ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ – บทที่ 375

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 375

รถม้าจำนวนมากมายนั้นได้เริ่มเดินทางออกจากจวนมหาเสนาบดี

ฮูหยินผู้เฒ่าและเซี่ยหว่านเอ๋อนั้นนั่งไปด้วยกัน มหาเสนาบดีเซี่ยและซีเหมินเสี่ยวเยว่นั่งคันเดียวกัน ไม่มีผู้ใดยินยอมที่จะนั่งร่วมกันกับเซี่ยจื่ออัน จื่ออันจึงได้ให้เสี่ยวซุนและตาวเหล่าต้าขึ้นมาด้วยกันบนรถม้า

รถม้าของจวนมหาเสนาบดีนั้นมีพื้นที่ว่างใหญ่โต ถึงแม้ว่าจะมีคนเพิ่มเข้ามาอีกสองคนก็ไม่ก่อให้เกิดปัญหาใด แต่ว่าซีเหมินเสี่ยวเยว่นั้นไม่ยินยอมที่จะนั่งร่วมกันกับฮูหยินผู้เฒ่า ฮูหยินผู้เฒ่าเองก็ไม่ยินยอมที่จะนั่งร่วมกันกับซีเหมินเสี่ยวเยว่ จึงทำได้เพียงแต่เตรียมรถม้าไว้สามคัน

แต่ทว่าการเคลื่อนไหวของจวนมหาเสนาบดีครั้งนี้นั้นดูช่างน่าประหลาดใจนัก เพียงไม่กี่คนที่ออกเดินทางกัน กลับใช้รถม้าถึงสามคัน ไม่อาจนับได้ว่าแปลกประหลาดที่ใดกัน

ตาวเหล่าต้านับตั้งแต่วันที่เริ่มติดตามจื่ออัน ในวันนั้นเพิ่งจะเป็นครั้งแรกที่ได้นั่งรถม้า ในตอนนี้จึงเป็นครั้งที่สอง เขาก็ยังคงแสดงออกถึงความตื่นเต้น

เสี่ยวซุนมองไปยังนิ้วเท้าของเขา “คุณหนูใหญ่ไม่ใช่ว่าซื้อรองเท้าคู่ใหม่ให้เจ้าแล้วมิใช่หรือ? เจ้าทำไมถึงได้ไม่สวมมัน?”

ตาวเหล่าต้าขยับนิ้วเท้าไปทางด้านหลังอีกเล็กน้อย เอ่ยออกมาเบา ๆ “รอปีใหม่ข้าถึงค่อยใส่”

“เพราะอะไรงั้นหรือ?” เสี่ยวซุนหัวเราะออกมา “เจ้านี่ช่างทึ่มเสียจริง ปีใหม่ยังจะมีคู่ใหม่ให้อีก รองเท้าใหม่เสื้อผ้าใหม่ ล้วนแต่เป็นของใหม่”

“จริงหรือ?” ตาวเหล่าต้ามองมายังจื่ออัน แววตาเต็มไปด้วยความเคารพรัก “คุณหนูใหญ่ ท่านช่างเป็นคนดีจริง ๆ เป็นคนดีที่สุดที่ข้าเคยพบมา เหมือนกับพระพุทธองค์อย่างไรอย่างนั้น”

“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าพระพุทธองค์เป็นคนดี?” เสี่ยวซุนหัวเราะเขา

ตาวเหล่าต้าเอ่ยขึ้นมา “พระพุทธองค์แน่นอนว่าจะต้องเป็นคนดี เพียงแค่เข้าไปในวัด บนโต๊ะที่มีไว้สำหรับกราบไหว้บูชาพระพุทธองค์นั้นจะต้องมีของกินเป็นแน่ ไต้ซือในวัดบอกว่า อาหารของพระพุทธองค์นี้เตรียมไว้มอบให้แก่ผู้ที่ไม่มีข้าวกิน หากว่าใครที่หิวไปพบเข้า ก็สามารถหยิบมากินได้”

จื่ออันอมยิ้ม “ถ้างั้น ไต้ซือท่านนี้ก็เป็นคนดี”

“ล้วนดี ล้วนดีหมด!” ตาวเหล่าต้านั้นไม่ได้เรียนหนังสือมา ไม่รู้หลักการและเหตุผลมากมายนัก ขอเพียงแค่ให้ข้าวเขากินต่างก็เป็นคนดี

จื่ออันรู้ว่าเขามีความคิดแบบนี้ นางรู้สึกว่ามีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนความคิดนี้

นางเอ่ยออกมา “อาต้า เจ้าฟังข้านะ ในโลกนี้นั้น มีคนหลากหลายประเภทนัก คนที่ให้ข้าวเจ้ากินนั้น ไม่จำเป็นจะต้องเป็นคนดีเสมอไป พวกเราจะต้องเรียนรู้ที่่จะแยกแยะถูกหรือผิด”

“ถูกผิด?” ตาวเหล่าต้าเงยหน้าขึ้นมามองยังจื่ออัน “ท่านแม่เองก็เคยบอกกับข้าเรื่องถูกผิด แต่ว่าข้าไม่รู้ว่ามันคืออะไร”

ในระหว่างทางไปยังจวนจิ้นกั๋วกงนั้น จื่ออันไม่หยุดที่จะพูดถึงความรู้เรื่องถูกผิดกับตาวเหล่าต้า ตาวเหล่าต้านั้นเดิมเป็นคนที่เข้าใจง่าย คำพูดที่จื่ออันเอ่ยออกมานั้น เขาล้วนฟังเข้าใจ

เมื่อมาถึงยังจวนจิ้นกั๋วกง เขาจึงได้เอ่ยออกมา “ข้าเข้าใจแล้ว หากว่าเป็นคนดีนั้นจะให้ข้าไปทุบตีคนชั่ว ต่อให้ไม่มีข้าวกิน ข้าก็ต้องทุบตี แต่ถ้าหากเป็นคนเลวแล้วนั้นก็จะให้ข้าไปทุบตีคนดี แม้จะให้ข้ากินเนื้อ ข้าก็มิอาจไปได้”

จื่ออันชะงักงันไปครู่นึง “ความหมายโดยรวมประมาณนี้”

ก็ดี จะต้องทำให้เขาเข้าใจโลกนี้ไปทีละอย่าง ยังต้องการการฝึกฝนและเวลา

นางรู้สึกดีใจที่มู่หรงเจี๋ยพบตาวเหล่าต้าเข้า ไม่งั้นแล้วด้วยพลังและวรยุทธ์ของเขา หากตกไปอยู่ในมือของคนเลวแล้วนั้น คงแย่เป็นแน่

ในตอนที่ตาวเหล่าต้าลงจากรถม้านั้น ก็เพิ่มลงไปอีกหนึ่งประโยค “คุณหนูใหญ่เป็นคนดีที่สุด ไม่ว่าคุณหนูใหญ่จะให้ข้าไปทุบตีใคร ข้าก็จะไปทุบตีคนนั้น”

ประโยคนี้ทำให้เสี่ยวซุนชื่นชมเป็นอย่างมาก นางตบไปยังไหล่ของเขาพลางเอ่ย “ถูกต้องแล้ว เป็นเยี่ยงนี้ เจ้าฉลาดมาก”

ตาวเหล่าต้ายิ้มออกมาอย่างโง่งม แววตามีความตื่นเต้นดีใจ เขาทั้งชีวิตนี้ยังไม่เคยได้รับคำชื่นชมอะไรเลย หาได้น้อยมาก

หน้าประตูจวนกั๋วกงนั้นมีคนคอยต้อนรับหลานเขยอยู่ พรมแดงถูกปูออกมาจากประตูทางเข้า สองข้างทางของประตูใหญ่ มีประทัดยาวแขวนเอาไว้ รอเพียงหลานเขยคนใหม่และซีเหมินเสี่ยวเยว่เข้าประตูมาจึงจะเริ่มจุด

บิดามารดาของซีเหมินเสี่ยวเยว่เองก็รอต้อนรับอยู่ตรงหน้าประตู ในฐานะที่เป็นฮูหยินใหญ่ของจวนกั๋วกง นางหลายปีมานี้ไม่เคยได้โผล่หน้าออกมาเลย แน่นอนว่าเป็นเพราะลักษณะนิสัยอันขลาดกลัวและขี้ตระหนี่ของนาง มิอาจจะรับหน้าที่นายหญิงของจวนได้ จึงทำได้แต่ให้บ้านรองอย่างเหลียงซื่อออกหน้า

“คารวะท่านพ่อตา ท่านแม่ยาย!” มหาเสนาบดีเซี่ยเดินเข้ามาคำนับ วันนี้เขาตั้งใจที่จะแต่งกาย มองดูแล้วอายุจะน้อยกว่าที่แท้จริง ถึงแม้ว่าซีเหมินต้าแหย่จะมีอายุห่างจากเขาไม่กี่ปี แต่ว่าหากมองจากในวันนี้แล้วนั้น ก็ยังคงมีช่องว่างอยู่

ฮูหยินใหญ่หลี่ซื่อมองยังมหาเสนาบดีเซี่ยด้วยความยินดี ลูกเขยนางนั้นเป็นถึงมหาเสนาบดี ทำให้นางเงยหน้าขึ้นมาในตระกูลนี้ได้ในที่สุด

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

Status: Ongoing
แพทย์ทหารสายลับกลับกลายเป็นลูกสาวคนแรกของเสนาบดีที่ต้องทนรับการถูกข่มเหงรังแกจากพ่อและแม่เลี้ยง และต้องแต่งงานกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เผชิญกับหลุมพรางและแผนการร้ายมากมายด้วยทักษะการแพทย์ของเธอทำให้เธอสามารถต่อสู้ผ่านศึกสังหารระหว่างวัง แก้ปัญหาระหว่างรัฐได้ด้วยดี ลงโทษองค์รัชทายาทที่กระทำความผิด ช่วยชีวิตองค์จักรพรรดิเหลียง และกำจัดโรคระบาดที่รุนแรงจากบุตรสาวเสนาบดีที่ขี้ขลาดแปรเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่จิตใจแน่วแน่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์จักรพรรดิได้ “ถ้าเจ้าแอบหนีออกมาอีก ข้าจะตามไปขัดขวางเจ้า มีที่ไหนพระชายาที่กำลังตั้งครรภ์แล้วยังวิ่งไปทั่ว?”“เจียงตงเกิดโรคระบาด ข้าในฐานะหมอหลวงต้องรีบไปช่วยเป็นธรรมดา ถ้าท่านขัดขวางข้าโรคจะระบาดจะไปถึงเมืองหลวง” อ้อมแขนอันแข็งแกร่งโอบกอดพระชายาที่พูดไม่หยุด ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สเด็จกลับมาและกราบทูลว่า “ฮึ่ม หมอหลวงมีจำนวนมากพอแล้ว” ถ้าคุณตั้งครรภ์อยู่จะออกไปไหม? จิตใจดั่งพระโพธิสัตว์หรือไม่? หรือยืนหยัดต่อสู้กับโรคระบาดที่ร้ายแรงตอนนั้น

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท