นางสนมแพทย์อัจฉริยะ – บทที่ 75 บริสุทธิ์

นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

บทที่ 75 บริสุทธิ์

เฟิ่งชิงเฉินพลันมองไปที่องค์หญิงอู่อัน ด้วยท่าทีเห็นอกเห็นใจ

ในเมื่อเจ้าไม่คิดที่จะเสียใจในภายหลัง

ที่คิดมาลบหลู่เกียรติยศของหมอเอง

ข้าก็จะทำให้ท่านเข้าใจในผลของการกระทำของท่าน

เมื่อเทียบกับความโกรธเกี้ยวขององค์หญิงอู่อันแล้ว ใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉินกลับดูเรียบเฉยยิ่งนัก

ตัวตรงไม่หวั่นเงาเฉเฉียง  ผู้ที่จะต้องพ่ายแพ้หาใช่เฟิ่งชิงเฉินไม่

เฟิ่งชิงเฉินพลันสะบัดแขนเสื้อออก

พร้อมกลับกล่าวอธิบายออกมาด้วยท่าทีใจเย็น ” องค์หญิงอู่อัน ความบริสุทธิ์ของชิงเฉิน หาใช่เรื่องที่ท่านควรจะมากังวลไม่ ท่านควรกังวลเรื่องของตนเองเถิด องค์หญิงกล่าวว่าให้ชิงเฉินไปกระโดดแม่น้ำเพื่อพิสูจน์ตนเอง เช่นนั้น

เชิงเฉินเองก็ขอพูดอะไรเสียหน่อยเถิด”

“เฟิ่งชิงเฉิน

เจ้าหุบปากไปซะ” องค์หญิงอู่อันรู้สึกตื่นตระหนกมากในยามนี้ นางย่อมรู้การกระทำของตนเองดี ทว่า

เมื่อมองไปเห็นท่าทีของเฟิ่งชิงเฉินที่ดูจะรู้เรื่องของนางนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา

“หุบปากหรือ? องค์หญิงเพคะ นอกจากปากจะใช้ทานข้าวแล้ว

มันยังใช้พูดคุยได้ ในยามนี้ ชิงเฉินไม่อาจหุบปากลงได้เพคะ หากปิดปากชิงเฉินแล้ว

ชิงเฉินจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ขององค์หญิงได้อย่างไรกัน?” เฟิ่งชิงเฉินพลันกวาดสายตาอย่างเย็นชาพร้อมกับส่งสัญาณไล่สาวใช้และขันทีให้ออกไปก่อนในทันที

“ในยามที่ฤดูขององค์หญิงมานั้น พระองค์จะรู้สึกหนาวไปทั้งร่างใช่หรือไม่เพคะ อีกทั้งท้องส่วนล่างก็จะรู้สึกปวดด้วย

รอบฤดูของแต่ละครั้งที่มา ก็จะยาวนานขึ้นเรื่อยๆ และมันก็จะลากต่อไปเป็นเวลาครึ่งเดือนเสมอ พร้อมกับมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ออกมาใช่หรือไม่เพคะ ? เวลาร่วมรักนั้น ก็จะรู้สึกไม่มีความสุข

ทั้งยังรู้สึกเจ็บปวดมากกว่าเดิมอีกด้วย”

เฟิ่งชิงเฉินพลันกล่าวออกมาอย่างใจกว้าง

ทว่า คุณหนูที่อยู่รอบข้างนั้น ต่างก็หันหน้าแดงหนีในทันที เมื่อได้ยินคำว่า “ยามที่ร่วมรัก รู้สึกไม่มีความสุข

ทั้งยังรู้สึกเจ็บปวดมากกว่าเดิม” เหล่าคุณหนูทั้งหลายต่างก็รู้สึกอายยิ่งนัก

เหล่าคุณหนูที่อยู่ที่นี่ ส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นสตรีที่ยังมิได้ออกเรือน มีเพียงสตรีไม่กี่คนที่มีอายุมากกว่ารวมไปถึงองค์หญิงอู่อันด้วย

ทว่า เมื่อพวกนางได้ยินเฟิ่งชิงเฉินกล่าวออกมาเช่นนี้ ก็พลันรู้สึกว่ายากที่จะรับได้

คุณหนูแต่ละคน ล้วนแต่ทำตามกรอบประเพณีทุกอย่าง

สีหน้าขององค์หญิงอู่อัน พลันแปรเปลี่ยนเป็นแดงก่ำในทันที ทั่วร่างพลันสั่นเทา พร้อมกับชี้หน้าไปที่เฟิ่งชิงเฉินว่า ”

เฟิ่งชิงเฉิน เจ้า เจ้าพูดใส่ร้ายผู้คนให้มันน้อย ๆ หน่อย เจ้าที่เป็นสตรียังมิได้ออกเรือนเช่นกัน เหตุใดถึงได้กล้าพูดจาน่ารังเกียจเช่นนี้ออกมา ข้าละรู้สึกละอายแทนต่อฮูหยินเฟิ่งเสียจริง

ที่คลอดบุตรสาวเช่นเจ้าออกมาเช่นนี้ ”

แต่เดิมเฟิ่งชิงเฉินคิดจะพอแค่นี้ ทว่า

ลากมารดาของนางที่จากไปแล้วออกมาพูดถึงอีก ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็อย่าได้มากล่าวหาว่าเฟิ่งชิงเฉินไม่ไว้หน้าตระกูลเจิ้นกั๋วกงก็แล้วกัน

องค์หญิงอู่อันกลับไม่เลิกไม่รา

“องค์หญิงอู่อัน ท่านมิต้องกังวลไปหรอกเพคะ

แต่ทว่า บุตรของท่านที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ย่อมต้องเกลียดท่านเข้ากระดูกดำเป็นแน่

มารดาของหม่อมฉันย่อมต้องภูมิใจในตัวของหม่อมฉันอยู่แล้ว

ไม่ว่าจะยามฝันกลางวัน องค์หญิงอู่อัน ท่านก็จักต้องได้ยินเสียงบุตรของท่านมาร้องให้คร่ำครวญอยู่ข้างหู

พร้อมกล่าวว่า องค์หญิงอู่อัน ยามที่เริงรมนย์กับชายบำเรอที่ท่านเลี้ยงไว้นั้น

ท่านได้คิดถึงจิตใจของบุตรที่เกิดขึ้นในอนาคตหรือไม่ ท่านได้คิดถึงจิตใจสามีของท่านในอนาคตบ้างหรือไม่ องค์หญิงอู่อัน”

“หุบปาก

เจ้าอย่าได้พูดออกมาอีก” องค์หญิงอู่อันพลันอับอายเสียจนต้องแสดงกิริยาโกรธเกรี้ยวออกมาเลยทีเดียว

หุบปาก เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้ อย่าพูดอีก

อย่างไรนางก็เป็นบุตรสาวของเจิ้นกั๋วกง การกระทำของนางในยามนี้

อับอายยิ่งกว่าคุณหนูชิวฮุ่ยมากนัก หากแต่

พระนางมีความกล้าและรอบคอบมากกว่า ใช้เวลาไม่นาน อารมณ์ของนางก็กลับมาสงบดังเดิม

เมื่อมองดูเหล่าคุณหนูที่องค์หญิงอันผิงส่งเทียบเชิญมานั้น

มีเพียงคุณหนูไม่กี่นางเท่านั้น ที่ส่งยิ้มเยาะเย้ยมาให้

พลันพบว่าแต่ละคนพลันหลบสายตานางในทันที

หากแต่เมื่อมองไปยังองค์หญิงอันผิงนั้น องค์หญิงอันผิงพลางส่งรอยยิ้มอย่างรังเกียจออกมาเท่านั้น

องค์หญิงอู่อันพลันเข้าใจได้ในทันที หากมิได้อธิบายให้กระจ่างแจ้งละก็ ชื่อเสียงของนางได้จบแห่เป็นแน่

หากแต่

นางจะหาหลักฐานอันใดมายืนยันดี เนื่องจากว่านางมิได้บริสุทธิ์แล้ว

องค์หญิงอู่อันพลันมองไปที่เฟิ่งชิงเฉิน พลางเกลียดนางเสียจนอยากที่จะกลืนนางลงท้องไปทั้งเป็น

มันเป็นเพราะนาง

มันเป็นเพราะนาง

เฟิ่งชิงเฉิน

นางถึงต้องมาเสื่อมเสียชื่อเสียงเช่นนี้

องค์หญิงอู่อันโมโหเสียจนตะโกนด่ากราดออกมาฉากใหญ่

” เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าอย่าคิดว่าตนเองดีนัก จะมีผู้ใดที่มีความคิดเช่นเจ้ากัน เฟิ่งชิงเฉิน เจ้ามีสิทธิอันใดมาบอกว่าตัวข้าผู้นี้ไม่บริสุทธิ์กัน ข้าเป็นบุตรสาวของจวนเจิ้นกั๋วกง ทั้งยังได้นามพระราชทานแต่งตั้งเป็น องค์หญิงอู่อัน ข้าจะไปทำเรื่องไร้ยางอายไร้คุณธรรมเช่นนั้นได้อย่างไร เฟิ่งชิงเฉิน เจ้ารอเสีย

ข้าจักเอาเรื่องนี้ไปบอกท่านพ่อของข้า เพื่อให้ท่านพ่อแจ้งข้อหาว่า เจ้าทำการใส่ร้ายป้ายสีชื่อเสียงองค์หญิงให้มัวหมอง”

“นั่นเพราะองค์หญิงอู่อัน กระทำกับหม่อมฉันก่อนมิใช่หรือเพคะ เฟิ่งชิงเฉินเอง ก็ส่งผลการกระทำเช่นนั้นคืนให้กับท่านเช่นกัน ท่านอย่าคิดว่าการกระทำที่เป็นธรรมชาติเช่นนั้น

จะมีผู้ใดคิดเช่นเดียวกันกับท่าน นางโลมยังขายเรือนร่างเพื่อแลกเงินได้ ทว่า ท่านเล่าองค์หญิงอู่อัน?

จะร่วมเตียงกับผู้ใดสักคน ต้องจ่ายเงินให้เขาหรือไม่ เป็นถึงสตรีผู้ศักดิ์แต่กระทำตัวเช่นนี้ สมควรแล้วหรือ”

อีกทั้ง

นางควรจะละอายใจที่ตนเองเสียพรหมจรรย์ก่อนจะได้แต่งงานเสียอีกมิใช่หรือ หากไปย้อนคิดถึงพฤติกรรมเก่า

ๆ ของ องค์หญิงอู่อัน ก็จะรู้เอง

หากพูดถึงคามโหดร้ายนั้น

หากพูดกันตามจริงแล้ว นางจำเป็นต้องกลัวผู้ใดด้วยหรือ?

เฟิ่งชิงเฉินเองก็ไม่เป็นรองผู้ใด

มีบิดาที่ดีควรจะต้องอิจฉาด้วยหรือ

ตนเองก่อปัญหาเองทั้งนั้น

แต่กลับต้องให้บิดามาคอยแก้ปัญหาให้

“เฟิ่งชิงเฉินเจ้าตายแน่

ข้าจะมิปล่อยเจ้าไปโดยง่ายแน่ เจ้าจะต้องจ่ายค่าตอบแทนสำหรับ คำพูดที่เจ้าพูดในวันนี้ ” สิ้นสุดคำพูดนี้นั้น นอกจากองค์หญิงอู่อันจะกล่าวว่าจาว่าร้ายออกมาแล้วนั้น พระนางก็ไม่กล้าเอ่ยอันใดออกมาอีก

เสียงกระดิ่งพลันดังไปมา “ติ้งติ้ง” นั่นบ่งบอกได้ดีเลยว่า องค์หญิงอู่อันโมโหจนขาดสติไปแล้ว

“ทุกคนย่อมต้องชดใช้ในการกระทำของตนเองทั้งนั้นเพคะ

ในเมื่อท่านมิได้รับการรักษาที่ดี ต่อไปในภายภาคหน้า ท่านย่อมมิอาจมีบุตรได้แล้ว” เฟิ่งชิงเฉินพลันกล่าวอกมาอย่างเยือกเย็น

องค์หญิงอู่อัน แท้งบุตรในรอบที่แล้ว

แน่นอนว่า

เฟิ่งชิงเฉินเพียงแค่พูดไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้น หากนางมิได้ทำการตรวจจริง ๆ

นางจะรู้ได้อย่างไรกัน

เพียงแค่ขู่นิดหน่อยก็เท่านั้น

โรคสตรีขององค์หญิงอู่อันนั้น

แต่ก็ไม่อาจปกปิดกลิ่นเปรี้ยวบนร่างกายของนางไปได้

ถือได้ว่าร้ายแรงยิ่งนัก ถึงแม้ว่าจะรมควันกลิ่นไม้หอมอย่างไร

สตรีธรรมดาอาจจะไม่รู้ว่ากลิ่นนี้เป็นอย่างไร

ทว่า เฟิ่งชิงเฉินรู้ดี ว่านี่เป็นโรคทางนรีเวช ผู้หญิงจะแสดงอาการมากน้อยแค่ไหน

ก็ขึ้นอยู่กับปัญหาที่พวกนางเจออยู่ร้ายแรงมากหรือไม่

แต่สำหรับองค์หญิงอู่อันแล้ว

อย่างไรย่อมมีอาการร้ายแรงมากกว่าคนธรรมดาอยู่แล้ว

สตรีที่ใช้ชีวิตไม่รอบคอบและไม่ใส่ใจเรื่องสุขอนามัยนั้น

ด้วยท่าทางมุ่งมั่นขอองเฟิ่งชิงเฉินนั้น

ทำให้องค์หญิงอู่อันรู้สึกไม่สบายใจนัก ทว่า เมื่อเห็นท่าทางขององค์หญิงอู่อันแล้ว ก็มิต้องเอ่ยอันใดให้มากความ

นั่นย่อมเป็นเรื่องจริงอย่างแน่นอน

ไม่ว่าเฟิ่งชิงเฉินจะบริสุทธิ์หรือไม่

พวกนางมั่นใจยิ่งนักว่าองค์หญิงอู่อันไม่บริสุทธิ์แล้ว

พวกนางไม่อาจมั่นใจได้ ทว่า

ในเมื่อเรื่องดำเนินมาถึงจุดนี้แล้ว หากยิ่งพูดมากไปก็จะยิ่งมากความ

องค์หญิงอู่อันทั้งรู้สึกอับอายและโกรธเคืองยิ่งนัก นางพลันตัดสินใจชักปิ่นปักผมบนหัวตนเอง

และพุ่งเข้าใส่เฟิ่งชิงเฉินในทันที “เฟิ่งชิงเฉินเจ้าตายเสียเถอะ”

“อ๊าย” เหล่าคุณหนูที่ขี้กลัว ต่างก็พากันปิดตาก้มหน้าลงในทันที

อย่างไรก็ตาม เฟิ่งชิงเฉินหาได้ตื่นตระหนกไม่ พร้อมกับบิดตัวหลบการโจมตรีขององค์หญิงอู่อันด้วยความรวดเร็ว

ด้วยเหตุการณ์ที่ชุลมุนวุ่นวายนั้น ทุกคนยังมิทันได้เห็นว่าเฟิ่งชิงเฉินรับมือกับองค์หญิงอู่อันเช่นไร ก็พลันเห็นองค์หญิงอู่อันล้มไปที่พื้นเสียแล้ว

“องค์หญิงอู่อัน

ข้าไม่อาจชดใช้ให้ท่านได้

ท่านอย่าได้กระทำเช่นนี้ ชีวิตของท่านมีค่ามากมายนัก หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา

ตัวตรงไม่หวั่นเงาเฉเฉียง

ชิงเฉินจะใช้ชีวิตให้ดี รอให้เจิ้นกั๋วกงมาลากเฟิ่งชิงเฉินไปรับโทษเป็นอย่างไร แน่นอนว่า

ถึงครานั้น ชิงเฉินเองก็ย่อมต้องมีหลักฐานไปยื่นกล่าวยืนยันกับท่านเจิ้นกั๋วกงเช่นกัน

หม่อมฉันคิดว่า บางทีมันอาจจะเป็นไปไม่ได้ หากหลักฐานของคนและวัตถุหายไปเล่า เรื่องก็ย่อมหายไปตาม

แต่ร่างกายขององค์หญิงอู่อันที่มิได้รับการรักษา เฮ้อ จะว่าไปชีวิตของสตรีช่างน่าสงสารยิ่งนัก

จะบริสุทธิ์หรือไม่ผู้ใดจะรู้ได้กัน แต่หากได้รับการตรวจ ผลลัพท์ย่อมไม่อาจปลอมแปลงไปได้เช่นกัน”

ในเมื่อตบหน้าด้านซ้ายแล้ว

ก็ต้องตบที่ด้านขวาด้วยเช่นกัน เฟิ่งชิงเฉินก็เป็นคนเช่นนี้ หากนางทำให้องค์หญิงอู่อันกรุ่นโกรธ ย่อมหมายความว่า นางเป็นศัตรูของจวนกั๋งกงด้วยเช่นกัน

อย่างไรชีวิตนี้นางก็มีศัตรูมากมายอยู่แล้ว

แน่นนอว่า

ก็เพราะพระนางมิได้เป็นสตรีบริสุทธ์

ต่อให้องค์หญิงอู่อันไปกระโดดแม่น้ำหวางเหอก็ไม่อาจพิสูจน์ความจริงได้

“เฟิ่งชิงเฉิน เจ้ามันก็เป็นแค่ไพร่

เจ้านั่นแหละที่มัวมองแต่ข้าต่างหากที่บริสุทธิ์ ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่ ข้าจะทำให้เจ้าอยู่ไม่สู้ตายเลยทีเดียว เจ้ามันก็แค่ไพร่”

องค์หญิงอู่อันที่ล้มลงกับพื้นนั้น พลันลงไปชักดิ้นชักงอด้วยท่าทางเอาแต่ใจ

พระนางไม่เคยคิดเลยว่า

วันหนึ่งเรื่องการสูญเสียความบริสุทธิ์ก่อนจะแต่งงาน ข้อครเช่นนี้จะต้องมาตกอยู่ที่นาง

หากนางถูกตราหน้าเป็นสตรีเช่นนี้แล้ว ชื่อเสียงของนางที่สั่งสมมาทั้งชีวิตย่อมต้องถูกทำลายลง

จู่ ๆ

แววตาขององค์หญิงอู่อัน

ก็พลันฉายความรอยยิ้มดั่งยาพิษออกมาในทันที

เฟิ่งชิงเฉิน ข้าจะฆ่าเจ้า!

นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

Status: Ongoing
ในยามวันมงคลสมรสของตนเอง นางตื่นสะลึมสะลือขึ้นมาที่ย่านชานเมือง ด้วยอาภรณ์ที่บางเบาและทั่วร่างที่สั่นเทา พร้อมกับสายตาดูหมิ่นที่จับจ้องมองมาที่นางมากมาย ทุกย่างก้าวที่เต็มไปด้วยเลือดกำลังย่างกรายเข้าสู่ราชวัง นางคือสตรีกำพร้าที่ไร้บิดามารดาคอยดูแล ส่วนเขาเป็นท่านอ๋องหน้ากากเหล็กที่อยู่เหนือกว่าทุกคนในใต้หล้า ทั่วร่างของนางที่เต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย ทั้งยังถูกทำให้อับอายขายขี้หน้า; เขาผู้ที่ไปมาไร้ร่องรอย หาผู้ใดมาเทียบเคียงได้ยาก นางต้องก้มหน้าคุกเข่าอย่างนอบน้อม เขาคือผู้ที่จ้องมองลงมาจากเบื้องบน เส้นทางของคนทั้งสองคนที่ต่างกันราวฟ้ากับเหว แต่กลับมาบรรจบพบพานด้วยความบังเอิญ อาภรณ์ที่อบอุ่นผืนนั้น ปกปิดคราบสกปรกบนเนื้อตัวของนาง โดยแลกมาด้วยความรักชั่วชีวิตของตนเอง แพทย์หญิงผู้มากความสามารถจากยุคศตวรรษที่ 21 ทั่วทั้งกายและใจของนางมอบให้แต่เขาเพียงผู้เดียว เขาผู้อยู่เหนือผู้คนในใต้หล้า คมดาบที่อาบไปด้วยเลือดมากมาย นางสามารถละทิ้งทุกอย่างได้ ขอเพียงแค่ชาตินี้ ขอให้นางได้ครองรักเช่นสามีภรรยา ความรักที่ไร้ขอกังหา ไม่ว่าจะเป็นหรือตายนางล้วนไม่สนใจ แต่เขากลับมอบคมดาบเพื่อปลิดชีพนาง…………

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท