ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 309
เมื่อมู่หรงเจี๋ยได้เอ่ยประโยคนี้ออกมา ผู้คน ณ ที่แห่งนี้นอกจากอ๋องหลี่แล้ว ต่างก็ตะลึงงัน
แม้แต่จื่ออันก็ไม่ได้คาดว่าเขาจะจัดการเช่นนี้
ซีเหมินเสี่ยวเย่วใบหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก นางรู้สึกเครียดแค้นจนกัดฟันกรอด
จู่ ๆ ก็ได้พระราชทานให้เป็นเสี่ยนจู่ ช่างไร้สาระซะจริง จะต้องรู้ไว้ด้วยว่า เสี่ยนจู่และเกาหมิงฟูเหรินนั้นไม่เหมือนกัน เกาหมิงฟูเหรินถึงแม้จะเป็นเหมือนอี๋พิ่น ก็ไม่มีอำนาจใด มีเพียงตำแหน่งเท่านั้น ไม่มีที่ดินหรือของกำนัล
แต่เสี่ยนจู่นั้นไม่เหมือนกัน เสี่ยนจู่ของราชวงศ์ต้าโจว กว่าครึ่งเป็นพระสนมของอ๋องฉิน หรือบุตรสาวคนโตของจวินอ๋อง จึงจะสามารถแต่งตั่งให้เป็นเสี่ยนจู่ได้ แน่นอนว่ามีสตรีอื่นที่สามารถแต่งตั้งให้เป็นเสี่ยนจู่ได้ แต่ว่าจะต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถพิเศษ หรือเป็นผู้ที่มีคุณงามความดีแก่ราษฎรจึงจะสามารถแต่งตั้งให้เป็นเสี่ยนจู่ได้
นอกจากนี้ยังมีผู้ที่แต่งงานกับเมืองอื่น เป็นเพราะต้องมีการตอบรับการแต่งงานกับฝ่ายตรงข้าม จึงได้มีการแต่งตั่งให้เป็นกงจู่ จวินจู่ หรือเสี่ยนจู่
หยวนซื่อถึงแม้ว่าจะเป็นผู้ที่มีชื่อเสียง แต่หลังจากที่แต่งงานหลายปีมาแล้วจึงถูกแต่งตั้งให้เป็นเสี่ยนจู่ จึงทำให้มีผู้คนมากมายที่ไม่อาจจะยอมรับได้
ถึงแม้ว่าในอดีตและกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ก็มิได้เอ่ยถึงว่าผู้ที่ได้แต่งงานไปแล้วห้ามมิให้แต่งให้เป็นเสี่ยนจู่
เมื่อฟังดูแล้ว มู่หรงเจี๋ยต้องการที่จะดูแลหยวนซื่อ และเลื่อนขั้นให้แก่หยวนซื่อ
เพียงแต่ผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิหากต้องการจะดูแลหยวนซื่อ ใยถึงไม่แต่งตั้งเซี่ยจื่ออันเป็นเสี่ยนจู่โดยตรง? ทำไมถึงได้แต่งตั้งหยวนซื่อ
และยังมีที่ดินด้านหลังสวนดอกไม้ด้านหลังของจวนมหาเสนาบดีผืนนั้น หากประทานให้แก่หยวนซื่อ ก็เท่ากับว่าจวนมหาเสนาบดีก็มีส่วนหนึ่งที่เป็นของหยวนซื่อ?
ยิ่งจะทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าและมหาเสนาบดีเซี่ยที่ยังมีชีวิตอยู่โกรธจนตาย!
เป็นจริงดั่งว่า ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยออกมาเสียงเย็น “ท่านอ๋อง ที่ดินผืนนั้นที่สวนดอกไม้ด้านหลังนั้น หม่อมฉันได้จ่ายเงินชดเชยให้แก่ราษฎรเหล่านั้นแล้ว มิได้ติดค้างแม้แต่ตำลึงเดียว ท่านอ๋องพูดว่าจะยึดคืนก็จะยึดคืนได้เช่นไร?”
มู่หรงเจี๋ยส่งเสียงออกมา “ชดเชยหรือ? ทำไมข้าถึงได้ยินราษฎรร้องเรียนมาว่าได้ตั๋วเงินมา บอกว่าจวนมหาเสนาบดีจ่ายเงินชดเชยไม่สมเหตุสมผล ข้าเองก็เห็นตั๋วเงินแผ่นนั้น เป็นจิงจ้าวหยินส่งเข้ามา บอกว่าเนื้อที่สิบกว่าไร่ ฮูหยินผู้เฒ่าจ่ายเพียงห้าสิบตำลึง”
องค์รัชทายาทได้เอ่ยออกมา “เสด็จอา จิงจ้าวหยินไม่มีทางที่จะเขียนตั๋วเงินเยี่ยงนี้ออกมา”
จิงจ้าวหยินเป็นคนของราชครู และเป็นพรรคพวกเดียวกันกับองค์รัชทายาท ทำไมถึงได้มีส่วนร่วมกันกับจวนมหาเสนาบดีเซี่ย?
“องค์รัชทายาทพูดความจริงพ่ะย่ะค่ะ!” ราชครูเหลียงมองผ่านไปยังมู่หรงเจี๋ย คาดเดาว่าเขาคงจะรู้เรื่องราวแต่แสร้งเป็นไม่รู้ เขาเป็นดั่งพญาหงส์ไม่มีทางตกลงมา วันนี้ที่มาร่วมงานแต่งงานนั้น คงจะมีความคิดนี้ไว้แล้ว
องค์รัชทายาทยังคงไม่รู้เรื่องราว มองมายังราชครูด้วยความสงสัย คิดว่าราชครูไม่ได้เข้าใจความหมายของมู่หรงเจี๋ยในประโยคนั้น จึงได้เอ่ยเตือนอีกว่า “ราชครู เสด็จอา คงจะเป็นการมองพลาดไป จะต้องให้เขาช่วยตรวจสอบให้ถูกต้อง ตั๋วเงินนี้จึงได้ไปยังสำนักราชเลขานุการจากนั้นจึงได้ส่งไปยังห้องสมุดของผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิ เจ้าเป็นเสนาบดีสำนักราชเลขานุการฝ่ายขวา เจ้าเคยเห็นตั๋วเงินฉบับนี้หรือไม่?”
ราชครูเหลียงภายในใจบูดบึ้ง องค์รัชทายาทผู้นี้โง่เง่าซะจริง เขาพูดออกมาก่อนแล้วว่าไม่มีทางที่จะมีตั๋วเงินฉบับนี้ แล้วจึงพูดว่าตั๋วเงินเหล่านั้นล้วนผ่านสำนักราชเลขานุการ ไม่ใช่ว่าจะบอกกับทุกคนหรือ หากว่ามีตั๋วเงินที่ถูกฟ้องร้องนี้ หากเกี่ยวกับพรรคพวกขององค์รัชทายาทหรือญาติสนิทแล้ว เขาจะนำติดตัวไปด้วยไหม?
เขายืดตัวขึ้นตรงพลางเอ่ย “หากว่ามีส่วนร่วมในเรื่องของตั๋วเงินนี้แล้ว ข้าจะตรวจสอบเรื่องราวก่อนแล้วจึงส่งมอบให้กับผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิ”
ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยเบี่ยงเบนประเด็น “ท่านอ๋องแต่งตั้งให้สะใภ้ของหม่อนฉันเป็นเสี่ยนจู่ หม่อนฉันรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง และขอบพระทัยในความรักความเมตตาของท่านอ๋อง เพียงแต่หม่อมฉันคิดว่าจวนมหาเสนาบดีของเรานั้นละอายใจยิ่งนัก เมื่อใดก็ตามที่ทรงประทานรางวัลให้แก่เสี่ยนจู่ จะต้องเป็นผู้ที่มีความดีความชอบต่อราชสำนัก หรือมีอะไรเป็นพิเศษ หม่อมฉันคิดว่า ฉุ่ยอวี่แม้จะเป็นผู้มีความสามารถพิเศษแต่กลับไม่มีศีลธรรม ไม่เคยบริจาคเงินให้แก่ราชสำนัก โดยเฉพาะวันนี้อ๋องหลี่ก็อยู่ที่นี่ หม่อมฉันคิดว่าจวนมหาเสนาบดีของเรานั้นไม่อาจรับความรักความโปรดปรานได้เพคะ”
คำพูดนี้ของฮูหยินผู้เฒ่า ทำให้ผู้อาวุโสในตระกูลไม่พอใจ ตระกูลเซี่ยมีเสี่ยนจู่ออกมาหนึ่งคน เป็นเรื่องที่รุ่งโรจน์มากเพียงใด? นางกลับต้องการคืนกลับไป
อ๋องหลี่ได้ยินคำฮูหยินผู้เฒ่า คิดอยู่ครู่นึงจึงเอ่ย “ฮูหยินผู้เฒ่าพูดมีเหตุผล จริง ๆ แล้วมิอาจไม่มีเหตุไม่มีผลแล้วจึงแต่งตั้งเป็นเสี่ยนจู่”