ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ – บทที่ 260

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 260

เฉินหลิวหลิ่วยังคงต้องการดูความสนุกสนาน แต่ก็รู้ว่าเรื่องในครอบครัวแบบนี้ไม่อาจซักถามต่อหน้าคนจำนวนมากได้ ดังนั้นจึงออกไปกับจื่ออันดีที่สุด

เมื่อมาส่งถึงที่ประตูแล้ว และหลังจากเฉินหลิวหลิ่วขึ้นรถม้าเรียบร้อยแล้วนั้น เหล่าไท่จวินก็จ้องไปที่จื่ออันทันที “เจ้าเด็กน้อย อุบายของเจ้าช่างแยบยล ใช้จัดการกับผู้อื่นข้าจะไม่ยุ่ง แต่ว่าเจ้าใช้ประโยชน์จากหลิวหลิ่ว ข้าไม่พอใจยิ่งนัก”

จื่ออันขอโทษ “มิมีเรื่องอันใดที่จะสามารถปิดบังจากสายตาของเหล่าไท่จวินได้เลย ข้าน้อยต้องขออภัยเหล่าไท่จวินด้วยนะเจ้าคะ”

“หึ มันก็สมควรอยู่แล้วที่เจ้าจะต้องขอโทษ เจ้าคิดว่าจะชดใช้อย่างไรจะดีกว่า!” เหล่าไท่จวินโกรธอย่างเห็นได้ชัด

จื่ออันยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “ครึ่งปีเจ้าค่ะ ข้าน้อยจะพาเซียวท่าไปส่งที่ห้องของหลิวหลิ่ว ไม่ทราบว่าไท่จวินพอใจหรือไม่เจ้าคะ?”

เหล่าไท่จวินหรี่ตามองนาง ดวงตาเคร่งขรึมจับจ้องที่ จื่ออัน และรอยย่นบนหน้าผากของนางก็ค่อย ๆ คลายลง “สามเดือน!”

“การจัดการกับคนที่หัวแข็งดื้อรั้นเช่นเซียวท่าผู้นี้ เกรงว่าจะต้องใช้เวลาถึงครึ่งปี!” จื่ออันถอนหายใจ

เหล่าไท่จวินคำนวณวันเวลา ยังพอมีเวลาอีกกว่าครึ่งปีก่อนที่หลิวหลิวจะอายุ 19 ปี ถ้านางสามารถแต่งงานได้ภายในครึ่งปีนี้มันก็ยังทันอยู่ แต่ว่าเวลาก็กระชั้นชิดเกินไป

“ไท่จวิน บุรุษที่ดีนั้นหายากนะเจ้าคะ สำหรับหลานเขยอย่างเซียวท่าแล้ว รอครึ่งปีก็ถือว่าคุ้มนะเจ้าค่ะ” จื่ออันเตือนสติ!

“จำคำพูดของเจ้าไว้ให้ดี หากครึ่งปีแล้วเจ้ายังไม่สามารถนำเซียวท่าใส่พานมาถวายได้ล่ะก็ ข้าจะปาอึใส่เจ้า!” ก่อนที่เหล่าไท่จวินจะขึ้นรถม้าไปได้กล่าวทิ้งท้ายเอาไว้

“……”

ในที่สุดจื่ออันก็ได้รู้ว่ากรรมพันธุ์คืออะไร และเป็นกรรมพันธุ์ที่ส่งทอดจากรุ่นสู่รุ่นบางทีอาจได้รับอิทธิพลจากสิ่งที่เห็น และได้ยินอย่างไม่รู้ตัว

ราวกับว่าเหล่าไท่จวินจะอยู่ในกองทัพมาก่อน อยู่ร่วมกับพวกทหารกลุ่มใหญ่ แน่นอนว่าย่อมจะพูดจาสกปรกเป็นกิจวัตรอยู่แล้ว

จื่ออันจำได้ว่าตอนที่นางอยู่ในกลุ่มสายลับพิเศษ เจ้าหน้าที่หลายคนพูดจาเต็มไปด้วยคำสบถ เอาแต่พูดถึงเรื่องอวัยวะของร่างกาย ทุกประโยคก็ล้วนเกี่ยวกับแม่ของตนเอง ไม่ก็แม่ของฝ่ายตรงข้ามอย่างเอาจริงเอาจัง

เมื่อส่งแขกออกไปหมดแล้ว มหาเสนาบดีเซี่ยกับฮูหยินผู้เฒ่าก็ไล่ให้ทุกคนออกไป แม้กระทั่งหยวนซื่อก็ไม่อาจอยู่ด้วยได้ ให้เหลือเพียงแต่หมอหลี่เพียงคนเดียวเท่านั้น

จื่ออันตรงกลับไปที่เซี่ยจื่อหย่วนทันที และเมื่อนางกลับมาถึง หยวนซื่อกับแม่นมหยางก็อยู่ที่นั่นแล้ว

ชู่อวี่ที่อยู่ที่ประตูมองเข้าไปด้านในอย่างระมัดระวัง ไม่กล้าที่จะเข้ามา

จื่ออันที่เห็นชู่อวี่ก็กล่าว “เจ้าเข้ามา!”

ชู่อวี่เข้าไปด้านในด้วยความหวาดกลัว คุกเข่าลงกับพื้น แล้วพูดด้วยสีหน้าที่แลดูสิ้นหวัง “คุณหนูใหญ่ บ่าวผิดไปแล้วเจ้าค่ะ ได้โปรดยกโทษให้บ่าวด้วย!” หลังจากนี้ไป นางจะไม่โง่เขลาคิดว่าฮูหยินหลิงหลงจะเหมือนเช่นแต่ก่อนได้อีก

จื่ออันนั่งอยู่หน้าระเบียง กำลังเล่นมีดสั้นอยู่ และแสงสะท้อนจากมีดนั้นก็ส่องประกายมา ทำให้ชู่อวี่ตัวสั่นด้วยความตกใจ

“คุณหนูใหญ่ไว้ชีวิตบ่าวด้วยเถิด ไว้ชีวิตบ่าวด้วยนะเจ้าคะ!” ชู่อวี่รีบหมอบลงขอความเมตตา

จื่ออันหัวเราะขึ้นมา “ช่างโง่เสียจริง เจ้าจะขอให้ไว้ชีวิตทำไม? เจ้าไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ หากวันนี้ไม่ใช่เพราะเจ้า งานของพวกเราก็คงจะไม่ราบรื่นเช่นนี้เป็นแน่”

ใบหน้าของชู่อวี่ซีดขาว “คุณหนูใหญ่ บ่าวไม่ได้ตั้งใจจะทำเช่นนั้น แต่ฮูหยินรองสั่งมา บ่าวไม่กล้าขัดคำสั่งเจ้าค่ะ”

“เหลวไหล!” เสี่ยวซุนก้าวไปข้างหน้าอย่างโกรธเคือง “เมื่อก่อนที่ฮูหยินของเราสั่งให้เจ้าไปทำเรื่องอะไร ก็ไม่เห็นว่าเจ้าจะไปทำใช่หรือไม่? ให้กวาดพื้นหรือเช็ดแจกันเจ้าก็ไม่ทำทั้งนั้น ตอนนี้ฮูหยินรองผู้นั้นให้เจ้าไปทำเรื่องต่ำช้า เจ้าก็กระตือรือร้นรีบไปทำเสียแล้ว แม้ว่าวันนี้คุณหนูใหญ่จะไม่โบยเจ้า แต่ข้าเสี่ยวซุนคนนี้จะไม่ให้อภัยเจ้าโดยเด็ดขาด”

พูดจบเสี่ยวซุนจึงถอดรองเท้าผ้าออก แล้วเอาไปทุบตีชู่อวี่

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

Status: Ongoing
แพทย์ทหารสายลับกลับกลายเป็นลูกสาวคนแรกของเสนาบดีที่ต้องทนรับการถูกข่มเหงรังแกจากพ่อและแม่เลี้ยง และต้องแต่งงานกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เผชิญกับหลุมพรางและแผนการร้ายมากมายด้วยทักษะการแพทย์ของเธอทำให้เธอสามารถต่อสู้ผ่านศึกสังหารระหว่างวัง แก้ปัญหาระหว่างรัฐได้ด้วยดี ลงโทษองค์รัชทายาทที่กระทำความผิด ช่วยชีวิตองค์จักรพรรดิเหลียง และกำจัดโรคระบาดที่รุนแรงจากบุตรสาวเสนาบดีที่ขี้ขลาดแปรเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่จิตใจแน่วแน่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์จักรพรรดิได้ “ถ้าเจ้าแอบหนีออกมาอีก ข้าจะตามไปขัดขวางเจ้า มีที่ไหนพระชายาที่กำลังตั้งครรภ์แล้วยังวิ่งไปทั่ว?”“เจียงตงเกิดโรคระบาด ข้าในฐานะหมอหลวงต้องรีบไปช่วยเป็นธรรมดา ถ้าท่านขัดขวางข้าโรคจะระบาดจะไปถึงเมืองหลวง” อ้อมแขนอันแข็งแกร่งโอบกอดพระชายาที่พูดไม่หยุด ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สเด็จกลับมาและกราบทูลว่า “ฮึ่ม หมอหลวงมีจำนวนมากพอแล้ว” ถ้าคุณตั้งครรภ์อยู่จะออกไปไหม? จิตใจดั่งพระโพธิสัตว์หรือไม่? หรือยืนหยัดต่อสู้กับโรคระบาดที่ร้ายแรงตอนนั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท