ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ – บทที่ 220

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 220

คำพูดนี้ทำให้ทุกคนที่อยู่ในสถานที่นี้ต่างก็เห็นว่าเหมาะสมแล้ว มีเพียงเซี่ยหว่านเอ๋อที่บอกว่าไม่เหมาะเป็นอย่างยิ่ง มู่หรงจ้วงจ้วงเผยรอยยิ้มออกมา “ต้องขออภัยจริง ๆ ข้าพูดผิดไปแล้ว”

เซี่ยหว่านเอ๋อมองไปทางองค์รัชทายาทตลอด รอดูท่าทีจากองค์รัชทายาท นางหวังว่าองค์รัชทายาทจะช่วยนางพูดสักหนึ่งหรือสองประโยค อย่างน้อยพูดกับมู่หรงจ้วงจ้วงว่างานสมรสของพวกนางได้กำหนดไว้แล้ว

แต่นางก็ต้องผิดหวัง เพราะองค์รัชทายาทไม่แม้แต่จะมองมาที่นาง มิหนำซ้ำยังไม่ช่วยนางพูดสักประโยค

กลับเป็นใต้เท้าเหลียงที่พูด “องค์หญิง ในเมื่อฮองเฮาได้ออกพระราชโองการแล้ว ก็หมายความว่าเรื่องมันสำเร็จแล้ว แต่พระชายาของผู้สำเร็จราชการกลับยังมิมีการยืนยันอันใด มีเพียงแค่การพูดคุยกันเท่านั้น”

ราชครูมิได้ถูกมู่หรงจ้วงจ้วงและจื่ออันเปลี่ยนเรื่องได้สำเสร็จ เพราะราชครูมองออกว่านี้เป็นการยื้อเวลาของทั้งสองคน จึงพูดกับใต้เท้าเหลียงว่า” ใต้เท้า จากความเห็นของท่านแล้ว คดีนี้ควรจะตัดสินเยี่ยงไร? ”

ใต้เท้าเหลียงตอบกลับ “เรียนราชครู จากคำให้การของฮูหยินหลิงหลงและคุณหนูรอง รวมกับคำพูดของคุณหนูใหญ่และองค์หญิง สามารถสรุปเหตุการณ์ได้ว่า คุณหนูใหญ่กล่าวหาว่าฮูหยินหลิงหลงและคุณหนูรองผลักนายหญิงตกจากรถม้า แต่ไม่มีพยานหลักฐาน มิอาจเชื่อได้ แต่คุณหนูใหญ่ทำร้ายฮูหยินหลิงหลงและคุณหนูรอง มีองค์รัชทายาทและองค์รักษ์มากมายเป็นพยาน คนของโรงหมอก็สามารถเป็นพยานได้ ข้าคิดว่า คดีนี้ค่อนข้างจะร้ายแรง… ”

ใต้เท้าเหลียงยังพูดไม่จบ กลับได้ยินคำรายงานจากประตูห้องว่า “ท่านอ๋องหลี่เสด็จ”

อ๋องหลี่มู่หรงไค พระโอรสองค์ที่สามของอดีตฮ่องแแต้ ถูกเรียกว่าอ๋องหลี่ เพราะเป็นดั่งผู้อาวุโสในตระกูลมู่หรง

ฝูงชนทั้งหลายเมื่อได้ยินว่าพระองค์เสด็จ ต่างก็หน้าเปลี่ยนสีกัน เป็นที่รู้กันดีว่า อ๋องหลี่ผู้นี้ใช้ชีวิตไม่ผิดไปจากชื่อของพระองค์ สิ่งใดก็ต้องล้วนแต่รักษาความซื่อสัตย์เอาไว้ หลักปฏิบัติกับฮ่องเต้ หลักปฏิบัติกับพี่น้อง หลักปฏิบัติกับเรือนหลัง หากใช้คำพูดจากแพทย์แผนปัจจุบันออกมากล่าวคือ พระองค์ค่อนข้างที่จะย้ำคิดย้ำทำ หากมีอะไรที่มิถูกมิควร ก็จะทรงจัดการให้ถูกต้อง

คนมากมายต่างหวาดกลัวต่อพระองค์ และมิมีผู้ใดกล้าที่จะล่วงเกินพระองค์

มหาเสนาบดีเซี่ยมองไปยังจื่ออัน ภายในใจกรุ่นโกรธ เดิมคิดว่านางลากเพียงแค่มู่หรงจ้วงจ้วงมาเป็นที่พึ่งพิง ในสายตาของพวกเขามู่หรงจ้วงจ้วงไม่มีอะไรน่ากลัว เพราะมู่หรงจ้วงจ้วงไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ และรู้กฏหมายต้าโจวไม่มากนัก มิอาจใช้อำนาจใดหนุนหลังจื่ออันได้

คาดไม่ถึงว่านางยังจะเชิญอ๋องหลี่มาด้วย

อ๋องหลี่นำผู้ติดตามมาด้วยอีกสองคน เมื่อถึงหน้าประตูแล้ว จึงใด้รับสั่งให้ผู้ติดตามยืนเฝ้าหน้าประตู แล้วจึงเดินเข้ามาด้านใน เมื่อมองกลับไปก็เจอว่าตำแหน่งของผู้ติดตามทั้งซ้ายขวาเหมือนจะเยื้องกัน จึงถอยกลับไปอีกก้าวนึง จัดระเบียบผู้ติดตามทางด้านซ้ายไปประตูอีกนิด จนกระทั่งเหมือนกับว่าทั้งสองมิได้ยืนเยื้องกันแล้ว จึงเดินเข้ามา

อ๋องหลี่เดินเข้ามา ทุกคนจึงต้องลุกขึ้นยืนเพื่อทำความเคารพ

อ๋องหลี่มิได้สนใจด้วยซ้ำ เพียงเดินไปยังตรงหน้าของมู่หรงจ้วงจ้วง ทำความเคารพ “หลานคาราวะเสด็จอา”

มู่หรงจ้วงจ้วงเผยรอยยิ้มให้อ๋องหลี่ “เจ้าสาม เจ้ามาแล้วรึ!”

“รับสั่งของเสด็จอา หลานมิกล้าขัด!” อ๋องหลี่ตอบกลับด้วยใบหน้าแสดงความเคารพ

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

Status: Ongoing
แพทย์ทหารสายลับกลับกลายเป็นลูกสาวคนแรกของเสนาบดีที่ต้องทนรับการถูกข่มเหงรังแกจากพ่อและแม่เลี้ยง และต้องแต่งงานกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เผชิญกับหลุมพรางและแผนการร้ายมากมายด้วยทักษะการแพทย์ของเธอทำให้เธอสามารถต่อสู้ผ่านศึกสังหารระหว่างวัง แก้ปัญหาระหว่างรัฐได้ด้วยดี ลงโทษองค์รัชทายาทที่กระทำความผิด ช่วยชีวิตองค์จักรพรรดิเหลียง และกำจัดโรคระบาดที่รุนแรงจากบุตรสาวเสนาบดีที่ขี้ขลาดแปรเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่จิตใจแน่วแน่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์จักรพรรดิได้ “ถ้าเจ้าแอบหนีออกมาอีก ข้าจะตามไปขัดขวางเจ้า มีที่ไหนพระชายาที่กำลังตั้งครรภ์แล้วยังวิ่งไปทั่ว?”“เจียงตงเกิดโรคระบาด ข้าในฐานะหมอหลวงต้องรีบไปช่วยเป็นธรรมดา ถ้าท่านขัดขวางข้าโรคจะระบาดจะไปถึงเมืองหลวง” อ้อมแขนอันแข็งแกร่งโอบกอดพระชายาที่พูดไม่หยุด ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สเด็จกลับมาและกราบทูลว่า “ฮึ่ม หมอหลวงมีจำนวนมากพอแล้ว” ถ้าคุณตั้งครรภ์อยู่จะออกไปไหม? จิตใจดั่งพระโพธิสัตว์หรือไม่? หรือยืนหยัดต่อสู้กับโรคระบาดที่ร้ายแรงตอนนั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท