ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 310
มู่หรงเจี๋ยส่งเสียงอืมออกมา ท่าทีถ่อมตนไม่อายที่จะขอคำแนะนำ “ถ้าอย่างนั้นความคิดเห็นของเสด็จพี่ จะแต่งตั้งเสี่ยนจู่ ควรจะมีเงื่อนไขเช่นไร?”
อ๋องหลี่เอ่ย “ตามกฎระเบียบแล้ว ข้อที่หนึ่ง อภิเษกสมรส ข้อนี้ไม่ต้องพูดถึงไม่อาจเกิดขึ้นได้ ข้อที่สอง หากเป็นดั่งคำของฮูหยินผู้เฒ่าแล้ว โดดเด่นเหนือใคร จุดนี้หยวนซื่อก็มีหรือไม่ ไม่ใช่ข้าเจ้าพูดออกมาก็แล้วกันไป ยังต้องไปสอบถามฟังความคิดเห็นอีกหลายด้าน ข้อที่สาม มีผลงานต่อราชวงศ์ มีบุญคุณต่อราษฎร หากในสามข้อนี้มีเพียงข้อหนึ่ง ก็จะสามารถพีะราชทานรางวัลแต่งตั้งให้เป็นเสี่ยนจู่”
ฟังคำพูดของอ๋องหลี่เยี่ยงนี้แล้ว ฮูหยินผู้เฒ่าและซีเหมินเสี่ยวเย่วใบหน้าจึงได้ดูดีขึ้นมา
หากให้หยวนซื่อได้แต่งตั้งให้เป็นเสี่ยนจู่จริง ๆ ต่อไปจะจัดการกับนางได้โดยง่ายหรือ? เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน
ฮูหยินผู้เฒ่าตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่า ไม่ว่าจะอย่างไรก็จะปฏิเสธให้จนถึงที่สุด
องค์หญิงใหญ่มู่หรงจ้วงจ้วงจึงเอ่ยขึ้น “ยังมีอีกข้อนึง พวกเจ้าอย่าได้ลืมกัน”
“ยังมีจุดใดรึ?” มู่หรงเจี๋ยเอ่ยถาม
มู่หรงเจี๋ยเอ่ยออกมา “ไท่หวงไท่โฮ่วเคยพระราชทานพระราชเสาวนีย์มาแล้ว หากคนผู้นี้เป็นผู้ที่มีอำนาจแต่งตั้งเห็นความสำคัญและชื่นชอบ ก็จะสามารถดำเนินการแต่งตั้งได้ ไม่ทราบว่าผู้สำเร็จราชการเห็นความสำคัญของหยวนซื่อหรือไม่?”
มู่หรงเจี๋ยเอียงศีรษะครุ่นคิดอยู่ครู่นึง ใบหน้างามดูราวกับยุ่งยาก คิ้วขมวดเข้าหากัน ราวกับว่ากำลังคิดถึงปัญหาใหญ่ สุดท้ายแล้ว เขากางมือออก “หยวนซื่อเป็นว่าที่แม่ยายของข้า ข้าจะไม่ให้ความสำคัญได้อย่างไร? จะกล้าพูดว่าไม่ชอบได้หรือ?”
มู่หรงจ้วงจ้วงเผยยิ้ม “ถ้าอย่างงั้น การแต่งตั้งในครั้งนี้ก็ไม่มีปัญหา ใช่หรือไม่เจ้าสาม?”
อ๋องหลี่ส่งเสียงอืมออกมา “มีเงื่อนไขข้อนี้จริง ในเมื่อองค์ผู้สำเร็จราชการเห็นความสำคัญของหยวนซื่อ และหยวนซื่อยังเป็นว่าที่แม่ยายขององค์ผู้สำเร็จราชการ ถูกต้องตามเงื่อนไขการแต่งตั้ง ที่แห่งนี้ก็มิมีผู้ใดมีอำนาจสงสัยได้”
ผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิลุกขึ้นยืน “ดี เรื่องนี้ก็ตัดสินกันอย่างนี้แล้วกัน ฮูหยินใหม่ รีบรับอั่งเปาของเจ้า ทุกคนจะได้ออกไปดื่มกิน”
เมื่อเขาพูดจบแล้ว จึงได้รีบเดินออกไป ราวกับว่าขวดเหล้ากำลังรอเขาอยู่จริง ๆ จู่ ๆ ก็ไม่รู้ว่ารีบเก็บอั่งเปานั้นหมายความว่าอย่างไร สถานะของซีเหมินเสี่ยวเย่วในจวนนั้น ก็จะกลายเป็นอนุภรรยาไปแล้วอย่างแน่ชัด
ซีเหมินเสี่ยวเย่วจับกระโปรงตน โกรธจนทั้งร่างสั่นสะท้าน ใบหน้าซีดขาวหมดแล้ว
อ๋องหลี่เป็นผู้ที่จริงจังเป็นอย่างมาก เมื่อได้ฟังคำของผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิแล้ว จึงได้คอยจ้องมองซีเหมินเสี่ยวเย่ว รอให้นางรับอั่งเปาเข้าไป
แต่ซีเหมินเสี่ยวเย่วกลับเอาแต่จับกระโปรงของตนไม่ยอมรับอั่งเปา เขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เอ่ยอย่างเร่งร้อน “เจ้ารับซะสิ รับแล้วข้าจะได้ออกไปดื่มกิน”
มหาเสนาบดีเซี่ยเมื่อเห็นว่ามู่หรงเจี๋ยออกไปแล้ว เรื่องนี้ราวกับตอกตะปูลงไปบนกระดานแล้ว มิอาจเปลี่ยนแปลงได้ “เซี่ยฉวน เชิญใต้เท้าทุกท่านออกไปดื่มกิน”
อ๋องหลี่แทบจะกระทืบเท้า “ฮูหยินใหม่ เจ้ารับอั่งเปาสิ หากไม่รับข้าจะออกไปดื่มกินได้อย่างไร?”
ซีเหมินเสี่ยวเย่วค่อย ๆ เอื้อมมือออกไปยังซองอั่งเปา รับมาด้วยความอัปยศ ลุกขึ้นยืนคำนับ “เชิญท่านอ๋องและใต้เท้าทุกท่านออกไปดื่มกินกันด้านนอกเถิดเพคะ”
แม้ว่านางจะโกรธจัด แต่ว่าหลายปีมานี้นางฝึกฝนตัวเองให้ใช้ชีวิตด้วยจิตใจใสสะอาด และสร้างบุคลิกให้เป็นที่อดทน
อ๋องหลี่เมื่อเห็นนางรับอั่งเปาแล้ว จึงรู้สึกพอใจพร้อมกับเอ่ย “ไป ไปดื่มกินกัน ได้ยินมาว่างานเลี้ยงแต่งงานครั้งนี้จวนมหาเสนาบดีตั้งใจซื้อเหล้าชั้นดีมาจากหมู่บ้านซุน เหล้าแดงสำหรับหญิงสาวพวกนี้ดื่มไม่ได้ มีเหล้าเจียวก็ไม่เลวนัก”
เหล้าแดงสำหรับหญิงสาว เป็นเหล้าที่หญิงสาวฝังไว้เมื่อตอนที่เกิดออกมา แต่ว่าซีเหมินเสี่ยวเย่วมิใช่ครั้งแรกที่แต่งงาน แน่นอนว่าไม่มีเหล้าแดง
อ๋องหลี่เพียงแค่ไม่ได้ตั้งใจพูดออกมาคำนึง แต่ว่าซีเหมินเสี่ยวเย่วฟังแล้ว กลับคิดว่าอ๋องหลี่ตั้งใจจะหัวเราะเยาะนาง นางโมโหจนน้ำตาเอ่อคลอ