต่แรกแล้ว และก็ได้ฉีกหน้ากากของนางออกต่อหน้าทุกคนโดยตรง นอกจากนี้ขุนนางใหญ่เหล่านี้แต่ละคนต่างล้วนปากคอเราะรายทั้งสิ้น ยามนี้มิทันได้มีเวลาคิดเพื่อการตอบโต้แต่อย่างไร
นางมองดูหยุนเหิงยังมีไท่เฟยแล้วคราหนึ่ง คิดต้องการเคลื่อนไหวทำการถูไถให้ผ่านพ้นไป บริเวณบั้นเอวก็แน่นขึ้นวูบทันใด นางถูกกู้โม่หานโอบกอดเข้าไปอยู่ในอ้อมแขน จากนั้นข้างหูก็ได้ยินน้ำเสียงทุ้มต่ำทรงพลังดังขึ้นตามมา
“การระเบิดเมื่อสองเดือนก่อนนั้นเป็นฝีมือของแคว้นศัตรู แคว้นศัตรูได้เตรียมการวางแผนลอบสังหารฮองเฮาแต่แรกแล้ว ตอนนั้นสถานการณ์วิกฤตคับขันยิ่ง ข้าถูกบีบบังคับกระทั่งอับจนปัญญาจึงได้ให้หยุนเหิงช่วยปิดบังซ่อนตัวฮองเฮาไว้ ดูแลให้นางอยู่นอกวังไปก่อน รอคอยโอกาสที่เหมาะสมจึงค่อยส่งนางกลับมาอย่างปลอดภัย”
“พูดขึ้นมาแล้ว ข้ายังต้องขอบคุณแม่ทัพน้อยหยุน ที่คอยช่วยปกป้องฮองเฮาให้ปลอดภัยในระยะเวลาสองเดือนนี้ ทำให้นางมิต้องได้รับความลำบาก”
พูดพลาง เขาหยีตาลงครึ่งแล้วตวัดมองหยุนเหิงคราหนึ่ง
หน้าผากหยุนเหิงหลั่งเหงื่อเย็นเยียบมากยิ่งขึ้นแล้ว แต่มิกล้าเอ่ยปากพูดอะไร
หนานหว่านเยียนจ้องมองใบหน้าด้านข้างอันสดใสของกู้โม่หาน ที่ยังคงพูดจามิเร็วหรือช้าไปเรื่อยๆ แอบลอบกำหมัดจนแน่นแล้ว
ทันใดนั้น กู้โม่หานพยักหน้าเล็กน้อย เขาหันมามองทางหนานหว่านเยียน แล้วมุมปากเผยรอยยิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้งขึ้นคราหนึ่ง พูดด้วยน้ำเสียงคุกคามอย่างเลือนรางอยู่บ้างว่า “ฮองเฮา ช่วงระยะเวลานี้ลำบากเจ้าแล้ว กล่าวขอบคุณแม่ทัพน้อยหยุนสักคำเถอะนะ?”
หนานหว่านเยียนกัดฟันกรอด นางทราบว่ากู้โม่หานทำเช่นนี้กำลังบีบบังคับให้ตนพูดตอบ
เรื่องราวมาถึงขั้นนี้แล้ว แม้ว่านางจะโกรธเคืองมีเพลิงโทสะอยู่เต็มหัวอก แต่ใบหน้าแท้จริงได้ถูกเปิดเผย ดิ้นรนต่อไปอีกก็ไร้ความหมายแล้ว
แม้ว่าคำพูดของกู้โม่หานจะมีช่องโหว่อยู่มากเกินไป แต่กล่าวถึงที่สุดแล้วสามารถช่วยคลี่คลายปัญหาความสัมพันธ์ของหยุนเหิงได้ ก็เป็นเรื่องที่ประเสริฐเช่นกัน
สายตาสดใสของนางมองไปทางหยุนเหิงพูดว่า “มิผิด ต้องขอบคุณที่รบกวนแม่ทัพน้อยหยุนแล้ว ข้าจึงสามารถอยู่อย่างปลอดภัยไร้เรื่องราวเป็นเวลาเนิ่นนานเพียงนี้”
“ตอนนั้นสถานการณ์เร่งด่วนฉุกเฉิน หากมิใช่ฮ่องเต้มีการเตรียมการไว้ก่อนละก็ เกรงว่าตอนนี้ข้าคงสิ้นชีวิตในทะเลเปลวเพลิงไปแล้วจริงๆ”
หยุนอี่ว์โหรวมองดูสถานการณ์นี้ด้วยสีหน้าอันเย็นชา เห็นได้ชัดว่าไม่ค่อยเชื่อคำพูดของหนานหว่านเยียนและกู้โม่หานนัก แต่นางมิได้แสดงออกทางเปลือกนอกแม้แต่น้อยนิด สงบนิ่งรอคอยดูการเปลี่ยนแปลงต่อไป
หยุนเหิงจ้องมองดูหนานหว่านเยียน ขยับมุมปากฝืนเผยรอยยิ้มซึ่งน่าเกลียดยิ่งกว่าร่ำไห้ออกมา มิอาจไม่ก้าวลงตามขั้นบันไดของหนานหว่านเยียนและกู้โม่หาน
“สามารถปกป้องความปลอดภัยของฮองเฮาเหนียงเหนียง ถือเป็นเกียรติของกระหม่อมพะย่ะค่ะ”
“ขอเพียงฮองเฮาเหนียงเหนียงและองค์ฮ่องเต้ปลอดภัยไร้เรื่องราว ต่อให้ข้าต้องใช้ชื่อเสียงแบกรับไว้ ก็หาเป็นไรไม่พะย่ะค่ะ”
สายตาของไท่เฟยมองดูสลับไปมาบนร่างหนานหว่านเยียนและกู้โม่หาน เม้มปากและหาได้พูดจาอะไรไม่
ฮ่องเต้ก็ยังเปิดปากเอ่ยปากแล้ว หนานหว่านเยียนและหยุนเหิงต่างก็ทยอยกันยืนยันคำพูดนี้แล้วเช่นกัน ข้าราชบริพารส่วนหนึ่งพลันเข้าใจกระจ่างแล้ว สีหน้าเต็มเปี่ยมความละอายใจ
พวกเขามองไปทางหยุนเหิง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความชื่นชมและรู้สึกสำนึกผิด “ที่แท้เป็นเช่นนี้ ท่านแม่ทัพน้อยรับผิดชอบภาระหน้าที่อันหนักหนาสาหัส ช่างเป็นผลงานความดีความชอบอันใหญ่หลวงจริงๆ”
“เมื่อครู่นี้ข้ามีส่วนที่ล่วงเกิน ยังขอให้ท่านแม่ทัพน้อยหยุนอย่าได้เก็บมาใส่ใจ”
“ใช่แล้วล่ะ ทว่าท่านแม่ทัพน้อยหยุนก็ช่างปิดปากเคร่งครัดเสียสนิทอย่างยิ่งจริงๆ แม้แต่พวกข้าต่างก็ยังถูกปิดบังไปด้วยแล้ว!”
ผู้คนเหล่านี้มิได้คิดอะไรมากมายนัก เพียงแต่เชื่อถือไว้วางใจกู้โม่หานด้วยความบริสุทธิ์ใจอย่างแท้จริง ฮ่องเต้มักระมัดระวังละเอียดพิถีพิถันในการดำเนินงานตลอดมา สันนิษฐานว่าการรุกรานของแคว้นศัตรูเมื่อสองเดือนก่อนนั้น เรื่องราวช่างหนักหนาสาหัสนัก จึงได้ปิดข่าวสารจนเงียบสนิทเข้มงวดมากถึงเพียงนี้
แต่ข้าราชบริพารใต้สังกัดอันเป็นศูนย์กลางส่วนหนึ่งของหลิวซ่างซู กลับแสดงความสงสัยข้อกังขาออกมา
คำพูดเหล่านี้ของฮ่องเต้ เห็นได้ชัดว่าปรุงแต่งสร้างขึ้นมาอย่างปัจจุบันทันด่วน
หากเป็นการกระทำเพื่อปิดหูปิดตาผู้คนจริงๆ แล้วฮ่องเต้ไฉนจึงทราบว่าหลังจากฮองเฮาเหนียงเหนียงเสียชีวิตแล้วจะบ้าคลั่งถึงขนาดนี้ แล้วไฉนจะต้องใช้ตัวเองเข้าไปเสี่ยงอีก พุ่งทะยานเข้าสู่ทะเลเปลวเพลิง จนแทบจะสูญเสียมือทั้งสองข้างไปแล้ว?
และอีกทั้งระดมทั้งสรรพกำลังคนและทรัพยากร ดำเนินการค้นหาฮองเฮาเหนียงเหนียงอย่างเต็มรูปแบบเป็นระยะเวลาร่วมสองเดือนเต็ม สิ่งนี้ทั้งหมดล้วนเต็มไปด้วยช่องโหว่ลับลมคมใน ไม่สามารถพิสูจน์คำพูดตัวเองได้อย่างสมบูรณ์!
หลิวซ่างซูยังรู้สึกมิพึงพอใจ ต้องการเอ่ยปากสอบถามขึ้น
กู้โม่หานกลับมิเปิดให้ผู้ใดมีโอกาสเอ่ยปากกล่าววาจา นัยน์ตาคมกริบเปล่งประกายเฉียบขาดขึ้นมาวูบ
“เอาล่ะ เรื่องราวครั้งนี้ได้คลี่คลายไปมากพอสมควรแล้ว ก็ให้ยุติลงเพียงเท่านี้ก็แล้วกันเถอะ ต่อไปฮองเฮาและแม่ทัพน้อยหยุนก็มิต้องแสดงละครอีกต่อไปแล้ว”
“รอให้เลือกฤกษ์งามยามดีสักวัน ข้าจะรับฮองเฮากลับคืนสู่วังอย่างมีเกียรติสง่างาม ประกาศครั้งใหญ่ให้ทราบกันทั่วหล้าว่า ฮองเฮาของข้า——กลับมาแล้ว”