ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ – บทที่ 341

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 341

ไฟไหม้ครั้งนี้ แพร่กระจายไปรวดเร็วนัก เซียวท่าคอยดูแลอพยพผู้คน เริ่มจากผู้ชรา คนอ่อนแอที่ป่วยแล้ว จึงเป็นหนุ่มสาวล้วนให้อพยพออกไป เหลือไว้เพียงชายหนุ่มกำยำเข้าช่วยดับเพลิง

เมืองหลวงนั้นมีผู้ตรวจการอยู่ เมื่อรู้ว่าจวนมหาเสนาบดีเกิดเพลิงไหม้แล้ว ผู้ตรวจการจึงได้จัดคนมาช่วยดับเพลิง

มังกรไฟที่เหลือนั้น ได้โยนลงไปในทะเลสาบเพื่อดับไฟแล้ว ส่วนคนที่เชิดมังกรนั้นก็เข้าร่วมช่วยกันดับเพลิง

ซีเหมินเสี่ยวเยว่นั่งอยู่ในห้อง ฟังเสียงอึกทึกครึกโครมจากด้านนอก จึงอดไม่ได้ที่มุมปากจากยกยิ้มขึ้นมา

นางยังรู้สึกชื่นชมตัวเองอีกเล็กน้อยด้วย ยิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัว ช่วยท่านแม่กำจัดอาสะใภ้รอง แล้วยังกำจัดบุตรสาวของหยวนซื่อเซี่ยจื่ออันได้ ต่อไปในจวนมหาเสนาบดีแห่งนี้ ยังจะมีผู้ใดกล้าเป็นศัตรูกับนางอีก?

“คุณหนู ท่านอยากจะออกไปดูหรือไม่ ข้างนอกนั่นช่างรื่นเริงเสียจริง” สาวใช้ที่เข้าจวนมาพร้อมนางที่แต่งเข้ามาซือหลิวพูดด้วยรอยยิ้ม

ซีเหมินเสี่ยวเยว่นั่งอยู่ด้านหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ปัดคิ้วอย่างเงียบ ๆ “ไม่ไป มีอะไรน่าดูกัน? ข้ากลัวที่สุดก็คือมองเห็นซากศพ”

ขณะเดียวกันหงฮัวสาวใช้ที่เข้าจวนมาพร้อมกับตอนที่นางแต่งงานก็เดินไปข้างหน้าแล้วพูดว่า “คุณหนู นายท่านรองตอนนี้ก็ยังอยู่ข้างนอกช่วยดับเพลิงอยู่ หากว่าท่านไม่ออกไปแล้ว เกรงว่าวันข้างหน้าหากรื้อฟื้นขึ้นมา จะกลายเป็นว่าท่านเลือดเย็นเกินไป”

ซีเหมินเสี่ยวเยว่เบ้มุมปาก “ข้าเป็นเจ้าสาว สถานที่อันตรายเยี่ยงนี้ควรจะไปหรือ? ท่านย่าคงจะไม่กล่าวโทษลงมาบนหัวข้าหรอก อีกทั้งหากเรือนรองหากไม่มีอาสะใภ้รอง สตรีผู้ฉุนเฉียวเช่นนี้ ลุงรองก็คงเป็นเพียงแค่เสือกระดาษ มิอาจดุร้ายขึ้นมาได้ ข้าไม่กลัวแม้เพียงนิดเดียว”

หงฮัวยิ้มพลางเอ่ยว่า “นั่นก็จริงนะเจ้าคะ วันข้างหน้านี้ หากไม่อาศัยฮูหยินรองคอยหนุนหลังเอาไว้แล้ว เรือนรองก็คงจะโดนเหล่าไท่แหย่ส่งเข้าตำหนักเย็นไปนานแล้ว หากตอนนี้ไม่มีฮูหยินรองแล้ว ฮูหยินใหญ่ของพวกเราก็คงจะเงยหน้าขึ้นมาได้แล้ว”

“ท่านแม่ถูกผู้อื่นรังแกมาตลอดชีวิต ควรจะเปลี่ยนแปลงได้แล้ว” นางมองดูรูปร่างราวกับหยกในกระจก พอใจเป็นอย่างมาก แต่จู่ ๆ ก็ขมวดคิ้ว “หงฮัว เจ้าเข้ามานี้หน่อย สีเล็บของข้ากับสีปากดูไม่เข้ากันใช่หรือไม่?”

นางยกนิ้วมือขึ้นมา เปรียบเทียบกันอยู่ครู่นึง “ไม่เข้ากันจริง ๆ ด้วย เจ้านำขี้ผึ้งทาปากที่คราวก่อนตอนเข้าวัง ที่ฮวงโฮ่วประทานรางวัลให้ออกมาที เลือกสีสดใสหน่อย วันนี้ข้าเป็นเจ้าสาวแล้ว มิอาจจะให้สตรีด้านนอกมากลบรัศมีของข้าได้”

ซือหลิวเอ่ย “คุณหนูก่อนหน้านี้ชอบให้สีปากเป็นสีแดงทับทิมที่สุด คิ้วเป็นสีเขียวเข้ม ขับกับผิวของคุณหนูที่ขาวกระจ่างใส”

“หลายปีมาแล้วที่ไม่ได้แต่งตัว หากมิใช่เพราะว่าครั้งนี้แต่งงานใหม่อีกครั้งแล้ว ก็คงต้องอยู่ภายใต้ความมืดมนนี้ตลอดไป” ซีเหมินเสี่ยวเยว่ถอนหายใจเบา ๆ หันมองคนในกระจกซ้ายขวา “พวกเจ้าว่า ข้าและหยวนซื่อผู้ใดดูดีมากกว่ากัน?”

หงฮัวเค่นเสียงออกมา “คุณหนูเอ่ยถามออกมาเยี่ยงนี้ไม่กลัวว่าจะเป็นการสบประมาทตนเองหรือเจ้าคะ หยวนซื่อเป็นเพียงหญิงชราผู้หนึ่ง จะเทียบกับคุณหนูได้อย่างไร?”

ซีเหมินเสี่ยวเยว่เอ่ยด่านางด้วยรอยยิ้ม “หงฮัว ปากเจ้านี้ช่างร้ายกาจนัก พูดออกมาเยี่ยงนี้ได้อย่างไรกัน? หยวนซื่อในตอนที่เยาว์วัยนั้น ก็เป็นสาวงามคนหนึ่ง ถึงตอนนี้อายุจะเยอะขึ้น ก็ควรจะมีเสน่ห์ของตอนที่เยาว์วัยอยู่บ้าง วันนี้น่าจะมิควรให้นางออกจากจวนไป ให้ข้าได้พบนางสังครา แล้วดื่มเหล้ามงคลให้แก่แขกทั้งหลายด้วยกัน”

ซือหลิวเอ่ยถาม “คุณหนูไม่เคยพบหยวนซื่อมาก่อนหรือเจ้าคะ?”

“ไม่เคยพบ ทั้งที่ข้าและนางก็มีบางอย่างที่คล้ายคลึงกัน นางเป็นคนเรียบง่าย ข้าเองก็เป็นคนเรียบง่าย เพียงแต่ภายในใจของข้านั้นเงียบสงบกว่านางนัก นางอยู่ในจวนมหาเสนาบดีนี้นั้น จะต้องไม่สงบนัก ดูแก่ชราก็อาจจะเป็นเพราะได้รับความทุกข์ทรมาน โดยเฉพาะสตรีที่มีความสามารถนั้นก็จะอ่อนแอลง หยวนซื่อหากว่ากลับมาแล้วนั้น ข้าเองก็ต้องทำดีกับนาง จะต้องดีกว่าในตอนที่เฉินหลิงหลงดูแลจวน ดีกับนางให้มากกว่าถึงจะถูก

ซือหลิวอดไม่ได้ที่จะเอ่ยออกมา “คุณหนูจิตใจช่างอ่อนโยนนัก หยวนซื่อในตอนที่ถูกแต่งตั้งให้เป็นตานชิงเสี้ยนจู่ เกรงว่าจะเย่อหยิ่งกว่าเมื่อก่อนมากนัก”

“เย่อหยิ่งมิได้หรอก หลังจากที่เซี่ยจื่ออันตายไปแล้ว นางก็จะไม่มีที่พึ่งพาแล้ว ผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิก็คงจะไม่ดูแลนางอีกต่อไป อีกทั้งจวนสกุลหยวนก็ย้ายออกไปแล้ว นางในเมืองหลวงนี้สามารถกล่าวได้ว่า ไม่มีที่พึ่งพาใดแล้ว หากว่าอยากที่จะอาศัยอยู่ในจวนมหาเสนาบดีนี้ไปจนแก่ชราแล้ว จะต้องรู้ว่าควรปฎิบัติตนเยี่ยงไร”

นางในตอนท้ายกลับรู้สึกว่าแต่งหน้ายังไม่เพียงพอ จึงได้เอ่ยสั่งให้หงฮัวเพิ่มสีชาดขึ้นไปอีก ให้มองเห็นเป็นดั่งสีของดอกไม้ นางถึงได้เผยรอยยิ้มออกมา “ท่านพี่ถึงแม้ว่าจะอายุเยอะแล้ว แต่ก็ดูมั่งคงเป็นผู้ใหญ่ รูปก็งามนัก จนไม่ดูแก่แม้แต่นิด ดูกำยำมากกว่าพวกเหล่าคุณชายพวกนั้นไม่รู้ตั้งกี่เท่า”

ใบหน้าของนางนั้น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเติมสีชาดลงไปหรือเป็นเพราะรู้สึกเขินอาย ถึงได้เปลี่ยนเป็นสีแดงขึ้นมา

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

Status: Ongoing
แพทย์ทหารสายลับกลับกลายเป็นลูกสาวคนแรกของเสนาบดีที่ต้องทนรับการถูกข่มเหงรังแกจากพ่อและแม่เลี้ยง และต้องแต่งงานกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เผชิญกับหลุมพรางและแผนการร้ายมากมายด้วยทักษะการแพทย์ของเธอทำให้เธอสามารถต่อสู้ผ่านศึกสังหารระหว่างวัง แก้ปัญหาระหว่างรัฐได้ด้วยดี ลงโทษองค์รัชทายาทที่กระทำความผิด ช่วยชีวิตองค์จักรพรรดิเหลียง และกำจัดโรคระบาดที่รุนแรงจากบุตรสาวเสนาบดีที่ขี้ขลาดแปรเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่จิตใจแน่วแน่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์จักรพรรดิได้ “ถ้าเจ้าแอบหนีออกมาอีก ข้าจะตามไปขัดขวางเจ้า มีที่ไหนพระชายาที่กำลังตั้งครรภ์แล้วยังวิ่งไปทั่ว?”“เจียงตงเกิดโรคระบาด ข้าในฐานะหมอหลวงต้องรีบไปช่วยเป็นธรรมดา ถ้าท่านขัดขวางข้าโรคจะระบาดจะไปถึงเมืองหลวง” อ้อมแขนอันแข็งแกร่งโอบกอดพระชายาที่พูดไม่หยุด ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สเด็จกลับมาและกราบทูลว่า “ฮึ่ม หมอหลวงมีจำนวนมากพอแล้ว” ถ้าคุณตั้งครรภ์อยู่จะออกไปไหม? จิตใจดั่งพระโพธิสัตว์หรือไม่? หรือยืนหยัดต่อสู้กับโรคระบาดที่ร้ายแรงตอนนั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท