ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 345
ผู้คนจำนวนมาก หยิบจับผ้าห่ม ดินทราย และถังน้ำพากันมุ่งหน้าไปยังฝั่งของเรือนหอ ราวกับผู้หนีลี้ภัยสงครามอย่างไรอย่างนั้น
ฮูหยินผู้เฒ่ายืนอยู่ด้านข้างของเหล่าไท่จวิน นางจ้องมองจื่ออัน แววตาเกลียดชังได้ถึงขีดสุดแล้ว
เฉินไท่จวินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เจ้าคนชั่วนี้เป็นหายนะมานับพันปีแล้ว ใช่หรือไม่? ทำไมถึงไม่ตายไปซะ!”
ฮูหยินผู้เฒ่าหมุนกาย จ้องมองเหล่าไท่จวิน
นางราวกับเพียงครู่หนึ่งก็ดูชราลงไปหลายปี ผิวบนใบหน้านั้นก็ราวกับเหลือเพียงชั้นเดียว เมื่อก้มลงมา ริ้วรอยและจุดด่างดำก็ดูชัดเจนขึ้น ดวงตาที่เฉียบคมนั้นก็กลายเป็นหมองคล้ำและซีดขาว
“เฉินไท่จวินต้องการจะพูดอะไรกัน?”
เฉินไท่จวินยิ้ม “ไม่มีอันใด ข้าจะพูดว่าเซี่ยจื่ออันเป็นดั่งยาพิษทิ่มแทงผู้อื่น จิตใจมืดดำ คนประเภทนี้มิตายง่าย ๆ หรอก ต่อให้อีกสักกี่ครั้งก็ไม่ตาย คนดีนั้นไม่เหมือนกัน ท่านลองทายดูว่า ศพที่แบกออกมานั้น?”
ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยเสียงเหนื่อยหน่ายอย่างสุดจะพรรณนา “ไม่ว่าจะเป็นผู้ใด ก็เป็นชะตาของชีวิตเสมอ อามิตตาพุทธ”
เฉินไท่จวินมองมายังนางแล้วก็ส่ายศรีษะ “ทั้งชีวิตนี้ของข้าตอนที่อยู่ทะเลทรายนั้นสังหารมานับไม่ถ้วน ไม่เคยชื่นชมผู้ใด แต่ว่าไม่คาดคิดว่าเมื่ออายุเยอะแล้วนั้น จะสามารถพบเจอคนเยี่ยงท่านได้ ใบหน้าหนาจนทำให้ข้าอดทึ่งมิได้ ช่าง… น่าสนุกเสียจริง!”
“เหล่าไท่จวินโปรดระวังคำพูดด้วย!” แววตาฮูหยินผู้เฒ่าดูเข้มขึ้น “ถึงแม้ว่าข้าจะมิใช่ผู้บัญชาการทหารที่มีชื่อเสียงนัก แต่ก็เป็นเอ้อพิ่นเกาหมิงฟูเหรินที่องค์จักรพรรดิทรงแต่งตั้งให้ด้วยพระองค์เอง และเป็นมารดาของมหาเสนาบดีในราชสำนัก คำพูดนี้ของท่าน ไม่กลัวว่าจะดูหมิ่นเกียรติของราชสำนักหรือ?”
“เป็นท่านที่สบประมาทตำแหน่งที่องค์จักรพรรดิแต่งตั้งให้ แล้วเกี่ยวอันใดกับข้า? อย่าได้ปฏิเสธ ตั้งแต่เริ่มต้นที่ท่านให้สาวใช้รินเหล้าให้แก่เหลียงซื่อและจื่ออันแล้ว ข้าก็รู้ได้ทันทีว่าพวกท่านจะลงมือแล้ว ในเหล้านี้ข้าได้ตรวจสอบแล้ว เป็นผงสลายกระดูก ต่อให้ไม่มีพิษอันใด แต่ก็ทำให้คนหมดเรี่ยวแรง เดินเหินมิค่อยสะดวกนัก การแสดงในวันนี้ เดิมก็ไม่มีระบำมังกรไฟอะไร กลับมีการเพิ่มเติมเข้าไปอย่างกะทันหัน มิใช่เพื่อไว้แสดงเหตุไฟไหม้จวนมหาเสนาบดีในค่ำนี้หรอกรึ เพียงแต่พวกเจ้าลากเอาเหลียงซื่อเข้าไปด้วย ทำให้ข้าไม่เข้าใจนัก แต่ว่า มีเพียงแค่ครู่เดียวเท่านั้นที่ข้าไม่เข้าใจ ในตอนหลังจึงได้รู้ หากเหลียงซื่อและจื่ออันต่างเสียชีวิต ทั้งหมดนี้มองแล้วก็เหมือนจะเป็นเพียงแค่อุบัติเหตุ เพราะว่าคงไม่มีผู้ใดที่จะทำร้ายคนในครอบครัวในตอนที่เพิ่งจะแต่งงาน โดยเฉพาะพวกท่านที่มีความสัมพันธ์กัน”
“เหล่าไท่จวิน ท่านอย่าได้ยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้อง จวนมหาเสนาบดีนี้ไม่ใช่ที่ของท่าน อยากจะพูดจาเหลวไหลอันใดกลับไปพูดที่จวนของท่านเถอะ” ฮูหยินผู้เฒ่าโกรธจัด หยุดเสแสร้งทันที
เหล่าไท่จวินค่อนข้างจะเยือกเย็นกว่านางมากนัก “ราชวงศ์ต้าโจวเองก็มิใช่ที่ของคนจิตใจชั่วร้ายไม่รู้จักพอไว้เล่นกลโกง ทางที่ดีเจ้าควรจะใช้ลูกเล่นให้ดีกว่านี้อีกสักหน่อย หลานสาวสุดที่รักของข้าเองก็อยู่ใต้มังกรไฟนี้ ยังดีที่มิได้เป็นอันใด หากวันนี้นางเกิดเป็นอะไรขึ้นมา ข้าสาบานว่าจะหั่นเจ้าเป็นชิ้น ๆ เอาไปให้กาบนหลุมศพนางกิน!”
พูดจบ จึงได้หยุดไปครู่นึง แล้วเรียกหาเฉินหลิวหลิ่ว แล้วเดินจากไป
เฉินไท่จวินใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธโมโหจนจากไป ทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าตื่นตกใจ นางไม่อยากเป็นศัตรูกันกับจวนเฉิน และไม่คิดที่จะทำร้ายคนของตระกูลเฉิน ใครจะคาดคิดว่าเฉินหลิวหลิ่วจะกลิ้งตกลงไปใต้มังกรไฟ?
เพียงแต่นางในวันนี้นั้นมีเรื่องที่ต้องกังวลใจมากกว่า
เหลียงซื่อยังไม่เสียชีวิต วันนี้เรื่องที่วางยาลงไปนั้นจะต้องถูกนางรู้เข้า เหลียงซื่อแม้จะเป็นคนบ้าบอ แต่ก็มิได้โง่ นางคงจะคาดเดาได้ว่าค่ำนี้นอกจากจะลงมือกับเซี่ยจื่ออันแล้ว ยังลงมือทำร้ายนางอีกด้วย
จิ้นกั๋วกงให้ความสำคัญกับนางเป็นอย่างมาก หากนางกลับไปเอ่ยไม่กี่ประโยค การแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ในครั้งนี้กลัวว่าจะเป็นไปไม่ได้แล้ว
ยังมีจิ้นกั๋วกงจะต้องละทิ้งซีเหมินเสี่ยวเยว่ผู้เป็นหลานสาวเป็นแน่ หากไม่มีจิ้นกั๋วกงเป็นที่พึ่งพิงแล้ว ซีเหมินเสี่ยวเยว่ยังมีที่ใดให้ควรค่าแก่การใช้งานอีก?
เมื่อคิดว่าความพยายามเป็นอย่างมากของตนจะสูญเปล่าแล้วนั้น นางก็โมโหจนอีกเพียงนิดจะมีเลือดสดพุ่งออกมาแล้ว
นางจ้องมองไปยังเซี่ยจื่ออัน นางและมู่หรงเจี๋ยกำลังพูดคุยกัน มู่หรงเจี๋ยโมโหเป็นอย่างมาก ได้สั่งให้คนไปตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้แล้ว และยังมีเหล่าไท่จวินเป็นพยาน ยังมีเหลียงซื่อ เซี่ยจื่ออัน ยังจะสามารถปิดบังได้อีกหรือ?
จวนมหาเสนาบดีนั้นไม่เคยเกิดเหตุการณ์ที่ต้องตรวจสอบเยี่ยงนี้
เปลวเพลิงดับลงแล้วนั้น ที่เกิดเหตุมีควันดำพวยพุ่ง ในควันและฝุ่นนั้น มีศพถูกยกขึ้นมา
ศพนั้นถูกเผาไหม้จนเกรียม จากรูปร่างแล้วนั้นมีอาจมองออกว่าเป็นชายหรือหญิง แต่ว่าจากความสูงแล้วนั้นสามารถมองออกว่าเป็นเพศชาย