ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 365
ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยถาม “วิธีอะไร? เจ้ารีบพูดออกมาให้ข้าฟังก่อน”
หยวนซื่อส่ายศีรษะ “หากว่าข้าพูดออกไปแล้ว สัญญาขายตัวของกุ้ยหยวนข้าก็จะไม่ได้มันมา ฮูหยินผู้เฒ่าวางใจได้ ข้าหยวนชุ่ยอวี่คำพูดสามารถเชื่อถือได้ ในเมื่อรับปากเรื่องราวนี้กับท่านแล้ว จะต้องทำสำเร็จเป็นแน่”
ฮูหยินผู้เฒ่าจ้องมองยังนาง “ข้าไม่เชื่อเจ้า”
นางไม่เชื่อหยวนซื่อ เป็นเพราะว่านางที่พูดออกมาเองว่าผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิไม่มีทางที่จะเห็นแก่พวกพ้อง หากว่ากันตามกฎหมายแล้ว ซีเหมินเสี่ยวชิ่งไม่มีทางที่จะได้รับโทษน้อยลงเป็นแน่
หยวนซื่อลุกขึ้นยืน “ดี งั้นพวกเราก็คงไม่มีอะไรให้ต้องพูดคุยกันอีกแล้ว”
ฮูหยินผู้เฒ่าลุกขึ้นโดยทันที “หยวนชุ่ยอวี่ อย่าทำเป็นไว้หน้าให้แล้วไม่ยอมรับมันไว้”
หยวนซื่อค่อย ๆ ขมวดคิ้ว “ฮูหยินผู้เฒ่า ท่านมิได้ไว้หน้าข้า ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากได้ ท่านเสนอออกมา ข้าตอบรับ ท่านทำเรื่องของท่านให้สำเร็จ ข้าทำเรื่องของข้าให้สำเร็จ ต่างก็มีความสุขกัน จากนั้นก็ค่อยแสร้งว่าอยู่กันอย่างสงบสุขต่อไป เสแสร้งเป็นครอบครัวเดียวกัน มิใช่เรื่องที่ดีหรอกหรือ? ท่านกลับต้องการที่จะฉีกหน้ากัน ให้ข้าหยวนชุ่ยอวี่ใช้ชีวิตอย่างกลัวเกรงท่านแบบนั้น มีความหมายหรือ?”
หลังจากพูดจบ นางจึงตะโกนออกไป “จื่ออัน!”
จื่ออันและมหาเสนาบดีเซี่ยไม่มีคำพูดที่ต้องพูดคุยกันนานแล้ว รอเพียงตั้งใจฟังเสียงจากในห้องมาตลอด เมื่อได้ยินเสียงของหยวนซื่อตะโกนร้องเรียกนาง นางจึงรีบเร่งเข้าไป
หยวนซื่อเอ่ยออกมา “พวกเราไปกันเถอะ”
ฮูหยินผู้เฒ่ายกมือขึ้นส่งสัญญาณให้แก่หลานยู่ หลานยู่ก็ก้าวไปขวางไว้ข้างหน้า เอ่ยอย่างมืดมน “ฮูหยิน คุณหนูใหญ่ คำพูดยังพูดไม่จบ ก็เร่งรีบจะไปแล้วหรือ?”
หยวนซื่อหันกลับไปยังฮูหยินผู้เฒ่า “คำพูดก็มีเพียงแค่นี้ ฮูหยินผู้เฒ่ายังคิดว่ามีอะไรจำเป็นต้องพูดคุยอีกหรือ?”
ฮูหยินผู้เฒ่าคิดคำนวณ รู้ว่าต่อให้เชื่อนางมิได้ ทำได้เพียงแค่ปล่อยผ่านไป จึงได้เอ่ย “ข้าสัญญากับเจ้า สัญญาขายตัวของกุ้ยหยวน หลังจากที่มีการตัดสินเรียบร้อยแล้วนั้น จะส่งไปให้ยังเซี่ยจื่อหย่วน”
หยวนซื่อเอ่ยอย่างสงบเยือกเย็น “ตกลง ข้าเชื่อฮูหยินผู้เฒ่า”
หยวนซื่อเอ่ยออกมาอย่างประชดประชัน คำพูดนี้ช่างสอดคล้องกับคำของฮูหยินผู้เฒ่าที่เอ่ยก่อนหน้านี้ว่าไม่เชื่อนาง ช่างเป็นคำประชดประชันที่ตรงไปตรงมาที่สุดในใต้หล้า ฮูหยินผู้เฒ่าได้กระทำเรื่องที่ทำร้ายพวกนางแม่ลูกมามากมาย ในช่วงสถานการณ์เยี่ยงนี้นั้น เพียงแค่พูดคำว่าเชื่อใจสองคำนี้ ราวกับตบลงไปบนใบหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าอย่างแรง
ในตอนที่จื่ออันประคองหยวนซื่อเดินออกไปนั้น ด้วยความโกรธที่ยากจะสลายของหลานยู่ บวกกับยังมีฮูหยินผู้เฒ่าอยู่ด้วย จึงได้เอ่ยแปลก ๆ กับด้านหลังของทั้งสองแม่ลูก “เป็นดั่งคำที่บ่าวเคยเอ่ยไว้จริง ๆ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเสี้ยนจู่แล้ว คนก็หยิ่งยโสขึ้นมา คอยดูกันเถอะว่าจะเย่อหยิ่งไปได้จนถึงตอนไหนกัน!”
จื่ออันยืนสงบนิ่ง เอ่ยด่าสาปแช่งออกมา “ต่ำช้า หากไม่ได้เอ่ยออกมา คืนนี้ข้าคงจะนอนไม่หลับเป็นแน่”
พูดจบแล้ว นางหมุนตัวใช้เท้าเกี่ยวไปยังเก้าอี้ขึ้นมา ใช้มือรับไว้ พุ่งไปยังป้าหลานยู่แล้วตีไปยังหน้าผากของนางในชั่วขณะนั้น ตีลงไปตรง ๆ จนนางต้องร้องเรียกพ่อฟ้องแม่ จนต้องให้ฮูหยินผู้เฒ่าเข้ามาช่วยเหลือ
ฮูหยินผู้เฒ่าเมื่อพบว่าจื่ออันถึงกลับกล้าลงมือต่อหน้าของนาง โมโหจนดวงตาเปลี่ยนเป็นมืดดำ อีกเพียงนิดก็เกือบจะเป็นลมไปแล้ว
ไม่ง่ายเลยที่เอ่ยเรียกคนให้เข้ามาสองคำนี้ได้ จนจื่ออันได้หยุดมือลงแล้ว ถ่มน้ำลายใส่ใบหน้าของหลานยู่ราวกับนักเลงในท้องตลาด “ช่างเป็นคนไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี คอยหาเรื่องอยู่ได้”
พูดจบจึงได้ประคองหยวนซื่อเดินออกไป
ป้าหลานยู่ปีนขึ้นมาจากพื้นอย่างยากเย็นมาอยู่ตรงหน้าของฮูหยินผู้เฒ่า คุกเข่าร้องไห้พลางเอ่ย “ฮูหยินผู้เฒ่า บ่าวติดตามรับใช้มายี่สิบกว่าปี ไม่เคยต้องรับความอัปยศอดสู หรือโดนทุบตีเยี่ยงนี้เลย ท่านจะต้องให้ความเป็นธรรมกับบ่าวนะเจ้าคะ”
ฮูหยินผู้เฒ่าเจ็บปวดที่ทรวงอกเป็นอย่างมาก นางเริ่มจะรู้ได้ว่า หยวนซื่อสองแม่ลูกนั้นไม่ใช่ผู้ที่นางจะรังแกกดขี่ได้ตามใจชอบอีกต่อไป
การรับรู้นี้ ทำให้นางรู้สึกเสียใจและรู้สึกแย่ นางเข้มแข็งมาทั้งชีวิต แล้วจะให้ลูกสะใภ้และหลานสาวล้อเล่นกับตนดั่งตกอยู่ในกำมือของพวกนางได้อย่างไร?
อีกทางด้านหนึ่งนั้น มหาเสนาบดีเซี่ยและซีเหมินเสี่ยวเยว่ก็เข้ามาพร้อมกัน เมื่อพบว่าบนใบหน้าของป้าหลานยู่นั้นมีบาดแผลอยู่ จึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ “เกิดอะไรขึ้น?”
ป้าหลานยู่เอ่ยทั้งที่ยังคงร้องไห้ “นายท่าน คุณหนูใหญ่ลงมือตีบ่าวเจ้าค่ะ”