ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 178
แม่ที่ไม่ช่วยเหลือลูกชายของตัวเองนั้นหาได้ยากในสังคมที่นางเคยอาศัยอยู่ อย่างไรก็ตามในยุคนี้ หลังจากมีประสบการณ์การต่อสู้กับจวนมหาเสนาบดี นางรู้สึกว่าสถานะพ่อแม่ลูกที่ผิดปกติ ผู้คนต่างยอมรับได้โดยง่าย เป็นเพราะอยู่ใกล้ศูนย์กลางอำนาจหรือไม่? ดังนั้นทุกสิ่งทุกอย่างรวมทั้งความสัมพันธ์ในครอบครัว ล้วนอ่อนแอลงเพราะอำนาจ
ซูชิงคิดเกี่ยวกับคำถามของจื่ออานอย่างจริงจัง จากนั้นก็กล่าวเพียงว่า “กุ้ยไท่เฟยคือมารดาของท่านอ๋อง”
จื่ออานล้างมีดเล็กน้อย “มันคือเรื่องจริง จุดนี้ใคร ๆ ก็รู้”
ซูชิงไม่พูดอะไร ราวกับว่าเขาไม่เจอสิ่งที่สามารถพูดออกมาได้
จื่ออานถามอีกครั้งว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างอ๋องหนานหวายกับท่านอ๋องเป็นอย่างไรบ้าง?”
“มันแย่กว่าความสัมพันธ์ของท่านกับเซี่ยหวานเอ๋อเล็กน้อย” ซูชิงกล่าวอย่างเฉยเมย
“มีสาเหตุไหม? ระหว่างพี่น้องคงจะไม่ห่างเหินกันโดยไร้เหตุผล?”
ซูชิงวางปลาลงบนเขียง “อ๋องหนานหวายฉลาดมากตั้งแต่ตอนที่เขายังเป็นเด็ก คนฉลาดย่อมไม่ชอบคนที่ฉลาดกว่าตัวเอง”
คำพูดเหล่านี้ดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา แต่สามารถขยายความเรื่องราวได้มากมาย จื่ออานเข้าใจแล้ว
สุดท้ายซูชิงกล่าวเสริมว่า “คนที่ทำให้ความขัดแย้งรุนแรงขึ้น น่าจะเป็นคุณหนูโหรวเอ๋อ อ๋องหนานหวายหลงใหลคุณหนูโหรวเอ๋อมาก แต่คุณหนูกลับชอบเล่นสนุกกับท่านอ๋อง”
ผู้หญิง? จื่ออานถอนหายใจเบา ๆ ผู้กล้ายากฝ่าด่านหญิงงาม คุณหนูโหรวเอ๋อผู้นี้ เกรงว่าสองคนพี่น้องจะชอบผู้หญิงคนเดียวกันสินะ?
จื่ออานไม่รู้ว่าทำไมถึงมีความเศร้าผุดขึ้นมาในหัวใจ
“คุณหนูโหรวเอ๋อคือใครหรือ?” จื่ออานรู้ว่าไม่ควรถามอะไรมากมายที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวนาง แต่ว่าก็ได้ถามออกไปแล้ว
“คุณหนูโหรวเอ๋อ เป็นเจ้าเมืองโหรวเหยา และเป็นลูกพี่ลูกน้องของท่านอ๋อง”
ท่านเมืองโหรวเหยา? จื่ออานระดมสมองครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับท่านเมืองโหรวเหยาอยู่ในสมองเลย เห็นได้ชัดว่าท่านของร่างคนเดิมก็ไม่เคยได้ยินชื่อของคนผู้นี้มาก่อน
แต่ท่านของร่างคนเดิมก็อยู่แต่ในจวนมหาเสนาบดีมาโดยตลอด ใช้ชีวิตอย่างสันโดษ ไม่รู้เรื่องราวที่มีอยู่อย่างมากมายจากโลกภายนอก
ทุกอย่างเป็นไปตามที่จื่ออานคาดไว้ เรื่องการอภิเษกระหว่างเซี่ยหว่านเอ๋อกับองค์รัชทายาทก็ได้ถูกยกขึ้นมาพูด
ในวันที่เจ็ดของการหายตัวไปของผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิ และเป็นวันที่สองที่อ๋องหนานหวายกลับมาที่เมืองหลวง เหลียงไท่ฟู่ได้นัดพบกับมหาเสนาบดีเซี่ยอย่างเป็นทางการ
จุดประสงค์ของเหลียงไท่ฟู่นั้นง่ายมาก นั่นคือเพื่อหารือเกี่ยวกับการปกครองบ้านเมืองขององค์รัชทายาท เพราะว่าในวันพรุ่งนี้ เมื่อราชทูตของเป่ยโม่เข้ามาในเมืองหลวง หวงไท่โฮ่วจะต้องจัดงานเลี้ยงต้อนรับ
นี่เป็นโอกาสที่ดี ที่สามารถกดดันหวงไท่โฮ่วที่อยู่ต่อหน้าราชทูต ให้องค์รัชทายาทดูแลปกครองบ้านเมืองได้
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนมหาเสนาบดีเซี่ยจะมาพูดคุยเล่น โดยกล่าวว่าองค์รัชทายาทช่วงนี้มักจะพักอยู่ที่จวนมหาเสนาบดี
“บางครั้งเมื่อข้าเห็นพวกเขาสองคน ข้าก็มักจะนึกถึงตอนที่ข้าอยู่กับซุ่ยหยู ช่างเป็นปีที่ไร้กังวลเสียจริง” มหาเสนาบดีเซี่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เมื่อเหลียงไท่ฟู่ได้ยินสิ่งนี้ เขาก็เข้าใจว่าจิ้งจอกเฒ่านี่ต้องการใช้สิ่งนี้บีบบังคับองค์รัชทายาทให้อภิเฺษกกับเซี่ยหว่านเอ๋อ
เขาอารมณ์เสียมาก แต่ในตอนนี้ เขาทำได้เพียงพูดจาแบบขอไปทีว่า “มหาเสนาบดีเซี่ยอายุยังน้อยไม่แก่ไปกว่าข้า จะว่าไปแล้วองค์รัชทายาทก็ควรแต่งงานได้แล้ว วันนี้ข้าก็จะเข้าไปในวัง จะได้พูดเรื่องนี้กับฮองเฮา”
มหาเสนาบดีเซี่ยยกมุมปากขึ้น “ไท่ฟู่ทำงานหนักมากเพื่อองค์รัชทายาท เมื่อองค์รัชทายาทขึ้นครองราชในอนาคตก็จะไม่มีวันลืมผลงานของไท่ฟู่เป็นแน่”
เหลียงไท่ฟู่ที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ ก็รู้ว่าเขาเห็นด้วยแล้ว แน่นอนว่าก่อนอื่นเขาจะต้องวางแผนเรื่องการอภิเษกสมรสขององค์รัชทายาทกับเซี่ยหว่านเอ๋อก่อน”