ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 332
จื่ออันชะงักไปชั่วครู่นึง “ระบำมังกรไฟ?”
“ใช่แล้ว เมื่อครู่มีคนนำใบปลิวมา ยังมีการเล่นมายากลอีกด้วย” เฉินหลิวหลิ่วนำใบปลิวออกมาให้จื่ออันดู ใบปลิวแผ่นนี้ ก่อนหน้านั้นจื่ออันเคยเห็นมาแล้ว แต่ว่าไม่ได้มีระบำมังกรไฟ
แต่ใบปลิวที่เฉินหลิวหลิ่วให้มาในตอนนี้นั้น กลับมีการเขียนระบำมังกรไฟอยู่ไม่กี่คำ ดูท่าแล้วคงจะมีการเพิ่มรายการเข้าไป
“ระบำมังกรไฟน่าดูเป็นอย่างมาก ข้าชื่นชอบเป็นที่สุด” เฉินหลิวหลิ่วเอ่ยอย่างตื่นเต้นยินดี “เดิมท่านย่าบอกว่าจะไม่ร่วมรับประทานอาหารในงานเลี้ยงจะกลับจวนแล้ว แต่ข้าต้องการจะดูระบำมังกรไฟก่อนถึงค่อยกลับไป”
จื่ออันมองดูผู้คนรอบทิศ ส่วนใหญ่ดูเพลิดเพลินรื่นเริง ดูแล้วระบำมังกรไฟนี้จะเป็นที่รายการชื่นชอบของผู้คนจริง ๆ
แต่ว่านางไม่รู้ว่าอะไรคือระบำมังกรไป จึงได้เอ่ยถาม “ก่อนหน้านี้ข้าไม่เคยดูระบำมังกรไฟ เป็นอย่างไรรึ?”
เฉินหลิวหลิ่วใช้สายตาที่เต็มไปด้วยความสงสารมองมายังนาง “โอ้สวรรค์ของข้า เจ้าแม้แต่ระบำมังกรไฟก็ไม่เคยดูมาก่อน? น่าเศร้ามากเพียงใด? หรือว่าก่อนหน้านี้จวนมหาเสนาบดีไม่เคยมีการระบำมาก่อน?”
“ไม่เคย เท่าที่ข้าจำได้นั้นไม่เคย” ในสมองของจื่ออันนั้นไม่มีความทรงจำตกค้างเกี่ยวกับระบำมังกรไฟของเจ้าของร่างเดิม ไม่รู้ว่าระบำมังกรไปนั้นเป็นอย่างไร
เฉินหลิวหลิ่วลากจื่ออันพร้อมทั้งอธิบายออกมา “ระบำมังกรไฟนั้นเป็นการเชิดมังกรที่มีการพ่นไฟเดินไปรอบ ๆ จวน หากเป็นตระกูลที่มีฐานะดีหน่อยก็จะมีการเชิญระบำมังกรไฟมา ล้วนเชิญมาแปดตัว ข้าจำได้ในตอนที่พี่ใหญ่ข้าแต่งงานนั้นก็ให้คนเชิญมังกรไฟมา มังกรไฟแปดตัววนรอบจวนหนึ่งรอบ ทุกซอกทุกมุมล้วนต้องวนไป บอกว่าเป็นการขับไล่วิญญาณร้าย ต่อไปผู้ที่มาใหม่และเจ้าบ้านต่างก็จะเจริญรุ่งเรือง”
“ในตอนที่พี่ใหญ่เจ้าแต่งงานถึงได้เชิญมังกรไฟมา? พี่ชายที่แต่งงานหลังจากนั้นล้วนไม่ได้เชิญมาหรือ?” จื่ออันเองไม่ได้มีความสนใจต่อเรื่องรื่นเริงนี้นัก แต่ว่าเฉินหลิวหลิ่วชื่นชอบ จึงได้เอ่ยกับนางสักเล็กน้อย
“ในครั้งนั้นข้าโดนมังกรไฟไหม้กระโปรงเข้า หลังจากนั้นบรรดาพี่ชายแต่งงาน ท่านย่ากลัวว่าข้าจะไปเล่นไฟจึงไม่ได้เชิญมาแล้ว” เฉินหลิวหลิ่วเอ่ยด้วยความเสียใจ
“อันตรายถึงเพียงนี้?” จื่ออันไม่เพียงแต่ตกใจ ระบำมังกรนี้ถึงกลับเผาไหม้กระโปรงของคุณหนูเจ้าของบ้าน อันตรายถึงเพียงนี้ กิจกรรมที่อันตรายเยี่ยงนี้ ญาติธรรมดาคงจะไม่มีการเชิญมาใช่หรือไม่?
“ก็ไม่ใช่ซะทีเดียว เพียงแต่ในตอนนั้นข้ามีความสุขมาก ในตอนที่ทุกคนไม่ระวังนั้น ลื่นไถลไปใต้คณะมังกรไฟร่วมเดินกับพวกเขา ไม่ระวังจนติดไฟ ทำให้ท่านย่าตกใจเกือบตาย ท่านกระโดดเข้าไปในวงมังกรไฟช่วยข้าออกมา ยังจะเคาะศีรษะข้าอีก หญิงชราผู้นี้นี่ สนุกเป็นอย่างมากจริง” เฉินหลิวหลิ่วแลบลิ้นออกมา
จื่ออันอดไม่ได้ที่จะยิ้มไปด่าไป “เจ้าหมาน้อยขี้เล่นนี้ มิน่าเล่าภายหลังย่าเจ้าจึงไม่ได้เชิญมังกรไฟมาแล้ว”
“หมาน้อย? หมาน้อยอะไรกัน?” เฉินหลิวหลิ่วได้ฟังคำศัพท์ใหม่ ๆ จึงได้สนใจเป็นอย่างมาก
จื่ออันถึงได้นึกขึ้นได้ว่านี้เป็นคำด่าที่ใช้ในโลกออนไลน์ยุคปัจจุบัน จึงได้เอ่ยอธิบายอย่างคลุมเครือ “ไม่มีอะไร นี้เป็นชื่อเล่นของเจ้า”
“เชิญคณะระบำมังกรไฟแพงมากหรือไม่?” จื่ออันเอ่ยถาม
เฉินหลิวหลิ่วส่ายศีรษะ “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่าท่านย่าครั้งก่อนในตอนที่เชิญคณะระบำมังกรไฟมาให้พี่ใหญ่นั้น ให้ตั๋วเงินหนึ่งพันตำลึงแก่หัวหน้าของเขาไป”
“หนึ่งพันตำลึง?” จื่ออันเบิกตากว้าง ต้องรู้ก่อนว่าค่าแรงของทาสรับใช้ในจวนนั้นเพียงเดือนละแค่ห้าตำลึง
แม้แต่เงินเดือนและอาหารของมหาเสนาบดีในราชสำนักนั้น หนึ่งปีรวมกันแล้วยังไม่เกินสามร้อยกว่าตำลึง เชิญคณะระบำมังกรไฟทำไมถึงได้แพงเยี่ยงนี้?
“ไม่ใช่เพียงแค่ลากคบเพลิงยาว ๆ หรอกหรือ? ทำไมถึงได้มีราคาแพงยิ่งนัก?” จื่ออันนึกถึงนักระบำมังกรไฟในยุคปัจจุบัน ราคาล้วนถูกยิ่งนัก ยิ่งเป็นของพื้นบ้านแล้ว ก็ยิ่งราคาถูก