ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 323
มู่หรงเจี๋ยหัวเราะเยาะหลังจากได้ฟังคำพูดของฮูหยินผู้เฒ่า “เอ๋ ที่แท้ฮูหยินผู้เฒ่าก็คือคนที่เข้าใจเรื่องราวดีสินะ?”
ฮูหยินผู้เฒ่าเดินหน้าต่อไป ทำเป็นว่าไม่ได้ยินคำพูดของมู่หรงเจี๋ย ถลึงตาจ้องไปที่เด็กรับใช้ กล้ามเนื้อบนใบหน้ากระตุก ดูช่างดุร้าย “พูดออกมา เป็นอย่างนี้ใช่หรือไม่?”
ริมฝีปากของกุ้ยหยวนสั่นสะท้านด้วยความตกใจ ทุกคนต่างรอคอยคำตอบของเขาอยู่
ไม่ว่าเขาจะตอบว่าใช่หรือไม่ก็ตาม เขาก็ยังไม่แน่ใจถึงความสัมพันธ์ฉันชู้สาวระหว่างจื่ออันกับซีเหมินเสี่ยวชิ่งอยู่ดี
กุ้ยหยวนจ้องมองทุกคน แล้วเปิดปากพูด น้ำเสียงของเขาปลี่ยนไปเพราะความกลัว “กราบเรียนใต้เท้า บ่าวไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น เดิมทีบ่าวก็เป็นแค่คนเฝ้าประตู วันนี้ที่จวนมีงานแต่ง พ่อบ้านส่งตัวบ่าวมาคอยรับใช้แขกที่มา จากนั้นคุณชายซีเหมินก็มาถึงแล้วบอกให้บ่าวไปเคลื่อนย้ายของกับเขาที่สวนดอกไม้ที่ด้านหลัง บ่าวเห็นว่าคุณชายซีเหมินเป็นแขกผู้มีเกียรติของจวนมหาเสนาบดี จึงไปกับเขา พอไปถึงสวนดอกไม้ที่ด้านหลัง คุณชายกลับไม่เข้าไปด้วย แต่กลับพาบ่าวเดินอ้อมทะเลสาบแล้วขึ้นไปที่ภูเขาหินจำลอง พอถึงภูเขาหินจำลอง คุณชายซีเหมินก็พุ่งเข้ามาบีบคอบ่าวในทันที…”
กุ้ยหยวนรู้สึกพูดไม่ออกเล็กน้อย น้ำเสียงของเขาสั่นมาก ตอนที่เขาอยู่ที่ภูเขาหินจำลอง เขาคิดว่าเขาจะต้องตายแน่แล้ว
ร่างกายของเขาค่อนข้างจะอ่อนแอ หมดหนทางขัดขืน เมื่อเขาถูกบีบคอ เขาทำได้แต่เพียงขัดขืนเล็กน้อย แต่ก็ไม่อาจต่อสู้จนหลุดพ้นได้
อย่างไรก็ตาม เขาก็รู้ด้วยว่าถึงแม้ว่าตอนนั้นเขาจะหลุดพ้นได้ แต่เขาก็ยังต้องตาย เป็นเพียงบ่าวรับใช้ ชีวิตไร้ค่ายิ่งนัก
คำสารภาพของเขาช่วยขจัดข้อกังขาเกี่ยวกับจื่ออัน และจะไม่มีใครสงสัยเกี่ยวกับเรื่องคำมั่นหมายเรื่องแต่งงานที่ซีเหมินเสี่ยวชิ่งพูดว่าเคยให้ไว้กับจื่ออันอีก
“เช่นนั้น เขาใช้ปิ่นปักผมแทงเจ้าหรือเปล่า?” เจ้ากรมอาญากล่าวถาม
“บ่าวไม่ทราบได้ เพราะตอนนั้นบ่าวได้หมดสติไปแล้ว” กุ้ยหยวนกล่าว
ฮูหยินผู้เฒ่าตัวสั่นอยู่ตลอดเวลา และริมฝีปากของนางก็สั่น ซึ่งดูแล้วก็คล้ายกับปฏิกิริยาของกุ้ยหยวน
กุ้ยหยวนกลัวมาก นางก็กลัว แต่รู้สึกโกรธมากกว่า
เรื่องในวันนี้นางไม่รู้เรื่องอะไรเลย ถ้านางรู้เรื่องราวภายในก่อน นางจะต่องหยุดมันแน่ นี่มันเป็นแผนการแบบไหนกัน? มีข้อผิดพลาดให้เห็นเต็มไปหมด แค่ฆ่าคน ๆ เดียวก็ฆ่าไม่สำเร็จ อยากให้เซี่ยจื่ออันตกหลุมพราง? เป็นการสร้างปัญหาชัด ๆ
เซี่ยหว่านเอ๋อรีบออกมาแล้วชี้ไปที่กุ้ยหยวนพลางกล่าวอย่างโมโห “เจ้าโกหก ปิ่นนี่เป็นของเซี่ยจื่ออันชัด ๆ เจ้าปิดบังให้นาง เจ้าพูดมาสิ ว่าเจ้ากลัวว่านางจะมาแก้แค้นภายหลังใช่หรือไม่? ข้าให้สัญญากับเจ้า ตราบใดที่เจ้าพูดความจริง ข้าจะรับประกันความปลอดภัยให้เจ้า”
ประโยคนี้มีสองความหมาย คือกำลังเตือนกุ้ยหยวนว่า ถ้าเจ้ายืนยันว่าเซี่ยจื่ออันเป็นคนทำ ข้าก็จะรับประกันว่าเจ้าจะปลอดภัย มิเช่นนั้นแล้ว…
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่กุ้ยหยวนกล่าวประโยคเหล่านั้นออกมา ทุกคนก็กลับเงียบลง
เคยผ่านความเป็นความตายมาครั้งหนึ่งแล้ว ยังจะกลัวอะไรอีกเล่า? ชีวิตนี้เป็นคุณหนูใหญ่ที่ช่วยกลับมา อย่างมากที่สุดก็แค่มอบให้อีกครั้ง
จื่ออันมองไปที่เซี่ยหว่านเอ๋อและพูดอย่างเย็นชา “ความจริง? อะไรคือความจริง? คือข้าขอให้ซีเหมินเสี่ยวชิ่งลงมือกับเขาก่อน จากนั้นก็จงใจให้เหลือลมหายใจไว้ รอจนถึงตอนนี้ที่เขาฟื้นขึ้นเพื่อให้เข้าใส่ร้ายข้าเรื่องชู้สาว จากนั้นก็อภิเษกกับท่านอ๋องเป็นพระชายาเอกของผู้สำเร็จราชการ? หากมันเป็นสถานการณ์ที่พวกเจ้าต้องการให้เป็น มีความสุขก็ดี ทำไมต้องทำให้เด็กรับใช้คนนึงต้องลำบากด้วยเล่า?”
เซี่ยหว่านเอ๋อพูดไม่ออก แต่แล้วนางก็ชี้ไปที่ปิ่นปักผมแล้วถามว่า “แล้วปิ่นนี่มาได้ยังไง? พอคุณชายซีเหมินบีบคอเขาไปแล้ว จากนั้นเจ้าก็ใช้โอกาสตอนที่เขาหมดสติใช้ปิ่นทำร้ายเขา และคิดว่าสามารถฆ่าเขาได้แล้ว”
จื่ออันยิ้มเย้ยหยัน “อย่างแรกเลย วันนี้ที่เรือนเซี่ยจื่อหย่วนไม่มีใครอยู่เลย จะเป็นใครก็ได้ที่เข้าไปหยิบของในห้องของข้า มันง่ายดายเหมือนหยิบของในกระเป๋าอย่างไรอย่างนั้น แล้วอีกอย่าง…”
นางมองตรงไปที่อ๋องหลี่ “ท่านอ๋องเพคะ วันนี้ท่านจ้องมองมาที่ปิ่นปักผมของหม่อมฉันตลอด ขอถามหน่อยว่า เป็นปิ่นอันนี้ใช่หรือไม่?”
ใบหน้าหล่อเหลาอ๋องหลี่กระตุกเล็กน้อย เขากล่าว “ไม่ใช่ แต่เป็นปิ่นเงินที่ไม่รู้ฝังสิ่งพิลึกอะไรเอาไว้ สิ่งที่ฝังไว้ที่ปิ่นถึงได้หลุดร่วงลงมาได้ ขัดหูขัดตาข้ายิ่งนัก แล้วเจ้ารู้ไหมว่าปิ่นนั่นฝังสิ่งใดเอาไว้? กว่าที่ข้าจะลืมมันได้ก็ไม่ง่ายเลยนะ นี่พอต้องนึกถึงมันอีก ข้าก็รู้สึกสะเทือนใจยิ่งนัก”
จื่ออันกล่าวว่า “หม่อมฉันก็ไม่ทราบเพคะ ตอนที่ฮูหยินผู้เฒ่ามอบให้ มันก็เป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว”