นางสนมแพทย์อัจฉริยะ – บทที่ 589 ตงหลิงจิ่ว ทำไมท่านยังไม่มาอีกนะ

นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

ไม่กลัวคู่ต่อสู้ที่เก่งกาจ กลัวแต่พวกพ้องที่โง่เขลา

เฟิ่งชิงเฉินและหวังจิ่นหลิงเห็นฝู่หลินตั้งนานแล้ว มิฉะนั้นนางคงไม่แบกหวังจิ่นหลิงเดินมาทางนี้หรอก แต่ผลปรากฏว่า……

คนของเผ่าเสวียนเซียวกงยังไม่เจอพวกเขา แต่ฝู่หลินมองเห็นพวกเขาแล้ว ตัวเองมองเห็นคนเดียวยังไม่พอ ยังตะโกนร้องออกมาเสียงดังลั่น ทำให้พวกเขาถูกจับได้

หากฝู่หลินไม่ถูกคนของเผ่าเสวียนเซียวกงไล่ล่า เฟิ่งชิงเฉินก็คงสงสัยว่าฝู่หลินเองก็เป็นคนของเผ่าเสวียนเซียวกง ที่เป็นฝ่ายไล่ตามพวกเขาในตอนนี้

ด้วยความที่แบกคนไว้บนหลัง ต่อให้เฟิ่งชิงเฉินจะวิ่งเร็วเพียงใดก็ไม่อาจทิ้งระยะห่างจากอีกฝ่ายได้มากนัก วิ่งไปได้ไม่ไกลมาก ก็ถูกคนกลุ่มนั้นตามมาจับตัวได้สำเร็จ

“เฟิ่งชิงเฉิน ข้าไม่ได้ตั้งใจ” ฝู่หลินที่ถูกกลุ่มคนห้อมล้อมเอ่ยขึ้น เสื้อผ้าเขาขาดวิ่นเล็กน้อย ตามเนื้อตัวก็มีบาดแผลประปราย แต่สภาพโดยรวมเขาไม่เป็นอะไรมาก

ตอนนี้สู้ไม่ได้ แต่ยังพอวิ่งหนีได้

“ไม่ได้ตั้งใจอย่างนั้นหรือ น่าเกลียดที่สุดเลย ฝู่หลิน ช่วยข้าแบกจิ่นหลิงก่อนนะ ถ้าข้าพูดคำว่าวิ่ง ก็ให้วิ่งฝ่าออกไปในทันที ไม่ต้องเป็นห่วงข้า” เฟิ่งชิงเฉินส่งหวังจิ่นหลิงไปเกาะหลังฝู่หลิน

ฝู่หลินและหวังจิ่นหลิงไม่ขัดข้องอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าหวังจิ่นหลิงจะไม่เคยรู้จักฝู่หลินมาก่อน แต่การให้ผู้ชายมาแบกตนย่อมดีกว่าให้ผู้หญิงมาแบก อีกอย่าง หากเป็นคนที่เฟิ่งชิงเฉินเชื่อใจ เขาเองก็วางใจ

“จะวิ่งฝ่าไปเลยหรือ ช่างกล้าหาญเสียจริง ข้าจะคอยดูว่าเมื่อมี 36 ขุนพลสวรรค์ห้อมล้อมอยู่ พวกเจ้าจะไปได้ไกลสักแค่ไหน นอกจากคุณชายใหญ่แล้ว สองคนที่เหลือไม่ต้องไปสนใจ โดยเฉพาะนังผู้หญิงนั่น ข้าไม่อยากเห็นหน้ามัน ไปจัดการเก็บมันให้ข้าด้วย เอาให้ตายอย่างป่นปี้ไปเลยนะ” ตอนนี้เซวียนเฟยยังไม่ทันเห็นหน้าของเฟิ่งชิงเฉิน หากเห็นแล้วล่ะก็ นางคงกัดเฟิ่งชิงเฉินไม่ปล่อยแน่

