ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ – บทที่ 209

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 209

ไม่ช้าหยวนซื่อก็ตระหนักได้ถึงความจริง สีหน้าของนางเปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นนางก็กลับมาสงบนิ่งอีกครั้ง

“ข้ามองไม่เห็นแล้วใช่หรือไหม” น้ำเสียงของนางนิ่งสงบไร้ความสั่นไหว

จื่ออันเงียบไปครู่หนึ่งและกล่าวว่า “แค่ชั่วคราว อาจเป็นเพราะเส้นประสาทตาถูกกดทับอันเนื่องมาจากการที่สมองได้รับการกระทบกระเทือนจนบาดเจ็บ”

“อืม ไม่เป็นไร” นางกล่าว และคลำหามือของจื่ออันและจับมันไว้ “ตาของข้าบอดมานานแล้ว บอดมาหลายปีแล้ว”

สิ้นคำสุดท้ายนางก็ถอนหายใจเบา ๆ แทบจะไม่ได้ยินเสียงเลย น้ำเสียงของนางนิ่งสงบมาก ไม่มีร่องรอยของความขุ่นเคืองแม้แต่น้อย แต่คำพูดนี้ที่ดังเข้าไปในหูของจื่ออันกับมู่หรงจ้วงจ้วง กลับรู้สึกเศร้าสลดอย่างบอกไม่ถูก

หากนางพูดอย่างตื่นเต้นหรือโมโห อารมณ์ความโศกเศร้าจะไม่รุนแรงนัก

“บอกข้ามา มันเกิดเรื่องขึ้นได้อย่างไร?” จื่ออันอดกลั้นต่อความโกรธที่มีในหัวใจ และถามออกไป

“เราอยู่ที่ไหน?” หยวนซื่อถามกลับ

มู่หรงจ้วงจ้วงตอบ “ฮูหยิน พวกเราอยู่ที่โรงหมอ ท่านมีอะไรก็พูดมาเถิด ข้าอยู่ที่นี่แล้ว”

ท่าทางของหยวนซื่อผ่อนคลายลง “องค์หญิงก็อยู่ที่นี่ด้วยหรือ? ดีเลย”

นางจับมือของจื่ออันไว้และลุกขึ้นนั่ง จื่ออันรองหมอนนุ่ม ๆ ไว้ตรงเอวและหลังศีรษะของนาง หมอของที่นี่ได้ยื่นน้ำให้นาง

จื่ออันช่วยประคองให้หยวนซื่อดื่มน้ำสักเล็กน้อย จากนั้นก็กล่าว “เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ทำไม เซี่ยหวายจุนถึงผลักท่านลงไป”

หยวนซื่อโบกมือ “ไม่ใช่เขา…”

จ้วงจ้วงมีทีท่าโกรธเคือง “ท่านยังพูดแก้ตัวให้เขาอีกหรือ? เมื่อครู่นี้ท่านยังบอกว่าพวกเขาผลักท่านนี่”

หยวนซื่อกล่าว “องค์หญิงพระทัยเย็นลงก่อนเถิด เซี่ยหวายจุนไม่ได้อยู่บนรถม้า คนที่ผลักก็คือ ฮูหยินหลิงหลงกับบุตรสาวของนาง”

“ทำไม?” จ้วงจ้วงพูดอย่างโมโห “ทำไมพวกนางถึงผลักท่านให้ร่วงลงไป?”

หยวนซื่อยิ้มอย่างเฉยเมย “คำพูดพวกนั้นที่หม่อมฉันพูดในวังทำให้นางอับอาย นางจะปล่อยหม่อมฉันไปง่าย ๆ ได้เช่นไรเล่า? เพียงแต่หม่อมฉันไม่คิดว่านางจะใจร้อนถึงเพียงนี้ ไม่รอให้กลับถึงจวนก่อน แต่กลับลงมือระหว่างทาง”

“รถม้าคันนี้ไม่มีทหารองครักษ์ติดตามไปด้วย มีเพียงคนขับรถม้าที่ส่งพวกท่านสามคนกลับไปหรือ?” จื่ออันกล่าวถาม

“ครั้งนี้ที่เข้าวังมาเดิมทีก็ไม่ได้พาคนมามากมายอยู่แล้ว คนอื่น ๆ ก็ติดตามเขาไป เขาเพียงสั่งคนขับรถม้าให้ส่งพวกเราทั้งสามกลับจวน” หยวนซื่อกล่าว

“เป็นเพราะสิ่งที่ท่านพูดในวัง พวกเขาถึงกับผลักท่านให้ร่วงลงจากรถม้าเลยหรือ? ชั่วร้ายเยี่ยงนี้ มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ?” มู่หรงจ้วงจ้วงโกรธมาก กล้าทำเรื่องอุกอาจในเขตเมืองหลวง ฮูหยินหลิงหลงผู้นี้กินดีหมีหัวใจเสือมาจากไหน?

ดีร้ายอย่างไรหยวนซื่อผู้นี้ก็เป็นภรรยาเอกของมหาเสนาบดีนะ

หยวนซื่อกล่าว “น้ำแข็งหนาสามคืบ มิใช่เกิดจากความหนาวเพียงวันเดียว”

มู่หรงจ้วงจ้วงมองไปที่จื่ออัน “เจ้าพูดมาจะจัดการกับพวกนางอย่างไร? ข้าต้องช่วยเจ้าแน่”

จื่ออันนั่งลงที่ขอบเตียงและถลกขากางเกงขึ้น มีดสั้นถูกผูกด้วยผ้าไหมไว้ที่บริเวณขากางเกง มู่หรงเจี๋ยเป็นคนมอบให้นาง

นางดึงมีดสั้นออกมา เหล็กสีดำเป็นประกายเงางาม ดูเหมือนว่ามันจะคมมาก

นางพูดช้า ๆ “ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินคนพูดกันว่า อาวุธก็มีชีวิตเช่นกัน พวกมันรู้วิธีที่จะติดตามเจ้าของ แต่ว่าเจ้าของต้องสังเวยเลือดให้มันเสียก่อน”

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

Status: Ongoing
แพทย์ทหารสายลับกลับกลายเป็นลูกสาวคนแรกของเสนาบดีที่ต้องทนรับการถูกข่มเหงรังแกจากพ่อและแม่เลี้ยง และต้องแต่งงานกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เผชิญกับหลุมพรางและแผนการร้ายมากมายด้วยทักษะการแพทย์ของเธอทำให้เธอสามารถต่อสู้ผ่านศึกสังหารระหว่างวัง แก้ปัญหาระหว่างรัฐได้ด้วยดี ลงโทษองค์รัชทายาทที่กระทำความผิด ช่วยชีวิตองค์จักรพรรดิเหลียง และกำจัดโรคระบาดที่รุนแรงจากบุตรสาวเสนาบดีที่ขี้ขลาดแปรเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่จิตใจแน่วแน่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์จักรพรรดิได้ “ถ้าเจ้าแอบหนีออกมาอีก ข้าจะตามไปขัดขวางเจ้า มีที่ไหนพระชายาที่กำลังตั้งครรภ์แล้วยังวิ่งไปทั่ว?”“เจียงตงเกิดโรคระบาด ข้าในฐานะหมอหลวงต้องรีบไปช่วยเป็นธรรมดา ถ้าท่านขัดขวางข้าโรคจะระบาดจะไปถึงเมืองหลวง” อ้อมแขนอันแข็งแกร่งโอบกอดพระชายาที่พูดไม่หยุด ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สเด็จกลับมาและกราบทูลว่า “ฮึ่ม หมอหลวงมีจำนวนมากพอแล้ว” ถ้าคุณตั้งครรภ์อยู่จะออกไปไหม? จิตใจดั่งพระโพธิสัตว์หรือไม่? หรือยืนหยัดต่อสู้กับโรคระบาดที่ร้ายแรงตอนนั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท