นางสนมแพทย์อัจฉริยะ บทที่ 742-1 ข้ายึดอำนาจแล้วทำไม
เผ่าเสวียนเซียวกง ข้าขอยึดมัน!
เสด็จอาเก้านี่จะไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลยหรืออย่างไร อยู่ในติดแดนของผู้อื่น แต่กลับพูดจาไม่เกรงใจออกมาเช่นนี้ อย่าว่าแต่ผู้นำเลย ขนาดรูปปั้นในตำหนักได้ยินอย่างรู้สึกโกรธ
คำพูดนี้นอกจากเซวียนเส้าฉี ทำให้คนของเผ่าเสวียนเซียวกงทั้งหมดไม่มีความสุข ในตอนนั้นศิษย์ทั้งสิบแปดขมวดคิ้วขึ้นมา มองไปยังเสด็จอาเก้าด้วยความไม่พอใจ แต่ไม่ได้ลงมือ เนื่องจาก……
เซวียนเส้าฉีหันมาส่ายหัวให้พวกเขา
ยังไงก็ต้องเห็นแก่หน้าองค์ชายน้อย ศิษย์ทั้งสิบแปดมองมายังท่านผู้นำ หวังว่าเขาจะพูดอะไรออกมาสักคำ พวกเขาจำเป็นต้องไว้หน้าองค์ชายน้อย แต่ท่านผู้นำนั้นไม่จำเป็น
ผู้นำเผ่าเสวียนเซียวกงไม่ทำให้ศิษย์ทั้งสิบแปดผิดหวัง ตอบสนองออกมาด้วยความโกรธ มองไปยังเสด็จอาเก้าด้วยใบหน้ามืดมน พูดออกไปอย่างเย่อหยิ่ง “ยึดดินแดนแห่งเผ่าเสวียนเซียวกงของข้า? เจ้านะหรือ?”
ตอนที่สายตาจ้องมองไปยังร่างของเฟิ่งชิงเฉิน มันเป็นสายตาซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักอันอบอุ่น มันทำให้เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกหนาวสั่น
ผู้ชายคนนี้เปลี่ยนอารมณ์ได้ไวเหลือเกิน
เสด็จอาเก้าไม่ได้พูดอะไร มองไปยังผู้นำด้วยสายตาอันเย็นเยือก จากนั้นก็ดึงสายตาของเขากลับมา ไม่เห็นอีกฝ่ายอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย เขากล้าพูดออกมาเช่นนี้ แน่นอนว่ามันต้องมีเหตุผล เขาไม่เพียงแค่ต้องการยึดเผ่าเสวียนเซียวกงเท่านั้น แต่ยังต้องการเปลี่ยนมันให้เป็นสนามรบแห่งแรกของเขากับตงหลิง ซีหลิง และหนานหลิง
เสด็จอาเก้าหันไปใช้สายตากับเซวียนเส้าฉีเพื่อบ่งบอกให้อีกฝ่ายพูดทุกอย่างให้จัดเจน เซวียนเส้าฉีพยักหน้า ก้าวออกมายืนอยู่ข้างเสด็จอาเก้า จ้องมองไปยังพ่อของตนเอง “ข้าเอง! ข้าเห็นด้วยกับการยึดเผ่าเสวียนเซียวกงของเสด็จอาเก้า ท่านพ่อ”
เสียงไม่ได้ดังแต่ทุกคำพูดนั้น ทุกคนต่างได้ยินอย่างชัดเจน ตอนนี้ที่เผ่าเสวียนเซียวกง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคำพูดของเขา
“เจ้า เจ้าลูกเนรคุณ เจ้ากลับชาติมาเกิดหรืออย่างไร?” ร่างกายของผู้นำสั่นเทา ไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ตนเองได้ยิน
“ท่านพ่อจะว่าใช่มันก็คงใช่ ข้าอธิบายออกไปท่านก็คงไม่มีทางฟัง ในสายตาของท่านพ่อ ข้าไม่เคยทำอะไรถูกอยู่แล้ว ตอนนั้นข้าบอกท่านว่าอย่าแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ ท่านบอกว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของท่าน ตอนนี้……ท่านก็คิดว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของข้าแล้วกัน” เซวียนเส้าฉีไม่ได้อธิบาย แต่คำพูดเพียงประโยคเดียวของเขากลับผลักความรับผิดชอบทั้งหมดออกไป
ใช่ ตอนนั้นเซวียนเส้าฉีห้ามไม่ให้ผู้นำแต่งงานกับฮูหยิน ก็เพราะไม่อยากให้เขาถูกหลอก ตอนนี้ถือการทำเพื่อเผ่าเสวียนเซียวกง ทำไมผู้นำถึงคิดไม่ได้ ลูกศิษย์ทั้งสิบแปดมีความคิดเห็นอย่างไร ตอนนี้จิตสังหารของทั้งสิบแปดคนจางลง พวกเขาสลายมันไปโดยไม่รู้ตัว
ตอนนี้เผ่าเสวียนเซียวกงกำลังอยู่ในภาวะวิกฤต ขอแค่ส่งผลดีกับเผ่าเสวียนเซียวกง พวกเขาจะสนับสนุนอย่างเต็มที่
แม้จะเปลี่ยนแปลงไปเพียงเล็กน้อย แต่ ณ ที่แห่งนี้ก็ไม่มีใครเป็นคนโง่ แววตาของผู้นำเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก ตอนนี้เขาเองก็ไม่สนใจที่จะถามเรื่องของลู่อีหรานกับลู่อี่โม่ เขาแค่อยากรู้ว่า……
“เจ้าจะเอาอย่างไร?” เส้นเลือดบนใบหน้าของผู้นำโป่งขึ้น แสดงให้เห็นว่าเขายังไม่ชัดเจน เผชิญหน้ากับอำนาจและความรักจอมปลอม เขาต้องการอำนาจมากกว่านี้ แม้ในสถานการณ์ปัจจุบันเขาจะควบคุมอำนาจนั้นไม่ไหวก็ตาม
“ท่านพ่ออายุมากแล้ว ถึงเวลาพักผ่อน ความสัมพันธ์ของท่านพ่อกับฮูหยินนั้นดีเสมอมา ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปท่านทั้งสองใช้ชีวิตวัยชราอยู่ในตำหนักในสบาย ท่านพ่อวางใจ ลูกชายคนนี้จะกตัญญูและปฏิบัติตามคำสอนของท่าน ลูกรู้ว่าคนที่ท่านพ่อรักนอกจากฮูหยินแล้วยังมีเซวียนเฟยและลู่อีหรานอีก ข้าจะให้พวกเขาทั้งสองเข้ามา ให้พวกเขาดูแลพวกท่าน……ไปจนตาย!” ที่ผ่านมาเซวียนเส้าฉีเป็นคนอบอุ่นอยู่เสมอ แต่เมื่อเขาโหดร้ายขึ้นมา เขาก็พร้อมจะโหดร้ายกับทุกคน ดูจากคำพูดนี้ของเขาก็รู้แล้ว
ในวันนี้สิ่งที่พ่อของเขาสูญเสียไปนั้นไม่ใช่แค่ความรักของเขาอย่างเดียวเท่านั้น มันรวมถึงการสูญเสียอำนาจด้วย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พ่อของเขาจะไม่เหลืออะไรเลย
“ปัง ปัง” เซวียนเส้าฉีปรบมือ เสียงฝีเท้าดังขึ้นมาจากด้านนอก “พาตัวเซวียนเฟยและเซวียนเส้าเจี๋ยเข้ามา”
นี่คือการรัฐประหารในพระราชวัง!
ผู้นำจ้องเขม้นไปที่เซวียนเส้าฉี เขารับรู้ในทันทีว่าตนเองไม่เข้าใจลูกชายคนนี้เลยสักนิด ลูกชายของเขาผู้นี้ยึดอำนาจในมือของเขาโดยที่เขาไม่รู้ตัว ยึดเผ่าเสวียนเซียวกงไปอยู่ในครอบครอง เขาทำได้อย่างไร
เซวียนเส้าฉีส่งคนไปจับตัวเซวียนเส้าเจี๋ยและเซวียนเฟยไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ทั้งสองคนถูกมัดเอาไว้ ถูกผ้ายัดปาก ไม่สามารถส่งเสียงออกมาได้
ทันทีที่ทั้งสองคนเข้ามา พวกเขาส่งเสียงพึมพำเพื่อขอความช่วยเหลือ ไม่เห็นเสด็จอาเก้าและองค์ชายใหญ่ ในตอนที่เห็นใบหน้าของเซวียนเฟย ความรังเกียจเกิดขึ้นทันที
ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยี เรื่องดี ๆ ไม่ทำ ทำแต่เรื่องสร้างปัญหา เขาทำให้ใบหน้าของเซวียนเฟยคล้ายกับเฟิ่งชิงเฉินเป็นอย่างมาก นี่เขาตั้งใจใช่ไหม?
ฮัดชิ้ว ฮัดชิ้ว
ปรมาจารย์แห่งหุบเขาซวนยีจามออกมา เงยหน้ามองท้องฟ้าด้านนอก ดวงตาที่มีรอยย่นของเขาเป็นประกายด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ราวกับเด็กที่ประสบความสำเร็จในการก่อกวน
ใช่ เขาตั้งใจทำให้มันเป็นแบบนี้!
“เส้าฉี เจ้าจะทำอะไร? พวกเขาคือน้องชายและน้องสาวของเจ้า” แม้ผู้นำจะเกลียดฮูหยินที่หลอกลวงเขา แต่เด็กสองคนที่อยู่ด้านหน้า ไม่ว่าอย่างไรมันก็เป็นสายเลือดของเขา
“น้องชาย ? น้องสาว? คิดไม่ถึงเลยว่าลูกจอมปลอมพวกนี้จะสำคัญกับท่านพ่อ” เซวียนเส้าฉีเปิดโอกาสให้ลู่อีหรานอีกครั้ง
ลู่อีหรานเห็นว่าโอกาสของนางมาถึงแล้วก็ลุกขึ้นมาจากพื้นด้วยความยากลำบาก ล้มลงอีกครั้ง แต่ก็อยากจะลุกขึ้นมาด้วยความเย่อหยิ่ง ดวงตาอันสวยงามของนางเต็มไปด้วยการกล่าวหาและการตำหนิ
“พระสวามี ท่านสงสัยข้าเพียงเพราะคำพูดของคนพวกนี้เพียงไม่กี่คำอย่างนั้นหรือ? พวกเราอยู่กันมาตั้งสิบแปดปี ท่านลองมองไปที่เส้าเจี๋ยและเสี่ยวเฟย ท่านลองมองไปที่พวกเขา ท่านยังจะสงสัยข้าอยู่อีกอย่างงั้นหรือ? ท่านไม่คิดว่ามันจะทำร้ายจิตใจของข้ามากเกินไปอย่างนั้นหรือ?
พระสวามี ถึงตอนนี้ท่านยังไม่เข้าใจอีกอย่างนั้นหรือ? นี่เป็นเกม เกมที่เส้าฉีสร้างมาเพื่อท่าน เขาใช้ประโยชน์จากผู้หญิงที่มาหน้าตาเหมือนข้ามาทำให้ท่านเสียสติ เพื่อควบคุมศิษย์ทั้งสิบแปดคน
เส้าฉีแอบบงการเผ่าเสวียนเซียวกงอย่างลับ ๆ มาตั้งนานแล้ว ขอแค่ได้ศิษย์ทั้งสิบแปดไปอยู่ในครอบครอง เผ่าเสวียนเซียวกงก็จะตกเป็นของเขา พระสวามี อี่โม่ขอร้องท่าน ได้โปรด ได้โปรดคืนสติเสียที อย่าปล่อยให้เด็กคนนี้หลอกล่อต่อไป อย่าปล่อยให้เผ่าเสวียนเซียวกงตกไปอยู่ในมือของเส้าฉี
พระสวามี ข้าไม่กลัวตาย แต่เสี่ยวเฟยกับเส้าเจี๋ยเล่า? พวกเขายังเด็ก จะปล่อยให้พวกเขาเป็นอะไรไม่ได้ พระสวามี ถือว่าอี่โม่ขอร้องท่าน ขอร้องท่านเป็นครั้งสุดท้าย ท่านได้โปรดช่วยเสี่ยวเฟยกับเส้าเจี๋ยด้วยเถิด หากท่านสงสัยในตัวข้า ไม่เป็นไร หลังจากเรื่องนี้จัดการเรียบร้อยแล้ว ข้าจะยอมตายต่อหน้าท่าน ใช้เลือดของข้าชำระความคับข้องใจ”
ลู่อีหรานพูดออกมาอย่างชอบธรรม การแสดงของนาง แม้แต่เฟิ่งชิงเฉินก็อยากจะปรบมือให้
ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ แต่น่าเสียดายที่นางห่วงชีวิตของนางมากเกินไป หากยอมตายตอนนี้ ตายเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ แบบนั้นมันจะสามารถเป็นเครื่องพิสูจน์อันยิ่งใหญ่ได้
เซวียนเส้าฉีน่าสงสารเหลือเกิน อีกฝ่ายร้ายถึงขนาดนี้ หลายปีที่ผ่านมาเขาน่าจะทรมานเป็นอย่างมาก มีชีวิตได้มาถึงทุกวันนี้คงไม่ใช่เรื่องง่าย
ในตอนนี้เซวียนเฟยและเซวียนเส้าเจี๋ยเองก็คายผ้าที่อยู่ในปากออกมา เซวียนเฟยทำได้เพียงร้องไห้เท่านั้น “ท่านพ่อ ท่าแม่ ช่วยข้าด้วย ช่วยข้าด้วย ข้าไม่อยากตาย ข้ายังไม่อยากตาย……”
“ท่านพ่อ ท่านทำอะไรกับท่านแม่อย่างนั้นหรือ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ท่านพ่อกับท่านแม่ทะเลาะกันอย่างนั้นหรือ พี่ชายจับขากับเสี่ยวเฟยมัดไว้ แถมยังพาสามคนที่ทำร้ายเสี่ยวเฟยเข้ามาในตำหนักของเผ่าเสวียนเซียวกง เผ่าเสวียนเซียวกงของพวกเราจะเปลี่ยนผู้นำแล้วอย่างนั้นหรือ?” เซวียนเส้าเจี๋ยเหมือนกับแม่ของเขาเป็นอย่างมาก เขาเป็นคนฉลาด เพียงแค่ประโยคเดียวสามารถคาดเดาทุกสิ่งที่เซวียนเส้าฉีทำได้อย่างแม่นยำ
แต่น่าเสียดาย……
ตอนนี้เซวียนเส้าฉีจำเป็นต้องสนใจไหม? เขาจะต้องสนใจว่าพ่อของเขาจะตำหนิเขาว่าอย่างไรหรือไม่? ไม่มีทาง……
“เส้าเจี๋ย เจ้าฉลาดมาก สมแล้วที่เป็นลูกชายที่ท่านพ่อรักมากที่สุด ใช่ เผ่าเสวียนเซียวกงกำลังเปลี่ยนผู้นำ” เซวียนเส้าฉีพูดความทะเยอทะยานของเขาอย่างไม่ใส่ใจ และไม่สนว่าคนที่อยู่ที่นี่จะคิดอย่างไร
เขาจะยึดอำนาจแล้วมันทำไม มีความสามารถก็มาฆ่าเขาสิ!