“ให้ตายอย่างป่นปี้เลยงั้นหรือ? อายุยังน้อยแต่ใจคอโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้เลยหรือนี่ มาเจอผู้หญิงประเภทนี้ได้ จิ่นหลิง ท่านไม่ได้ซวยธรรมดาเลยนะ” เมื่อไม่มีน้ำหนักตัวของหวังจิ่นหลิงถ่วงอยู่บนหลังแล้ว เฟิ่งชิงเฉินก็ปราดเปรียวขึ้นมาก เมื่อคนของเผ่าเสวียนเซียวกงบุกเข้ามา เฟิ่งชิงเฉินก็ชักปืนออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วหันไปส่งสัญญาณให้ฝู่หลินคอยปกป้องหวังจิ่นหลิงให้ดีๆ

ลูกกระสุนพร้อมแล้ว จังหวะที่ฝ่ายตรงข้ามบุกเข้ามาใกล้ เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่ได้ถอยหนี ปังๆๆ…… เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหว

เมื่อลูกกระสุนพุ่งออกไป ร่างของสมาชิกบางส่วนของ 36 ขุนพลสวรรค์พลันมีรูพรุนและมีเลือดไหลท่วม คนที่อยู่หน้าสุดล้มลงหน้าคะมำ

“ระวัง ฝ่ายตรงข้ามมีอาวุธร้ายแรง” 36 ขุนพลสวรรค์ล้วนเป็นยอดฝีมือ ในการปฏิบัติงานแต่ละครั้งอาจเกิดการบาดเจ็บบ้างเล็กน้อย แต่ละครั้งอาจมีการสูญเสียสมาชิกเพียงแค่คนสองคน แต่คราวนี้มี 6 คนต้องล้มไปกองอยู่กับพื้น ถือเป็นความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ของ 36 ขุนพลสวรรค์เลยก็ว่าได้

“ห้ามถอยเด็ดขาด นอกจากคุณชายใหญ่แล้ว พวกที่เหลือให้ฆ่าทิ้งให้หมด มีปัญหาอะไรข้าจะรับผิดชอบเอง” เซวียนเฟยไม่เพียงแต่ไม่ยอมถอย มิหนำซ้ำนางยังเกรี้ยวกราดมากกว่าเดิม

36 ขุนพลสวรรค์ไม่กล้าลังเล ถึงแม้ว่าพวกเขาจะหวาดกลัวอาวุธร้ายแรงในมือเฟิ่งชิงเฉิน แต่เมื่อเซวียนเฟยออกคำสั่ง พวกเขาก็ต้องเดินหน้าไปเรื่อยๆ

โอ้โห ใจคอโหดเหี้ยมจริงๆเลย เผ่าเสวียนเซียวกงไม่น่าจะเป็นพวกอํามหิตนี่นา ทำไมถึงเห็นชีวิตคนเป็นผักปลาเช่นนี้ เฟิ่งชิงเฉินปวดหัวเหลือเกิน

“ฝู่หลิน พาหวังจิ่นหลิงลงจากเขาไปเดี๋ยวนี้ ช่วยข้าดูแลเขาให้ดีๆนะ หากท่านสามารถพาเขากลับเมืองหลวงได้ ของที่ท่านอยากได้ เดี๋ยวกลับไปข้าจะมอบให้ท่าน” เฟิ่งชิงเฉินถือปืนเดินไปพร้อมพวกเขา โดยทำท่าสกัดกั้นศัตรู เพื่อเปิดทางให้ผู้ชายสองคน

“ชิงเฉิน……” หวังจิ่นหลิงส่ายหน้าเพราะรู้สึกไม่เห็นด้วย “ส่งตัวข้าให้พวกนั้นไปเสีย พวกนั้นไม่ทำอะไรข้าหรอก” หากเฟิ่งชิงเฉินต้องมาตายเพื่อให้เขาได้เป็นอิสระ ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ยอมเด็ดขาด

“อย่าพูดโง่ๆสิ หากท่านยอมไปกับพวกนั้นท่านก็คงจะไปตั้งนานแล้ว” พลันเสียงปังก็ดังขึ้น เฟิ่งชิงเฉินยิงเข้าไปที่แขนของคู่ต่อสู้ที่ยืนอยู่หน้าสุด และไม่รอให้เสียเวลามากกว่านี้ ปัง นางยิงแขนชายผู้นั้นจนขาด ก่อนจะต่อด้วยยิงเข้าไปที่ช่องท้อง ทำให้ชายผู้นั้นเจ็บปวดจนตัวงอ

นี่คือข้อดีของการเป็นหมอ นางรู้ดีว่าต้องยิงที่ส่วนใดของร่างกาย จึงจะทำให้คู่ต่อสู้ไม่สามารถลุกขึ้นมาอีกได้

และอาศัยโอกาสนี้ เฟิ่งชิงเฉินรีบหันหลังกลับไป มือทั้งสองถือปืนอย่างมาดมั่น แล้วกราดยิงวงล้อม 36 ขุนพลสวรรค์ “ฝู่หลิน ไปได้……”

“ได้เลย” ถึงแม้ว่าหวังจิ่นหลิงจะไม่เห็นดีเห็นงาม แต่ฝู่หลินก็ได้แบกเขาออกไปแล้ว

จะอยู่ให้ตายกันหมดหรืออย่างไร เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่อ่อนแอเสียหน่อย

“ที่แท้เจ้าก็ต่อสู้เป็นนี่เอง สนุกเลยคราวนี้ แต่ถ้าพวกเจ้าคิดว่าจะสามารถฝ่าวงล้อมของ 36 ขุนพลสวรรค์ออกไปได้แล้วล่ะก็ ฝันไปเถอะ” เซวียนเฟยหยิบแส้ยาวออกมาแล้วเหวี่ยงไปทางที่เฟิ่งชิงเฉินยืนอยู่

เฟิ่งชิงเฉินเบี่ยงตัวหนีในทันที แล้วกระโดดไปถีบหลังของผู้ชายคนหนึ่ง จนเขาล้มลงไปนอนกับพื้น เมื่อชายคนนั้นล้มลงแล้ว เฟิ่งชิงเฉินก็ย่อตัวไปยิงซี่โครงเขา

นางไม่ต้องการเล่นงานชายคนนั้นจนถึงแก่ชีวิต แต่ก็ทำให้ชายคนนั้นไม่อาจขยับเขยื้อนร่างกายได้ ในขณะที่กลุ่มคนอีกฝั่งหนึ่งปรี่เข้ามาช่วยพยุงร่างของชายคนดังกล่าว นางก็กำลังเตะคนที่กำลังจะพุ่งเข้ามาทำร้ายนาง

ฝู่หลินหันมามองเฟิ่งชิงเฉินสักพัก เมื่อแน่ใจว่าเฟิ่งชิงเฉินสู้ไหว ก็พาหวังจิ่นหลิงหนีไปในทันที

เพราะถึงอย่างไรเป้าหมายของคนกลุ่มนี้คือผู้ชายที่อยู่บนหลังเขา หากเขาพาผู้ชายคนนี้ไป เฟิ่งชิงเฉินก็คงไม่เป็นไร ผู้หญิงที่แม้แต่กองเพลิงยังทำอะไรไม่ได้ นางคงไม่ตายง่ายๆหรอก

ฝู่หลินคิดเช่นนี้

“รีบตามไปสิ ไม่ต้องไปสนใจนังผู้หญิงบ้านั่น ไปตามคุณชายใหญ่มาเร็วเข้า ถ้าไม่มีใครมาแต่งงานกับข้า ข้าจะเอาเรื่องพวกเจ้า” เซวียนเฟยอยากฆ่าเฟิ่งชิงเฉินเหลือเกิน แต่นางต้องการตามตัวหวังจิ่นหลิงกลับมามากกว่า

ตั้งแต่เล็กจนโต นางไม่เคยเห็นใครรูปงามทุกกระเบียดนิ้วดังเช่นคุณชายใหญ่มาก่อนเลย นางคลั่งไคล้เขาตั้งแต่แรกเห็น และถึงกับตั้งปณิธานว่า จะต้องได้ครอบครองชายคนนี้ให้จงได้

นางไม่เคยคลั่งไคล้ผู้ใดมาก่อนเลย ตอนนี้นางหลับตาก็เห็นแต่ภาพเขา และปรารถนาเขาอยู่ตลอดเวลา……

เพื่อให้ได้ตัวหวังจิ่นหลิงมาครอบครอง นางถึงกับแอบอ้างคำสั่งผู้เป็นพ่อ ส่งข่าวไปยังผู้อาวุโสในตระกูลหวังที่มีใจละโมบ ให้พวกเขากำจัดจดหมายขอความช่วยเหลือจากหวังจิ่นหลิง และห้ามพวกเขาส่งคนมาตามหาหวังจิ่นหลิง

นางให้คำมั่นต่อตระกูลหวังว่าจะไม่ทำร้ายหวังจิ่นหลิงเด็ดขาด นางเพียงต้องการให้หวังจิ่นหลิงไปสู่ขอนาง แล้วนางจะแต่งงานกับหวังจิ่นหลิงพร้อมด้วยทรัพย์สินและอำนาจครึ่งหนึ่งของเผ่าเสวียนเซียวกง

“ขอรับ คุณหนู” ผ่านไปประเดี๋ยวเดียว 36 ขุนพลสวรรค์ก็เหลือกันแค่เพียง 26 คน นี่เป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ 36 ขุนพลสวรรค์นับตั้งแต่ปฏิบัติงานมา แต่พวกเขาก็ไม่มีเวลามาเศร้าโศก พวกเขาต้องเหยียบศพเพื่อนแล้วเดินหน้าทำงานกันต่อไป

“อยากตามไปงั้นหรือ ต้องมาขออนุญาตข้าก่อนสิ” จังหวะที่ไม่มีใครมาสนใจ เฟิ่งชิงเฉินก็บรรจุกระสุนชุดใหม่ เมื่อทุกอย่างเตรียมพร้อม นางก็เลียเลือดที่มุมปากของตัวเอง สองมือถือปืนมั่น แล้วเล็งไปที่ฝ่ายตรงข้าม……

ปัง……เสียงปืนดังขึ้นมาอีก 1 นัด คนที่วิ่งอยู่ด้านหน้าสุด พลันมีเลือดพุ่งออกมาจากท้ายทอย แล้วชายคนนั้นก็ร่วงลงกับพื้น

“นังคนชั่ว เจ้ารนหาที่อย่างนั้นหรือ” แส้ยาวของเซวียนเฟยถูกเหวี่ยงมาที่เฟิ่งชิงเฉินอีกครั้ง แต่เฟิ่งชิงเฉินก็หลบซ้ายหลบขวา จึงไม่โดนเป้าหมายเสียที

เฟิ่งชิงเฉินเริ่มกัดฟันด้วยความรู้สึกชิงชัง ต่อหน้าหญิงสาวที่หน้าคล้ายกับตัวเอง นางหรี่ตาเพื่อเก็บซ่อนแววตาที่ดุดัน เมื่อเซวียนเฟยเหวี่ยงแส้มาอีกครั้ง คราวนี้เฟิ่งชิงเฉินไม่หลบแล้ว นางปล่อยให้แส้ฟาดเข้าที่แผ่นหลังของนางอย่างเต็มที่

ขวับ……แส้ของเซวียนเฟยฟาดลงบนแผ่นหลังเฟิ่งชิงเฉิน

โอ๊ย……เฟิ่งชิงเฉินร้องออกมาดังลั่น นางทั้งเจ็บและแสบหลัง ความเจ็บปวดนี้ทำให้นางถึงกับขาสั่นจนเกือบจะทรงตัวไม่อยู่

“เชอะ นังคนชั่ว ดูซิว่าคราวนี้จะแผลงฤทธิ์อะไรอีก” เซวียนเฟยกระหยิ่มยิ้มย่องแล้วดึงแส้กลับมา ในตอนนี้เองก็ได้ยินเสียงแขวก ก่อนที่แผ่นหลังของเฟิ่งชิงเฉินจะปรากฏบาดแผลที่เกิดขึ้นจากแส้ มีบางจุดที่เห็นถึงกระดูก

ที่แท้ แส้ของเซวียนเฟยก็มีขอเกี่ยวเล็กๆเต็มไปหมด ขอเกี่ยวเหล่านั้นยึดติดกับเนื้อได้ เมื่อเซวียนเฟยดึงแส้ก็เหมือนดึงเนื้อเฟิ่งชิงเฉินออกมาด้วย ภายใต้แสงแดดรำไร แส้ของเซวียนเฟยก็ได้เผยให้เห็นสีแดงสด และมีเศษเนื้อติดอยู่ด้วย

เฟิ่งชิงเฉินเจ็บหนักเลยคราวนี้ แต่เซวียนเฟยก็ใช่ว่าจะลอยหน้าลอยตาได้ต่อไป จังหวะที่นางหวดแส้ เฟิ่งชิงเฉินก็ได้จ่อปืนไปที่ตำแหน่งหัวใจของนางในทันที

ปัง……กระสุนพุ่งไปยังหัวใจ เฟิ่งชิงเฉินยืนยิ้มอย่างพอใจ ถึงแม้ว่าการฆ่าคนที่หน้าเหมือนตัวเองจะรู้สึกแปลกๆ แต่ถ้าหากผู้หญิงคนนี้ไม่ตาย หวังจิ่นหลิงก็จะมีเรื่องวุ่นวายตามมาไม่จบสิ้น

หากการบาดเจ็บของตัวเองสามารถแลกกับความตายของฝ่ายตรงข้ามได้ นางก็จะทำโดยไม่ต้องลังเลเลย

แต่ทว่า……

นางได้ยินเสียงกระสุนเด้งออก และหัวใจของเซวียนเฟยก็ไม่มีเลือดไหล แถมเซวียนเฟยก็ยังไม่ล้มลงอีกด้วย จังหวะที่กระสุนพุ่งใส่นาง เซวียนเฟยแค่เพียงถอยหลังไปไม่กี่ก้าว แล้วหลังจากนั้นก็หวดแส้อีกครั้งด้วยความเคียดแค้นที่มีมากกว่าเดิม

เสื้อเกราะ?

ให้ตายสิ!

เฟิ่งชิงเฉินบ่นความโง่เขลาของตัวเองอยู่ในใจ ยุคปัจจุบันมีเสื้อเกราะกันกระสุน ยุคโบราณก็มีเครื่องมือป้องกันทำนองนี้เหมือนกัน นางลืมเรื่องนี้ไปได้อย่างไรนะ กระสุนที่ยิงไปเมื่อครู่นี้……

เฟิ่งชิงเฉินถอนหายใจออกมา เซวียนเฟยคงไม่ตายง่ายๆ ด้วยความเร็วและระยะห่างเมื่อครู่นี้ นางทำได้แค่เพียงยิงหัวใจ ไม่สามารถยิงที่หน้าผากได้

“นังคนชั่ว เจ้าบังอาจลอบสังหารข้าหรือ เจ้าตายแน่ เผ่าเสวียนเซียวกงไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่นอน” เซวียนเฟยผิวปากส่งสัญญาณ และทันใดนั้น กลุ่มคนบางส่วนที่วิ่งไปตามหวังจิ่นหลิงก็รีบย้อนกลับมาในทันที

“ฆ่ามัน!” เซวียนเฟยสะบัดแส้ แรงเหวี่ยงของแส้ทำให้เส้นผมสีดำของนางพลิ้วไหว 36 ขุนพลสวรรค์เห็นดังนั้นแล้วก็รู้ได้ทันทีว่าคุณหนูของพวกเขากำลังโมโหจนถึงขีดสุดแล้ว หากผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคุณหนูไม่ตาย คนที่จะตายก็ต้องเป็นพวกเขา

คุณหนูใหญ่แห่งชนเผ่าเสวียนเซียวกงมีเพียงแค่คนเดียว ส่วน 36 ขุนพลสวรรค์มีคนจำนวนมาก ถึงตายไปก็หาคนอื่นมาแทนได้ เพื่อความอยู่รอด พวกเขาจึงไม่อาจปล่อยให้ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้ามีชีวิตรอดต่อไปได้

“ฆ่ามัน!” 36 ขุนพลสวรรค์พอจะรู้หลักการใช้อาวุธของเฟิ่งชิงเฉินมาคร่าวๆ หากเฟิ่งชิงเฉินจะกราดยิงพวกเขาอีกคงไม่ใช่เรื่องง่าย……

ไม่รู้ว่าใครมาถีบเอวเฟิ่งชิงเฉิน นางรู้สึกว่าเหมือนถูกคนเหวี่ยงร่างของนางทิ้ง ก่อนที่ร่างของนางจะตกพื้นอย่างแรง ในช่วงที่นางกำลังมึนงงอยู่นั้น นางก็รู้ว่านางไม่มีแรงขยับตัวเสียแล้ว เพียงขยับเล็กน้อย ก็ทำให้นางเจ็บจนหน้านิ่วคิ้วขมวด

“อูย……” เฟิ่งชิงเฉินรู้ว่ากระดูกเอวของนางอยู่ผิดตำแหน่งแล้ว นางกัดฟันแล้วรวบรวมพละกำลังที่เหลืออยู่ดันตัวเองให้พลิกไปอีกด้าน และแล้วกระดูกนางก็เข้าที่ดังเดิม

โอ๊ย……เฟิ่งชิงเฉินโอดโอยและเผลอไปกัดลิ้นของตัวเอง ปากของนางเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด หน้าผากของนางเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ใบหน้าของนางก็ขาวซีดยิ่งนัก นางค่อยๆลุกขึ้นยืน แล้วยกปืนไปจ่อหน้าผากของเซวียนเฟย

“หยุด อย่าขยับ!”

นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

Status: Ongoing
ในยามวันมงคลสมรสของตนเอง นางตื่นสะลึมสะลือขึ้นมาที่ย่านชานเมือง ด้วยอาภรณ์ที่บางเบาและทั่วร่างที่สั่นเทา พร้อมกับสายตาดูหมิ่นที่จับจ้องมองมาที่นางมากมาย ทุกย่างก้าวที่เต็มไปด้วยเลือดกำลังย่างกรายเข้าสู่ราชวัง นางคือสตรีกำพร้าที่ไร้บิดามารดาคอยดูแล ส่วนเขาเป็นท่านอ๋องหน้ากากเหล็กที่อยู่เหนือกว่าทุกคนในใต้หล้า ทั่วร่างของนางที่เต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย ทั้งยังถูกทำให้อับอายขายขี้หน้า; เขาผู้ที่ไปมาไร้ร่องรอย หาผู้ใดมาเทียบเคียงได้ยาก นางต้องก้มหน้าคุกเข่าอย่างนอบน้อม เขาคือผู้ที่จ้องมองลงมาจากเบื้องบน เส้นทางของคนทั้งสองคนที่ต่างกันราวฟ้ากับเหว แต่กลับมาบรรจบพบพานด้วยความบังเอิญ อาภรณ์ที่อบอุ่นผืนนั้น ปกปิดคราบสกปรกบนเนื้อตัวของนาง โดยแลกมาด้วยความรักชั่วชีวิตของตนเอง แพทย์หญิงผู้มากความสามารถจากยุคศตวรรษที่ 21 ทั่วทั้งกายและใจของนางมอบให้แต่เขาเพียงผู้เดียว เขาผู้อยู่เหนือผู้คนในใต้หล้า คมดาบที่อาบไปด้วยเลือดมากมาย นางสามารถละทิ้งทุกอย่างได้ ขอเพียงแค่ชาตินี้ ขอให้นางได้ครองรักเช่นสามีภรรยา ความรักที่ไร้ขอกังหา ไม่ว่าจะเป็นหรือตายนางล้วนไม่สนใจ แต่เขากลับมอบคมดาบเพื่อปลิดชีพนาง…………

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท